..ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี...หน้าฝนมาพร้อมกับมรสุม .. ลมที่นี่แรง ฝนตกนานทั้งวันทั้งคืน บทตกหนักก็หนักมากเหมือนเอาน้ำราดหลังคา .. สภาพน้ำท่วมถนน ที่ปากพนังจึงเป็นเรื่องปกติ  HAPPY2!! 


ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกเว็บไซต์ก่อนครับ จึงจะมองเห็นภาพ http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?action=register

..ข้างขึ้นเดือนหงาย น้ำทะเลจะหนุนสูง น้ำก็ยิ่งท่วมหนักไปอีก ...
  บริเวณชายหาดปากพนัง จะเห็นอดีตร้านอาหารโดนพายุพัด จมอยู่ในทะเล  olleyes2

..วันนี้พาครอบครัวไปเที่ยวชายทะเล พกกล้องไปด้วย จับภาพคนตกปลาริมทะเลมาฝาก  HAPPY2!!
..* * จุดมุ่งหมายมิได้ส่งเสริมการทำบาปนะครับ เพียงแต่นำชีวิตของผู้คนในปากพนัง ซึ่งแวดล้อมด้วยแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นอาชีพประมง จึงเป็นอาชีพหลักของผู้คนที่นี่

..ระยะนี้ฟ้าหลัว ลมโชยมา ไม่ร้อนอบอ้าว... บรรยากาศจึงเป็นใจแก่นักตกปลาเป็นยิ่งนัก  ???

..ริมทะเลจะมีปลาจวด ปลาทรายชุกชุมมาก เรียกว่าโยนปุ๊บก็ตอดปั๊บ...
  เหยื่อหลักๆจะใช้กุ้ง ซึ่งที่นี่ขายถูกมาก ตกกิโลกรัมละ30-40บาทเท่านั้น
   หากต้องการตกปลากระเบน จะใช้เหยื่อปลาสดทั้งตัว  ???

..รายนี้ตกปลาทรายได้เยอะมาก 1-2ชั่วโมงได้หลายสิบตัว  ???

..ก่อนพาไปดูเขาตกปลากระเบน ..มาดูชาวบ้านดักปลาไหล คั่นรายการกันสักนิด  ???

.สมัยก่อนจะใช้กระบอกไม้ไผ่ลำเท่าน่อง มาทำอุปกรณ์ดักปลาไหล  แต่ในปัจจุบันไม้ไผ่หายาก จึงนิยมใช้ท่อเอสล่อนมาทดแทน ชาวบ้านเรียกว่า "ลัน"  ???

ปากลันจะทำด้วยแผ่นปลาสติดนิ่มๆตัดเป็นลิ่มให้ปลาไหลเข้าได้ แต่ออกยาก  ???

  ในกระบอกลัน จะใส่เหยื่อเน่าๆหรือหอยเชอรี่ทุบก็ได้ ปลาไหลชอบมาก

คุณลุงท่านนี้เชี่ยวชาญด้านดักปลาไหลมาก ลงลันไม่ถึง10กระบอก สามารถจับปลาไหลได้ทุกวัน วันนึง2-3ก.ก. นำไปขายเลี้ยงชีพได้อย่างไม่ขัดสน  ???

  คุณลุงสาธิตวิธีลงลันให้ดู พลางเล่าให้ฟังว่าบางวันแทนที่ได้ปลาไหลกลับได้งูเห่าแทน ..แต่ละตัวที่เข้าลัน ตัวโตน้องๆแขน ตัวมันเลื่อม เทออกจากลันมาก็ขู่ฟ่อๆ ..น่ากลัวจัง  try!!

..วันที่ผมไปถ่าย(รูป) คุณลุงเพิ่งกู้ลันกระบอกแรก ยกปุ๊บก็ได้ปั๊บเลย ตัวโตเท่าแขนเด็ก เหลืองอ๋อย ..ที่นี่เป็นปลาไหลธรรมชาติ
    ชาวบ้านที่นี่ไม่นิยมเลี้ยงปลาไหล...เพราะเนื้ออร่อยต่างกันเยอะ

  ต่างกับปลาไหลที่เชียงใหม่ ส่วนใหญ่จะนิยมตัวเล็ก สีขาวซีด   :(

พี่เล็กพูดถึงคนหาปลา จับปลา ตกปลา ผมดูกบนอกกะลาเมื่อคืน เห็นคนจับใส้เดือนขายที่
ภาคอีสาน ได้แง่คิด2ทาง ทางหนึ่งไม่มีอะไรจะกิน ต้องกินใส้เดือนปะทังชีวิต อีกทางทำเป็นอาชีพ
หาขายกับประทังชีวิตเพื่อความอยู่รอด รายหลังหน้าเห็นใจ ส่วนรายแรกทำเป็นอาชีพ ใส้เดือนเป็นสัตว์มีคุณค่า
มากกับการเกษตร ปรับปรุงดิน เปลี่ยนของเสียเป็นอาหารต้นพืช ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียง
ให้ความชุ่มชื้นในดินเพียงพอ ในต่างประเทศฯหวงมากเวลาจะใช้ยาฆ่าแมลงต้องระวังกลัวมันตาย
ต้นไม้มีดินติดห้ามนำเข้าประเทศ กลัวว่าจะมีเชื้อโรคหรือแมลงติดมากับดินแล้วระบาดทำลายใส้เดือน
แต่บางคนกลับเอามากินและส่งขายต่างชาติ มองไม่ค่อยเห็นคุณค่าระยะยาว :D undecided2

คนตกปลาบางคนไม่ได้ตกมากิน ตกเพื่อความเพลิดเพลินฆ่าเวลา แค่คันเบ็ดก็แพงมาก แพงกว่า
ปลาเป็นตันๆ เคยเห็นคนเช่าเรือออกตกปลา ค่าเช่าเรือแพงมาก ไปค้างคืน2-3คืน ขากลับได้ปลา
มาวางโชว์ไว้ท้ายรถปิกอัพ ไม่ได้เพื่อเอามากิน เอามาอวดว่าได้ปลาตัวโต มีความสุขที่มีคนมอง
ต่างกรรมต่างวาระกันจริงๆ  shocked2 :D

(http://upic.me/i/ey/pakpanang_river--.jpg) (http://upic.me/show/61100518)


..เมื่อวาน ชาวบ้านนำปลาสวายมาขายให้ กก.ละ50บาท. ตัวนี้น้ำหนักเกือบ5กก.

  ..สอบถามแล้ว ปลาสวายที่ได้เขายกยอในแม่น้ำปากพนัง ..(ยอยักษ์ ผืนละหลายหมื่น ต้องใช้มอเตอร์ยกยอ ..แรงคนยกไม่ไหวครับ)  8)

(http://upic.me/i/im/pakpanang_river--2.jpg) (http://upic.me/show/61100561)


..ท่านใดอยากมาดูการยกยอหาปลาตัวเบ้งๆ .. มาดูได้ที่อ.ปากพนัง ..ยินดีต้อนรับครับผม  HAPPY2!!