หัวข้อ: ศาลรัฐธรรมนูญ โดย ลุงโฉลก เริ่มหัวข้อโดย: eskimo_bkk-LSV team♥ ที่ มีนาคม 02, 2012, 09:16:15 am (http://www.chaloke.com/sites/default/files/styles/header_image/public/article-header/120223_hd.jpg)
Credit : http://www.chaloke.com/article/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%8D (http://www.chaloke.com/sites/default/files/article-calloutbox/120223_co.jpg) วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการออกพระราชกำหนดทางด้านการเงินของรัฐบาลไม่ผิดกฏหมาย ตุลาการศาล รธน.มีมติเป็นเอกฉันท์ การออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ ของรัฐบาลไม่ขัด รธน. มาตรา 184 วรรค 1 และ วรรค 2 ส่วน พ.ร.ก.เงินกู้ช่วยกองทุนฟื้นฟูฯ มีมติ 7 ต่อ 2 ไม่ขัด รธน.เช่นกัน นี่คือส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามที่ลุงได้ทำนายเอาไว้ สงครามระหว่างนักการเมืองกับประชากรโลก ผู้ชนะคือนักการเมือง แต่จะชนะบนความหายนะของโลก เป็นชัยชนะที่พ่ายแพ้กฏแห่งกรรม นักการเมืองในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบทุนนิยมสามานย์ จะถูกซื้อตัวให้ออกกฏหมายเอื้อประโยชน์นายทุนเจ้าของพรรค งานต่อไปคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้นักการเมืองได้อำนาจเบ็ดเสร็จ ทั้งอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ การกู้หนี้ยืมสินจะเพิ่มขึ้นอีก นักการเมืองใช้เงินทุจริตกันมากมาย ประชาชนเป็นหนี้ทั้งชาติ เหมือนที่ Greece เป็นอยู่ในขณะนี้ ข่าวจาก Greece จะถือเป็นข่าวดีก็ได้ กลุ่มประเทศ Euro zone ตกลงให้เงินช่วยเหลือ เป็นข้อสรุปที่ชัดเจนว่า ถ้าปกครองด้วยความเลว ทำประเทศให้ล่มสลาย ประเทศอื่นต้องเข้ามาช่วย ต่อไปจะมีการล่มสลายจากประเทศต่างๆตามมา และในที่สุด ผู้ที่จะช่วยเป็นคนสุดท้ายคือประชาชนทั้งโลก ช่วยโดยการยินบอมให้ลดค่าเงินที่ทุกคนถืออยู่ ขาดทุนทั้งโลก กำไรเฉพาะกลุ่มคนเลว โลกเป็นอย่างนี้แน่นอน ประชาชนทั้งโลกจะต้องยากจนลงแน่นอน เราสามารถดูค่าของเงินได้จากการเปรียบเทียบกับค่าของทองคำ (http://www.chaloke.com/sites/default/files/styles/large/public/120223_01.png) ค่าของเงิน $252.5 สามารถซื้อทองคำได้ 1 Troy ounce ในปี 1999 เวลา 13 ปีมานี้เอง วันนี้ต้องใช้เงินสูงถึง $1725.9 เพื่อซื้อทองคำในปริมาณเท่ากัน ทองคำแพงขึ้นกว่า 583% (http://www.chaloke.com/sites/default/files/styles/large/public/120223_02.png) หรือเมื่อเอาค่าของเงินเป็นหลัก เงิน $1.0 เคยซื้อทองคำได้ 0.003909 Troy ounces วันนี้ซื้อได้เพียง 0.0005741 Troy ounces ค่าของเงินหายไป 