อีก..ไม่นาน ? เหนื่อย อีก แล้ว !!!!
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 23, 2024, 09:31:14 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อีก..ไม่นาน ? เหนื่อย อีก แล้ว !!!!  (อ่าน 3158 ครั้ง)
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2017, 04:32:19 pm »

      อำนาจ ที่ !!!! มี แล้วมา กด หัว ประชาชน




กลุ่มค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ลั่นชุมนุมจนกว่าจะเลิกสร้าง ซัดรัฐเมินชาวบ้านเอื้อแต่นายทุน


 


บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2017, 10:26:55 pm »




 
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 08:47:21 am »

มีโรงไฟฟ้าไว้ทำไม?

โดย กมล กมลตระกูล

กลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนอุตสาหกรรม และข้าราชการร่วมมือและแสวงหาผลประโยชน์ระยะสั้น
โดยถูกทุนและบรรษัทข้ามชาติหลอกและครอบงำให้แปรภาคใต้อันอุดมสมบูรณ์
มีชายฝั่งทะเลทั้ง 2 ด้าน เป็นทั้งแหล่งประมง แหล่งท่องเที่ยว เป็นครัวของโลก
ให้เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมหนักเพื่อการส่งออก ซึ่งประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์น้อยมากเช่น
อุตสาหกรรมเปโตรเคมี การแปรรูปแร่ธาตุโลหะหนัก ฯลฯ อุตสาหกรรมสกปรก
เหล่านี้สร้างมลภาวะ และมลพิษทั้งในทะเล บนบก และในอากาศ

ซึ่งบรรษัทเหล่านี้ไม่ต้องการให้เกิดในประเทศของตน

บรรษัทเหล่านี้ต้องการใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากมารองรับ
ภาคประชาชนหาได้มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้ามากมายเลย
ที่อ้างว่าไฟฟ้าจะขาดแคลนหรือไม่พอใช้นั้นหมายถึงภาคอุตสาหกรรมของบรรษัทข้ามชาติไม่พอใช้ต่างหาก

เมื่อเกิดโรงไฟฟ้า สิ่งที่จะตามมา คือ นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือน้ำลึก
ภาคใต้บ้านเฮา ซึ่งเป็นแหล่งอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
จะถูกแปรเป็นดินแดนแห่งมลพิษที่ทำลายสุขภาพของประชาชน
ที่รับสารพิษจากในแม่น้ำลำคลอง ทะเลและในอากาศ จะเจ็บป่วยเป็นมะเร็ง
เป็นโรคเอ๋อกันทั้งประเทศไปชั่วลูกชั่วหลานอย่างไม่มีวันฟื้นกลับคืนมาได้อีก
ส่วนกลุ่มทุนพลังงานและข้าราชการที่ได้รับประโยชน์
ก็จะไปรุกที่ป่าสงวน หรืออุทยานแห่งชาติสร้างคฤหาสน์
แล้ว ปลูกหรือหาอาอาหารปลอดสารพิษกินกันในครอบครัว

การดึงดันดื้อรั้นของกลุ่มผลประโยชน์พลังงานโดยความร่วมมือของภาครัฐ
ในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ฝืนความต้องการของประชาชน
ซึ่งไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะการขนส่งขนย้ายจะทำให้เศษถ่านหินลงไปปนเปื้อน
แหล่งทรัพยากรทางอาหารทั้งในทะเลและบนบก
และเมื่อเปิดดำเนินการก็จะปล่อยฝุ่นละอองพิษออกมาทำลายสุขภาพประชาชน
ทำลายอาชีพและวิถีชีวิตของชุมชนและการท่องเที่ยว
ซึ่งนำรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาลทุกปี
จังหวัดกระบี่ควรอนุรักษ์เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
และถาวร รวมทั้งการเป็นครัวของคนในชาติ



มีโรงไฟฟ้าไว้ทำไม?
กมล กมลตระกูล

คนภาคใต้เข้าใจดีว่า
หากเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นในจังหวัดกระบี่
หรือ ที่ อื่นๆในภาคใต้หายนะของชุมชน และประชาชนจะตามมา
เมื่อเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินสิ่งที่จะตามมา คือ
นิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือน้ำลึกซึ่งจะทำลายอาชีพดั้งเดิม
ของประชากรส่วนใหญ่ คือการประมง และการเกษตร และการท่องเที่ยว
ซึ่งทำให้คนใต้ร่ำรวยกว่าคนภาคอื่นๆ


กลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนอุตสาหกรรม และข้าราชการร่วมมือ
และแสวงหาผลประโยชน์ระยะสั้น
โดยถูกทุนและบรรษัทข้ามชาติหลอกและครอบงำ
ให้แปรภาคใต้อันอุดมสมบูรณ์ มีชายฝั่งทะเลทั้ง 2 ด้าน เป็นทั้งแหล่งประมง แหล่งท่องเที่ยว เป็นครัวของโลก
ให้เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมหนักเพื่อการส่งออก
ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์น้อยมากเช่น
อุตสาหกรรมเปโตรเคมี การแปรรูปแร่ธาตุโลหะหนัก ฯลฯ
อุตสาหกรรมสกปรก เหล่านี้สร้างมลภาวะ และมลพิษทั้งในทะเล บนบก และในอากาศ
ซึ่งบรรษัทเหล่านี้ไม่ต้องการให้เกิดในประเทศของตน
บรรษัทเหล่านี้ต้องการใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากมารองรับ
ภาคประชาชนหาได้มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้ามากมายเลย
ที่อ้างว่าไฟฟ้าจะขาดแคลนหรือไม่พอใช้นั้น
หมายถึงภาคอุตสาหกรรมของบรรษัทข้ามชาติไม่พอใช้ต่างหาก

ภาคใต้บ้านเฮา ซึ่งเป็นแหล่งอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
จะถูกแปรเป็นดินแดนแห่งมลพิษที่ทำลายสุขภาพ
ของประชาชนที่รับสารพิษจากในแม่น้ำลำคลอง ทะเลและในอากาศ
จะเจ็บป่วยเป็นมะเร็ง เป็นโรคเอ๋อกันทั้งประเทศไปชั่วลูกชั่วหลาน
อย่างไม่มีวันฟื้นกลับคืนมาได้อีก
ส่วนกลุ่มทุนพลังงานและข้าราชการที่ได้รับประโยชน์ก็จะไปรุกที่ป่าสงวน
หรืออุทยานแห่งชาติสร้างคฤหาสน์ แล้ว ปลูกหรือหาอาอาหารปลอดสารพิษกินกันในครอบครัว

แนวคิดในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
และทุกคนในสังคมได้ประโยชน์และไม่ถูกทอดทิ้ง คือ

ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง. Sustainable Development Economics ของในหลวง

แต่มักนำมาใช้และพูดกันในระดับ Microeconomics แล้วปล่อยให้พวกกลุ่มทุนผูกขาด
และทุนข้ามชาติทำอะไรได้ตามใจ เช่น การผูกขาด
ด้านกลไกการตลาด(Distribution Channels)
การผูกขาดด้าน Supply chains -ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อาหารสัตว์
การผูกขาดด้านพลังงาน การผูกขาดด้านการผลิตสุรา และเบียร์. ฯลฯ
ซึ่งผูกขาดทั้งแนวราบ และแนวดิ่ง

กรณีการดึงดันสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่
และคิดแม้กระทั่งจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
เพื่อป้อนนิคมอุตสาหกรรมเป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนา
ที่สวนทางกับพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร. 9

การส่งเสริมการลงทุนต้องอยู่ภายใต้กรอบของทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง
ที่ไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชน และก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

รัฐบาลและข้าราชการมักนำทฤษฎีของในหลวงมาอ้างก็ทำให้ผู้นั้นดูดีในสังคม
แต่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย ปัญหาการพัฒนาจึงเรื้อรัง สั่งสม หมักหมมไว้ทุกด้าน
เช่นเขาหัวโล้น การุกป่า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของน้ำหลากท่วม
มิใช่พายุฝนซึ่งมาทุกปีเป็นศตวรรษแล้ว ความยากจนของเกษตรกร ความเหลื่อมล้ำ ฯลฯ

ทางออกคือต้องน้อมนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาใช้
ในระดับมหภาค ( Macroeconomics) แบบประเทศภูฏาน
จึงจะแก้ปัญหาของประเทศได้ คือ
ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ต้องมีพฤติกรรมและนโยบายพอเพียงด้วย
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 08:56:10 am »

News เปิดข้อมูลโรงไฟฟ้าภาคใต้และความต้องการใช้ไฟ



http://www.youtube.com/v/cgQTSq8MBXQ?version=3&hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash

Cr:NOW26
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 09:21:32 am »

