หัวข้อ: จริงไหมที่สายพานไทม์มิ่งขาดแล้วต้องยกเครื่องหมดเป็นหมื่น-หลายหมื่น เริ่มหัวข้อโดย: ช่างเล็ก(LSV) ที่ มีนาคม 26, 2017, 03:53:11 pm (http://upic.me/i/hv/20130222_115112.jpg)
ผมเคยเจอเคสนี้1คัน .. สายพานไทม์มิ่งขาดช่วงแม่ริม-เชียงใหม่ ..อู่คิด 2 หมื่นกว่า (เครื่องซิริอุส เทอร์โบ) ซ่อมแล้วใช้ไม่ดีเหมือนเดิม แถมน้ำมันเครื่องย้อนออกทางคาร์บิวเฉยเลย ขับไปดิดๆดับๆ ไปหาช่างคนเก่งแล้ว บอกใจเย็นๆเครื่องยังรันอินอะไหล่ที่เปลี่ยนไปใหม่ ..รอรันอินเกือบครึ่งปีก็ไม่หายจากอาการนี้..จึงขายรถไปแล้วด้วยความ งง ว่าช่างซ่อมอะไรไปบ้าง... ใครเก่งเรื่องนี้ มาคอมเม้นต์กันหน่อย ให้หายข้องใจกันนะครับ วันนี้เผอิญเจอ... "สายพานไทม์มิ่งหรือสายพานราวลิ้นขาดทำไมต้องยกเครื่องด้วยเขาออกแบบเครื่องยนต์ไว้ให้ลูกสูบขึ้นสุดที่top dead center ก็จะไม่ไปโดนตัวลิ้นไอดีไอเสีย เคยยกเครื่องมาหลายยี่ห้อทั้งรถฝรั่งรถญี่ปุ่นทั้งดีเซลและเบนซินก็ไม่เคยเห็นรุ่นไหนที่ออกแบบให้หัวลูกสูบวิ่งไปกระแทกตัวลิ้นไอดีไอเสียได้ไม่ว่าในจังหวะใดนึกเหตุผลได้ประการเดียวคือโดนช่างหลอกพอไปบอกมันว่าสายพานไทม์มิ่งขาดมันก็สวมรอยทำเป็นตกอกตกใจแล้วแหลว่าแบบนี้ก้านวาวล์คดหมดแล้วหัวลูกสูบก็แตกปลอกวาวล์ก็แตกดีไม่หลอกเปลี่ยนก้านสูบเสียอีกด้วยทีนี้ก็หลอกเก็บรถไว้สักสองอาทิตย์อ้างว่ายกเครื่องแล้วฟาดเสีย3หมื่นสี่หมื่น ที่จริง..เปลี่ยนสายพานให้ใหม่ราคาราวพันบาท เหลี่ยมชั่วๆแบบนี้พวกช่างชาติชั่วใช้กันมากหากินซื่อๆ มันรวยช้า ต้องรู้จักโกง..ถึงจะรวยเร็ว หากสงสัยก็ทดลองดูได้โดยถอดสายพานไทม์มิ่งออกแล้วหมุนเพลาลูกเบี้ยวให้ลูกเบี้ยวกดวาวล์ลูบใดก็ได้ให้อยู่ในจังหวะเปิดสุดแล้วทีนี้ลองเอาประแจบ๊อกซ์จับเข้าที่น็อตมูเล่หัวเพลาแล้วหมุนช้าๆ ถ้าหัวสูบไปยันกับวาวล์ก็จะติดทำให้หมุนไม่ไปอีก แต่รับรองว่าไม่มีวิศวกรคนใดออกแบบให้สายพานไทม์มิ่งขาดแล้วต้องยกเครื่องเพราะหากออกแบบเครื่องยนต์แบบนั้นจะถูกนายจ้างไล่ออก เคยเห็นบางรุ่นอุตสาห์ทำรอยเว้าไว้ที่หัวสูบเพื่อหลบวาวล์ ที่เขียนมาเสียยืดยาวเพราะเห็นใจไม่อยากให้ถูกช่างชั่วๆ หลอกอีกต่อไป สมัยหนุ่มๆ ก็โดนหลอกมาเยอะต่อมาเกิดฐิทิมานะไปหาซื้อตำรามาอ่านแล้วก็ลองซ่อมรถตัวเองไปก่อนดีมั่งพังมั่ง(เคยใส่แกนร้อยกระเดื่องกดวาวล์ผิดทำให้รูน้ำมันไม่ตรงกับตัวกระเดื่อง ต้องซื้อแกนใหม่ แต่รวมแล้วถูกว่าไปจ้างไอ้ช่างชาติชั่วมันอีก)" จาก http://www.manager.co.th/Mwebboard/listComment.aspx?QNumber=216616&Mbrowse=16 |