กัญชา กับทางออกเมื่อสุดซอย
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"
กันยายน 21, 2024, 08:15:10 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กัญชา กับทางออกเมื่อสุดซอย  (อ่าน 600 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14096


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: มิถุนายน 12, 2024, 09:07:10 AM »

ทายาทมะเร็ง : ลุงตู้แนะวิธีตัดเสบียงมะเร็ง Ep#1

โค๊ด:
https://youtu.be/ZqQCMwgZRvY?si=h47iTWKe25M9mdx5
-------------------------------------------------------
ดีจริงหรือ? กัญชารักษาโรคมะเร็ง : ทุบประเด็น 23 ต.ค. 61

โค๊ด:
https://youtu.be/w9pggKZi7so?si=sToqdWcCTdvDkLa5
------------------------------------------------------
ลุงตู้ช่วยหนุ่มมะเร็งกระดูก

โค๊ด:
https://youtu.be/OhB81g3Anrk?si=BOaww1jCWplakzT6
---------------------------------------------------------
ลุงแกเสียชีวิตไปนานแล้วด้วย

“ลุงตู้” ” ผู้บุกเบิกกัญชารักษามะเร็ง เสียชีวิตจากการป่วยเรื้อรังด้วยโรคหัวใจ

ฝ่ายค้านกัญชา เป็นห่วงเยาวชน และคนไทย
เพราะมองว่า กัญชามีอันตราย ต่อสมอง
อ.นพ.ชนินทร์ กล่าวว่า อะไรก็ตาม ใช้มากเกินไป ย่อมมีปัญหา
อะไรก็ตาม ล้วนมี 2 ด้าน รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ก็ชนคนตายได้
ทำไมไม่ไปแบนบ้าง
กัญชา ถ้าใช้เป็น ย่อมมีประโยชน์
วิธีการคืออกกฎหมายควบคุม ก็เห็นว่า
มีพระราชบัญญัติแล้ว แล้วทำไมไม่ไปต่อ
เพราะการเมืองขวางการเมืองรึเปล่า
กลัวเพื่อนจะมีคะแนนมากกว่า ไม่นึกถึงประชาชน

“ผมเคยเจอคนไข้ ที่เป็นมะเร็งตับ
หมอหมดทางแล้วจริง คนไข้กลับบ้าน
ไปหาแพทย์ทางเลือก ใช้กัญชารักษา ปลูกกัญชา ใช้เอง ที่บ้าน
ปรากฏว่าอยู่มาได้ แบบนี้ แพทย์ทางหลักต่องมีคำอธิบาย
ไม่ใช่ว่า จะกล่าวโทษกัญชาอย่างเดียว

อ.นพ.ชนินทร์ ลีวานันท์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
สถาบันกัญชาทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์

 Sad



บันทึกการเข้า

ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18893


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 19, 2024, 08:34:31 AM »

 THANK!! wav!!
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14096


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 08, 2024, 09:23:30 AM »

กัญชาลดภาวะสมองเสื่อม
การใช้กัญชาเพื่อคลายเครียด ความสุข
และบันเทิงพองาม และทำให้นอนหลับ

 
ในคนอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป
กลับทำให้ การทำงาน
ของสมองเสื่อมถอยน้อยลง

และ THC มีผลในด้านนี้มากกว่า CBD
โดยที่ตัวหลังมักจะถูกเลือกใช้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์
ดังนั้นการใช้ตามวัตถุประสงค์
ที่อยู่ในขอบเขต จะเกิดประโยชน์มากกว่า
และการใช้ควบรวมอย่างเหมาะสมทั้ง THC CBD
จะได้ประโยชน์สูงสุด
Original Research:
“Association Between Cannabis Use and Subjective
Cognitive Decline: Findings from the Behavioral Risk Factor
 Surveillance System (BRFSS)” by Zhi Chen et al.
Current Alzheimer’s Research.
Neuroscience news.
เมษายน 2024

การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการอาจเกี่ยวข้องกับ
การลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในโอกาสที่จะประสบภาวะเสื่อมถอย
ทางสติปัญญา หรือ
subjective cognitive decline (SCD)
ในผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี

นักวิจัยรายงานผลจากการวิเคราะห์ข้อมูล
จากระบบเฝ้าระวัง ปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรมปี 2021
ของ CDC พบว่าผู้ใช้ “ด้านสันทนาการ”
มีโอกาสภาวะเสื่อมถอยทางสติปัญญา ลดลง 96%
จากการรายงาน SCD เปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ใช่ผู้ใช้

การค้นพบที่น่าสนใจนี้ชี้ให้เห็นถึงผลดีในการป้องกันสมอง
จากการใช้กัญชาแต่ก็ได้ เน้นย้ำถึงความจำเป็น
ในการวิจัยระยะยาวเพื่อทำความเข้าใจ
และประเมินผลกระทบทางด้านดี และอื่นๆในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ มีส่วนทำให้เกิดการ ปรับเปลี่ยน
ถึง ทัศนคติ เกี่ยวกับการใช้กัญชาและสุขภาพทางปัญญา สมอง
โดยเน้นถึงความสำคัญของการแยกความแตกต่าง
ระหว่างการใช้ทางการแพทย์ตามปกติและ
เพื่อสันทนาการ จากการวิจัยนี้

ข้อมูลสำคัญ:
1. การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการสัมพันธ์กับความเสี่ยงทางสมองเสื่อม
ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในผู้ใหญ่อายุมากกว่า 45 ปี

2. การศึกษานี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการตรวจสอบประเภท ความถี่
และวิธีการใช้กัญชา โดยมุ่งเน้นไปที่ประชากรสูงอายุ

3. ไม่มีความแตกต่างที่
มีนัยสำคัญใน odds ratio ของ SCD (subjective cognitive decline)
ที่เกี่ยวข้องกับความถี่และวิธีการบริโภคกัญชา
ซึ่งบ่งชี้ถึงบทบาทที่เป็นไปได้ของตัว THC เอง
ในผลการป้องกันต่อการ เสื่อมถอยของสมอง
ที่มา:สำนักพิมพ์ Bentham Science

รายละเอียด การศึกษาโดยนักวิจัยของ
Upstate Medical University แสดงให้เห็นว่า
การใช้กัญชาเพื่อความบันเทิงอาจช่วยป้องกัน
ภาวะการรับรู้เสื่อมลงได้

การศึกษานี้ทำโดยนักศึกษาปริญญาโทด้านสาธารณสุข
(MPH) Zhi Chen และ
ศาสตราจารย์ Roger Wong, Ph.D., MPH, MSW

ได้ทำการวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่จาก CDC
และพบว่าเมื่อเทียบกันระหว่าง
การใช้กัญชาที่ไม่ได้ใช้ทางการแพทย์ กับ ผู้ไม่ใช้กัญชา

ทั้งนี้ โดยเป็นการใช้ เช่น เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ
จะมีความเกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญ
กับโอกาสของภาวะการรับรู้ลดลง (SCD) ร้อยละ 96

ศาสตราจารย์ Roger Wong กล่าวว่า
เขารู้สึกประหลาดใจที่รูปแบบและความถี่
ของการใช้ไม่ส่งผลต่อ SCD
เนื่องจากการศึกษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมที่อายุน้อยกว่า
ที่พบว่ามีความเชื่อมโยงเชิงลบระหว่างสุขภาพสมองและการใช้กัญชา

ซึ่งบ่งชี้ว่าบางทีอายุของผู้เข้าร่วมอาจมีบทบาทในผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
การใช้ทางการแพทย์และการใช้คู่
(ทางการแพทย์และไม่ใช่ทางการแพทย์)
ยังสัมพันธ์กับโอกาสที่ลดลงของ SCD
แม้ว่าจะไม่มีนัยสำคัญก็ตาม

