วิธีสังเกตคือ
เมื่อมีฟ้าแลบแล้วจะมีเสียงฟ้าร้องตามมาภายใน 3 วินาที แสดงว่ามีฟ้าผ่าเกิดขึ้นในรัศมี 1 กิโลเมตร ยิ่งถ้าฟ้าแลบแล้วมีเสียงร้องตามมาใน 1 วินาที แสดงว่าอยู่ใกล้มากแค่ประมาณ300 เมตรเท่านั้น มันมีความเสี่ยง ให้หยุดกิจกรรมทุกอย่างแล้วรีบเข้าไปอยู่ในที่ปลอดภัย จะอยู่ในบ้านตึกที่มิดชิด
หรือถ้าไม่ทันก็หลบไปนั่งในรถยนต์ก็ได้เพราะถ้าฟ้าผ่ารถ กระแสไฟฟ้ามันจะวิ่งตามผิวชั้นนอก อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม
ถ้าหาที่หลบไม่ได้จริงๆ ให้นั่งยองๆ กอดเข่า เพื่อลดพื้นผิวสัมผัสกับพื้นให้มากที่สุดอย่านอนราบลงกับพื้น เพราะหากเกิดฟ้าผ่าขึ้นกระแสย้อนกลับจากพื้นดินอาจเคลื่อนที่ผ่านตัวเรารวมทั้ง
ห้ามหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ๆ หรือต้นไม้สูงๆเด็ดขาด เนื่องจากต้นไม้จะถูกเหนี่ยวนำให้เกิดประจุบวกจำนวนมาก โอกาสถูกฟ้าผ่าจึงสูงมาก หรือหากเกิดฟ้าผ่าขึ้นที่ต้นไม้นั้น ก็อาจถูกกระแสไฟฟ้าที่เคลื่อนที่จากลำต้นมายังโคนต้นไม้ได้เช่นกัน
สธน. ให้ข้อมูลด้วยว่า การตายที่มีสาเหตุจากฟ้าผ่าเกิดขึ้นทุกปี เฉพาะปีนี้ก็คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 30 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในฤดูมรสุม ซึ่งเกิดบ่อยครั้งในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ที่ผ่านมา
ขอบคุณ
http://www.108kaset.com/index.php/topic,67