แก้ปัญหานี้ไม่น่ายากนะครับ ..   Grin



..โรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ ควรสร้าง หรือไม่สร้าง..
..หากสร้างจริง รัฐบาลควรออกกฏหมายให้ผู้สนับสนุนยกมือสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน(ระดับหัวหน้า).. ต้องอพยพครอบครัว มาอยู่ใกล้โรงไฟฟ้า อย่างน้อยคนละ 3 ปี ..เพื่อพิสูจน์ว่าปลอดภัยจริงๆ ..หากทำได้ ..ประชาชนหนุนแน่ๆครับ   Cool


บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 09:32:04 am »

โรงไฟฟ้าถ่านหิน

http://www.youtube.com/v/uoLsw4gVjZ0?version=3&hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash

Cr:สำนักข่าว ไวท์
บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12125

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 10:22:11 am »

เรื่องมันง่ายมากเลย

เรื่องเกิดที่พี่ชา.... ไปลงทุนเจาะทำแร่ถ่านหิน

แล้วขายไม่ได้(โลกเปลี่ยน ไม่มีใครใช้แล้ว)

เลยมาหาพีเล็ก โดยบอกพี่เล็กว่า ทำโรงไฟฟ้าถ่านหินสิพี่เล็ก

แล้วมาเอาถ่านหินจากผม ผมขายให้ราคาพิเศษและข้อเสนออื่นๆมากมาย เช่นเดียวพาพี่เล็กไปอาบน้ำ ไปเที่ยว โน้นนี้นั้น

พี่เล็กเลยตกลง ทั้งๆพี่เล็กไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย ว่าถ่า่นหินนี้เขาเลิกใช้กันแล้ว

แต่พี่ชาไปบอกพี่เล็กว่าดี อย่างโน้นอย่างนี้

พี่เล็กก็เชื่อ  และตกลง
บันทึกการเข้า

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 12:21:39 pm »

กรรม. เลยมาลงที่ประชาชน

คนสั่งถ่านหิน. นำเข้า รับ. กับ. รับ
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 04:45:25 pm »

แกน นำ โดน รวบ สะแล้ว


การชุมนุมคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน : การตัดสินใจที่น่าผิดหวังของรัฐบาล

ข้อพิพาทระหว่างรัฐกับชาวบ้านกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่
ถือเป็นข้อพิพาทที่ต่อสู่กันด้วยข้อมูลและความรู้มาตลอด
ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมไทยต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง

แต่รัฐบาลใช้ความได้เปรียบในฐานะผู้ถืออำนาจหักดิบ อนุมัติโครงการ
ทั้งที่ยังมีข้อคลางแคลงใจของผู้คนและบทเรียนจากหลายประเทศ
เช่น ถ่านหินสะอาดมีจริงมั้ย ถ้ามีจริงทำไมหลายประเทศยกเลิก
ทำไมต้องสร้างที่กระบี่
เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วหรือ ฯล

ยังเป็นข้อถกเถียงที่ต้องการคำตอบ คำยืนยันที่ชัดเจนกว่านี้
แต่น่าเสียดายรัฐบาลชิงหักดิบ ปิดเกมส์
จนเสียโอกาสที่สังคมจะได้คำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด

รวมทั้งข้อผิดพลาดซ้ำสองจากการตัดสินใจสลายการชุมนุม
โดยอ้างอำนาจ ตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ
ที่เป็นกฎหมายเจ้าปัญหา กฎหมายห้ามการชุมนุ่มนั่นเอง

แต่ในเมื่อจะใช้กฎหมายนี้ทั้งที
ตามที่โฆษกรัฐบาลแถลงว่าจับกุมตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะ พศ.2558
ก็ดันทำผิดขั้นตอนเสียอีก
เพราะขั้นตอนตัดสินคือศาล ต้องไต่สวนข้อเท็จจริงจากผู้ชุมนุม กับฝั่งเจ้าหน้าที่
ว่าการชุมนุมครั้งนี้ผิดกฏหมายหรือไม่
ชึ่งดูเหมือนเจ้าหน้าที่ก็ได้ร้องขอไปที่ศาลแล้ว
และศาลก็นัดไต่สวนในวันที่ 20 กพ.นี้
แต่ไฉน ไม่รอศาล
ไม่เข้าสู่กระบวนการไต่สวนตามนัดหมายของศาล

และผู้ชุมนุมก็ชุมนุมโดยสงบ ยังไม่มีจุดไหน
ที่ผมเห็นว่าเป็นการละเมิดขั้นตอนกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ต่างหากที่เป็นคนละเมิดเสียเอง

การจับกุมตัวแกนนำและชาวบ้าน
จึงมิชอบด้วย พรบ.การชุมนุมสาธารณะ.