85.31% ประชาชนทั่วโลกยากจนลง 85.31% (http://www.chaloke.com/sites/default/files/styles/large/public/120223_03.png) ตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกา ในปี 1999 อยู่ที่ 1300 วันนี้ก็ยังคงอยู่ที่ 1300 แสดงว่าหลักทรัพย์ของอเมริกาลดค่าลง 85.31% สมแล้วที่ประชาชนทั้งโลกจะได้นักการเมืองเลวๆขึ้นมาปกครอง ประชาชนส่วนใหญ่โง่ และเห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า ไม่มีความรักชาติรักแผ่นดิน เลือกตั้งครั้งใดก็เลือกแต่คนเลวบัดซบเข้ามาเป็นใหญ่ สมแล้วที่ต้องเดือดร้อนกันไปทั้งโลก ทหารที่ประชาชนจ้างมารักษาประเทศก็เก่งอย่างเดียว คือโง่เก่ง ข้าราชการก็เก่ง ทุจริตเก่ง การยกแผ่นดินนี้ให้เขาไปเลยอาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้นะ คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าสถานะการณ์ขณะนี้อีกแล้วในแผ่นดินของเรา ถามลูกชายคนโต (คนที่เขียน CDCDL สำหรับ download ข้อมูลให้ชมรม) ว่าในมุมมองของเขา บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรบ้าง เขายกตัวอย่างธุรกิจสัมปทานแรกของทักษิณ นั่นคือโทรศัพท์ พร้อมทั้งคำอธิบายว่าทำไมวันนี้ระบบโทรศัพท์ของเราจึงล้าหลังกว่าเขมร เมื่อปลายปี 2553 ผมได้คาดการไว้ว่าประเทศไทยจะไม่มีระบบมือถือ ยุคที่สามหรือที่เรียกกันว่า 3G โดยทั่วไปไปอย่างน้อยอีกสามปี ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปสองปีแล้วและระบบเครือข่าย 3G นั้นยังกระท่อนกระแท่น อยู่โดยใช้ระบบมาตราฐานแปลกๆ ไร้ทั้งบริเวณครอบคลุมและสมรรถภาพ หลายคนยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ การที่จะเข้าใจนั้นต้องให้นั่งเรียนประวัติศาสตร์ซักพักหนึ่ง ก่อนที่จะเจาะลึกไปที่ปัญหาของแต่ละเครือข่ายต่อๆไป หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าแปรสัญญาสัมปทาน แต่อีกหลายคนก็ไม่เข้าใจ ประเทศส่วนใหญ่ในโลกได้เปลี่ยนถ่ายระบบมือถือและระบอบการกำกับดูแลไปเป็นสามยุค โดยประมาณ ระบบมือถือแรก ๆ ในประเทศไทย หรือในประเทศตะวันตกก็ตาม เป็นระบบวิทยุ Analogue หรือ 1G ส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยทางภาครัฐเอง ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน โดยการสื่อสารแห่งประเทศไทยและองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการในระบบ AMPS 800 และ NMT 470 โดยลำดับ จากการที่รัฐลงทุนเอง ทุกๆประเทศก็ออกเป็นระบบสัมปทาน คือ ให้ภาคเอกชนลงทุนโดยมีการแบ่งกำไรกัน ประเทศไทยก็เช่นกันโดยระบบ GSM 900 นั้น ทางองค์การโทรศัพท์ได้ให้สัมปทานให้กับบริษัท AIS ของกลุ่มชิน แล้วทางการสื่อสารแห่งประเทศไทยได้ออกสัปทานให้กับทาง