4 โรงกลั่นกลุ่มปตท.จะให้เงินรัฐตั้งกองทุน ลดผลกระทบดีเซล

[GASOHOL]

โรงกลั่นน้ำมันในกลุ่มบมจ.ปตท.(PTT) 4 แห่งจะให้เงินช่วยเหลือแก่รัฐบาลในการจัดตั้งเงินกองทุน ในอัตราไม่เกิน 1 บาท/ลิตรของการผลิตน้ำมันดีเซลเพื่อให้รัฐบาลนำมาใช้ลดผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากในขณะนี้ โดยคาดว่าภายใน 1 สัปดาห์จากนี้ จะสามารถสรุปรายละเอียดทั้งรูปแบบการจัดเก็บเงิน และการนำเงินกองกลางไปช่วยเหลือแก่กลุ่มใด

"intention ของนโยบายคงต้องการที่จะนำเงินมาตั้งเป็นกองทุนเพื่อเอาไปช่วยเหลือในบางสาขาที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น ประมง ขนส่ง หรือขสมก.หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ขณะนี้ยังไม่รู้" นายชายน้อย เผื่อนโกสุม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR) กล่าว

เขา กล่าวว่า วิธีการในการจัดเก็บเงินเข้ากองกลาง คงต้องรอรายละเอียดจากกระทรวงพลังงานอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เป็นการขอความร่วมมือแบบสมัครใจจากกระทรวงพลังงาน

นายชายน้อย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวภายหลังเข้าร่วมหารือกับพล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน และผู้บริหารโรงกลั่นน้ำมันในเครือปตท. ได้แก่บมจ.ไทยออยล์(TOP),บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) และ PTTAR

รมว.พลังงาน แถลงภายหลังการประชุมว่า กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันเหล่านี้ตกลงจะนำเงินจากส่วนต่างกำไรของการกลั่นน้ำมันดีเซล ในอัตราไม่เกิน 1 บาท/ลิตรเข้ามาช่วยเหลือซึ่งจะสรุปรายละเอียดของการช่วยเหลือ และการจัดเก็บได้ภายใน 1 สัปดาห์

ขณะเดียวกันจะขอความร่วมมือจากโรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง (SPRC) และโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ เพื่อให้เข้าร่วมโครงการด้วย

"ในภาวะนี้ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงฯที่ต้องขอความร่วมมือจากโรงกลั่นฯให้ความเป็นธรรมต่อประชาชน" รมว.พลังงาน กล่าว

เขา เห็นว่าในปีนี้โรงกลั่นน้ำมันมีส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซล และราคาน้ำมันดิบ(สเปรด)สูงขึ้นมาที่ระดับ 35-36 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเทียบกับช่วงปี 49-50 ที่มีส่วนต่างที่ 20 ดอลลาร์/บาร์เรล

นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงานยืนยันการขอความร่วมมือกับกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันในเครือปตท.จะเป็นเพียงชั่วคราวราว 3-6 เดือน ขณะที่กลุ่มปตท.มีกำลังการกลั่นน้ำมันดีเซลรวม 32 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นเงินช่วยเหลือระดับประมาณ 30 ล้านบาท/วัน หรือราว 900 ล้านบาท/เดือน