สุริยะใส กตะศิลา

บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2017, 10:38:49 pm »

สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ "ฆ่าช้าง เอางา"

งานวิจัยมหาลัยเลได้ชี้ให้เห็นว่า บริเวณคลองปกาสัยมีวังต่างๆ และมีป่าชายเลนรอบๆ
ที่เป็นแหล่งอาศัย หากิน และวางไข่ของปลาบริเวณชายฝั่งทะเลที่อพยพเข้ามาในบริเวณนี้
เช่น ปลาดุกทะเล ปลากะพงขาว ปลากะพงแดง  ฯลฯ  ก่อนจะกลับไปเติบโตในท้องทะเล

หนึ่งในเหตุผลการตัดสินใจเดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ของรัฐบาล
คือข้ออ้างว่าเทคโนโลยีสะอาด และมีการศึกษาทางวิชาการอย่างรอบด้านแล้ว

คำกล่าวนี้จะจริงหรือไม่จริง สามาถพิสูจน์ได้จากข้อมูลเชิงวิชาการ
ไม่ใช่การกล่าวอ้างลอยๆ โดยไม่มีหลักฐาน

ต่อไปนี้คือผลการวิจัยที่ผมร่วมกับชาวบ้านชายฝั่งทะเลอันดามันได้ทำวิจัยเรื่อง “อันดามัน :
ความรู้ท้องถิ่นด้านสิ่งแวดล้อมเชิงวัฒนธรรม การเมืองเรื่องความรู้
และความเป็นธรรมทางสังคมด้านสุขภาวะ”  หรือที่เรียกว่า “งานวิจัยมหาลัยเล” ในหัวข้อการเมืองเรื่องความรู้
งานวิจัยนี้ได้อาศัยข้อมูลที่ระบุไว้ใน รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)
ของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลทางวิชาการที่สำคัญที่สุดของราชการในกรณี
ของผลกระทบจากโครงการ และการเก็บข้อมูลสนามโดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมพบว่า
เทคโนโลยีที่ว่าสะอาดนั้น เป็นกล่าวอ้างมุมเดียวคือมุมของผลกระทบด้านมลพิษทางอากาศ
ขณะที่ประเด็นที่ภาครัฐไม่ได้กล่าวถึงเลยในการพูดถึง
โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่คือผลกระทบจากกระบวนการหล่อเย็น

งานวิจัยมหาลัยเลพบว่า ป่าชายเลนบริเวณคลองปกาสัย-เกาะหม้อ
ที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และจะได้รับผลกระทบจากกระบวนการหล่อเย็นของโรงไฟฟ้า
คือพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ชุ่มน้ำปากแม่น้ำกระบี่
ที่มีความสำคัญระหว่างปะเทศหรือ Ramsar Site บริเวณนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง
โดยสำรวจพบปลา 104 ชนิด หอย  18  ชนิด กุ้ง 10 ชนิด ปู 7 ชนิด  หมึก 4 ชนิด
ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นสัตว์น้ำที่ชาวบ้านจับมาเป็นอาหารและขายเป็นรายได้ทางเศรษฐกิจ

ที่สำคัญ ในช่วงฤดูแล้งที่เกิดน้ำทะเลหนุนเข้ามาและน้ำมีความเค็มกว่าปกติ
บริเวณนี้จะเป็นแหล่งอาศัยของโลมาที่อพยพเข้ามาตามปากช่องเภาและช่องแหลมหิน
เข้ามาหากินถึงเกาะหม้อและหาดหน้าเกาะหม้อใกล้กับปากคลองปกาสัยที่รับน้ำหล่อเย็นจากโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

ขณะที่รายงาน EHIA (หน้า3-105 ถึง 3-129) ก็ได้ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพื้นที่ของระบบนิเวศน์
บริเวณนี้ที่มีป่าไม้ชายเลนหนาแน่นตลอดแนวลำคลอง และมีกลุ่มชาวประมงประกอบอาชีพจับสัตว์น้ำอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
โดยเฉพาะบริเวณสะพานช้างไปจนถึงปากคลองปกาสัย บริเวณบ้านแหลมกรวด 
รายงาน EHIA ยังกล่าวว่า คลองปกาสัยมีบทบาททั้งด้านแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนที่เปราะบาง
หรือเป็นรอยต่อของระบบนิเวศน์ที่เชื่อมต่อระหว่างระบบนิเวศน์บนบกหรือเขตป่าเขากับระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเล
ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ด้านการถ่ายทอดพลังงานต่อวงจรชีวิตสัตว์น้ำ
และสัมพันธ์เชื่อมโยงต่อเนื่องกับการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านเป็นสำคัญ

