ขายภาพรายได้ เดือนละแสนทำได้จริง ไม่ได้โม้เก็บรวบรวมจากโพส ประวัติข้อคิด กว่าจะมาเป็นสต๊อกเกอร์เงินล้าน
เอาไว้เป็นแรงบัลดาลใจ และข้อคิดสำหรับสต๊อกเกอร์มือใหม่อย่างเรา
จากคำถามที่ว่า ช่างภาพสต็อตในนี้ ใครมีรายได้เดือนล่ะเเสนเเล้วมั่งครับ
อยากถามเพื่อเป็นกำลังใจครับ ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/groups/1454798028109768/1547713438818226/สู่คำบอกเล่าประวัติของสต๊อกเกอร์เงินล้าน
ขายภาพออนไลน์
ประวัติคุณหมอเจนนี่ อันนี้ที่อ่านในงานนะครับ ดังนี้ครับ ประวัติย่อ
ทันตแพทย์ ธีรวุฒิ มาสวัสดิ์ หรือ หมอเจนนี่
ก่อนนี้ผมมีงานอดิเรกคือการบินเครื่องบินบังคับ และได้นำกล้อง Video ติดไปกับเครื่องบินบังคับเพื่อถ่ายภาพมุมสูงและมา upload ทาง youtube ยิ่งเล่นยิ่งสนุก อยากตัดต่อภาพ Video ให้ออกมาดูสวยเพื่อยอด View จึงได้ไปหาหนังสือ
เกี่ยว กับการตัดต่อ แต่.......มีหนังสือใหม่เริ่มนึงเพิ่งวางแผง มาบังหนังสือที่ผมต้องการหา ในทุกๆร้าน จนสุดท้ายต้องหยิบขึ้นมาอ่านดู แชะ...รวยทะลุเลนส์ ถ่ายภาพขายออนไลน์ ธุรกิจสร้างเงินล้าน " ผมไม่สนใจเลย และมองว่า เป็นไปไม่ได้ จึงได้วางลง แต่แล้วก็หาหนังสือที่ต้องการไม่ได้
จนสุดท้าย หยิบหนังสือเล่มนั้นติดมือกลับมา
อ่านจบ สิ่งแรกที่คิดคือ ลองทำดูเล่นๆ ด้วย อุปกรณ์ที่มี 350 D Lens kit ถ่ายสอบ และผ่านพอดี
พอรูปเริ่มขายได้ทำให้ ผมออกกล้องใหม่ 550 D ลุยงานอย่างบ้าคลั่งจน งานอดิเรกเดิมไม่ได้เล่น และเลิกบินไปในที่สุด
ผมทำงานอดิเรก สายนี้อย่างสนุกกับภรรยาที่รัก
จน มาถึง ช่วงนึง ช่วงที่ คนไม่ดีเอา ยาแก้แพ้ ไปทำยาบ้า ทำให้ การทำงานของภรรยาที่เป็น เภสัชกร ทำงานอย่างยากลำบากและเครียดมาก จนในที่สุด ภรรยาผมลาอออกจากราชการ มาทำงาน สายนี้แบบเต็มตัว
ส่วนผมเอง เป็นหมอฟัน ตัวดำๆ ซึ่ง ยังคงทำงานตามหน้าที่เหมือนเดิม
เช้า ทำฟัน
เย็น ทำรูป
-----------------------------------------------
ประวัติ ย่อคุณวิชญ หรือเอ๋อ้อย วันนี้กำลังเที่ยวอยู่ญี่ปุ่น เกินแสนต่อเดือนไปไกลแล้วเช่นกัน ชาร์ทรายได้ ออกสื่ออยู่บ่อยๆ เปิดหมดไม่มีปิด หาอ่านได้ทั่วไปครับ ประวัติย่อ วิชญ เกียรติยิ่งอังศุลี
ชายหนุ่มผู้รักการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งประทับใจ รูปถ่ายน้ำตกที่ไหนก็ไม่รู้ จากหนังสืออ อสท. และเป็นความสนใจในวัยเด็ก ที่อยากจะเห็น ความสวยงามจากธรรมชาติในโลกใบนี้
หลัง จากเรียนจบ เกียรตินิยมอันดับ 2 วิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังไม่รู้จะทำงานอะไรดี แต่รู้ว่า ไม่อยากจะเป็นโปรแกรมๆ จึงได้เรียนต่อ MIS ปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ดูแลด้านการบริหารไอที ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานๆเพื่อเก็บเงินนำไปท่องเที่ยวในโลกกว้าง โดยใช้กล้องคอมแพค ที่อาไม่ใช่แล้วมาถ่ายรูป และมักจะนำประสบการณ์การเดินทางมาแบ่งปัน อยู่ในห้องบลูพลาเน็ต พันทิป จนเริ่มมีความสนใจในการถ่ายภาพ จึงตัดสินใจซื้อกล้อง DSLR ถูกๆมาหนึ่งตัว (Canon 400D) เพื่อเก็บภาพความประทับใจจากการเดินทาง
