LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่21"

การออกแบบวงจรที่ดีควรคำนึงถึง สัญญาณinputกับสัญญาณoutput ออกมาต้องทำไห้เสียงเหมือนกันกับสัญญาณinput ไห้มากที่สุด เมื่ออกแบบมาถึงจุดนี้แล้วสิงที่เราจะคิดอีกคือ สัญญาณรบกวน มันคือปัญหาอันไหญ่หลวงของนักประกอบเครื่องเสียงที่เลี่ยงไม่ได้ จะเสร็จแล้วก็ไม่เสร็จ การที่เมีเครื่องเสียงดีๆแลวไม่จำเป็นเสียงมันจะดีไปหมดทั้งนี้มันก็ขึ้อยู่กับโหลดที่เราจะจ่ายไห้ด้วยว่าคุณภาพมันเป็นยังไง ข้อความนี้คงจะจุดประกายไห้นักประกอบเครืองเสียงรุ่นไหม่ได้คิดและก็ออกแบบไห้ดีขึ้นไปในอนาคตแน่นอ
หวังว่าท่านคงสนุกกับการทำเครื่องเสียงนะครับ หลง สุรินทร์

ลายทองแดงต้องให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ดี ไม่เช่นนั้นจะให้เสียงที่แย่ และลายวงจรไหม้ด้วย
วงจรที่ออกแบบมาดี ส่วนใหญ่จะแก้ไขปัญหากระแสไฟฟ้าไหลผ่านที่ได้ไม่ดี โดยไล้ตะกั่วเพิ่มด้วย เพื่อให้กระแสไฟเดินได้ดีขึ้น

ส่วนกราวด์วงจร จะนิยมทำแบบ Star Ground คือรวมกราวด์จากหลายๆที่ มารวมเป็นจุดเดียว

ใช้วงจรดิฟที่แบบเดี่ยวหรือคู่ดีครับ

ใช้tr/fet

ใช้ดิฟคู่มันจะทำงานได้ดีครับ หรือไม่ก็ใช้ดิฟประเภทไอซีครับง่ายดี

ใส่วงจรกันกระแสเกินแบบของประกิต
ในหนังสือรู้จริงทำได้จริงเครื่องขยายเสียง 1 ดีไหมคับ
ใช้ TR OUTPUT หลายๆตัวดีไหมคับ
มันจะช่วยให้ร้อนน้อยลงหรือป่าวครับ

มันจะช่วยลดความร้อนลงแน่ครับ  เมื่อเราขนานTRเข้าไปยิ่งมากเท่าไหร่มันก็จะช่วยลดเท่านั้น แต่เราต้องดูกระแสในหม้อแปลงด้วยนะครับว่ามันพอหรือเปล่าวอาจจะทำไห้หม้อแปลงเสียหายได้ :( 8) :-* 8) :-*

การออกแบบวงจรอีอย่างหนึ่งเราต้องคำนึงถึงคือกระแสสงบในวงจรถ้าแระแสมากข้อดีก็คือเมื่อเราบิดเสียงนิดเดียวเสียงก็จะดังมากเพียงพอต่อการไช้งานข้อเสียก็คือเครื่องจะมีอายุการไช้งานที่สั่นลงดังนั้นเวลาเราออกแบบวงจรขึ้นมาจะต้องปรับกระแสสงบในวงจรให้น้อยที่สุดเพื่ออายุการใช้งานของวงจร






ผิดพลาดประการใดต้อขอโทษด้วยนะครับ

อ้อ การเลื่อกอุปกรณ์จำพวก R L C  ถ้าจะไห้ความเพี้ยนตำก็ต้องเลื่อกอุปกรณ์พวกนี้ ไห้มีค่าความผิดพลาดน้อยที่สุดนะครับ จะทำไห้เสียงออกมาคล้ายกับต้นฉบับมากที่สุด  คร๊าบ








ผิดพลาดประการใดชี้แนะด้วยนะครับ

ขอแจมด้วยคนครับ จากที่เคยศึกษามาจากการอ่าน และตระเวณฟังตามงานและร้านที่ประกอบเครื่องเสียงแบบที่หูทองเขาฟังกันว่าเสียงดี (เขาว่าแต่ผมเองยังเป็นหูอลูมิเนียมอยู่เลย) วงจรแอมป์ที่ต้องการคุณภาพก็เหมือนกับข้อความต่างๆข้างต้น แต่ที่ได้อยู่อย่างหนึ่งจากการตระเวณ คือมีภาคขยายน้อยStageความเพี๊ยนของเสียงจะใกล้เคียงของจริงมากที่สุด แต่ขอเสียคือ กำลังขยายต่ำ เช่น Single Stage
      การเดินสายสัญญาณต่างๆก็ให้สั้นที่สุดและต้องเท่ากันทั้งซ้ายและขวา สายไฟแหล่งจ่าย และสายนำสัญญาณก็ต้องแยกจากกัน ภาคจ่ายไฟบางที่บางกลุ่มแม้กระทั่งฟิวส์ก็ถอดออก บอกว่าอั้นไฟ ระบบป้องกันลำโพงก็ไม่เอา อันนี้เห็นจริงด้วย เพราะของผมเองถอดออกและฟังออกว่าเสียงใสขึ้นเยอะเลย และก็ระบบมิวติ้งอีกเช่นกันออกแล้วเสียงดีขึ้น  อันนี้เข้าเรื่องการปรับปรุงแล้วมั้งเรา ;D  8)วันหน้าจะมาแจมอีกดูคนอื่นบ้าง

โหลดเป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งการที่จะไห้เครื่องเสียงออกเสียงดีต้องขึ้นอยู่กับลำโพงของเราว่ามันจะตอบสนองความถี่ได้ในย่านไหนบ้างและแม่เหล็กที่เขาเอามาทำความเข้มของสนามแม่เหล็กเป็นอย่างไร ;) ;)ง่วงนอนแว้ว บาย........ ::) :-\ :-\

ตื่นแว้ว พึ่งนึกได้ transistor จะขยายกระแสครับmosfet จะขยายแรงดันครับผม

ออกแบบผมไม่ค่อนพิถีพิถันหรอก ใช้สโคปจับ ช่วงต่อสัญญานบวกกับลบ ไม่ให้มับฉีกจากกัน ให้ต่อกันเป็นเส้นเดียว ทรานซิสเตอร์ แต่ละเบอร์ ที่ใส่ไป สำคัญมาก เบอร์อะไรใส่ไปก็ดัง แต่การให้รายละเอียดเสียงที่ต่างกัน ยิ่งเล่นยิ่งรู้ อาศัยหลักการ แล้วมาพลิกแพงเอา ไม่ต้องไปซื้อเครื่องแพงๆหรอก ทำเองถูกกว่าเยอะ และเสียงถูกใจเราด้วย

     ครับ ถูกต้องนะครับ  :) :)เราจะเป็นนักประกอบเครื่องเสียงเราต้องเน้นทางด้านทดสอบครับ  ในบางวงจร บางยี่ห้อใช้วงจรเหมือนๆพวกเราที่เจอกันทุกวันนี้แหละครับ แต่เน้นรูปร่าง ของกล่องและแผ่นปริ้นท์ทำให้มองดูดี เราไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกครับ เพราะไม่มีใครตอบได้ว่า วงจรไหนเป็นวงจรที่ดีที่สุด แต่เรามาดูว่าเราจะประกอบกันอย่างไรที่ทำให้เสียงมันดีที่สุด อันนี้สำคัญครับ :P :P