นั่นหมายความว่า รายงาน EHIA ก็ยอมรับว่าบริเวณนี้มีคุณค่า
ทั้งในเชิงนิเวศวิทยาและเศรษฐกิจของชุมชนเป็นอย่างสูง

ในส่วนของผลกระทบจากระบบหล่อเย็น รายงาน EHIA หน้า5-203 ถึง 5-204 ระบุว่า
โรงไฟฟ้าได้ออกแบบให้ชักน้ำจากคลองปกาสัยไปใช้ในกระบวนการหล่อเย็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
ก่อนที่จะระบายน้ำที่ผ่านการหล่อเย็นลงสู่คลองปกาสัยอีกครั้ง
โดยมีน้ำระบายออกมา 66,960 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
และจะมีการควบคุมอุณหภูมิน้ำที่จุดปล่อยน้ำทิ้งให้อุณหภูมิน้ำที่ปล่อยแตกต่าง
กับอุณหภูมิน้ำตามสภาพธรรมชาติไม่เกิน    3  องศาเซลเซียส โดยน้ำที่ปล่อยจะมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ

ขณะที่รายงาน EHIA หน้า 5-226 ระบุว่า การสูบน้ำจากคลองปกาสัยไปใช้ในระบบหล่อเย็น 
และการระบายน้ำจากระบบหล่อเย็นลงสู่คลองปกาสัยอาจส่งผลกระทบ
ต่อการลดลงของปริมาณสัตว์น้ำวัยอ่อน  แพลงค์ตอนพืชและแพลงค์ตอนสัตว์
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ของชาวประมง 

อย่างไรก็ตาม รายงาน EHIA ทั้งสองหัวข้อมีแนวโ้นมเป็นอย่างสูงว่า
การประเมินผลกระทบต่ำกว่าความเป็นจริง โดยนอกระบุว่าผลกระทบต่อแพลงค์ตอน
อยู่ในระดับที่ยอมรับได้โดยอ้างการพัดพาของน้ำทะเลที่นำแพลงค์ตอนเข้ามาในคลอง
และน้ำจากต้นคลองปกาสัยและลำคลองสาขาพัดพาสารอาหารหรืออินทรียสาร
และแพลงค์ตอนน้ำจืดมาจากภูเขาหรือต้นน้ำ 
กอปรกับแพลงค์ตอนพืชมีวงจรชีวิตที่สั้น (ประมาณ 3-4 วัน)
สามารถเติบโตทดแทนได้อย่างรวดเร็ว 

ขณะที่ EHIA ได้ ระบุถึงมาตรการป้องกันเพื่อมิให้ปนเปื้อนลงสู่ลำคลอง
ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งอาหาร แหล่งผสมพันธุ์ วางไข่ อนุบาลสัตว์วัยอ่อน
และปริมาณสัตว์น้ำโดยมีการกำหนดมาตรการส่งเสริมการประกอบอาชีพประมง
เช่น การเลี้ยงปลากระชัง การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ
จึงคาดว่าผลกระทบจากโครงการต่อการประมงอยู่ในระดับยอมรับได้

จากข้อมูลดังกล่าว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการประเมินผลกระทบจากโครงการ
ทำเฉพาะผลกระทบต่อแพลงค์ตอนเท่านั้น  ไม่ได้ประเมินผลกระทบ
จากการสูบน้ำในปริมาณถึง 66,960 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ที่มีผลต่อสัตว์น้ำวัยอ่อนที่ถูกสูบเข้าไปในระบบหล่อเย็นด้วย
ขณะที่การระบายน้ำออกที่อุณหภูมิสูงกว่าปกติก็ประเมินเฉพาะผลกระทบ
ต่อแพลงค์ตอนเช่นกัน ไม่ได้ประเมินผลกระทบต่อสัตว์น้ำวัยอ่อนและสัตว์น้ำที่โตแล้ว

สำหรับการประเมินผลกระทบต่อแพลงค์ตอน สามารถกล่าวได้ว่าประเมินผลกระทบต่ำเกินจริงเพราะ EHIA
ระบุว่า แพลงค์ตอนพืชมีวงจรชีวิตที่สั้น (ประมาณ 3-4 วัน) สามารถเติบโตทดแทนได้อย่างรวดเร็ว
แต่ในความเป็นจริงโครงการมีการสูบและปล่อยน้ำหล่อเย็นที่อุณหภูมิสูงกว่าน้ำปกติทุกวัน
ไม่ใช่สูบน้ำและปล่อย 1 วัน เว้น 3-4 วัน ดังนั้นแพลงค์ตอนจึงไม่มีโอกาสเติบโตทดแทนได้

