ท่านใดเคยทำนาโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ได้ผลผลิตดีไหมครับ
ธันวาคม 22, 2024, 11:53:13 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านใดเคยทำนาโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ได้ผลผลิตดีไหมครับ  (อ่าน 24134 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2012, 07:50:18 am »

ชาวนาแถวบ้านผม ใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 ผสมกับ  16-20-0 หว่านประมาณไร่ละ 25-50กิโล .... เห็นแล้วหน้ามืดกับค่าปุ๋ยแทนชาวนาครับ

.. ไม่กี่วันหลังเกี่ยวข้าวแล้ว(พันธุ์สุพรรณบุรี) นาที่ว่า เกี่ยวข้าวสดได้ประมาณ 7เกวียน( ตัน) ..ในพื้นที่9ไร่ ..ไม่ทราบว่ามากหรือน้อยครับ เพราะผมไม่เชี่ยวชาญเรื่องนาข้าวเลย   THANK!!

ท่านใดเคยทำนาโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย   ได้ผลผลิตดีไหมครับ 
 Sad Cheesy


บันทึกการเข้า

TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2012, 10:47:08 am »

เปิดดาวเทียมช่อง FMTV ดูครับพี่เล็ก หรือ http://www.fm-tv.tv
ที่นี่เขาทำเกษตรกรรมธรรมชาติมานานแล้ว  และเผยแพร่ความรู้รวมทั้งมีอบรมฟรีตลอด
ที่เชียงใหม่ก็อยู่ที่..พุทธสถานภูผาฟ้าน้ำ หมู่ ๕ บ้านแม่เลา ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง


อ้างถึง
          2. เครือข่ายชุมชนอโศก  กลุ่มนี้นับเป็นกลุ่มที่เข็มแข็ง และมีพลังมาก เป็นผู้ปฏิบัติธรรม รับประทานอาหารมังสวิรัติ  บริโภคพืชผัก และอาหารที่ไม่มีสารตกค้าง และ
               โดยที่เป็นกลุ่มบุคคล  ที่มีแนวทางการดำรงชีพที่ยึดหลักการพึ่งตนเอง   แสวงหาความรู้ในทุกๆ ด้าน  เพื่อการประกอบอาชีพที่สุจริตไม่เบียดเบียนผู้อื่น  รวมทั้งสัตว์
               สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ   ได้เริ่มศึกษาด้วยการทดลองปฏิบัติการเกษตรแบบธรรมชาติมาประมาณ 20 ปีเศษ   จนมีความชำนาญ    สามารถถ่ายทอด
               ความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ให้แก่เกษตรกร  นักพัฒนาชนบทกลุ่มต่างๆ ที่สนใจไปดูงานฝึกอบรมในปัจจุบันญาติธรรมเหล่านี้ได้ออกไปตั้งกลุ่มทั่วทุกภาคของประเทศ
               จำนวนประมาณ 40 กลุ่ม   มีจำนวนสมาชิกที่ทำเกษตรอินทรีย์จำนวน 5,200 คน   ทุกกลุ่มจะทำการเกษตรอินทรีย์เพื่อการพึ่งตนเองในด้านอาหาร  ที่ปราศจากการ
               ปนเปื้อนของสารพิษ   นอกจากนี้ยังได้เผยแพร่ความรู้  และประสบการณ์เกษตรอินทรีย์แบบธรรมชาติทางสื่อสารมวลชนหลายประเภท   เช่น วิทยุ วารสาร สิ่งพิมพ์
               รวมทั้งการจัดทำวีดีทัศน์  วีซีดี จำนวนมาก  โดยมีสมณะเสียงศีล ชาตวโร (โทร. 0-1835-6108)  เป็นแกนในการดำเนินงานที่เข็มแข็ง    จนได้รับการยกย่องจาก
               กระทรวงศึกษาธิการให้เป็น

