สงขลา บางจุดน้ำท่วมต้องปิดถนนในตัวเมือง หลังฝนตกหนักภาคใต้ทั้งวันทั้งคืน

หากอ่านบทความไม่พอดีกับจอมือถือ คลิ๊ก!!ดูเนื้อหาเกี่ยวข้อง> w ww.ubmthai.com เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน >> www.pohchae.com สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองทุ่งลุง จ.สงขลา ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดปิดถนนห้ามรถผ่าน 1 ช่องทาง หลังฝนตกอย่างหนัก.. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 มีรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สงขลา หลายจุดระดับน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากฝนตกอย่างต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนไม่หยุด เช่น พื้นที่ตัวเมืองทุ่งลุง ซึ่งเป็นทางผ่านที่เชื่อมระหว่าง อ.หาดใหญ่ กับ อ.สะเดา และ อ.นาทวี น้ำป่าจากควนขี้แรดได้ไหลเข้าท่วมตัวเมืองทุ่งลุง รวมทั้งถนนกาญจนวนิช ที่ตัดผ่านตัวเมือง ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญถูกน้ำท่วมต้องปิดการจราจรฝั่งขาไป อ.สะเดา และเปิดให้วิ่งสวนทางเลนเดียว.. ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชนและเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน เนื่องจาก ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมานี้ พื้นที่ทางภาคใต้ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรง ทำให้ 13 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส มีฝนตกต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่ อ.ศรีสาคร ถือว่ามีฝนตกลงมาหนักที่สุด ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสะสม โดยภาพรวมได้ไหลบ่าลงสู่พื้นที่ราบลุ่ม ซึ่งเป็นบ้านเรือนของประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรมีน้ำท่วมขังบ้างแล้วทั้ง 13 อำเภอ แต่ยังไม่ส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนในขณะนี้ ขณะที่ จ.ปัตตานี มีฝนตกหนัก เกิดน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่หมู่บ้าน ต.ทราย อ.โคกโพธิ์ ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนกว่า 20 หลังคาเรือน รวมทั้งวัดทรายขาว แต่ยังไม่พบความเสียหาย นอกจากนี้ น้ำยังไหลเข้าท่วมอีกหลายหมู่บ้าน รวมถึงถนนเส้นทางในหมู่บ้าน-เขตเทศบาล ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ เส้นทางนาประดู่-ยะลา รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ส่วนรถใหญ่ยังวิ่งผ่านได้ แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองเพิ่มสูงขึ้น และไหลเข้าท่วมในหลายอำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.บางขัน น้ำท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร ถนนหลายถูกน้ำท่วมรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ รวมทั้งริมทางรถไฟสายทุ่งสงมุ่ง จ.ตรัง ช่วงสถานีที่วัง-กะปาง ระดับน้ำใกล้จะท่วมสันรางแล้ว หากฝนยังไม่หยุดตก คาดจะท่วมจนรถไฟไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่การเดินรถไฟกำลังเฝ้าตรวจตราอยู่ตลอดเวลา

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก สวท.สุไหงโก-ลก, มาหามะ ดือเลาะ

เดลินิวส์