จน วันหนึ่ง ในปี 2010 จากการแชท จึงรู้ว่า มีธุรกิจสต๊อกอยู่ สามารถนำรูปตนเองไปขายได้ จึงใช้เวลาหนึ่งวันเต็มเต็มในการศึกษาข้อมูลธุรกิจนี้ และสมัครสอบทันที และพบว่าธุรกิจสต๊อกน่าสนใจมาก เพราะเป็นธุรกิจที่ ทำงานเพียงครั้งเดียว แต่สามารถรับเงินไปได้ตลอด จึงทุ่มเท แรงกายแรงใจ ในการผลิตผลงาน จนมีรายได้ จากสต๊อกที่สามารถ ผ่อนกล้อง 5DMk-II ได้ในระยะเวลา 4 เดือน
ใน ช่วงแรกนั้น ได้ลองผิดลองถูก กับงานสต๊อกหลายอย่างมาก พยายามลองทำงานในแนวขายดี ซึ่งช่วงแรกก็สนุก เพราะว่าเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่คงทำได้สักพัก รู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เป็นความรู้สึกที่เหมือนสมัยจบใหม่ๆ ทีรู้ตัวเองว่าไม่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ จึงหยุด กลับมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ คือการเดินทางท่องเที่ยวและถ่ายรูป ซึ่งแม้รายได้จะไม่ดีเท่าภาพแนวขายดี แต่เป็นการทำงานที่สนุกและไม่เบื่อ จึงสามารถพัฒนาคุณภาพของงานให้อยู่ในระดับสูงได้
หลัง จากผ่านไปได้ 3 ปี จึงตัดสินใจทิ้งเงินเดือนครึ่งแสนจากงานประจำ เพื่อออกมาทำสต๊อกแบบนักท่องเที่ยวเต็มตัว สำหรับงานสต๊อกแล้ว เป็นงานที่ตอบชีวิต และไลฟ์สไตล์ ของผมเป็นอย่างมาก ทำการได้ไล่ตามความฝันในวัยเด็ก ทำการให้อิสระ ทั้งมิตรภาพที่ได้รับจากผู้ร่วมเดินทางในสายเดียวกัน ที่ผ่านมายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่สามารถ เป็นแรงใจ ให้หลายหลายคน สามารถลุกขึ้นยืนใหม่ และสู้จนประสบความสำเร็จ จนหลายคนก็แซงผมไปไกลแล้ว
ซึ่ง สต๊อกเป็นงานที่ดีอย่างหนึ่ง คือไม่ต้องทำกับใคร นอกจากแข่งกับตัวเอง ถ้าเทียบกับงานประจำแล้ว ถึงว่าเป็นงานที่ทำให้ผม หมดความอิจฉาริษยาและการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และหวังว่าในสัมมนาวันนี้ จะเป็นตัวจุดประกายให้เพื่อนเพื่อนทุกคนในที่แห่งนี้ ได้ลุกขึ้นมาทำ ในสิ่งที่ตนเองอยากทำ และประสบความสำเร็จนะครับ
ขายภาพได้เงินจริงไหม
---------------------------------------
คุณพล ศิรพล ไม่ถึงสองปี ประวัติย่อ ศิรพล ศิริจรัสตระกูล หรือ พล
เป็นลูกชายคนเดียวของคุณพ่อกับคุณแม่
ตั้งแต่เล็กจนโต ชอบเล่นเกมส์เป็นชีวิตจิตใจ
สามารถนำเงินในเกมส์ไปขายเป็นเงินจริงได้
ช่วงอายุประมาณ15 (ม.3) มีปัญหากับงานของคุณพ่อคุณแม่
ทำให้ต้องใช้ชีวิตอยู่ กรุงเทพ เพียงลำพัง
เด็กวัยรุ่น อายุ 15 อย่างผม ก็ใช้ชีวิตให้สมกับวลี
แมวไม่อยู่หนูร่าเริง 555+
--------------------------------------------------------
จนกระทั่งเรียนจบ ม.ปลาย เข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัยอินเตอร์ชั้นนำของประเทศ
เรียนไป เที่ยวไป ทำงานบ้างนิดหน่อย ชีวิต เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป
จนกระทั่งเจอกับเหตุการณ์ปัญหาทางการเงินของที่บ้าน