ครูภูมิปัญญาไทยด้านการเกษตร

                ในบรรดากลุ่มเครือข่ายชุมชนอโศกที่ได้ตั้งหน่วยการผลิตเกษตรไร้สารพิษ  ซึ่งถือว่าเป็นเกษตรอินทรีย์ เรียกชื่อเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษแห่งประเทศไทย
(คกร.) ในปี 2535   พลตรีจำลอง  ศรีเมือง  ซึ่งเป็นแกนสำคัญของเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษแห่งประเทศไทยคนหนึ่ง ได้ตั้งมูลนิธิพลตรีจำลอง  ศรีเมือง นับเป็นบุคคลแรกที่
ประกาศต่อสาธารณะว่าจะทำเกษตรธรรมชาติ  และได้บุกเบิกและริเริ่มจัดทำ “โครงการเกษตรอยู่รอด”  ที่กิ่งอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี   ในพื้นที่ประมาณ 270ไร่
โดยจัดให้เกษตรกรที่สมัครใจในการดำรงชีพด้วยการเกษตรแบบธรรมชาติ รายละ 10ไร่   ไม่มีการใช้สารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิด  ใช้หลักการพึ่งพาตนเอง   ปลูกพืชหลากหลาย
ทุกอย่างที่ใช้เพื่อการบริโภค  และเพื่อขายเป็นผลผลิตไร้สารพิษ     ในเครือข่ายร้านมังสวิรัติในกรุงเทพฯ    นับเป็นการที่ทำให้สังคมได้เริ่มมีความตระหนักถึงประโยชน์ของการ
กสิกรรมแบบธรรมชาติที่สามารถผลิตผลที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคอย่างมาก ถึงแม้ในขณะนั้นคนส่วนใหญ่ในสังคมไทยยังมีความไม่มั่นใจว่าการทำการเกษตรแบบธรรมชาติจะเป็น
ไปได้ในทางปฏิบัติก็ตาม แต่เนื่องจากการริเริ่มของญาติธรรมของชุมชนอโศกโดยการนำของพลตรีจำลอง  ศรีเมือง   ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ให้การยอมรับในความซื่อสัตย์สุจริต
มีส่วนทำให้ประชาชนเริ่มสนใจการเกษตรในแนวทางของธรรมชาติมากขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของการศึกษาดูงานที่จะได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง อันจะ
เป็นประโยชน์ต่อการที่จะได้เข้าใจการปฏิบัติเกษตรอินทรีย์อย่างดีและได้ผล คกร. มีหน่วยงานที่เป็นผู้ประสานงาน  ซึ่งจะหาข้อมูลของกลุ่มต่างๆ ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของ
ประเทศดังนี้คือ กรุงเทพฯ เลขที่ 58/1  ถนนเสรีไทย  คันนายาว กรุงเทพฯ 10230  มีนายธำรง  แสงสุริยจันทร์  เป็นผู้ประสานงาน โทร. 0-1441-0938, 0-2906-0160-5
อุบลราชธานี : ศูนย์ฝึกอบรมกสิกรรมไร้สารพิษ  ชุมชนราชธานีอโศก  หมู่ที่ 10 ต.  บุ่งไหม  อ. วารินทร์ชำราบ  จ.อุบลราชธานี 34190  มีผู้ติดต่อประสานงานคือ นายราเมศ -
เขียวเขตรวิทย์  โทร. 0-4524-7222  นางสาวดินนา  โคตรบุญอารยะ  โทร. 0-1528-2399  นายร้อยแจ้ง  จนดีจริง  โทร. 0-967-2363


ที่มา : http://it.doa.go.th/organic/organic/goverment.html




รึอ่านนี่ดูครับ ถ้ายังไม่เชื่อว่าการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์จะทำได้และได้ผลดี

ชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนามีเงินล้านเพราะใช้หลัก เศรษฐกิจพอเพียง

นาอินทรีย์นิเวศน์ของคุณชัยพร  พรหมพันธุ์




รู้สึกจะมีพี่ b.chaiyasith สมาชิกใน LSV ทำเกษตรผสมผสานอยู่นะครับ   Tongue

บันทึกการเข้า
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2012, 04:53:54 pm »

