https://www.pohchae.com/2023/08/14/%e0%b8%ad%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87/ประวัติ ท่านอ่อง จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ พระราชโอรสองค์ที่ 3 ของร.10 / ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ในอเมริกา
#ประวัติ #ท่านอ่อง #จักรีวัชร #วิวัชรวงศ์ #พระราชโอรส #ร10 #ผู้เชี่ยวชาญ #ด้านการแพทย์ #อเมริกา
--------

ท่านอ่อง จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ หรือ นายแพทย์ จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าจักรีวัชร มหิดล ประสูติเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 ปัจจุบันอายุ 40 ปี
เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สุจาริณี วิวัชรวงศ์ มีพระภราดาและพระกนิษฐาร่วมพระมารดาสี่พระองค์ ได้แก่..
△1.ท่านอ้วน จุฑาวัชร วิวัชรวงศ์
△2.ท่านอ้น วัชรเรศร วิวัชรวงศ์
△3.ท่านอิน วัชรวีร์ วิวัชรวงศ์
△4.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หม่อมสุจาริณี มหิดล ณ อยุธยา ทรงพาพระโอรส พระธิดา โดยหนึ่งในนั้นคือ ท่านอ่อง ไปประทับยังสหราชอาณาจักร..
กระทั่งวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2540 มีหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักร แจ้งต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องว่า ท่านชายทั้งสี่พระองค์ได้ถูกถอดออกจากสถานะพระราชวงศ์ และไม่มีสิทธิ์ในการใช้ฐานันดร หม่อมเจ้าอีกต่อไป โดยทรงเปลี่ยนให้ใช้นามสกุลพระราชทาน วิวัชรวงศ์ แทน
ท่านอ่อง จักรีวัชร วิวัชรวงศ์ ย้ายไปอยู่อเมริกา เมื่อปี 2539
หลังย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ท่านอ่อง ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมศึกษา Trinity Prep School ก่อนจะเข้าเรียนต่อในคณะแพทย์ จนจบหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จ
โดยหลังเรียนจบด้านการแพทย์ ท่านอ่อง ก็ได้จัดตั้ง ศูนย์การแพทย์นานาชาติจักรีวัชร : Chakriwat Medical Information Center (CMIC) เพื่อให้ความรู้คนไทย
ท่านอ่อง ยังได้ เปิดช่องยูทูบขึ้นมาเพื่อสอนด้านแพทย์อีกด้วย โดยท่านได้ใช้ชื่อรายการว่า CMIC ออกอากาศทางช่อง YouTube : chakriwat vivacharawongse, MD ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามแล้วกว่า 1.75 แสนคน
ทั้งนี้ ท่านอ่อง เผยว่า ตนอยากเป็นหมอเพราะเคยป่วยมาก่อน เนื่องจากท่านอ่องเคยตรวจเจอก้อนเนื้อในลำคอและโรคท้าวแสนปม (นิวโรไฟโบรมาโตซิส ชนิดที่2) ทำให้ค่อยๆ สูญเสียการได้ยิน จนต้องผ่าตัดและเข้ารับการฉายรังสีหลายครั้ง ท่านอ่อง เลยทราบดีกว่าการพูดคุยกับคนไข้ต้องทำอย่างไรบ้าง.