ตัดสินใจ ลาออก ตอนเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่าย
ตอนนั้น ถามตัวเองว่า ลาออกแล้วจะทำอะไรดี
รู้ตัวเองว่าชอบเที่ยว จึงผันตัวไปเป็น DJ
--------------------------------------------------------
เป็น DJ ได้อยู่ 2ปีกว่า ก็มาพบกับบททดสอบครั้งใหญ่ในชีวิต (มีน้อง)
พอรู้ตัวว่ามีอีกคนที่ต้องดูแล จึงทำให้เริ่มมองหาอาชีพที่ 2
ก็ทดลองทำมาก็หลายอย่าง แบของขายกับดินที่สวนรถไฟก็เคย
อยู่ดีๆก็มีความคิดแวบขึ้นมาในหัว อยากถ่ายภาพ
--------------------------------------------------------
วันหนึ่งในขณะที่กำลังมองหาหนังสือ สอนการถ่ายภาพ (เพราะถ่ายภาพไม่เป็น)
เหลือบไปเห็นหนังสือ อ.สุระ แชะรวยทะลุเลนส์ เล่มแรกปกสีดำ
จึงหยิบขึ้นมาอ่าน ปน ด่าในใจ (หนังสือขายตรงหรือเปล่าน๊า
)
หลังจากนั้น มีโอกาสเจอ กระทู้ ครบ1ล้านบาท ของพี่เอ๋อ้อย
เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้มาจริงจังกับงาน Stock มากขึ้น
เพราะมองเห็นโอกาสหลายๆอย่าง
ทำมาได้สักพัก ก็มาเจอเหตุการณ์ ช๊อค อีกครั้ง
เมื่อจู่ๆคุณพ่อเสียกระทันหัน ด้วยโรคเส้นเลือดออกในสมอง
พร้อมกับมอบหน้าที่หัวหน้าครอบครัวเต็มรูปแบบให้แก่ ผม ในวัย 24
ตัดสินใจลาออกจาก DJ มาทำ Stock เต็มตัว
ด้วยความหวัง ความมุ่งมั่น และแรงใจเกินร้อย
ในที่สุดก็สามารถทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแทนคุณพ่อได้
ถือเป็นความภาคภูมิใจของลูกคนนี้ ที่ทำหน้าที่แทนคุณพ่อได้
และสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย
ถ้าไม่เจอกับหนังสือของอาจารย์สุระ และ พี่เอ๋อ้อย
--------------------------------------------------------
ปัจจุบันค้นพบกับธรรมะ โดยการแนะนำของอาจารย์เอก
ทำให้เข้าใจความจริงของสิ่งต่างๆมากขึ้น
มีความสุขในการทำงาน และ การใช้ชีวิต
ต้องขอขอบพระคุณคุณพ่อ คุณแม่ ภรรยา ลูกๆ และครอบครัว
รวมไปถึง อาจารย์สุระ , พี่เอ๋อ้อย , อาจารย์เอก , พี่ๆ เพื่อนๆ กัลยาณมิตรทั้งหลาย
-----------------------------------------------------
ประวัติ ย่อ คุณกริสน์ วงศ์เศรษฐนันท์ คนนี้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของงานครั้งนี้ครับ ทำทุกอย่าง ด้วยจิตอาสาอย่างแท้จริง ควรเอาเป็นตัวอย่าง
จบจากคณะมัณฑนศิลป์ ภาควิชาออกแบบนิเทศน์ศิลป์ ม.ศิลปากร เริ่มงานด้วยตำแหน่ง Web Designer ในบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ 9 เดือน แล้วอ อกมาเป็น freelance designer 4-5 ปี ต่อมาอยากมีสินค้าเป็นของตัวเอง จึงสร้าง brand "Cardactually" ขึ้นมา เป็นร้านขายการ์ดแต่งงานที่แตกต่างจากการ์ดแต่งงานแบบเดิมๆ สนุกและมีความสุขอยู่กับการทำการ์ด ได้ 6-7 ปี ก็เริ่มเบื่อกับการที่ต้องติดต่อสื่อสารกับผู้คน และปัญหาจากการผลิตงานของโรงพิมพ์บ่อยๆ เป็นงานที่ได้เงินมามากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าเราต้องเหนื่อยมากเท่านั้น
