ขอออกตัวก่อนนะครับผมมือใหม่นะครับไม่ได้เป็นช่าง  แต่ชอบทำเองมากกว่า  ปกติผมเคยติดตั้งแอร์ใหม่ใช้ได้ครับ  แต่ตัวนี้ผมได้ซื้อแอร์เก่ามาสองตัว เป็นยี้ห้อแคเรีย 26000 btu พอเอามาติดตั้งเสร็จแล้วทำสุญญากาศเสร็จก็ได้ทำการเช็ครั่ว ชาร์ตน้ำยา  แรก ๆ คอมเดินก็ปกติครับแรงดันด้าน lo ต่ำประมาณ 10 PSI ก็เติมเพิ่มเรื่อย ๆ จนเกือบ ๆ สี่สิบแอร์เริ่มเย็นมีน้ำแข็งจับที่ท่อด้าน HI สักพักคอมตัดเอง เปิดทิ้งไว้นานประมาณสิบนาทีก็ไม่ต่อ ผมเลยปิด สักพักเปิดใหม่คอมก็ทำงานได้สักพักประมาณห้าวิก็ตัดอีก เป็นหลายครั้งครับ  อาการนี้ไม่ทราบว่าน่าจะเป็นที่อะไรครับ  ตันชื้นหรือป่าว  หรือระบบสกปรก  คลิ๊บแอมส์ผมก็ไม่มีด้วย (เติมน้ำยาไปเกือบ ๆ สองกิโลครับ)
- ผมติดตั้งไม่ได้ใส่ ไดรเออ  เนื่องจากเป็นแอร์ที่เป็นแบบท่อแคปทิ้วอยู่ตู้นอกครับ ดูระบบเดิมไม่มีไดรเออ
- กรณีดังกล่าวถ้าไม่มีคลิ๊บแอมพอเช็คได้มั่ยครับว่าที่คอมตัดเพราะมันตันเช่น เช็คแรงดันด้านดูดและด้านอัด  และปกติแรงดันด้าน hi ถ้าหลัง แคปทิ้วน่าจะอยู่ประมาณเท่าใหร่ครับ
- คอม 26000 btu น่าจะกินกระแสเท่าใหร่ครับตอน run เพราะตอนนี้กำลังว่าจะซื้อคลิบแอมมาใช้แต่กลัวไม่คุ้มเพราะไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ
- ถ้าผมปล่อยน้ำยาออกแล้วทำสุญญากาศใหม่แล้วเดินเครื่องใหม่น่าจะมีโอกาศหายมั่ยครับ
- ถ้าผมถอดท่อแคปทิ้วออกจากข้างในแล้วต่อแป๊บตรงออกมาข้างนอกแล้ว  แล้วเอาไดร์เออมาใส่ข้างนอกแล้วตามด้วย แคปทิ้วแบบนี้สามารถกระทำได้หรือไม่ครับ  เพราะผมไม่มีเครื่องเชื่อมแก๊ส  ผมเลยจะใช้วิธีถอดแคปทิ้วไปจ้างเค้าเชื่อมแล้วเอามาบานแฟร์ไส่ในระบบ
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ  พยายามหาบอร์ดช่างแบบนี้มานานแล้วเพิ่งจะเจอ  แอร์ตัวนี้เล่นซะผมหมดไปหลายตังค์แล้วครับ  แต่ยังไม่ยอมแพ้ครับ olleyes2

แคเรียร์รุ่นนี้กินไฟประมาณ10-11A (026)http://www.carrier.co.th/pdcarrier/index.asp
-คุณไม่ไ้้ด้บอกเอาน้ำยาอะไรไปเติม คิดว่าตัดที่โอเวอร์โหลด
-ถ้าท่อไม่เกิน10เมตรน้ำยาไม่น่าถึง2กก.
ของเดิมที่ทำไ้ว้ก็ดีอยู่แล้วยกเว้นตันสกปรกตอนเชื่อม อาการแคปทิ้วตัน
ปิดเครื่องแล้วน้ำยากลับช้า สังเกตุที่เข็มวัด

