hormok♥
สนับสนุนLSV-server
member
คะแนน 245
ออฟไลน์
กระทู้: 659
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2007, 12:03:43 am » |
|
อันนี้เป็นข้อมูลเก่าผมจำไม่ได้ว่าหาได้มาจากไหน เผื่อจะเป็นแนวทางนะครับ o ทีวีแต่ละยี่ห้อ ก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น o SAMSUNG ชูจุดเด่น การมีชิพ DNIe ที่เป็นชิพ Digital Natural Image engine ให้ระบบโทรทัศน์สามารถรองรับสัญญาณภาพจาก สัญญาณทีวีปกติ สัญญาณทีวีดิจิตอลความคมชัดสูง เครื่องเล่นดีวีดี กล้องวีดีโอ คอมพิวเตอร์ และวีดีโอเกม แล้วแปรสัญญาณเป็นภาพคมชัดบนจอโทรทัศน์ โดยมีการติดตั้งชิพนี้ในโทรทัศน์ทั่วไป และ โทรทัศน์แบบพลาสม่า แบบแอลซีดี และ โปรเจกชั่นทีวี ซึ่งหากคุณใช้โทรทัศน์เพื่อรับสัญญาณจากสัญญาณทีวีปกติทั่วไปเพียงชนิดเดียว ก็อาจไม่จำเป็นต้องใช้งานชิพดังกล่าว o SHARP ชูจุเด่น ระบบ Aquos ที่ใช้หลอดแบลคไลต์สำหรับโทรทัศนแบบ LCD โดยมีการใช้ 4 ความยาวคลื่นแสง (Four wavelength backlight system) ซึ่งประกอบด้วย Blue Green Red และ สี Crimson Red (สีแดงเข้ม ช่วง 650 nm) ทำให้ได้สีภาพสวยสดเหมือนจริงเป็นธรรมชาติ และ มีการเคลือบสาร Black TFT Coating ที่หน้าจอ ทำให้หน้าจอดำสนิท ลดแสงสะท้อน ลดแกลร์ (glare) o JVC ชูจุดเด่น ระบบ DynaPix คือ ชิพถ่ายทอดภาพความละเอียดสูง (High Definition) ใช้การประมวลภาพแบบทวีคูณ โดยจะลดการกระพริบของภาพ ลด Frame Rate ให้ต่ำกว่าปกติถึง 2 เท่า สามารถเปลี่ยนแปลงความสว่าง ความเข้ม และให้ระดับสีที่สมบูรณ์ และให้สีที่อิ่มลึก ทำให้ภาพเคลื่อนไหวบนจอคมชัด เป็นธรรมชาติ ขอบภาพไม่มีรอยขยัก สามารถไล่โทนสีขาวดำและความเข้มของภาพได้ มีระบบเซ็นเซอร์ AI ECO sensor ปรับความสว่างของจอภาพตามสภาวะแสงภายในห้อง ช่วยถนอมสายตา และช่วยประหยัดไฟ o Sony ชูจุดเด่น การพัฒนาสารฟอสเฟอร์เคลือบจอให้สามารถแสดงสีแดงและสีเขียวออกมาได้อย่างคมชัด ช่วยให้ภาพสมจริงและ เทคโนโลยีสี Wide Colour Gamut CCFL (Cold Cathode Fluorescent Lamp) และ ชิพ WEGA engine ที่ช่วยปรับเพิ่มคอมทราสต์ ให้สีของภาพเต็มอิ่ม เป็นต้น เรียกว่าแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นของตน
o เปรียบเทียบด้าน Viewing Angle ของจอภาพโทรทัศน์ กรณีโทรทัศน์ทั่วไป แบบ CRT สามารถชมภาพได้มุมกว้าง มองด้านข้างก็ได้ แต่ในกรณีโทรทัศน์แบบแอลซีดี และ พลาสม่า มีข้อจำกัดเรื่องมุมมอง จึงมีการพัฒนาจอภาพให้สามารถรับชมได้มุมกว้าง เช่น o SHARP พัฒนาระบบมุมมองได้ถึง 170 องศาทั้งแนวตั้งและแนวนอน o SAMSUNG พัฒนาระบบ S-PVA ( Super Pulse Viewing Angle ) ให้สามารถมองได้กว้างถึง 178 องศาทั้งแนวตั้งและแนวนอน