สนใจ Stock Photo หลังจากไปเรียนถ่ายภาพ ซึ่งทีแรกตั้งใจไปเรียนเพื่อเป็นงานอดิเรก แล้ว อ. ที่สอนถ่ายภาพแนะนำว่า ทำไมไม่ลองขายภาพทาง Microstock ดู ประจวบกับได้อ่านกระทู้ครบล้านบาทของคุณเอ๋อ้อย จึงตัดสินใจลงมือทำ ตอนกลางปี 2013 ถึงปัจจุบันก็ 1 ปี 8 เดือนพอดี แรกๆ ก็ทำคู่กันไปกับร้านการ์ดก่อน จนแน่ใจว่างาน Stock Photo สามารถเป็นรายได้หลักแทนได้ จึงเลิกกิจการการ์ดไปเลย
รู้สึกสนุก ตื่นเต้นและมีความสุขมากกับการทำ Stock Photo สถิติส่วนตัวที่ภูมิใจคือ
1. ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มขายใน SS ไม่เคยกินไข่เลย
2. สามารถมีรายได้รวม 1 ล้านบาท ภายในปีแรก ด้วยภาพ vector จำนวน 400 ภาพ
3. เคยมีผลงานที่ขึ้นไปถึงอันดับ 1 ในหน้า Popular ของหมวด Vector มาแล้ว
สรุป ได้ว่าสำหรับตัวเอง Stock Photo เป็นอาชีพที่ลงตัวที่สุด เหมือนไม่ใช่งานแต่เป็นการได้ใช้ชีวิต ที่สามารถกำหนด life style ที่ตัวเองชอบได้ สามารถจัดเวลาให้กับครอบครัวได้ มีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาหาความรู้ต่างๆ เพิ่มเติม สามารถมีรายได้เข้ามาในบัญชีของเรา แม้เราจะนอนหลับ หรือไปเที่ยวเป็นเดือนๆ โดยไม่ต้องทำงาน มีความสุขโพดๆ จึงอยากแบ่งปันให้คนอื่น ได้ทำแบบนี้บ้าง
---------------------------------
ประวัติย่อ รัชพล ยรรยงเดชา หรือ ขุนพล คนนี้ค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันดี
รัชพล ยรรยงค์เดชา (ขุนพล) จบการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ เทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
แต่มีความชอบงานด้านกราฟิกเป็นพิเศษ เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการ retouch ภาพถ่ายเป็นหลัก
ใน ปี 2544 ได้ร่วมงานกับบริษัททำภาพประกอบหนังสือเรียน โดยใช้โปรแกรม Illustrator ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นอาชีพการทำงานด้วยโปรแกรม Illustrator
หนึ่งในความภูมิใจในด้านการทำงาน คือ การเป็น Art Director ทำลายเส้นการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ ที่ร่วมผลิตงานป้อนให้บริษัทระดับโลกอย่าง DC Comic และ Marvel ซึ่งมีไม่กี่ประเทศที่ผ่านการคัดเลือก ทดสอบอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็มีโอกาสได้ร่วมงาน
และ เบนเข็มสู่การขายภาพออนไลน์ตั้งแต่ปี 2554 จากหนังสือ "รวยทะลุเลนส์" ของ อ.สุระ นวลประดิษฐ์ สำหรับผมถือว่าเป็นผู้มีพระคุณในอาชีพ stocker
ปัจจุบันถือว่าเป็น stocker เต็มตัว เน้นงานด้าน vector แนว abstract - technology เป็นหลัก
มี ผลงานหนังสือ " รวยด้วยขายภาพเวกเตอร์ออนไลน์" ซึ่งหลังจากวางแผงเป็นเวลา 3 เดือน ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และได้จัดพิมพ์ครั้งที่ 2 เมื่อ เดือนมกราคม ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังได้ทำ Illustrator Video Tuorial ทางยูทูป เพื่อให้ความรู้สำหรับผู้ที่อยากฝึกโปรแกรม Illustrator ในขั้นพื้นฐาน ด้วยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับวงการ stock ของไทย
