แอมป์ตัวนี้ผม ตามดูมันตั้งแต่มันเริ่มลืมตาขึ้นมาดูโลก เห็นหน่วยก้านอย่างนี้ แต่ร้ายกาจมากเป็น เพาเวอร์แอมป์ของ TAFN ซึ่งเป็นจ้าวแรกของไทยที่ทำในแบบ คลาสนี้ครับ+
ได้ข่าวว่าแรงมากๆ ขนาดก็บางแค่1Uเอง แถมเบาอีกต่างหาก 6-7กิโลเองมั้งครับ
ราคาก็ ส่วนตัวผมคิดว่าไม่แพงนะครับ น่าจะเปิดตัวที่ ประมาณราคา "ฮอนด้าเวฟ100" เท่านั้นเอง
แต่ถ้าดูของและฟังคุณภาพแล้ว คงคุ้มค่านะครับ เพราะใช้เทคโนโลยีสูง แอบได้ยินมาว่า เป็นเทคโนโลยี แบบเดียวกันกับ คราวน์ I TECH ครับ
สุดยอดจริงๆ
เรื่องความทนทานไม่ต้องห่วงครับ เห็นบอบบางอย่างงี้ก็ อึดเหมือนกันนะ
เพราะเขาได้ออกแบบวงจรป้องกันการทำงานของตัว Amp ไว้ถึง 3 ขั้นตอนดังนี้
1. Over load protection เมื่อมีการใช้งาน Power Amp เกินกำลังระบบ AGC (Auto gain control) จะทำงานโดยภาค Supply จะลดการจ่ายกระแสไฟไปยังภาคขยายลง โดยไฟ LED ที่หน้าเครื่องจะกระพริบโชว์ แต่หากท่านยังทรมานเครื่องต่อไป ภาค Supply จะทำการตัดกระแสไฟ เพื่อป้องกันภาคขยายไม่ให้เกิดความเสียหาย
2.Short load protection เป็นระบบป้องกันสายลำโพงช๊อต โดยเมื่อมีการช๊อตที่โหลด(สายลำโพง) ข้างใดข้างหนึ่ง ภาค Supply จะลดการจ่ายกระแสไฟที่ไปยังภาคขยายข้างนั้น โดยที่อีกข้างยังทำงานเป็นปรกติ (ไฟ LED หน้าเครื่องจะกระพริบเตือนให้ทราบ) แต่หากท่านยังไม่สนใจหรือไม่ทันสังเกตุ ความร้อนที่ภาคขยายข้างนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ ......... (ต่อข้อ 3)
3.High temperature protection เมื่ออุณหภูมิความร้อนขึ้นสูงถึงจุดสูงสุดที่วงจรตรวจจับความร้อนตั้งไว้ ประมาณ 70 องศา C (ติดตั้งไว้ 4 จุด ภาคขยาย 2 จุด ภาค Supply 2 จุด) เครื่องจะตัดการทำงานลง จนกว่าระดับความร้อนจะลดลงเป็นปรกติ เครื่องก้อจะทำงานต่อได้เหมือนเดิมทุกประการ
นอกจากระบบป้องกันตัวเครื่อง ทั้ง 3 ขั้นตอนข้างต้น ทางเรายังได้ติดตั้งระบบ Soft start ให้กับ Amp ตัวนี้ด้วย เพื่อป้องกันลำโพงอันเป็นที่รักของทุกท่านไม่ให้เกิดความเสียหายจากความพลั้งเผลอเป็นของแถม
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นระบบป้องกันที่มีเฉพาะใน Amp ตัวแพง ๆ ของนอก (ราคาเรือนแสน) เท่านั้น
เป็นไงหละครับ ของไทยนะเนี่ย ใจดีจัดให้เน้นๆ ตรงกับความต้องการของพี่ไทยเลยหละ อิอิ
"ตัวเล็กๆอย่างงี้กินไฟจุมั้ย"