o เปรียบเทียบเรื่องสีระหว่างจอโทรทัศน์แบบต่าง ๆ กรณีโทรทัศน์ทั่วไป แบบ CRT ให้สีที่ดี ส่วนแบบ LCD และ พลาสม่า ใช้การให้สีแบบผลึกจึงมีข้อจำกัดในการให้สี เช่น โทรทัศน์ LCD มีการแสดงเฉดสี ตั้งแต่ 2 พันล้านเฉดสี ถึง 3.2 , 6.4 และ 12.8 พันล้านเฉดสี แล้วแต่รุ่น โทรทัศน์ Plasma มีการแสดงเฉดสี ตั้งแต่ 549 พันล้านเฉดสี ขึ้นไป แล้วแต่รุ่น
o เปรียบเทียบเรื่องการเปรียบต่าง (Contrast) ของจอโทรทัศน์แบบต่าง ๆ โทรทัศน์ Plasma มีการเปรียบต่าง ตั้งแต่ 3,000:1 ถึง 10,000:1 โทรทัศน์ LCD มีการเปรียบต่าง ตั้งแต่ 500:1 ถึง 700:1 , 800:1 , 1,080:1 , 1,200:1 , 2,000:1 , 3,000:1 และ 5,000:1 โทรทัศน์ DLP มีการเปรียบต่าง ตั้งแต่ 1,200:1 ถึง 2,000:1 , 2,500:1 , 5,500:1 โทรทัศน์ Projection มีการเปรียบต่าง ตั้งแต่ 2,000:1 ถึง 2500:1 แบบพลาสม่าแม้จะให้การเปรียบต่างที่คมชัดกว่าแบบแอลซีดี แต่ก็มีจุดด้อยคือหากภาพนิ่ง อาจทำให้เกิดจุดไหม้บนจอพลาสม่าได้ เรียกว่า สวยกว่า คมกว่า แต่ก็อายุสั้นกว่า
o เปรียบเทียบเรื่องความละเอียดของจอภาพ ของจอโทรทัศน์แบบต่าง ๆ โทรทัศน์ LCD มีความละเอียดของจอภาพ ตั้งแต่ 640x480 ถึง 800x600 , 854x480 , 1,280x720 , 1,366x768 , 1,920x1,083 โทรทัศน์ Plasma มีความละเอียดของจอภาพ ตั้งแต่ 852x480 ถึง 1,024x768 , 1,366x768 โทรทัศน์ DLP มีความละเอียดของจอภาพ ตั้งแต่ 854x480 ถึง 800x600, 1,280x720 โทรทัศน์ Projection มีความละเอียดของจอภาพ 1280x720 การเลือกซื้อหากเลือกรุ่นจอ wide ได้ก็จะสบายตาในการชมหน่อยครับ
o เปรียบเทียบเรื่องขนาดของจอภาพ ของจอโทรทัศน์แบบต่าง ๆ โทรทัศน์ Projection มีขนาด 43 , 67 โทรทัศน์ LCD มีขนาด ตั้งแต่ 15, 17, 19 , 20 ,22 , 23 , 26 , 27 , 32, 37, 40 , 46 , 56 , 65 , 70 โทรทัศน์ DLP มีขนาด ตั้งแต่ 42, 50, 61, 67 โทรทัศน์ Plasma มีขนาด ตั้งแต่ 42, 50, 63 โทรทัศน์ ทั่วไป มีขนาด 14, 20, 21, 25, 29, 32 การเลือกจอ ยิ่งใหญ่ ก็น่าจะดี แต่ราคาก็แพงไปด้วย ถ้าเรื่องความคุ้มค่าของขนาด/ราคาแล้ว ที่หนึ่งก็คงจะเป็นโทรทัศน์แบบ Projection แต่ก็มีข้อด้อยเรื่องความคมชัดของภาพไม่ค่อยดี และอายุการใช้งานสั้น ส่วนพลาสม่าสมัยก่อนจอใหญ่ เดี๋ยวนี้แบบ LCD ก็กำลังวิ่งไล่ตามทัน ด้วยราคาที่ถูกกว่าและอายุการใช้งานนานกว่า
|