ภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการบ้านจัดสรร คือ
การ บริหารต้นทุนในการก่อสร้าง ที่จะต้องคุมคอร์สค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านแต่ละหลังให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะ ทำ ได้
โดยที่มาตรฐานความสวยงาม ความมั่นคงแข็งแรงก็ต้องยังอยู่ในระดับที่จะสามารถแข่งขันในตลาดได้
การใช้ระบบก่อสร้างบ้านสำเร็จรูป (Prefabrication System) เป็นทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ
จากผู้ประกอบการ ด้วยเหตุผลข้อแรกคือการใช้ระบบการก่อสร้างดังกล่าวกับบ้านจัดสรรจำนวนมาก ยูนิต
สามารถประหยัดต้นทุนในการก่อสร้างก่อสร้างได้กว่า 40%
จำนวนแรงงานก่อสร้างที่ใช้น้อยลง
ขณะที่ คุณภาพของโครงสร้างบ้านมีความมั่นคงแข็งแรงและสามารถก่อสร้างได้อย่างรวด เร็ว

บ้านสำเร็จรูป 01 เตรียมพื้น

บ้านสำเร็จรูป

บ้านสำเร็จรูป

บ้านสำเร็จรูป

บ้านสำเร็จรูป

บ้านสำเร็จรูป เสร็จรวดเร็วในไม่กี่วัน
ผนังรับน้ำหนัก ไม่มีเสา-คาน
ระบบก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปที่มีอยู่ในตลาดบ้านจัดสรร
อาจจะมีชื่อเรียกระบบงานแตกต่างออกไปในแต่ ละบริษัท เช่น HP System
ของกลุ่มโฮมเพลส Precast ของพฤกษา PC ของแลนด์แอนด์เฮ้าส์
แต่หลักการ สำคัญที่เหมือนกันคือต่างเป็น
ระบบโครงสร้างผนังรับน้ำหนัก (Wall Bearing System) โดยไม่ต้องอาศัย เสาและคาน
โดยแผ่นพื้นและผนังสำเร็จรูปประกอบขึ้นจากโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพการ ผลิต
และ อัตราส่วนของส่วนประกอบต่างๆโดยระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของเหล็ก
ส่วนผสมของคอน- กรีต รวมทั้งการใช้เครื่องจักรกลเป็นส่วนหลักในการผลิต
ที่ให้ความแม่นยำสูงกว่าแรงงานคน ชิ้นงานที่ ผลิตออกมาจึงมีคุณภาพมาตรฐานเท่าเทียมกันทุกชิ้น
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดตำแหน่งและเจาะช่อง เปิดประตู-หน้าต่าง
ช่องสำหรับท่อร้อยสายไฟฟ้า ท่อน้ำดี น้ำเสีย ไว้ตั้งแต่ในขั้นตอนการผลิต
เมื่อการ ประกอบชิ้นส่วนที่หน้างานเสร็จสิ้น
งานระบบอื่น ๆ ก็สามารถทำงานต่อเนื่องได้อย่างง่ายดาย
โดยหลักแล้วระบบก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปจะไม่มีเสาและคาน
แต่จะใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักแทน
ส่วนแผ่น ผนังจะผลิตด้วยวิธีใดขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของผู้ผลิตหรือผู้ก่อสร้างแต่ละ ราย
เช่น ผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก สำเร็จรูป, ผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก
แบบแซนวิช (ผนัง 2 แผ่น เว้นช่องไว้สำหรับเทคอนกรีตเชื่อม) เป็นต้น
การเชื่อมต่อ(Connection) ของแต่ละชิ้นส่วนที่นำมาประกอบก็แตกต่างกันไป
เช่น บางระบบเชื่อมต่อด้วย น็อต, คอนกรีต
หรือแผ่นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบเข้าลิ้น หรือมีระบบล็อคในตัว เป็นต้น