ในรุ่น D-Tech 2400 ภาค Switching Power Supply จะบริโภคกระแสอยู่ไม่เกิน 8 A.(Peak) และแทบจะไม่กินกระแสเลยถ้าไม่มีสัญญาณป้อนเข้าภาคขยาย ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นของ Amp ในระบบ Class D ที่กินกระแสน้อยเพราะไม่ต้องสูญเสียกำลังไปกับความร้อนของภาคขยาย (ป้อนกระแสตามระดับสัญญาณ Input) จะเห็นได้จากพัดลมในตัวเครื่อง และฮีทซิงก์ มีขนาดเล็กกระจ้อยร่อยนิดเดียว ดังนั้นท่านสามารถใช้งานได้กับเต้ารับไฟ AC ในบ้านของท่านได้โดยไม่มีปัญหาครับ
โอ้ววว......ใส่เต็มแร็ก ยังไม่ง้อ ตัวช่วย มาสำรองกระแสเลย ใช้ได้ๆ
"มาดูความแรงกันหน่อย"
D-Tech 2400 กำลังวัตต์ (วัตต์จริงก่อนสัญญาณถูกคลิป) 900W ที่ โหลด 4 โอมห์ ต่อข้าง เทียบกับ Crown ในรุ่น Macro-Tech 2402 800W ที่ 4 โอมห์ ก้อยังแรงกว่า Crown อยู่ 100W แต่ถ้าเอากำลังวัตต์แบบ Peak ยังไปได้อีก 30% ครับ กับแอมป์ตัวที่ลองกันในกระทู้นี้ เค้าเคลมกำลังอยู่ 800W ที่ 8 โอมห์ (คิดดูว่าที่ 4 โอมห์จะแรงขนาดไหน)
อ๊าว CROWN MT-2400 800Wที่4ohm ราคา แปดหมื่นกว่าบาทเลยนะท่าน ผมดูใบราคามาตะกี้
D-Tech 2400 กำลังวัตต์ (วัตต์จริงก่อนสัญญาณถูกคลิป) 900W ที่ โหลด 4 โอมห์
"ต่อข้าง" นะครับ ขอย้ำ
ดูจากอุปกรณ์แล้วทางผู้ผลิตจะเน้นเรื่องคุณภาพมากครับ Conector ต่างๆที่เห็นเป็นของ NEUTRIK ทั้งหมดครับ การออกแบบภายในดูมืออาชีพดีครับ เนียบทุกอย่างยังกะเครื่องของนอกเลยครับ นี่แค่เครื่องต้นแบบนะครับ ถ้าตัวจริง เฮียสมโภชน์ บอกว่างานเรียบร้อยกว่านี้เยอะ
ส่งขึ้น ไดโนเทสเพื่อวัดแรงม้า เอ้ยย ส่งให้ LEO SOUND ได้ทดสอบ Amp TAFN D-Tech2400 เรียบร้อยแล้วนะครับ (ทางลีโอซาวน์ขอลองทดสอบดู)
ทดสอบกับตู้ JBL SYX Series ขับ ซับ 15" 2 ตู้ 1 ข้าง อีก 1 ข้างขับ 15" 2 ทาง 2 ตู้
หลังจากฟังน้ำเสียงจนเป็นที่พอใจ อยากทดสอบเปรียบเทียบกับ Amp ยอดนิยมอย่าง Crown Macro-Tech 2402
"น้ำเสียง เนื้อเสียง ความแรง สอบผ่านฉลุยครับ ขาดเพียงทดสอบในสนามจริงว่าจะอึด แค่ไหน" เป็นความเห็นของพี่อภิวัฒน์ LEO SOUND ครับผม
ข้อมูลทั้งหมดนี้ เป็นการ แอบฟังจาก เฮีย สมโภช (AJ-AUDIO) ต้นสังกัด เพาเวอร์แอมตัวฉกาจ ตัวนี้ อิอิ
และขอขอบคุณ บ้านเครื่องเสียงและดนตรี MD House นะครับ
ไม่ว่ากันนะครับที่เอาข้อมูลมาบอกเล่า แหะๆ เป็นไงบ้างครับ น่าสนมั้ย
ช่างท่านใดเริ่มปวดหลังปวดเอว ยกแอมป์หนักๆมานา ลองดูตัวนี้เป็นไงครับ
ราคายังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการนะครับ มีความคืบหน้ายังไงจะเล่าให้ฟังใหม่
ส่วนภาพต่างๆ ภายใน และการทดสอบ ชมได้ที่ MD House เลยนะครับ
