..ผมเป็นคนชอบทดลอง ดังนั้นเมื่อมาอยู่ในวงการเป็ดไข่ อดใจแยกเป็ดไข่มาทดลองไม่ได้  :o
   ทดลองอยู่หลายเดือน หลายสูตร ลองกระทั่งได้สูตรหนึ่งที่ได้ผลทันทีภายใน 5 วันเห็นผลเลยครับ ว่าไข่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากๆอย่างเห็นได้ชัด ขายไข่ได้ราคาดี...และตัวสูตรนี้ก็ไม่มีสารอันตรายแต่อย่างใด จึงนำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานแด่เพื่อนๆที่กำลังประกอบอาชีพนี้อยู่   :) HAPPY2!!

การคัดแยกเบอร์ไข่โดยวิธีชั่งน้ำหนัก
เกิน 70กรัม=จัมโบ้
#1  65+ ถึง 70 กรัม
#2  60+ ถึง 65 กรัม
#3  55+ ถึง 60 กรัม

คุณความดีในบทความนี้ ขออุทิศส่วนกุศลแด่คุณพ่อมนัส สุวรรณรัตน์ และท่านครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้าทุกท่านที่ล่วงลับไปแล้ว ..

เป็ดรุ่นนี้ ทดลองกับเป็ดสาวอายุ 7เดือน เพื่อประหยัดต้นทุนจะเลี้ยงด้วยข้าวเปลือกสด(กิโลละ7.5บาท) +หอยทะเล(กิโลละ2.2บาท) + หัวกุ้งต้ม(กิโลละ2.5บาท)
...ในการเลี้ยงจริงน้ำหนักอาหารอาจจะเยอะกว่าในตำรา เพื่อไม่ให้เป็ดร้องบ่นว่า หิวก๊าบบบ..หิวก๊าบบบ..ขออาหารทั้งวัน จึงต้องให้คุณเป็ดรับประทานถึงคอหอยตลอดเวลา ...เป็ด500ตัว ใช้อาหารหนักประมาณ20%ของน้ำหนักตัวต่อวัน จะใช้อาหารประมาณวันละ100กิโลกรัมเป็นอย่างน้อย

เหตุผลที่ไม่ใช้อาหารกระสอบ ... ไม่มีตังค์ครับ  :o
ข้อเสียที่ไม่ใช้อาหารกระสอบ ...ไข่ไม่ดกเท่าอาหารกระสอบ(กำลังหาสาเหตุและทดลองสูตรเอสโตรเจน ถ้าได้ผลจะนำมาเผยแพร่กันต่อไปครับ...)
แต่ข้อดีที่ใช้อาหารสูตรนี้ ...ไข่เป็ดรสชาดอร่อยกว่าเลี้ยงด้วยอาหารกระสอบอย่างเห็นได้ชัดครับ  smiley4
................... ................... ................... .
ก่อนใช้ฮอร์โมนเร่งไข่โต
ไข่ด้านซ้ายมือ ขายฟองละ2.7น้ำหนัก55กรัม   ก่อนใช้ฮอร์โมนสูตรนี้จะเก็บได้เฉลี่ยประมาณวันละ 4 แผง(120ฟอง)
ไข่ด้านขวามือ ขายฟองละ3.2น้ำหนัก>70กรัม ก่อนใช้ฮอร์โมนสูตรนี้จะเก็บได้เฉลี่ยประมาณวันละ 1 แผง(30 ฟอง) 
... นั่นคือเป็ด500ตัวต้องไข่อย่างน้อยวันละ 300ฟอง จึงจะคุ้มต้นทุน  :(

................... ................... ................... .
หลังจากใช้ฮอร์โมนเร่งไข่โตแล้ว ประมาณ5วัน ได้ผลดังนี้ ...
ไข่ด้านซ้ายมือ ขายฟองละ2.7น้ำหนัก55กรัม   หลังใช้ฮอร์โมนสูตรนี้จะเก็บได้เฉลี่ยประมาณวันละ  ครึ่งแผง(15ฟอง)
ไข่ด้านขวามือ ขายฟองละ3.2น้ำหนัก>70กรัม  หลังใช้ฮอร์โมนสูตรนี้จะเก็บได้เฉลี่ยประมาณวันละ 5 แผง(>150 ฟอง)
  ที่เหลือเป็นไข่จัมโบ้และไซต์รองลงมา