อนาคต อันใกล้นี้ จะมีการเปิดอบรมสัมมนาเกี่ยวกับ "การขายภาพเวกเตอร์ออนไลน์" และ "คอร์สสอนโปรแกรม Illustrator" สำหรับ ไมโครสต๊อกโดยเฉพาะ
ติดตามได้ที่ facebook.com/KhunponStockvector
-----------------------------------------------
ประวัติ ย่อ วรพงษ์ หรือ ท็อป Topp Yimgrimm คนนี้งานระดับโลกอย่างแท้จริง เมื่อก่อนนี้ ถ้าไม่บอก ดูให้ตายก็ไม่รู้ว่า นี่คืองานของคนไทยวัยรุ่นคนหนึ่งครับ
ท็อป วรพงษ์ สลีวงศ์ อายุ 27 ปี เรียนจบวิศวะคอมจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่รู้ตัวว่าชอบงานออกแบบ กราฟฟิกตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ชอบอ่านบล็อก และสะสมหนังสือ นิตยสารด้านการออกแบบ จบมาจึงได้ทำงานเป็นกราฟฟิกดีไซน์เนอร์อยู่บริษัทซอฟท์แวร์แห่งหนึ่ง ทำงานได้ 8 วันก็ลาออก เพราะเพิ่งเข้าใจว่างานที่อยากทำจริงๆคือการวาดภาพเรื่อยเปื่อย ไม่ใช่ทำงานกราฟฟิกตามสั่ง จนกระทั่งจารย์เอกชักชวนเข้าวงการสต๊อคเกอร์ จึงได้ค้นพบอาชีพในฝัน
-----------------------------------
ประวัติย่อ วรัท ยวงศรี หรือเอก
เกิดที่เชียงใหม่ จบ ม.ต้น ก็มาเรียนสายช่าง ปวช. เรียนอิเล็กทรอนิกส์, ปวส. เรียนเทคนิคคอมพิวเตอร์, ป.ตรี เรียน IT
เรียนจบออกมาทำงานในรัฐวิสาหกิจชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำอยู่ 5 ปี เงินเดือนดี เบี้ยงเลี้ยงดี สวัสดิการดี แต่รู้สึกว่า กฏระเบียบไม่ถูกใจวัยรุ่น เวลาเสนอไอเดียอะไรใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับองค์กร ผู้ใหญ่ไม่ค่อยสนใจ ไปที่อื่นน่าจะรุ่งกว่านี้ เลยลาออกดีกว่า
ลา ออกมาขายของผ่านเน็ท ตอนแรกก็รุ่งดี ทำอยู่ปีสองปีเจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เข้าไป ออเดอร์เมืองนอกหายหมด ช่วงนี้เงินหมด หนี้บาน เป็นจุดตกต่ำที่สุดในชีวิต
หัน กลับเข้าสู่วงเวียนมนุษย์เงินเดือนอีกครั้ง โดยไปสมัครทำงานบริษัทรับทำเว็บไซด์บริษัทฝรั่ง ทั้งๆ ที่ภาษาห่วยมาก แต่ว่าเขาให้เงินเดือนเยอะกว่าบริษัทคนไทย แล้วจะไปสมัครได้เหรอเนี่ย ก่อนสมัครเลยไปซุ่มเรียนภาษาอยู่ 3 เดือน ตังค์ก็ไม่มี แต่ไปหาที่เรียนฟรีจนได้ สรุปว่าเขาก็รับเข้าทำงาน
ตั้งแต่ เรียน และทำงานมา ทำงานด้านช่างมาตลอด เพิ่งมีงานนี้แหละที่ได้ใช้ความสามารถด้าน Graphic design ที่ไม่เคยเรียนจากที่ไหนมา แต่ศึกษาเองจากหนังสือ และจากอินเตอร์เน็ท ทำงานบริษัทเว็ปไซด์อยู่ 2 ปี ก็มีความสุขดี งานสนุก เพื่อนร่วมงานนิสัยดี แต่อนาคตกินเงินเดือนไปเรื่อยๆ ท่าทางจะไม่รุ่ง เลยตัดสินใจลาออกครั้งสุดท้าย มาทำ Wordpress Theme Design และมาทำสต๊อกอย่างเต็มตัว
ปัจจุบัน ทำงานสต๊อกเฉลี่ยอาทิตย์ละรูป แต่ได้เงินเดือนเกือบเท่าตอนทำบริษัททั้งปี ผ่านมรสุมชีวิตมาเยอะ คิดว่าอาชีพที่สบายสุขกายสุขใจกว่านี้คงไม่มีแล้ว จึงกระหน่ำชวนคนรอบข้างมาทำสต๊อกกันเยอะๆ มาร่วมสร้างสังคมแห่งความสุข และแบ่งบันกันไม่รู้จบกันฮะ เย้ๆๆ
ที่มา
http://ipresent4u.blogspot.com/2015/02/blog-post.htm