การทำลายแพลงค์ตอนจึงเท่ากับทำลายห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเล
และจะส่งผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเล
ตั้งแต่หอยสองฝาที่กินแพลงค์ตอนเป็นอาหารและมีชุกชุม
บริเวณวังและหาดในคลองปกาสัย ปลา หมึก กุ้ง ไปจนถึงโลมา

 ขณะที่งานวิจัยมหาลัยเลได้ชี้ให้เห็นว่า บริเวณคลองปกาสัยมีวังต่างๆ
และมีป่าชายเลนรอบๆ ที่เป็นแหล่งอาศัย หากิน และวางไข่ของปลาบริเวณชายฝั่งทะเล
ที่อพยพเข้ามาในบริเวณนี้ เช่น ปลาดุกทะเล ปลากะพงขาว ปลากะพงแดง  ฯลฯ 
ก่อนจะกลับไปเติบโตในท้องทะเล

ในมิติเศรษฐกิจและความมั่นคงทางอาหาร บริเวณนี้เป็นแหล่งปูดำและหอยชนิดต่างๆ
ซึ่งสัตว์น้ำเหล่านี้เป็นสัตว์น้ำที่ชาวบ้านที่ทำประมงในบริเวณนี้และชาวบ้านอีกหลายพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกล
ต้องพึ่งพาทั้งการเป็นอาหารและขายเป็นรายได้ทางเศรษฐกิจ ขณะที่การทำลายแหล่งอนุบาลสัตว์
วัยอ่อนที่อพยพมาจากชายฝั่งทะเล จะทำให้ต้องสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
บริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่ และจะส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้าน
ที่ทำประมงบริเวณชายฝั่งในระยะยาว

ผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นลูกโซ่นี้ ไม่สามารถทดแทนด้วยมาตรการส่งเสริม
การประกอบอาชีพประมงเพื่อทดแทนผลกระทบต่อชาวประมง
เช่น การเลี้ยงปลากระชังและการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำได้

ที่ผ่านมา บทเรียนจากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ทำลายแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งคนท้องถิ่นต้องพึ่งพา
และมาตรการส่งเสริมการประกอบอาชีพประมงเพื่อทดแทนผลกระทบต่อชาวประมง
เช่น การเลี้ยงปลากระชังและการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำไม่สามารถทดแทนได้ก็คือ
กรณีของเขื่อนปากมูล  ซึ่งผลกระทบเกิดขึ้นกับแม่น้ำ แต่ กฟผ.ก็ไม่สามารถแก้ไขด้วยมาตรการดังกล่าวได้
และทุกวันนั้น วิถีชีวิตของชาวปากมูลก็ล่มสลาย โดยไม่มีใครเหลียวแล ดังนั้น
ในกรณีของชายพื้นที่ชุ่มน้ำบริเวณชายฝั่งทะเลที่มีระบบนิเวศน์ที่สลับซับซ้อน
และมีคนนต้องพึ่งพาทรัพยากรมากกว่า มาตราการดังกล่าวก็ยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้

ดังนั้น การผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยอ้างว่า เทคโนโลยีสะอาด
และมีการศึกษาทางวิชาการอย่างรอบด้าน จึงเป็นการพูดฝ่ายเดียวและมองมุมเดียว
ซึ่งหากมองหลายๆ มุม โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ก็คือ “ฆ่าช้าง เอางา”
และงาที่ได้นั้นก็เอาไปประดับบ้านของคนรวยซึ่งก็คือพ่อค้าถ่านหิน

ภาพ พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากระบบหล่อเย็นโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ คือ
แหล่งประมงพื้นบ้านและแหล่งวางไข่และอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนของชายฝั่งทะเลอันดามัน

Cr:https://www.isranews.org/thaireform/thaireform-talk-interview/item/54121-krabi181.html
บันทึกการเข้า
eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2017, 09:32:33 am »

เข้าใจไหม? อ้าย ก๊วก

นกอินทรีย์ย่อมบินสูงและทายท้า
แดดร้อนกล้าพายุไม่หวั่นไหว
จะบินเดี่ยวเฉี่ยวโฉบมุ่งมั่นไป
ด้วยหัวใจกล้าแกร่งแห่งอินทรีย์


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!