ความถี่และวิธีการบริโภคกัญชาไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับ SCD อย่างมีนัยสำคัญ
SCD เป็นผลลัพธ์ที่สำคัญที่น่าสนใจ
เนื่องจากการวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่มี SCD
มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมสูงกว่า 2 เท่า
ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาหรือป้องกันขั้นสุดท้าย
ศาสตราจารย์ Roger Wong กล่าวว่า
การศึกษาก่อนหน้านี้พบความสัมพันธ์เชิงลบ
ระหว่างการใช้กัญชากับการลดการรับรู้
ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงน่าประหลาดใจ
แม้ว่าเขาจะชี้ให้เห็นว่าการศึกษานี้มีข้อจำกัดหลายประการ
และผลลัพธ์เหล่านี้เป็นเพียงภาพรวมของหนึ่งปี

“ประเด็นหลักคือกัญชาอาจปกป้องการเกิดสมองเสื่อมของเราได้
แต่การศึกษาระยะยาวถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
เพราะนี่เป็นเพียงภาพรวมของปี 2021”

Wong ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกัน กล่าว

“เราไม่ทราบว่ากัญชาที่ใช้ที่ไม่ใช่ทางการแพทย์นำไปสู่การรับรู้ที่ดีขึ้นหรือไม่
หรือ อาจจะเป็นเพราะในทางกลับกัน
ที่ถ้าหากผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจดีกว่าในประโยชน์
มีแนวโน้มที่จะใช้กัญชาที่ไม่ใช่ทางการแพทย์มากกว่า “

“เราจำเป็นต้องมีการศึกษาระยะยาวเพื่อดูว่า
การใช้กัญชาที่ไม่ใช่ทางการแพทย์จะปกป้อง
สมองการรับรู้และสติปัญญาของเราเมื่อเวลาผ่านไปหรือไม่
นั่นเป็นสิ่งที่เรายังไม่รู้ แต่การวิจัยนั้นถูกขัดขวาง
เนื่องจากกัญชายังคงผิดกฎหมายของรัฐบาลกลาง”

ข้อมูลสำหรับการศึกษานี้ได้มาจากผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา 4,744 คน
ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไปในระบบเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรม
(BRFSS) ปี 2021 SCD มีการรายงานด้วยตนเองว่า
มีความสับสนหรือสูญเสียความทรงจำเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา

อัตราต่อรอง odds rationของ SCD โดยเหตุผลที่ใช้ ความถี่
และวิธีการใช้กัญชาได้รับการตรวจสอบ
หลังจากใส่ข้อมูลที่ขาดหายไป
ใช้น้ำหนักการสุ่มตัวอย่าง และปรับเปลี่ยนปัจจัยทางสังคม
และประชากร สุขภาพ และการใช้สารเสพติดอื่น
การศึกษานี้แตกต่างจากงานวิจัยก่อนหน้านี้ตรงที่
มุ่งเน้นไปที่วัยกลางคนและผู้สูงอายุ
และพิจารณาเฉพาะแง่มุม 3 ประการของการใช้กัญชา
ได้แก่
ประเภทการใช้ (ทางการแพทย์หรือไม่ใช่ทางการแพทย์)
ความถี่ในการใช้ และ
รูปแบบการใช้ (การสูบบุหรี่) สูบจริง
รับประทานกับอาหาร  เป็นต้น

“เหตุผลที่ฉันคิดว่าการศึกษานี้ยอดเยี่ยมมากก็คือ
เราพิจารณามิติที่แตกต่างกันทั้งหมดของการใช้กัญชา”
เขากล่าว “การที่เรารวมทั้งสามสิ่งนี้
เข้ามามีส่วนช่วยอย่างมากในการวิจัย
เพราะฉันไม่เชื่อว่ามีการศึกษาเช่นนี้มาก่อน”

Wong กล่าวว่าเขารู้สึกประหลาดใจที่รูปแบบ
และความถี่ไม่ส่งผลต่อ SCD เนื่องจากการศึกษาอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมที่อายุน้อยกว่าพบว่า
มีความเชื่อมโยงเชิงลบระหว่าง
สุขภาพสมองและการใช้กัญชา
ซึ่งบ่งชี้ว่าบางทีอายุของผู้เข้าร่วม
อาจมีบทบาทในผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