... นั่นคือเป็ด500ตัวไข่เพียงวันละ 200ฟองก็คุ้มต้นทุนอาหารแล้วครับ  tongue3

เข้าสูตร"ไข่อร่อยปากพนัง "ลงมือทำกันเลยนะครับ ประหยัดต้นทุนและที่สำคัญใช้วัตถุดิบที่หาง่าย ...  ;D

1.นมที่หมดอายุแล้ว ผสมกับน้ำตาลทรายกับเกลือเม็ด อัตราส่วนเท่าๆกัน แล้วเติมน้ำผสมให้ได้ดังภาพ  smiley4

ขอชื่นชมความเก่งในเรื่องเกษตรของพี่เล็กครับ
ทำเกษตรให้ได้กำไร ต้องทำแบบนี้ครับ   HAPPY2!! :) :) HAPPY2!! ::)

●ผมเคยทำไร่ข้าวโพด ...ขาดทุนเพราะปุ๋ย  ก่อนปลูกปุ๋ยราคาสูงมาก ..แต่ช่วงเก็บเกี่ยวราคาปุ๋ยกลับลดลงมา ... กรรมของเกษตรกรไทย
●ผมเคยทำฟาร์มปลา ...  ขาดทุนเพราะอาหารปลากระสอบจะขึ้นราคาเรื่อยๆ
●ตอนนี้หันมาเลี้ยงเป็ด ...จึงต้องหาวิธีไม่ให้ขาดทุนเพราะค่าอาหารกระสอบ ที่เกษตรกรอย่างเราๆไม่สามารถกำหนดราคาได้เลย ถึงแม้จะรวมกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์กันแล้วก็ตาม จะลดราคาได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น ...ดังนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงจริงๆหากพึ่งแต่อาหารกระสอบจะตั้งตัวได้ยาก มีเงินมีทองเท่าไรก็ถมลงไปกับอาหารกระสอบ ยิ่งถมเยอะก็ยิ่งทรุด เพราะรายรับน้อยกว่ารายจ่าย... คนรวยจริงๆคือเจ้าของกิจการอาหารสัตว์แทบทุกรายครับ บางรายรวยขนาดที่ว่าเสาบ้านหุ้มด้วยทองคำแผ่นนะครับ(เขาว่ามา ..แปลกแต่จริง)

เมื่อกระโดดเข้าวงการนี้ ก่อนกลับเชียงใหม่ผมคงมีเวลาอีก2ปีที่จะทดลองโน่น ทดลองนี่ เผื่ออาจเป็นประโยชน์แก่สังคมชาวเกษตรบ้าง ก็ทำไปเรื่อยๆประสาใจรักด้วยครับ   :D HAPPY2!! :)

2. ไคโตซาน ใช้ประมาณครึ่งของปริมาณนมครับ(ไคโตซานที่ผมมี เป็นหัวเชื้อได้มาฟรีจากเพื่อนที่เชียงใหม่ จึงไม่ทราบราคาขายในท้องตลาด.. แต่พอมีวิธีทำไคโตซานอย่างอ่อนๆใช้เอง จะมาแนะนำให้ท้ายๆบทความนี้ครับ)  HAPPY2!!

3.หอยเชอรี่หมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ผมทดลองใช้หอย10ก.ก./เป็ด200ตัว ก็ให้ผลดีครับ

ทำเกษตร ถ้ามัวซื้อของสำเร็จรูปที่เขาทำใส่กระสอบมาใช้
ไม่มีทางทำเกษตรแล้วกำไรครับ
ของพวกนี้ เกษตรกรต้องทำเอง ปรุงเอง ดูอย่างอาหารสัตว์และปุ๋ยสำเร็จรูป
ของพวกนี้ทำเองได้ไม่ยาก อาหารสัตว์ก็ซื้อ รำ ปลายข้าว กระถิน และอื่นๆ
มาผสมเอง ไม่ต้องปั้นเป็นเม็ดเหมือนที่เขาทำขายก็ใช้ได้  ส่วนปุ๋ยก็หาซื้อ
แม่ปุ๋ยมาผสมเองก็จะได้ปุ๋ยราคาถูกใช้เอง ไม่ต้องปั้นเป็นเม็ดเหมือนกัน
สารเคมีก็ใช้ม้ำหมักธรรมชาติ นี่ก็ทำเองอีก เมล็ดพันธุ์ก็หาทางเก็บพันธ์เองก็ได้

สรุปแล้ว ถ้ารู้จักทำ ของต่างๆจะเสียเงินซื้อน้อยมาก โอกาสกำไรก็มีมากครับ