ส่วนวิธีการก่อสร้างจะเริ่มตั้งแต่การตอกเสาเข็ม
ทำฐานรากและคานคอดิน เหมือนกับการก่อสร้างในแบบ ก่ออิฐฉาบปูน
จากนั้นจึงเริ่มนำแผ่นพื้นและผนังสำเร็จรูปเข้ามาประกอบตามที่ได้ออกแบบไว้
เริ่มตั้งแต่ ผนังรับน้ำหนักชั้นล่าง แผ่นพื้นชั้นล่าง ผนังชั้นสอง แผ่นพื้นชั้นสอง
โดยชิ้นส่วนต่างๆจะได้รับการเชื่อม ประสานตามเทคนิควิธีการของแต่ละระบบ
ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะการเชื่อมต่อจะต้องมีคุณภาพ
ต้องมั่นคง กันน้ำรั่วซึมและสามารถรับแรงด้านข้างได้
หน้างานสะอาด ก่อสร้างเร็ว ใช้คนน้อย
ข้อแตกต่างแรกที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างไซด์งานที่ก่อสร้างบ้าน
ด้วยระบบเดิมกับระบบสำเร็จ รูป คือความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของหน้างาน
ที่ระบบสำเร็จรูปมีเหนือกว่า ไม่มีขยะจากการ ก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นไม้แบบ เศษอิฐ หิน ดิน ทราย
เพราะเศษสิ่งเหล่านี้ถูกกำจัดไปเรียบร้อยตั้งแต่โรงงาน ผลิตชิ้นส่วน
รวมถึงมลภาวะทางเสียงและฝุ่นผงที่เกิดจากการก่อสร้างที่ลดน้อยลง
ความรวดเร็วในการก่อสร้างบ้าน 1 หลัง ที่แต่เดิมอาจต้องใช้เวลา 5-6 เดือน
แต่เมื่อเป็นวัสดุสำเร็จรูปที่ เพียงยกมาติดตั้ง
จากนั้นตกแต่งเพิ่มเติมในส่วนรายละเอียดปลีกย่อย รวมแล้วใช้เวลาก่อสร้างจนแล้ว
เสร็จพร้อมเข้าอยู่อาศัยประมาณ 2 เดือนเศษ ลักษณะพื้นผิวของวัสดุสำเร็จรูปมีความเนียนเรียบ เมื่อติด ตั้งเสร็จ
ไม่ต้องฉาบทับก็สามารถทาสีทับได้ทันที
ส่วนในการวางระบบต่าง ๆ ทั้งไฟฟ้า ประปา สุขาภิบาล
ก็ทำงานได้ง่ายขึ้นเพราะมีการวางท่อวางระบบไว้ในช่องผนังและพื้นสำเร็จ รูปอยู่แล้ว
เหล่านี้คือปัจจัยที่ทำ ให้การก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปมีความสะดวกรวดเร็วกว่าระบบก่ออิฐฉาบปูน
ในส่วนของแรงงานก่อสร้างนั้น ถือว่าระบบก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรง งานได้เป็นอย่างดี
เพราะในขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนนั้น
จะมีเพียงคนขับรถเครนที่ใช้ยกชิ้นส่วน กับผู้ ช่วยยึดจับอีกไม่กี่คน
นอกจากนี้ในส่วนของแรงงานฝีมือก็ลดถอยความจำเป็นต้องใช้ออกไป
ลดปัญหา ความไม่แน่นอนของแรงงานฝีมือ
ข้อจำกัดบางประการสำหรับระบบก่อสร้างบ้านสำเร็จรูป
อย่างไรก็ตาม บ้านระบบสำเร็จรูปก็มีข้อด้อยหรือข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน เช่น
โครงสร้างที่ค่อนข้างหนัก เนื่องจากแผ่นพื้น-ผนังสำเร็จรูปที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
มีน้ำหนักมากกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน ดังนั้น
บ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบสำเร็จรูปจึงจำเป็นต้องใช้เสาเข็มที่ยาวกว่าระบบการ ก่อสร้างแบบเดิม
เพื่อป้อง กันปัญหาบ้านทรุดในภายหลัง
