สวัสดีครับ พี่ๆทุกท่าน ขอเปิด หัวข้อ  **ขอคิดเบาๆ**ส่วนตัว ขอพึมพำบ่นแบบเงียบๆอยู่คนเดียวมาเป็นปีสองปี แล้วครับไม่รู้ว่าจะพึมพำห้องใหนดี ขอเป็นห้องนี้แล้วกันท่านที่ดูแล คงไม่ว่ากะไรนะครับ   ส่วนตัวผมเองแล้วในฐานะและหน้าที่จำยอมก็ว่าได้ ที่เป็นช่างซ่อมมานานพอสมควร ผมก็เชื่อว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ครู อาจารย์ เอาหมดเลยละ  ในที่นี้ก็คงมีบ้างที่แนวคิดเหมือนกับผมหรือจะแตกต่างไปบ้าง  จะไม่ขอพูดถึงต้นตอปัญหาที่เกิดหรอกมันเยอะครับเอาแค่ว่าคิดเบาๆ   แหมเกริ่นซะยืดยาวเลย ช่วยคิดเบาๆต่อด้วยนะครับ คือว่าเดี๋ยวนี้เครื่องไช้ไฟฟ้าช่วงหลังๆเค้าทำออกมาขาย  ผลิต  แบบง่ายๆแต่ ซ่อมยากส์     ไม่เหมือน สิบปีก่อนๆ ปัญหาก็คือ  ตัวอย่าง คุณภาพอะไหล่ เอย   ออกแบบวงจรเอย  รูปร่างลักษณะ เฮ่อ//  ซ่อมกว่าจะได้เงินแบบสะบายใจยากจัง  ต่อๆ.............................................ลองช่วยกันคิดเบาๆต่อครับ  :)

ใช่ครับ.....ไม่ใช้ผลิตง่ายๆ  ออกมาเท่านั้น   อะไหล่ก็หายาก  ซับซ้อนบางแท่น  :'( :'(
  แถมยังมีขายกันถูกๆอีก     เมื่อลูกค้าเอาของมาให้เราซ่อม  ตีราคาไป   เขาก็บอกว่าซื้อใหม่ดีกว่า  อย่างนี้ช่างอย่างพวกเราคงแย่
ต้องลดค่าแรงในบางอย่าง.....  ท้อเหมือนกัน    แต่ไม่ถอย  (เดี่ยวชนข้างฝา)

  ก็สู้กันไป...ไม่สู้จะเอาที่ไหนรับประทานกัน.......   
 

มันจะชนข้างฝาได้ยังไง?   :P
มันต้องชนข้างหลังสิ  :P


ปัญหานี้ แท้จริงแล้วมันไม่ใช่แก้ยากหรอก แต่ที่ยากตรงที่ เราจบมาแบบ ข้าเก่ง ข้าแน่ ข้าไม่ฟังมึง และ ฯลฯ
เพราะทางสายนี้ (สายอีเล็กทรอนิกส์) ไม่มีการสอนใช้เคารพรุ่นพี่ เคารพครู และ ฯลฯ
สอนแต่ว่า จบออกไปแล้ว จะทำอย่างไรถึงได้เงิน เช่น คนขับรถราคาแพงๆเอามาซ่อม ต้องคิดแพงหน่อย (สอนเข้าไปได้อย่างไร เขามีรถราคาแพง ก็เป็นเรื่องของเขา มันไม่เกี่ยวกับการซ่อมเลย)และด้วยเหตุนี้ สายงานนี้จึงหารวยยาก

ถ้าช่างเรามีความรู้สูงกว่านี้ หมายถึงรู้วิชา สังคม วิชาศิลธรรม  ฯลฯ ด้วยก็จะดี
ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะมีความเห็นแก่ตัวสูงไปไง

ถ้าสายงานนี้มีสมาคม ช่างทุกคนต้องเข้าสมาคม มีค่าแรงที่แน่นอน หมายถึงช่างทุกคนก็ทำราคาเดียวกันหมด ปัหญาต่างๆก็จบไปได้ ไม่ว่าจะเรื่องวงจร เรื่องอาไหล่ เรื่องค่าแรงแต่ละร้านไม่เท่ากัน (คำว่าลูกค้าไม่ซ่อมจะหายไปกว่า80% )

