ครั้งก่อนเราพูดถึงคุณประโยชน์ของโคลีน ที่อยู่ในไข่ไก่ว่า เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมองนับตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เรื่อยมาตลอดชีวิต เพื่อช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
ช่วยลดไขมันจากตับอีกทาง
ครั้งก่อนเราพูดถึงคุณประโยชน์ของโคลีน ที่อยู่ในไข่ไก่ว่า เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมองนับตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เรื่อยมาตลอดชีวิต เพื่อช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
อาจเกิดข้อสงสัยว่าหากร่างกายคนเราขาดโคลีน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นตามมา...!!
เมื่อโคลีน เป็นตัวช่วยที่ทำให้การทำงานของสมองเป็นไปด้วยความสมบูรณ์ หากร่างกายขาดสารอาหารสำคัญนี้ไป แน่นอนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นย่อมเกี่ยวข้องกับสมอง โดยลดทอนประสิทธิภาพความจำและความสามารถในการเรียนรู้ หรือที่รู้จักกันว่าโรคสมองเสื่อม นอกเหนือจากการเกิดอาการซึมเศร้า จิตใจหดหู่ ไม่มีสมาธิ และความดันโลหิตบกพร่อง
โรคสมองเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ เป็นโรคที่ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายได้ และจัดเป็นอาการป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งองค์การโรคอัลไซเมอร์ระหว่างประเทศ<Alzheimer's Disease International : ADI>ได้ ออกรายงานชิ้นใหม่เมื่อ 21 กันยายน ที่ผ่านมา โดยคาดว่า"ภายในปี 2010 จะมีคนเป็นโรคสมองเสื่อม มากกว่า 35 ล้านคนทั่วโลก เป็นจำนวนที่สูงกว่าที่เคยคาดกันไว้เมื่อ 2-3ปีก่อน ราว10%และยังคาดการณ์อีกว่าจะมีคนเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน ทุกๆ20ปี และในอีก 40 ปีข้างหน้าหรือ 2010 จะมีคนเป็นโรคนี้มากกว่า 115 ล้านคน โดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้ระดับกลางอย่างแอฟริกา ตะวันออกกลางละตินอเมริกาตอนใต้ และหลายส่วนของเอเชีย จะเผชิญกับภาระหนักเมื่อประชาชนสูงอายุมีจำนวนมากขึ้น"
ขณะเดียวกัน ADI ยังร้องขอให้องค์การอนามัยโลก<WHO>จัดให้โรคสมองเสื่อมอยู่ในลำดับความสำคัญด้านสุขภาพ พร้อมทั้งเสนอให้มีการศึกษาและทำการวิจัยค้นคว้าถึงสาเหตุของโรค หรือวิธีการชะลออาการของโรคไม่ให้เกิดขึ้นเร็วนัก ซึ่งจุดประกายให้เกิดงานวิจัยต่างๆที่ต้องการคค้นหาแนวทางป้องกันการเกิดโรคนี้
ขณะเดียวกัน Kathleen Meister นักเขียนอิสระเรื่องสุขภาพและการแพทย์ อดีตนักวิจัยสถาบัน American Council on Science and Health ได้นำเสนอบทความเรื่อง Eggs:Not as Bad as They're Cracked up to be บอกว่า การบริโภคไข่ไก่ในประเทศสหรัฐอเมริกาลดลงอย่างมากจากการบริโภคที่ 400 ฟอง ต่อคนต่อปีในทศวรรษ 1940 ลดลงเหลือเพียง 235 ฟองต่อต่อปีในปี 1992 เนื่องมาจากความกลัวว่า ไข่ไก่ซึ่งมีปริมาณคอเลสเตอรอลสูง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แต่ปัจจุบันการบริโภคก็กลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 259 ฟอง/คน/ปี เมื่อมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่า คอเลสตอรอลที่เกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารเช้าที่ประกอบด้วยไข่ไก่ และเบคอนทอดไม่ได้เกิดขึ้นจากไข่ไก่ แต่เกิดจากไขมันอิ่มตัวจากเบคอน และไขมันที่ใช้ในการทอดโดยแท้จริงแล้วผลกระทบจากการบริโภคไข่ไก่ต่อปริมาณคอ เลสตอรอลในกระแสเลือดของบุคคลทั่วไปนั้นมีน้อยมาก ในทางตรงกันข้าม ไข่ไก่กลับเป็นอาหารที่สำคัญที่เป็นแหล่งสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นที่มีข้อสรุปตรงกันว่า ไข่ไก่เป็นอาหารโปรตีนที่มีสารอาหารช่วยเพิ่มคอเลสตอรอลชนิดดี หรือ HDL ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะโคลีนในปริมาณมาก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่พบในเยื่อหุ้มเซลล์สมอง และเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์สมอง นับตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์เรื่อยไปจนถึงวัยสูงอายุ รวมทั้งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสารเคมีในเซลล์สมองที่ชื่อ อะเซทิลโคลีน<acetylcholine>ที่ ทำหน้าที่เป็น"สารสื่อนำประสาท"คอยควบคุมความจำ การควบคุมกล้ามเนื้อและช่วยให้การทำงานของสมอเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ เรียกได้ว่า มีบทบาทในพัฒนาการด้านการเรียนรู้โดยเฉพาะระบบความจำ รวมถึงการมีการศึกษาในการใช้เพื่อป้องกันและรักษาโรคความจำเสื่อมด้วย ซึ่งอะซีติลโคลีนมีความสัมพันธ์โดยตรงกับโรคสมองเสื่อม เนื่องจากพบว่าในสมองของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ จะมีปริมาณของอะซีติลโคลีนลดลงมากถึงร้อยละ 90
บทบาทสำคัญอีกประการหนึ่งของโคลีน คือ ทำให้ตับสามารถทำการขนถ่ายไขมันได้ และลดการสะสมไขมันในตับจากการศึกษาวิจัยพบว่า คนที่ได้รับอาหารทางเส้นเลือดและขาดโคลีน จะเพิ่มไขมันสะสมในตับ และยังมีระดับเอนไซม์ของตับสูงขึ้น ซึ่งเป็นอาการของภาวะตับอักเสบอีกด้วย และเมื่อได้รับโคลีนก็จะลดการสะสมไขมัน และลดการอักเสบของตับได้จริง
นอกจากประโยชน์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว โคลีน ยังมีประโยชน์ในด้านการช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งหลายงานวิจัยสรุปผลเช่นเดียวกันว่า ไข่แดงของไข่ไก่ เป็นอาหารที่ให้โคลีนมากที่สุดชนิดหนึ่ง
ไข่ไก่จึงมีประโยชน์อยู่มากมาย...แล้ววันนี้คุณบริโภคไข่ไก่แล้วหรือยัง
ขอขอบคุณข้อมูลภายใต้ความร่วมมือของ
สสส. และ วิชาการดอทคอม
ที่มา
www.thaihealth.or.t h