ตอนนี้ผมไปช่วยกันทำนาอินทรีย์ แบบโยนกล้า ที่นี่เป็นนาอินทรีย์ 100 % ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ

ได้ผลดีกว่าคือ ประหยัด ปลอดภัย ตายช้ากว่า ได้ทำบุญแผ่นดิน

ส่วนปุ๋ยใช้วิถี ปลูกพืืชบำรุงดิน หมุนเวียน เพิ่มอินทรีย์วัตถุ การใช้แหนแดง พืชตระกูลถั่ว ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีส่วนผสมของหินภูเขาไฟไดโลไมท์  ช่วยให้ต้นข้าวแข็งแรง หลัก ๆ ก็ได้มาจาก อ.เชาว์วัช  หนูทอง ศูนยฺ์กสิกรรมธรรมชาติ อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี

เรื่องพันธ์ข้าวก็สำคัญ ไวแสง ไม่ไวแสง ข้าวที่เหมาะสมกับพื้นที่ อย่างที่ปลูกผ่านมาลพบุรี ก็มีสุพรรณบุรี ชัยนาท หอมนิล

ทางใต้ต้องลองปรึกษาศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวในพื้นที่ และ วิเคราะห์สภาพดิน  แร่ธาตุในดิน ว่าขาดตัวไหน อ.เชาว์วัช ย้ำว่าพวกไม่รู้มักจะใส่ปุ๋ยเกิน ไม่รู้จักดิน ทำให้เสียเงินเปล่า  

ส่วนเสาร์อาทิตย์ที่จะถึงนี้ผมจะไปทำนาโยนกล้า อีกประมาณ 10 ไร่ นะครับ รายละเอียดขอไปเก็บให้อีกที

http://www.facebook.com/media/set/?set=a.355091657885580.80655.100001542472693&type=3

อ.ลองหาในยูทูบ เรื่องนาโยน       หรือ อ.เชาว์์วัช หนูทอง  ข้อมูลมีมากครับ

กราบสวัสดี อ.เล็กด้วยครับ อ.สบายดีนะครับ
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 12:23:41 pm »

สวัสดีครับ น้องโอ๋, น้องต้น   THANK!!

  ขอบคุณทุกคำตอบครับ เพราะพอดีปีนี้กำลังลุยกับนาข้าว ... ปลูกให้เป็ดครับ  Shocked

..ข้างคอกเป็ดลองหว่านข้าวลงในแปลงเล็กๆ โดยอาศัยปุ๋ยจากขี้เป็ดเพียงอย่างเดียว ... จะลองดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรบ้างครับ  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 12:27:28 pm »

ระยะนี้กำลังออกรวง แต่สังเกตว่ารวงจะสั้น ไม่ยาวเท่าไร ...2จิต2ใจว่าจะลงปุ๋ยเคมี16-20-0เพิ่มดีหรือไม่ เพราะชาวบ้านที่ทำนาเป็นอาชีพมาแนะว่าควรลงปุ๋ยเคมีเพื่อให้รวงใหญ่ครับ  Sad Shocked
บันทึกการเข้า
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 07:34:50 pm »

เรื่องการทำนา อันนี้ผมก็กำลังศึกษาไปด้วย  แต่ตามรูปที่ผมเห็นคงเป็นนาหว่าน  ข้าวเบียดกัน แย่งอาหารกัน

ใจผมไม่แนะนำให้ใช้เคมี เอาเรื่องแรกก่อนว่าจะใส่ปุ๋ยดี หรือ ไม่ อ.เชาว์วัช เขาย้ำมาก ๆ ว่าคุณรู้ได้ไงว่าดินขาดแร่ธาตุใด พืชต้องการมากน้อยขนาดไหน  ความเป็นช่างได้ประโยชน์ ต้องมีเครื่องมือวัด ครับ อ.ลองหาซื้อ ชุดตรวจสอบค่า NPK มาวัดทดสอบ วัดค่า PH ดินด้วย คราวนี้ละก็จะรู้ว่าดินมีสภาพเป็นอย่างไร แล้วถ้ามันขาดปุ๋็ยจริง จะเอาอะไรมาใส่   ขี้เป็ดสภาพดินอาจะเค็ม ปรับสภาพให้เป็นกลางด้วย

