บ่นด้วยคนครับ
ในประเทศเรามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย คนที่ไม่เห็นด้วยคือคนที่บริโภคอยู่ คนที่เห็นด้วยคือไม่บริโภคหรือใช้น้อย
สมมุตว่าเลิกกันหมด ไม่มีคนสูบุหรี่ ไม่มีคนดื่มสุรา ไม่มีคนบาป ที่จริงไม่รู้ว่าบาปแน่หรือเปล่า คนไหนสูบก็ปอดพัง
คนไหนดื่มสุราก็ตับแข็ง ยู อาร์ ว็อท ยู อีท "ใครกินอะไรก็ได้สิ่งนั้น" ถ้าไม่มีบาปจริงๆแล้วรัฐบาลคงต้องหันมาหาตังค์
กับคนที่ถือศีลอย่างท่านด็อกเตอร์ๆ61 และอย่างผมซึ่งพยายามไม่มีรายจ่ายฟุ่มเฟือย แต่ก็ต้องเสียมูลค่าเพิ่ม 7% ที่จริง
7%,มันรั่วไหลมันเป็นช่องทางทำมาหากินของสรรพกร รัฐหันมาสนใจหน่อยก็ไม่ต้องมาหาเงินเพิ่มที่อื่นเลยมันเหลือเฟือ
มากมายมหาศาล ทุกวันนี้พอบอกเอาใบเสร็จร้านก็เพิ่มอีก 7% เลยไม่มีใครอยากได้ใบเสร็จ ในความเป็นจริงทุกร้านได้
บวกไว้แล้ว ไม่มีร้านไหนแบกรับภาษีไว้เอง ที่ไม่อยากออกใบเสร็จเพราะมันไปฟ้องที่ยอดขายรวมทำให้หลบภาษีกำไร
สุทธิไม่ได้ จึงบวกอีกเพื่อไม่ให้ขอ จึงเป็นช่องทางร่ำรวยของสรรพกรผู้ตรวจสต็อกตามร้านค้าใช้วิธีต่อรองไม่ต้องตรวจนับ
(ประเมิน) เมืองที่เขาเป็นต้นแบบภาษีมูลค่าเพิ่มเขาให้ทุกคนสามารถออกใบเสร็จได้ทุกคนไม่ว่าจะขายอะไรเก่าใหม่ แล้ว
เอาใบเสร็จที่ออกไปหักลบกับใบเสร็จที่ได้ซื้อของมา ส่วนเกินของภาษีที่หักแล้วก็นำส่งรัฐบาล ทำหน้าที่พลเมืองกันทุก
คน เวลาไม่ชอบรัฐบาลก็ออกมาไล่ได้เต็มปากเต็มคำ ไม่ต้องเป็นอีแอบ เสียกันทุกคนและเสมอภาพ ระบบที่ดีๆไม่ได้ก็อปปี้มา
เอาแต่ที่มีช่องโหว่มาไว้แบ่งกันกิน
ไม่สงวนสิทธิถ้ารัฐบาลจะใช้ระบบนี้