ลองตัดระบบแล้วเดินคอมเพรสเซอร์ตัวเปล่าดู ว่าแรงอัดดีไหมด้านhi แรงดูดดีไหมด้านlow

ใช้น้ำยา R22 ครับ  ในระบบไม่มีการเชื่อมเลยครับใช้บานแฟร์ทั้งหมด ท่อยาวประมาณสามเมตร ตอนก่อนติดตั้งได้ลองเช็คคอมโดยการเดินเปล่า ๆ แล้วเอามืออุดดูอุดไม่ได้  และแรงทางดูดก็ดีครับ  แต่ผมได้ข้อมูลเก่าจากเจ้าของเก่ามาบอกว่าแอร์ตัวนี้มีอาการนี้ก่อนที่จะถอดออก  คือใช้สักพักเครื่องจะตัดทิ้งไว้สักชั่วโมงแล้วจะต่ออีกสักพักก็แสดงว่าอาการนี้เป็นก่อนถอดออกมาซะอีก  เป็นไปได้หรือป่าวครับว่าดายเออเก่าที่อยู่ในเครื่องมันนานแล้ว (เครื่องอายุประมาณ 8 ปี+ถอดทิ้งไว้ประมาณ 6 เดือน) แล้วซิริก้าเจลในนั้นหมดอายุเลยทำให้กลายเป็นสิ่งสกปรกออกมา  หรืออาการนี้เป็นอาการของคอมฯ เสียเป็นไปได้มั่ยครับ  แต่รุ่นนี้ผมมีสองเครื่องผมลองวัดตรงขั่วหัวคอม S C R ค่าความต้านทานเท่ากันทั้งสองตัวครับ  รบกวนขอความคิดเห็นหน่อยครับ

-ถ้ายังมีน้ำยาในเครื่องอยู่ลองเดินเครื่องให้น้ำยาลดลงแล้วหยุดดูว่ากลับ
 มาเร็วหรือช้า ถ้าช้าก็เปลี่ยนดรายเออร์ โดยทำตามแบบเดิม หรือจะใช้
ตัดออกแล้วซื้อแแบบบานแฟร์ใส่ก็ได้ แต่บานแฟร์มีข้อเสียรั่วง่ายถ้าที่บาน
ไม่ดีพอ แนะนำให้เปลี่ยนไว้ก่อนและดี
-ต้องหาแอมโพป(Hook on)มาวัดจึงจะรู้แน่ว่าลวดเสียหรือโอเวอร์โหลด
เสีย บนหัวคอมพ์มีโอเวอร์โหลดหรือเปล่า ถ้าไม่มีตัดที่ Internal Protection
Trip ภายในคอมพ์

ความเห็นผมนะครับ หากถอดทิ้งไว้นานขนาดนั้น
1.ควรเปลี่ยนน้ำมันคอม
2.ล้างระบบ
3.เปลี่ยนไดเออร์

-น้ำยามาเร็วเนี้ยหมายถึงฝั่ง hi ใช่ป่ะครับ  หลังแคปทิ้วแรงดันปกติมันน่าจะอยู่ประมาณเท่าใหร่ครับ
-แอมโพป คืออะไรครับ  เป็นเครื่องวัดชนิดหนึ่งหรือป่าวครับใช้ google หาแล้วยังไม่เจอครับ (ขอเป็นความรู้ใหม่ครับ)
-หัวคอมไม่มีโอเวอร์โหลดครับน่าจะอยู่ในตัวคอมเลย  แล้วเป็นแบบนี้ต้องเช็คอย่างไรดีครับ  บางทีผมก็รู้สึกตะหงิดว่ามีหวังต้องเปลี่ยนคอมแน่ ๆ  (งานเข้าอีกแล้ว)

ลืมบอกไปว่าตอนชาร์ตน้ำยาตอนแรกเย็นแล้วนะครับ  น้ำยาด้าน lo จะอยู่ประมาณ 30 ก็เริ่มเย็นแล้ว  แต่สักพักก็ตัดเลย

ถ้าอาการอย่างงี้คอมเสียมีโอกาศสูงมั่ยครับ  เพราะปกติเห็นคอมเสียจะไม่มีแรงอัด  หรือล็อกแล้วไม่หมุนเลย 

มีโอกาสลวดเสียสูง แต่ยังฟันธงไม่ได้จนกว่าจะวัดกระแสก่อนตัด
Amprobe :Amprobe - Amprobe Test Tools began in the late 1940's with its first patented product the Clamp-on Ammeter. Throughout these last 60 years, the Amprobe name has become synonymous with clamp-on meters and has since expanded its product offering to over 250 items.
ผมอาจโบราณไปหน่อยที่เรียกแบบนี้

อาจจะถามเยอะไปหน่อยนะครับต้องขอโทษด้วย  แต่ก็ต่ออีกครับ  ลวดเสียเนี้ยผมสามารถวัดความต้านทานของขด S C R แล้วไปเทียบกับอีกตัวจะสามารถบอกได้หรือป่าวครับว่าลวดเสียหรืออุปกรณ์ข้างในเสีย  แล้วถ้าใช้คลิบแอมส์วัดกระแสแล้วเราจะสามารถรู้ได้หรือป่าวครับว่าคอมเสียหรือตัน   เพราะตอนนี้ผมยังมืดแปดด้าน  ไม่รู้ว่าจะถอดมาล้างระบบเปลี่ยนไดเออ  หรือเปลี่ยนคอมดี  ตอนนี้เครื่องยังมีน้ำยาอยู่ในระบบเหมือนเดิมครับ

อัพเดทนิดหน่อยครับ  ไปสืบราคามาได้ว่าคลิบแอมราคา 350 บาท  กำลังจะถอย 1 ตัวครับ  น่าจะมีประโยชน์เยอะเลย