อ.ก็กล่าวต่อไปอีกว่า ก็หาสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ ราคาถูก เช่นขาด  N ใช้แหนแดงหว่าน และ กากมะพร้าวนี่แหละ    P จากมูลค้างคาว  ใส่อินทรีย์วัตถุ  รวมถึงจุลินทรีย์ มาช่วยในการปลดปล่อยแร่ธาตุ

หรือหากไม่สะดวก และ ต้องการให้ปลดปล่อยแร่ธาตุอย่างช้า ๆ ก็มีขายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ปั้นเม็ดสำเร็จรูป ผมเคยไปดูโรงงานผลิต ขั้นตอนการผลิต ส่วนผสมต่าง ๆ ในหลาย ๆ ท่านที่รู้จักปุ๋ยอินทรีย์ขวัญดิน ASTV ก็ผลิตจากโรงงาน อ. แต่ของ อ.เองผลิตมานานภายใต้ ชื่อเทพวานร อันนี้ไม่ได้โฆษณานะครับ  เพราะที่นั้นเป็นศูนย์ฺการเรียนรู้กสิกรรมไร้สาร

ที่แปลงเกษตรโรงเรียน จะหมักน้ำหมักชีวภาพไว้เป็นถัง 200 ลิตร เลย  มีหลายสูตร ใช้ย่อยหมักฟาง  ใช้ฉีดพ่นเป็นฮอร์โมนทางใบ  ปลูกข้าวเลี้ยงทั้งโรงเรียน ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลยครับ นโยบายตั้งแต่ตั้งโรงเรียนจนถึงวันนี้ 20 ปีแล้วครับ ที่โน่นไส้้เดือนตัวใหญ่มาก ๆ
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 17, 2012, 10:02:13 pm »

http://www.boonniyom.net/vdoclip-5174-0-0.html

แปลงที่ผมทำไม่ประสบปัญหาดินเค็ม  แต่ผมพยายามนึกสภาพที่นา ของ อ. ว่าอาจจะเป็นดินเค็ม อันเนื่องจากมีตะกอนเกลือ และ ขี้เป็ดที่มีพวกกรดเกลือ

จำได้ว่า อ.เชาวววัชเคยกล่าวถึงที่เคยไปแก้ไขนาที่มีปัญหาดินเค็ม  ว่าข้าวจะมีปํญหาคือออกรวงไม่สุด แต่หาคลิปไม่เจอ 
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 10:19:27 am »

..ตัดสินใจไม่ลงปุ๋ยเคมีแล้วครับ อีกไม่กี่วันคงเกี่ยวรวงได้แล้ว ..จะมารายงานผลครับ   THANK!!

...พอดีปีนี้เช่าที่นาได้2แปลง
  แปลงแรก 7ไร่
  แปลงที่ 11 ไร่
 จะลองเป็นชาวนาฝึกหัดดูบ้างครับ  Grin HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 12:47:14 pm »

นาปลอดสาร เรื่องใหญ่คือหญ้า แถวสุพรรณบ้านพ่อ  เขาไม่สน เล่นยาฆ่าหญ้าเต็ม ๆ คนกินช่างมัน

นาโยนดีกว่า แต่ชาวบ้านบอกไม่ชอบขั้นตอนยุ่งยาก คุยกันคนละภาษา เขาเอาแต่สบาย เงิน ๆ ๆ ตัวเอง และ คนอื่นจะตายไว ก็ช่าง


ขอให้มีความสุขกับการเป็นชาวนา อีกไม่นาน ผมก็คงได้ไปทำนาของตัวเองบ้างที่ลพบุรี 
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2012, 01:18:09 pm »