ส่วนแบบบ้านที่เหมาะสำหรับงานก่อสร้างระบบสำเร็จรูปนั้น จะเห็นว่ามักเป็นบ้านที่ไม่ค่อยมีรายละเอียด
การตกแต่งมากนัก รวมทั้งจะเป็นแบบที่ค่อนข้างซ้ำ ๆ เดิม ๆ
โดยผู้ประกอบการที่ใช้ระบบก่อสร้างชนิดนี้ ก็ยอมรับว่า
ถ้าจะให้คุ้มค่ากับการลงทุนออกแบบ แกะแบบบ้าน ผลิตชิ้นส่วนในการก่อสร้างแต่ละครั้ง ก็
จะต้องสร้างบ้านในแบบดังกล่าวเป็นจำนวน 50-100 หลังขึ้นไป
ยิ่งสร้างในปริมาณมากเท่าไรก็จะยิ่งเป็น
การประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างของผู้ประกอบการมากเท่านั้น
เจาะ ทุบ ต่อเติม ไม่ใช่เรื่องง่าย
สำหรับในขั้นตอนการเข้าอยู่อาศัยจริง เจ้าของบ้านอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ
ค่อนข้างแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องมี การตกแต่งหรือต่อเติมบ้าน
ให้มีความสวยงามเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้มากขึ้น ตั้งแต่เล็กๆน้อยๆอย่างการ
ตอกตะปูแขวนรูป แขวนอุปกรณ์ห้องน้ำ ห้องครัว ไปจนถึงการบิวท์อินเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง
แต่ด้วยคุณ สมบัติของผนังสำเร็จรูปที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
มีความแข็งแรงทนทานสูง การตอกตะปู เจาะสว่านจึง ไม่ใช่เรื่องง่าย
ไม่สะดวกนักสำหรับช่างหรือแม้แต่เจ้าของบ้านที่ต้องการทำงานตกแต่งเล็กน้อย ๆ ด้วยตัว เอง
ส่วนการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นภายในบ้าน เช่น ทุบห้อง 2 ห้องติดกันให้กลายเป็นห้องใหญ่ห้องเดียว
หรือ ทุบผนังทาวน์เฮ้าส์ 2 หลังเพื่อให้ทะลุเชื่อมกันได้ ฯลฯ
กรณีนี้มีทั้งสามารถทำได้และทำไม่ได้ โดยการทุบ ที่ไม่สามารถทำได้เลย ก็คือ
การทุบผนังที่ใช้ผนังรับน้ำหนัก เพราะหากทะลุในส่วนของผนังรับน้ำหนักก็มี
โอกาสบ้านพังได้ง่ายๆ ในขณะที่การทุบผนังตกแต่งที่ไม่ได้ทำหน้าที่รับน้ำหนัก
ก็ยังอาจต้องมีข้อจำกัดให้ ไม่สามารถรื้อออกไปได้ทั้งแผ่น
จะต้องเหลือพื้นที่ของผนังในส่วนที่เชื่อมต่อกับผนังรับน้ำหนักไว้ด้วย
ดัง นั้นการจะทุบ เจาะ ทะลุ รื้อผนังบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบสำเร็จรูปจึงจำเป็นต้องปรึกษาวิศวกรที่มี ความรู้
และแบบแปลนบ้านหรือพิมพ์เขียวที่ใช้ในการก่อสร้างก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ที่ผู้ซื้อบ้านจะต้องขอรับจาก เจ้าของโครงการ
เพื่อใช้เป็นคู่มือในการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านในอนาคต
ส่วนในกรณีการต่อเติมบ้านเพิ่มเติมในส่วนภายนอก เช่นการต่อเติมห้องครัว โรงรถ
นั้นเป็นสิ่งที่สามารถ ทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่อย่านำส่วนโครงสร้างที่ต่อเติมใหม่มาเชื่อมโยงหรือผูกติดกับตัวบ้าน เดิม
ซึ่งเป็นหลัก เกณฑ์สำคัญสำหรับการต่อเติมไม่ว่าจะเป็นบ้านในระบบการก่อสร้างแบบใด
(แต่เจ้าของบ้านและผู้รับ เหมามักไม่ค่อยคำนึงถึง)
เพราะการทรุดตัวของสิ่งปลูกสร้างเก่าและใหม่ย่อมไม่เท่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