***เพราะ 20%ที่เหลือนั้นคือไม่ซ่อมจริงๆ แต่อีก 80%มันไม่ได้ซื้อใหม่หรอก แต่มันไปกดราคาร้านอื่นๆต่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุด

***ทุกวันนี้เราต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างคิดว่าข้าเก่ง ต่างคนต่างคิดว่าข้าซ่อมถูกกว่า (ร้านนั้นซ่อม 100 บาท ร้านข้าซ่อม 80 บาท อีกร้านก็บอกว่า เองซ่อม 80 บาท ข้าซ่อม 60 บาท ในเมื่อมีความคิดแบบนี้จะรวยได้ คงต้องรอเกิดใหม่ละครับ )

*** นี้ก็แค่คิดเบาๆนะ  :P เพราะสายงานนี้ ไม่มีทางที่จะมีสมาคมได้หรอก เพราะมีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นเลย  :P 8) ;D

บางครั้งนะซ่อมแล้วคิดเงินแล้ว ไม่ค่อย สะบายใจเลยกะเครื่องรุ่นใหม่ๆ ทั้งๆที่ เห็นตัวเสียจะๆ ชัดๆ :) ผมสังเกตุอ่านในกระทู้ และคำตอบ ที่ถามนะส่วนมาก  เกิน 50 % เกิดจากการพัฒนาที่ดีและทันสมัย ของ อิเลคโทรนิคส์  ทั้งสิ้น ประสิทธิภาพมี  แต่ !  ต้องใช้คำนี้ ไม่ค่อยมี คุณภาพ  ไม่รู้ว่าใช้คำถูกหรือเปล่า จะเหนื่อยกับเรื่องแนว เนี๊ย ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้อีกนาน แค่ใหน    ตอนนี้ ผมกำลังจะไปดูแผนงานที่  เวียดนาม ยัง หวั่นๆอยู่เลยครับ   คิดเบาๆต่อครับ.......... :)

สวัสดีครับครูพรเทพ  :) วันนี้อย่าลืมไปใช้สิทธิ เลือกตั้งนะครับครู  :)

ช่างไทย ไม่มีวันตกงาน.. ขอให้ช่างคนนั้น เป็นคนมีน้ำใจ ซื่อตรง และใฝ่เรียนรู้ อยู่เสมอ(เทคนิคการบริการและการหางานซ่อม,ทักษะฝีมือช่าง)
                                 *ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม:ได้ที่ google โดยพิมพ์คำว่า "sak2005" แล้วกด Enter*
                                                                          :-*

 อ้าว...เห็นใหม  :) :) :)  ดีครับ  ท่าน sak2007  แต่กำลังจะบอกว่า  เทคโนโล...  ทุกวันนี้ มันคล้ายกับ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว สมัย วิทยุ โรสตาร์ ธานินท์  รุ่งเรืองสุดๆ  ผมกำลังคิดว่ามันกำลังไปทางนั้น ผมละคิดถึง ธานินท์ /วิทยุ โรสตาร์ จริงๆ  เอาง่ายๆท่านแกะเครื่องดู ท่านก็จะเห็นความแตกต่างแล้ว ผมดู จากงานที่ทำประจำ   :) 

อย่างที่ ท่าน นิมิต เข้าใจ นั้นแหละ ใช่เลยครับ

    สาเหตุเกิดจากนิสัยของคนไทยงัยครับ ชอบของถูกไม่ค่อยสนใจคุณภาพ ซื้อขยะจากเมืองจีนมาเพียบอีกไม่นานขยะอิเล็กทรอนิกส์คงล้นเมืองแน่(บริษัทผมก็นำสินค้าเข้าจากจีนเหมือนกัน ;D)