ทำนาอินทรีย์  ดินเป็นสิ่งสำคัญ  แล้วแต่ว่าใครจะนิยมรูปแบบของที่ไหน เพราะมีเผยแพร่กันมากมายหลายเครือข่าย  แต่ส่วนมากก็เอาข้อดีของแต่ละแห่งมาปรับให้สอดคล้องกับลักษณะของพื้นที่และภูมิภาคของตน  จะว่าไปเกษตรอินทรีย์เป็นการเรียนรู้ไปในตัวเพราะต้องผ่านการทดลองกับตนเองมาในระดับหนึ่ง  เพราะแต่ละพื้นที่ข้อแตกต่างไม่เหมือนกัน มันมีปัจจัยอื่นๆ อีก  ต้องใช้เวลา  ยิ่งถ้าพื้นที่นั่นผ่านการใช้สารเคมีมาก่อน  ก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูและปรับสภาพดิน  ชาวกะเหรี่ยงทำนาในพื้นที่เดิมเพียงปีละหน แล้วจะหมุนเวียนไปยังพื้นที่เดิมที่ทิ้งเอาไว้ 6-7 ปี (เพราะเขาไม่ได้ใช้สารเคมี) นี่เป็นการพักดินให้กลับมาอุดมสมบูรณ์และจำทำหมุนเวียนแบบนี้ไปตลอด 

ดีแล้วครับที่พี่เล็กเลือกที่จะไม่ใส่ปุ๋ยเคมี แม้ผลผลิตปีนี้จะไม่มากหรือรวงไม่สวย แต่ระยะยาวมันจะดีขึ้น และก็ไถ่กลบตอซังข้าว อย่าไปเผาแบบที่เขาทำกัน การทำเกษตรอินทรีย์แนวคิดและทัศนคติของคนทำมีผลอย่างมาก  เพราะถ้าใจไม่หนักแน่นและไม่คิดที่จะทำจริง  กรอปกับหาความรู้เสริมและริเริ่มทำการทดลอง  ก็จะหันกลับไปใช้เคมีแทบทุกราย เพราะชอบอะไรที่ง่ายและสำเร็จรูป   Tongue

http://www.ldd.go.th/menu_moc/POSTER/rice/rice.htm


บันทึกการเข้า
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 09:38:52 am »

กลับมาแล้วครับ ตอบคำถามแรกก่อน จากที่ผ่านมาแปลง 5 ไร่ ได้ 4.5 เกวียนครับ

ลองปรึกษาเทคนิคกับ พี่มนูญ หัวหน้าฝ่ายเกษตร ท่านนี้ชำนาญเรื่องจุลินทรีย์ อดีตเคยทำงานในคิวเซ ให้ข้อมูลว่า กรณีที่ดินที่มีการเลี้ยงเป็ด ขี้เป็ด ให้ใช้จุลินทรีย์กลุ่มสังเคราะห์แสงสาดในอัตราที่เข้มข้นกว่าปกติ เพื่อช่วยในการย่อยสลาย (จุลินทรียืพวกนี้ใช้แก๊สมีเทน ) 

ถึงแม้มีขี้เป็ดแต่ถ้าขาดกระบวนการย่อยสลายที่สมบูรณ์  พืชก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่  ซึ่งเมื่อจุลินทรีย์ทำงานได้ดีแล้วจะช่วยปรีบสภาพดิน ค่า PH ได้ดีไปในตัวอีกด้วย

แกย้ำว่า ธาตุหลัก NPK ที่มีอยู่พอแล้ว ไม่ได้บ่งบอกว่าดินนั้นดี  แต่ดินที่ดี นอกจากค่า NPK อยู่ในปริมาณที่เหมาะต่อพืชแล้ว ยังต้องมีอินทรีย์วัตถุ  ค่า PH ควา่มชื้น และ ที่สำคัญคือจุลินทรีย์ตัวดี นี้แหละ แต่ปุ๋ยเคมีไม่มี

อันนี้เป็นนาโยน
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 09:41:27 am »