Total Access Communications สำหรับ GSM1800 และต่อมา ได้ออกอีกให้กับบริษัท DPC และ TA-Orange หรือ TrueMove ในปัจจุบัน สัมปทานนั้นเป็นสัญญาชนิด Build-Transfer-Operate กล่าวคือ ทางเอกชนที่ร่วมทุนนั้นจะต้องสร้างเครือข่าย ถ่ายโอนกรรมสิทธ์ในทรัพย์สินให้กับทางผู้ให้สัมปทาน แล้วค่อยใช้เครือข่ายนั้นดำเนินธุรกิจโดยแบ่งรายได้ให้กับทางผู้ถือสัมปทาน การแบ่งได้เริ่มจากไม่เท่าไหร่ จนวันนี้บริษัทส่วนใหญ่ต้องแบ่งรายได้และขอเน้นว่ารายได้ ไม่ใช่กำไร ให้กับทางการถึงร้อยละ 30 ปัญหาของระบบสัมปทานมีหลายอย่าง การแบ่งกำไรให้กับรัฐถึงร้อยละสามสิบของรายได้นั้น ก็เสมือนหนึ่งเป็นการเก็บภาษีทางอ้อมมหาศาล การที่ต้องโอนทุกอย่างให้กับทางผู้ถือสัมปทานก่อนนั้น ก็ทำให้ขาดความคล่องตัว ไม่สามารถปรับปรุงเครือข่ายได้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ถือสัมปทาน ประเทศส่วนใหญ่ได้มีการทำสิ่งที่เรียกกันว่าแปรรูปสัญญาสัมปทานแล้วออกใบอนุญาต ประเทศไทยยังติดอยู่ที่ตรงนี้ ทำให้ไม่มีใครอยากลงทุนในเครือข่ายอย่างแท้จริง ทำให้ประเทศหยุดอยู่กับที่ โดยสังเขบนั้นการแปรสัญญาสัมปทานจะกระทำโดยการที่ทางรัฐฯ และทางผู้ร่วมลงทุนเอกชนจะมานั่งเจรจากัน แล้วตกลงจำนวนเงินที่ทางเอกชนต้องจ่าย เพื่อซื้อตัวเองออกจากสัญญาสัมปทานแล้วออกใบอนุญาตให้แทน ใบอนุญาตนั้นจะให้อิสระและอำนาจกับบริษัทโทรคมมากกว่าสัญญาทาสแห่งระบบสัมปทาน โดยทั่วไปบริษัทสามารถที่จะเป็นเจ้าของเครือข่ายเอง และจ่ายค่าใบอนุญาตน้อยกว่ามาก ในกรณีประเทศไทย การจ่ายส่วนแบ่งรายได้สัมปทานนั้นตอนนี้อยู่ที่ร้อยละ 30 ในเวลาที่ใบอนุญาตที่เกือบได้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วก่อนที่ศาลจะสั่งระงับการประมูลนั้นมีค่าใบอณุญาติเพียงร้อยละ 6 การที่ประเทศไทยไม่สามารถก้าวไปข้างหน้านั้น ก็มีที่มาจากระบบสัมปทานนี้เอง ส่วนแบ่งรายได้ปีหนึ่ง ๆ นับแสนล้าน เป็นชิ้นปลามันที่ทำให้นักการเมือง ข้าราชการ และผู้บริหารของของรัฐวิสาหกิจต่างหาเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่ยอมให้ระบบนี้ยุติลง เสมือนหนึ่งเป็นยาเสพติด ไม่มีใครอยากให้มันหมดไป ทางของรัฐวิสาหกิจก็อ้างว่าเป็นรายได้ที่จัดส่งให้รัฐฯ เป็นงบประมาณที่ใช้พัฒนาประเทศ แต่หากดูแล้วที่แท้จริงเป็นงบที่เขาผลาญไปเกือบหมดเหลือแค่เศษส่งให้คลัง หากดูงบปลายปีของทีโอที (ชื่อใหม่ขององค์การโทรศัพท์) หากลบส่วนแบ่งรายได้ออกไป ก็ไปไม่รอด ไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ พูดอีกนัยหนึ่ง การที่ข้าราชการ นักการเมือง ผู้นำประเทศ สามารถที่จะคงไว้ซึ่งระบบสัมปทาน ก็คือการคงไว้ซึ่งขุมทรัพย์นับแสนล้านต่อปีให้แบ่งกันไป