อาการอย่างนี้เคยเจอ C เสีย

ก่อนอื่นผมต้องซื้อ คลิบแอมส์ก่อน  ครับ  เด๋วจะ update ให้ฟังอีกทีหนึ่งครับ

Update ครับ  ผมทิ้งเครื่องไว้ไม่ได้เปิดเลยมาเป็นเวลาสามวันแล้ว  เมื่อคืนลองไปรันดูพร้อมคลิบแอมส์จับ  พอคอมรันปุ๊บกินกระแสประมาณ 15 แอมส์  แล้วก็เบรคเกอร์ 30 แอมส์ ทริบลงครับ  อาการยิ่งหนักหน้าขึ้น  ก่อนหน้านี้ยังพอรันได้สักพัก  แบบนี้ผมต้องตรวจสอบอะไรต่อไปดีครับ thank2

ใส่น้ำยามากเกินไปทำให้คอมทำงานหนักเมื่อทำงานหนักไปเรื่อยๆ คอมก็น็อค ทางที่ดีควรมีตัววัดระดับน้ำยา เครื่อง แว๊ค และคลิ๊ปแอมป์ ไม่ใช่กะเอาเพราะมีผลต่อคอมโดยตรง

อาการนี้ที่เจอคือตัน
ลองเช็คที่ท่อกลับโดยการใช้มือจับที่ท่อดูเย็นมั้ย

ขอบคุณมากครับเด๋ววันหยุดยาว  ผมจะตัดท่อแคปทิ้วออกมาเช็คและเปลี่ยน ไดเออใหม่  พร้อมด้วยล้างระบบ  และก็นิดหนึ่งครับ  ผมจะลอง Run คอมเปล่า ๆ ดูว่าใช้ได้หรือป่าวเนี้ย  คอมที่ run ป่าว ๆ มันจะกินกระแสเต็ม ๆ เท่ากับที่ระบุเลยหรือป่าวครับหรือน้อยกว่า  และมีวิธีเช็คแบบใหนบ้างว่าอาการนี้ไม่เสียที่คอมผมกลัวประกอบเข้าไปชาร์ตน้ำยาเสร็จเป็นเหมือนเดิมแล้วสรุปว่าคอมเสีย  แบบนี้เสียน้ำยา เสียตังค์แย่เลยครับ

อาการใหม่มาแล้วครับ ผมได้ตัดสแตนเนอร์และแคปทิ้วออกมาข้างนอก  ลอง Run คอมป่าว ๆ ดูปรากฏว่า คอมสตาร์ทเดินประมาณ 2 วินาทีแล้วก็ตัดประมาณ 4-5 วิแล้วก็สตาร์ทใหม่เป็นแบบนี้สลับกันไป  ตอนสตาร์ทออกคอมหมุนตอนหมุนมีแรงอัดออกมา  ตอนหมุนประมาณ 2 วิกินกระแสประมาณ 28-32 แอมส์  ผมได้ลองเอามิเตอร์เช็คโวล์ดูตอนคอมสตาร์ท โวล์ที่ขั่ว 1 กับ 2 ได้ 170 V.  และขั่ว 1 กับ 4 ก็เหมือนกันครับ  แต่พอคอมตัดไฟก็เป็น 220 v. ปกติครับ รบกวนช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ

ลองเช็ค C ดูหรือยังครับถ้าเช็คแล้ว เท่าที่อ่านมา ผมว่าคอมเสียครับ

C มีวิธีเช็คหรือป่าวครับ  หรือต้องซื้อใหม่มาเปลี่ยนอย่างเดียวครับ

ใช้มัลติมิเตอร์วัดครับ
ตั้งไปที่1 เค ถ้าขึ้นแล้วตีกลับก็ไม่เสีย
ไม่มีก็ซื้อใหม่เลยจบเอาตัวอย่างไป

ผมได้ไปเอา Cap ของอีกตัวหนึ่งมาใส่แล้วครับ  ปรากฏว่าอาการเหมือนเดิม  ไม่ทราบว่าอาการนี้คือคอมเสียไปแล้วใช่หรือป่าวครับ   คอมเสียใช้วิธีวัดค่าความต้านในขด S C R พอจะรู้หรือป่าวครับ

ช่ายแล้ว วัด RSC ตั่งค่าไปที่ X1หรือ10
ไม่ขึ้นขดลวดขาดจ้า

วัดโอมห์ไม่ค่อยรู้ครับ ใช้วัดกระแสดีกว่า

ข้างเครื่องเขียนไว้ว่ากินกระแสด 11 แอมส์  แต่พอวัดตอนที่มันสตาร์ทแล้วตัดไปสักสองสามวินาทีมันกินกระแส 30 แอมส์เลย  แบบนี้ถือว่าเสียหรือป่าวครับ

น่าจะเสียแล้วครับ......

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ  จนมาถึงวันนี้ก็ได้รู้ว่าคอมเสียซะแล้ว  งานเข้าแล้ว  try!! cry2!!