นี่คือแปลงถาดเพาะกล้านาโยน อายุข้าว 20 วัน
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 09:52:40 am »

อันนี้แปลงที่โยนไปก่อนหน้า อายุข้าวประมาณ 27 วัน ที่เห็นเขียว ๆ ในน้ำนั้นแหนแดง

ตอนโยนกล้า ถึงแม้จะเอียง จะนอน แต่พอผ่านไปต้นจะตั้งตรงได้เอง  รากกล้านี้ผมเรียกว่ารากระเบิด เพราะตอนที่อยู่ในตุ้มมันพยายามแทงรากจนพ้นรูถาด  แต่เมื่อได้มาอยู่ในดิน รากแตกแขนงมาก แผ่มาก เปรียบเทียบถอนดูรากกับกล้านาหว่าน ผิดกันเห็น ๆ

นาโยนต้นข้าวจะแข็งแรงกว่า นาหว่าน ไม่มีข้าวล้มเลยครับ ถึงเมื่อโตจนจะเกี่ยวแล้วก็ยังไม่ล้มง่าย

ส่วนเรื่องหญ้า ตอนนี้ต้นข้าวโตไปแล้ว มีน้ำ และ แหนแดงที่จะคลุมพื้นที่ว่าง ๆ ส่วนหญ้าวิ่งตามมาไม่ทัน ก็มีบ้างแต่น้อย โตไม่ทันข้าว เพราะข้าววิ่งนำหน้าไปก่อนแล้ว นี้คือข้อดีของนาโยน
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 08:31:41 pm »

อ้างถึง
นาโยนต้นข้าวจะแข็งแรงกว่า นาหว่าน ไม่มีข้าวล้มเลยครับ ถึงเมื่อโตจนจะเกี่ยวแล้วก็ยังไม่ล้มง่าย

 ...น่าสนใจครับ แถวบ้านผมไม่มีใครทำนาโยนเลย เขาใช้วิธีหว่านกันทั้งหมด เปลืองเมล็ดพันธุ์ข้าวน่าดูครับ ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวไร่ละ30กิโลครับ ....สงสัยแถวบ้านผมจะทดลองทำเป็นคนแรก ไม่รู้ว่าชาวนาแถวนี้คิดว่าผมบ้าไหมเนี่ย  Sad Shocked
บันทึกการเข้า
e21fnw-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน863
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2225


สนับสนุนคนดีให้ปกครองบ้านเมือง


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2012, 08:54:31 pm »

นาโยนจะใช้ข้าวปลูกเพียง 5-6 กิโลกรัมต่อไร่

ส่วนถาดเพาะที่เห็นจะมีอยู่ 434 หลุม/ถาด ในหนึ่งถาดจะมีเมล็ดอยู่ 2-4 เมล็ด โดยเฉลี่ย

ใน 1 ไร่จะใช้ประมาณ 60 ถาด หรือเผื่อซ่อมสักหน่อย 

ส่วนเครื่องทุ่นแรงที่ใช้ ก็เครื่องโรยดิน โรยข้าวลงในถาด หรือถ้าไม่มีก็ดัดแปลงใช้ตะกร้า เขย่า ๆ เอาก็ได้

เครื่องตีดิน  ย่อยบดดิน มีอยู่ 1 ตัว และก็อีกตัวไปหายืมร้านขายของเก่า เป็นเครื่องบดกิ่งไม้มาดัดแปลงนิดหน่อย หรือบางคนใช้เครื่องบดน้ำแข็ง

การผสมดินใช้พลั่วมือ หรือ ที่ผมทำในโรงเรียนมีโม่ปูนไม่ได้ใช้งาน   ก็เอามาผสมดินเพาะได้

ผมคนหนึ่งที่บ้าไปแล้ว   ลองบ้าเหมือนผมไหม ฮิ ๆ

อันนี้เห็นเขาเปรียบเทียบกันได้ดี เอามาฝากครับ อ.

http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=65785.32
บันทึกการเข้า

สมาธิมี  ปัญญาเกิด
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!