ประเทศจะมีระบบเครือข่ายโทรคมเพื่อให้เกิดการดำเนินการธุรกิจแล้วก่อให้เกิดรายได้โดยรวม หรือพูดอีกนัยหนึ่ง ทำไมคนหมื่นกว่าคนจึงรับผลประโยชน์ในคลื่นความถี่ของคนทั้งชาติ ทำไมคนหมื่นกว่าคนจึงสามารถสำราญกับภาษีที่ขูดรีดจากคนอีก 65 ล้านคนได้ ฝรั่งเขาก็ได้แต่หัวเราะและบ่นพอเป็นพิธี บ่นที่ทำงานไม่สดวกแต่ก็หัวเราะที่คนไทยโง่ ปากว่าเป็นการนำเงินไปพัฒนาประเทศ แต่ที่แท้ก็มีคนเสวยสุขจากเงินนี้โดยไม่มีใครรู้ว่าเงินหายไปไหน ทางออกที่คนในวงการได้หวังคือพรบจัดสรรค์คลื่นความถี่ และองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำกับที่คลอดออกมาในนามว่า คณะกรรมการสื่อสารและโทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งจะไว้อธิบายต่อไปในภายหน้า (http://www.chaloke.com/sites/default/files/styles/large/public/120223_04.png) หุ้นในกลุ่ม ICT เพิ่มค่าขึ้น 168% จากปี 2008 ที่ 48.72 มาเป็น 130.88 ในวันนี้ โลกนี้เลวลงทุกวัน เราอยู่ในสังวัฏกัล์ป โลกจะเลวลงอีกเรื่อยๆตามพุทธทำนาย คนเลวจะมีอำนาจมากขึ้นอีก แต่พวกเราต้องมีสติพิจารณาให้ดีว่า แม้แต่ขี้ (อุจจาระ) ยังมีประโยชน์เอามาทำปุ๋ยได้ หน้าที่ของเราไม่ใช่การไปแก้ไขให้โลกเป็นอย่างอื่นนอกจากที่มันเป็นไปอยู่ในขณะนี้ตามวิบากกรรม แต่อยู่กับโลกนี้แหละ ใช้ทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นประโยชน์ ถ้าเราเอาขี้ไปหมักทำปุ๋ย ขี้ก็มีประโยชน์ แต่ถ้าเราคิดผิด เอาขี้มาทาตัวแทนน้ำหอม เราจะไปโทษใครนอกจากความไม่รู้ของตัวเอง ถ้ามีขี้มาก ผู้ฉลาดก็มีปุ๋ยมาก คนเขลาก็บ่นว่าเหม็นเมื่อเอาขี้มาทาตัว ในโลกที่เห็นแก่ตัวและเต็มไปด้วยคนเลวนี้ ระบอบเศรษฐกิจพอเพียงเป็นสิ่งที่ให้ผลกำไรเหมาะสมที่สุด เราต้องรู้ Limitation ของทุกระบบ ไม่มีระบบใดที่ดีเลิศประเสริษฐศรีไปทุกๆด้าน ทุกระบบมีกำลังของมันเอง โดยประมาณอยู่ที่ 10% ถึง 15% ถ้าใครมีสติ มีปัญญา ก็ใช้ระบบหากำไร 10% ถึง 15% ก็จะได้ผลกำไรตามความปรารถนา แต่ถ้าใครต้องการเกินกำลังของระบบ เช่นต้องการ 100% ถึง 1000% เขาก็ต้องผิดหวังและขาดทุน เพราะไม่รู้จักใช้ระบบให้เหมาะสม เหมือนเอาขี้มาทาตัวแล้วบ่นว่าไม่หอมเหมือนน้ำหอม หรือเอาน้ำหอมราคาแพงไปรดต้นไม้ แล้วบ่นว่าไม่งามเหมือนเอาขี้เอาเยี่ยวมาใส่ สติคือเหตุและปัจจัยให้เกิดสมาธิ สมาธิเป็นฐานของปัญญา คนฉลาดควรฝึกสติ ทำที่เหตุ ไม่ใช่ฝึกสมาธิ ไปพยายามทำที่ผล ทำให้วุ่นวายเปล่าๆ และไม่สำเร็จ การมีสติอยู่กับความ พอเพียง ด้วยบารมีแห่งทานที่พวกเราร่วมกันสร้าง คือทางแห่งความมั่งคั่งที่แท้จริง (http://www.picza.net/save/vPlEIIOZFZ_sv1/pic/2012_01_31-IIO-vPlEIIOZFZ.jpg) ping! |