'เหลาคาง'ตัดเลื่อนเสริม'กระดูกขากรรไกร'

เป็นธรรมดาของผู้หญิงหลายคน ที่อยากเกิดมาหน้าตาสวยงาม ดังนั้นในรายที่เกิดมาใบหน้าเหมือนโดนรถสิบล้อเหยียบ กรามใหญ่ คางเหลี่ยม แถมผิดรูป จึงไม่แปลกที่พวกเธอจะหันไปทำศัลยกรรม “เหลาคาง” หรือ “เหลาทั้งใบหน้า” แต่งโน่น เสริมนี่ เพื่อให้ใบหน้าได้รูป โดยไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย ถึงไหนถึงกัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.นพ.อาทิ เครือวิทย์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อดีตนายกสมาคมศัลยแพทย์ ตกแต่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับเรื่อง “เหลาคาง” เป็นคำพูดของชาวบ้าน ความจริงกระดูกขากรรไกรล่างและบนสามารถตัด ลดขนาด เพิ่มขนาด เพื่อความสวยงามและเพื่อให้การสบฟันปกติ แต่ชาวบ้านคิดว่า การเหลาคางเป็นเพียงทำให้คางเล็กลง

“คาง” คือ ส่วนหนึ่งของกระดูกขากรรไกรล่าง สามารถตกแต่งให้สวยงามขึ้น เหมาะกับสัดส่วนของใบหน้า เช่น “คางเล็ก” เสริมให้ใหญ่ขึ้นและเลื่อนมาข้างหน้า หรือ ใช้วิธีตัดกระดูกแล้วเลื่อนหรือเสริมด้วยกระดูกของผู้ป่วยเองก็ได้

ถ้าคางใหญ่ยาวและยื่นออกมา มักจะมีปัญหาเรื่องการสบฟันจะต้องแก้ไขด้านความสวยงามและการสบฟันไปพร้อม ๆ กัน ทันตแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ก็ทำได้ และจะร่วมมือกับศัลยแพทย์ตกแต่งโดยต้องเอกซเรย์ตรวจโครงสร้างกระดูกใบหน้าและพิมพ์ฟัน อาจจะผ่าตัดเลื่อนขากรรไกรบนหรือล่างก็ได้ แล้วแต่ว่าผู้ป่วยมีความพิการของกระดูกขากรรไกรบนหรือขากรรไกรล่าง

การเหลาคางนั้นบางทีชาวบ้านอาจจะนึกถึงการตัดกรามสี่เหลี่ยมให้มีรูปร่างใบหน้าเป็นรูปไข่แทนก็ได้ กรณีเช่นนี้ไม่มีปัญหาด้านการสบฟัน การผ่าตัดก็เพื่อความสวยงาม โดยอาจจะผ่าตัดมีแผลในช่องปากหรือแผลบริเวณคอ หรือบางกรณีที่ผู้ป่วยผ่าตัดดึงหน้า ก็สามารถตัดกรามพร้อมกันได้

ส่วนใหญ่จะนิยมผ่าตัดเปิดแผลในช่องปากเพื่อไม่ให้เห็นรอยแผลด้านนอก แต่แผลอาจจะบวมมาก หน่อย ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แผลจะเริ่มหาย กว่าแผลจะยุบก็ใช้เวลาร่วมเดือน

ผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดมีน้อยมาก เพราะการทำศัลยกรรมเพื่อความสวยงาม ทำแล้วหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ไม่ได้เสียไป แต่ก็ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะการตัดกระดูกขากรรไกร ถ้าศัลยแพทย์ไม่มีความชำนาญ อาจจะไปโดนเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการชา หรือปากเบี้ยวได้

ในช่วง 2-3 วันแรก หลังการผ่าตัด คนไข้ไม่ควรรับประทานอาหาร ควรรอให้แผลหายดีก่อน โดยอาจจะรับประทานอาหารอ่อน ๆ ตามคำแนะนำของแพทย์

อยากให้แนะนำสาว ๆ ที่กำลังจะไปเหลาคาง รศ.นพ.อาทิ กล่าวว่า ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ปรึกษาแพทย์หลาย ๆ คนก่อนว่า ตัวท่านเองมีความพิการเรื่องของสัดส่วนใบหน้าจริงหรือไม่ เรื่องแบบนี้ส่องกระจก ดูก็รู้ว่า คางเบี้ยว คางสั้น คางเหลี่ยม คาง ยื่นหรือไม่ หรือเพื่อความชัวร์ให้เพื่อน ๆ หรือญาติพี่น้องช่วยดูก็ได้ จะได้นำมาพิจารณาไตร่ตรองดูว่าควรทำศัลยกรรมดีหรือไม่ เพราะคนไข้บางรายอาจจะไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด อาจใช้วิธีการดัดฟัน จัดฟัน หรือผ่าตัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะช่วยรักษาความพิการได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่แนะนำให้ฉีดเสริมคาง เพราะไม่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่ประณามในทางการแพทย์

ท้ายนี้คงต้องบอกว่า การตัด เลื่อน หรือเสริม กระดูกขากรรไกร เพื่อแก้ไขใบหน้า ช่วยให้ดูดีขึ้นก็จริง แต่อย่าลืมว่า ท่านต้องเจ็บตัว แถมเสียตังค์มิใช่น้อย ก็ต้องประเมินเอาเองว่ามันคุ้มกันหรือไม่.