สวัสดีครับ ท่าน  jun  อย่างที่ท่าน jun  ขอคิด เบาๆ   นั้นแหละครับยกตัวอย่าง  สมัย 10/20 กว่าปีที่แล้ว ผมเป็นศูนย์ซ่อม   Nakamichi  ติดรถยนต์ และอื่นๆหลายยี่ห้อ  ท่านว่า ใหมครับ Nakamichi เป็นวิทยุติดรถยนต์ ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ การที่ช่างจะเข้า นั่งในหัวใจ ของ Nakamichi ผมว่าเป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยนั้น ผม นะจริงแล้ว เติบโตมากับ เครื่องเสียงโดยแท้  เลยก็ว่าได้ เขาเรียกว่าช่างเสียง ไม่ไช่ช่างภาพ ผมก็คิดในตอนนั้นว่า เออ เทคโนโลยี มันจะต้อง เหนือสุด ขึ้นไปอีก  ท่าน  jun  ลองคิด ตาม เบาๆดูซิครับ เครื่องเสียง โทรทัศน์ ปัจจุบัน ยี่ห้อก็เดิม ๆ แต่ ว่าเป็น ไง   :) คิดเบาๆ นะครับ

ลองคิดเปรียบเทียบวงจรดูสิครับว่าเขาลด L ไปกี่ตัวแล้วอย่างนี้วงจรจะเกิดความเสถียรได้อย่างไรวงจรรุ่นเก่า L เพียบเพราะ L เป็นต้นทุนถ้าเขาจะลดต้นทุนก็ต้องลดอะไหล่ที่ไม่จำเป็นในการทำงานถึงไม่มีก็ยังทำงานได้แต่จะทนไม่ทนไม่รู้ (ตามความคิดของผม ที่รู้หลักการพอ งูงู ปลาปลา นะครับ) ;D

ทุกสิ่งบนโลกไม่มีอะไรหยุดอยู่กับที่ นี่คือความเป็นจริงอย่าให้สมองและความรู้ตัวเองหยุดอยู่กับที่
 ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งเมื่อไรเมื่อนนั้นก็เท่ากับช้ากว่าคนอื่นไปอย่างน้อยหนึ่งก้าว

เมื่อ สมัยที่ สินค้า แนวนั้นๆ เกิดขึ้น ใหม่ๆผมมองว่านะท่าน  jun  การซ่อมของ ช่างอย่างเราๆท่านๆ ที่ทำกันอยู่นี้ เหมือนเป็นการแก้ ปัญหาให้กับการออกแบบวงจรโดยแท้นะผมว่า เหมือน เอา ช่าง เป็น เครื่องมือ QC   เลยก็ว่าได้ ผมเห็น ช่างไทยๆเราออกแบบวงจรมา ดีกว่า ที่เขาทำมาขายเยอะแยะครับ  แต่ทำไมจึงไปไม่ค่อยจะถึงดวงดาวซะทีก็ไม่รู้  :) 

  การสนับสนุนด้านเงินทุนและแหล่งความรู้ครับของไทยเรายังน้อย(เพราะแหล่งความรู้ส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษแล้วคนไทยส่วนใหญ่ก็เก่งภาษาอังกฤษเสียด้วยสิ) และข้อมูลของการให้ทุนต่างๆมีน้อยมาก รวมทั้งการรวมกลุ่มไม่ค่อยมี คือต่างคนต่างคิดต่างทำทำให้การพัฒนาเป็นไปอย่างช้าๆ เรื่อยๆ ตัดสินใจช้าๆ เรื่อยๆ จะได้อยู่(ครองอำนาจ)ไปนานๆ ใครจะตายไม่สนไม่ใช่ญาติเรา(เอแล้วมันเกี่ยวกันไหมนี่ชักปนเปไปเรื่อยแล้ว ;D)

สวัสดีครับครูถาวร  :) เทคโนโลยี .........ทุกวันนี้ผมว่ามันพัฒนาไปแบบ  ข้าม-ก้าวกระโดด   ครับ  อ้าย  ความที่มัน ข้าม-ก้าวกระโดด นี้แหละช่างเราๆท่านๆต้องมาคอยเติมเต็ม ส่วนที่ ก้าว ไปไงครู  อย่างที่ ท่าน  jun ท่าน นิมิต ว่าแหละครับ :)

(เอแล้วมันเกี่ยวกันไหมนี่ชักปนเปไปเรื่อยแล้ว ) คิดเบาๆครับ ท่าน jun  :)