การศึกษาซึ่งตีพิมพ์ใน  Current Alzheimer Research 
เป็นโครงการสุดท้ายของ Chen ในหลักสูตรชีวสถิติขั้นสูง
ในโปรแกรม MPH ที่สอนโดย Wong

“ฉันใช้ความรู้และทักษะการวิเคราะห์ที่เรียนรู้จากหลักสูตร

ความเข้มข้นของวิธีการสาธารณสุขกับการศึกษาครั้งนี้” เฉินกล่าว
“ดร. Wong แนะนำฉันตลอดกระบวนการ
ตั้งแต่การตั้งคำถามวิจัยไปจนถึงการเตรียมต้นฉบับฉบับเต็ม
ฉันรู้สึกโชคดีที่มีอาจารย์ที่น่าทึ่งในโปรแกรมของเรา
ซึ่งฝึกฝนเราให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข
ที่รอบรู้และมีทักษะด้านระบาดวิทยาและชีวสถิติ”

ผู้เขียนได้สังเกตข้อจำกัดบางประการของการศึกษานี้
รวมถึงการไม่สามารถพิจารณากฎระเบียบ
เกี่ยวกับกัญชาแบบรัฐต่อรัฐ ดังนั้น ความลำเอียงในการคัดเลือก
ที่อาจเกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นได้หากประชากรในบางรัฐ
มีจำนวนมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
เนื่องจากมาตรการการใช้กัญชาที่แตกต่างกัน
จุดแข็งของการศึกษา ได้แก่ การใช้ชุดข้อมูลระดับชาติ
ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการสรุปผลการวิจัยได้ทั่วไป
Wong กล่าวว่าความแตกต่างในการปกป้องสมอง
ระหว่างการใช้ทางการแพทย์และไม่ใช่ทางการแพทย์นั้น
ขึ้นอยู่กับสารประกอบที่ประกอบเป็นกัญชา
กัญชาเกรดทางการแพทย์มีความเข้มข้นของ CBD ที่สูงกว่า
ในขณะที่กัญชาที่ไม่ใช่ทางการแพทย์
จะมีความเข้มข้นของ THC ที่สูงกว่า
ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ทางการแพทย์มักใช้กัญชาเพื่อปรับปรุง
การนอนหลับและลดความเครียด
การนอนหลับไม่ดีและความเครียดเรื้อรังซึ่งทั้งหมดนี้
เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม
ดังนั้นการป้องกัน SCD อาจมาจากการนอนหลับที่ดีขึ้น
และการบรรเทาความเครียดที่กัญชามอบให้
ในขณะที่กัญชาทางการแพทย์ใช้เพื่อ
บรรเทาอาการปวดและอื่นๆ เป็นหลัก

“จากการค้นพบของเรา เราไม่เห็นว่า CBD ในกัญชา
ทางการแพทย์มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ด้านสมองทางการรับรู้” Wong กล่าว
เกี่ยวกับข่าวการวิจัยกัญชาและโรคสมองเสื่อมนี้

สรุปว่า การใช้กัญชาเพื่อคลายเครียด ความสุข
และบันเทิงพองาม และทำให้นอนหลับ
ในคนอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไปกลับทำให้
การทำงานของสมองเสื่อมถอยน้อยลง
และ THC มีผลในด้านนี้มากกว่า CBD
โดยที่ตัวหลังมักจะถูกเลือกใช้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์
ดังนั้นการใช้ตามวัตถุประสงค์
ในขอบเขตจะเกิดประโยชน์มากกว่า
และการใช้ควบรวมอย่างเหมาะสมทั้ง
THC CBD จะได้ประโยชน์สูงสุด

ถอดความและเรียบเรียงโดย
ศ. นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
มหาวิทยาลัยรังสิต
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!