บ้านในระบบสำเร็จรูปที่ใช้เสาเข็มที่ยาวกว่าปกติ
การทรุดตัวย่อมน้อยกว่าส่วนที่ต่อเติมใหม่ ที่บางทีไม่มี การตอกเสาเข็มด้วยซ้ำ
หากมีการนำโครงสร้างใหม่และเก่ามาผูกติดกันก็ต้องเกิดการดึงรั้ง
ความวิบัติของ อาคารทั้งส่วนของเก่าและใหม่ก็จะตามในไม่ช้า
บริษัทที่สร้างบ้านด้วยระบบก่อสร้างสำเร็จรูปในตลาดบ้านจัดสรรปัจจุบัน
1.บมจ.โฮมเพลสกรุ๊ป ใช้ระบบสำเร็จรูปที่เรียกว่า HP System ทำโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา ประมาณ 2.8 ล้านบาทขึ้นไป
เช่นโครงการโฮมเพลส รังสิต และโฮมเพลส รัตนาธิเบศร์
รวมถึงโครงการ คอนโดมิเเนียมลิฟวิ่งเพลสในย่านถนนรามคำแหง
2.บจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ใช้ระบบ Precast กับโครงการบ้านทั้งหมดในเครือ เช่น
บ้านพฤกษา ที่เป็นทาวน์เฮ้าส์ราคาตั้งแต่ 6-8 แสนบาท พฤกษาวิลล์ - ทาวน์เฮ้าส์ราคาประมาณ 1.2 ล้านบาท
พฤกษา วิลเลจ บ้านเดี่ยวระดับราคา 1.75 - 3 ล้านบาท
และบ้านภัสสรโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคาตั้งแต่ 3.5 ล้านบาทขึ้นไป
นอกจากนี้ยังให้ความสนใจโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า
าคาขายประมาณ 6 แสนบาทต่อยูนิต
3.บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เป็นอีกหนึ่งรายที่หันกลับมาสนใจระบบก่อสร้างสำเร็จรูป
โดยก่อนหน้า นี้แลนด์ก็เคยสร้างบ้านในระบบสำเร็จรูปมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมบ้านสวนธน ทาวน์เฮ้าส์โครง การสิรารมย์ บางบัวทอง สิรารมย์ รังสิต พาร์คแกลลอรี่ ศรีนครินทร์
และล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา แลนด์เปิด บ้านแบรนด์ใหม่ "พฤกษ์ลดา"
โครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท ประกอบด้วย
โครงการพฤกษ์ลดา เพชรเกษม-พุทธมณฑล สาย 4 พฤกษ์ลดา พระราม 2
และโครงการพฤกษ์ลดา วง แหวน-รัตนาธิเบศร์
4.บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีธุรกิจในเครือคือ พรีบิลท์
ร่วมกันทำโครงการทาวน์เฮ้าส์ราคา ประมาณ 8-9 แสนบาท
และบ้านเดี่ยวราคาประมาณ 1 ล้านบาทเศษขึ้นไปในพื้นที่โครงการกว่า 106 ไร่
ในย่านบางบัวทองเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
และมีแนวโน้มว่าจะขยายตลาดในส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีกในปี 2548
Credit
http://www.konmun.com/ย่านรังสิตรอบข้างกำลังแย่งกันขึ้นหมู่บ้านเป็นดอกเห็ด
ราคาบ้าน 2-5 ล้านUP
แล้ววันข้างหน้า น้ำตาจะเช็ดหัวเข่า
ช่างเหล็กดัดที่สนิทกัน ร้องจ๊ากเลย
ไปติดตั้งเหล็กดัด งานแค่ 6หมื่น
ต้องทุบต้องสกัดปูนเพื่อเชื่อมเหล็กดัด
ผนัง พัง ทั้งแถบเลย ชั้น1-2 (โครงการพฤกษา ในคลอง3)
จาก 6หมื่น ต้องซ่อมผนัง ให้เจ้าของบ้าน
ควักเนื้อไป3หมื่นกว่า
ใครจะมาหาซื้อบ้านแถวรังสิต
ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา
ด้วยความหวังดีจาก คนเคยถูกขึ้นเขียงมาก่อน 