GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ
( gross domestic product) หมายถึง มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการ
ขั้นสุดท้ายที่ถูกผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่งๆ
โดยไม่คำนึงว่าผลผลิตนั้นจะผลิตขึ้นมาด้วยทรัพยากรของชาติใด
ซึ่งถูกคิดค้นโดย Simon Kuznets นักเศรษฐศาสตร์ชาวรัสเซีย
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศสามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้
ถึงมาตรฐานการครองชีพของประชากรในประเทศนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม จีดีพี เป็นดัชนีชี้วัดผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ
แต่ไม่สามารถชี้วัดคุณภาพชีวิตที่แท้จริงได้
การวัดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สามารถวัดได้ 2 วิธี ได้แก่
1. การวัดรายจ่าย (Expenditure Approach) ที่จ่ายให้สินค้าและบริการขั้นสุดท้าย
GDP = รายจ่ายเพื่อบริโภค + รายจ่ายเพื่อการลงทุน + รายจ่ายของรัฐบาล + รายจ่ายสุทธิของต่างประเทศที่ซื้อสินค้าผลิตในประเทศ
หรือ GDP = Consumption + Investment + Government spending + (exports imports)
2. การวัดรายได้ (Resource Cost - Income Approach) ที่ได้จากการขายสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย
GDP = ค่าจ้างและเงินเดือนลูกจ้าง + รายได้เจ้าของธุรกิจส่วนตัว +
กำไรของบริษัท (รายได้ผู้ถือหุ้น) + ดอกเบี้ย (รายได้เจ้าหนี้) + ค่าเช่า
(รายได้เจ้าของสินทรัพย์) + ภาษีธุรกิจทางอ้อม + ค่าเสื่อมราคา +
รายได้สุทธิของคนต่างชาติในประเทศ
ภาษีทางอ้อมคือภาษีที่เรียกเก็บจากการขายสินค้าหรือการบริการ
โดยผู้ที่มีหน้าที่ชำระภาษีโดยตรง (ผู้เสียภาษีคนแรก) สามารถผลักภาระภาษีไปให้บุคคลอื่นได้ เช่น
ภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร ภาษีมูลค่าเพิ่มซึ้งเป็นรายได้หลักของประเทศ
ซึ่ง GDP ( gross domestic product) กับ GP(Gross Profit Margin)
มีความหมายต่างกัน GP(Gross Profit Margin)หมายถึง อัตรากำไรขั้นต้นประเทศเรา ข้อมูลในจัดเก็บตัวเลขการจัดทำ GDP ยังบกพร่องอีกมากมาย
ยังมีประชากรที่มีรายได้แขวง ที่ไม่ยอมจ่ายภาษีทางตรงให้ประเทศ
ทำให้จัดเก็บข้อมูลไม่ชัดเจน เช่น กลุ่มเกษตรชาวสวน ตั้งแต่สวนยางพารา
สวนผลไม้ สวนผัก ปลูกพืชไร่ ไม่ว่าจะเป็นปลูกมันสำหลัง อ้อย ฯลฯ
ชาวนา กลุ่มธุรกิจเรือประมง ฯลฯ กลุ่มธุรกิจที่พ่วงกับกิจการท่องเที่ยว
ฉะนั้น จะเห็นว่าทำให้ข้อมูล GDP มีความบกพร่องมากมาย
ไหนจะคนต่างด้าว ที่มามีรายได้มาทำงานในประเทศหลบไปมา
ไม่น่าเชื่อ ที่ไปสอบถามครอบครัวคนไทยส่วนใหญ่ ทั้งบ้าน มีคนเสียภาษี เพียง 1 คน
แต่ต้องเลี้ยงดูคนในบ้าน 5 คนขึ้นไป นี่คือคุณภาพชีวิต ที่ย่ำแย่
แต่คนในบ้าน 5 คนที่เลี้ยงดูอาจจะมีอาชีพบ้างแต่ไม่แน่นอน
ในอดีต คนจีนที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย เลยกลายเป็นนายทุนไป
เพราะเขาขยัน ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต
ไม่แต่ประเทศไทยเท่านั้น ที่คนจีนไปอยู่ แม้กระทั่งในพม่าปัจจุบัน
คนพม่าเชื้อสายจีน ก็คุมเศรษฐกิจคนท้องถิ่นหมด เพราะอะไร
และประเทศอื่นๆ ในเอเซีย ก็มีคนเชื้อสายจีนคุมเศรษฐกิจ
เพราะเขาพัฒนาความอดอยากในประเทศจีน ให้เป็นพลังในการแก้ไขปัญหาความยากจนของตัวเอง
โดยไม่อาศัยรัฐมาช่วย แต่ สติ และปัญญา ความขยันอดทน เป็นเลิศ
จึงผ่านความทุกข์ยาก มาประสบชัยชนะ
และประเทศจีน เป็นคอมฯ แต่ตอนนี้เปิดประเทศ แล้ว
เศรษฐกิจวิ่งไปแซงหน้า อเมริกา เพราะอะไร
นั่น คือเรื่องน่าคิด ?
จะทำอย่างไร ให้ประชากร ในครอบครัว 5 คน เสียภาษีเงินได้ให้รัฐเสีย 3 คน
ลองไปช่วยกันคิดดู คนหาเลี้ยงจะได้ไม่เหนื่อย
เพราะคนที่เลี้ยงอาจจะหมดแรง เจ็บ ตาย ไป
ก่อนจะทำให้คุณภาพชีวิตในครอบครัวดีขึ้น
Cr: สำนักคอมพิวเตอร์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
...................
...................
...................
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
มันเอามาตั้งเป็นข้อสรุปไม่ได้ครับว่าดีหรือไม่
คนไม่มีกิน = ทุนใหญ่ ขายได้ ดี (บะหมี่ซองฯลฯ)
คนชั้นกลาง =ไม่สะเทือน ไม่ใช่เรื่องกู เรื่อง มึง
คนมีฐานะ = ไม่มองดูดิน โกย เก็บ โกง อย่างเดียว
แล้วเดินตลาดนัด ลองฟังรากหญ้า เค้า พูด ก็จะได้คำตอบเองว่า
ดี หรือ ไม่ดี ?
2 ปีที่แล้ว รายรับ แสนกว่า up
ณ วันนี้ ติด - ครับ
สำหรับอาชีพ เฉพาะทาง
แต่ชีวิตผมไม่เคย อด รายรับ เข้ามาตลอดแต่ไม่ไหลริน เหมือนสมัยก่อน
ฝีมือ ความรู้ ความสามารถ ความซื่อสัตย์ ครับ ทำให้เราไม่ อด
น้ำแข็ง ไม่มี งาน เงียบลง แต่มีงาน ควบคุมการก่อสร้าง ตรวจสอบ เข้ามา
เดือนๆก็ รับ กับ รับ พอค่า อาหาร และ สถานะภาพ
