กองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund)
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้สั่งการให้ สคร.เร่งจัดตั้ง
กองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)
วงเงิน 1 แสนล้านบาทและโครงการร่วมทุนรัฐและเอกชน
หรือพีพีพี จำนวน 5 โครงการ โดยเร็วที่สุด
นักลงทุนได้ผลตอบแทนอะไรจากการลงทุนในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์?
ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์
จะมีลักษณะคล้ายกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทั่วไป กล่าวคือ
นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล (dividend)
ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับรายได้ของการดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานนั้นๆ
ที่กองทุนรวมเป็นเจ้าของ (freehold) หรือ ทำสัญญาเช่า (leasehold)
ตัวอย่างเช่น หากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์
ซื้อโครงการมอเตอร์เวย์สาย 7 ซึ่งเปิดดำเนินการแล้วมาบริหาร
รายได้จากการเก็บค่าผ่านทางจะเป็นรายได้ของกองทุน
และนำมาจ่ายเป็นเงินปันผล ทั้งนี้ ก.ล.ต. กำหนดให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
จะต้องจ่ายเงินปันผลอย่างน้อย 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว
2 อีกกรณีหนึ่งคือ หากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์
นำเงินไปลงทุนใน greenfield project เช่น
โครงการรถไฟความเร็วปานกลาง-สูง หรือโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ซึ่งยังไม่มีรายได้จากการดำเนินงาน
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
กล่าวว่ารัฐบาลอาจต้องจัดหาเงินงบประมาณเพิ่มเติม
เพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนจนกว่าโครงการนั้นจะก่อสร้างเสร็จ
คลังเล็งกำหนดผลตอบแทนผู้ลงทุนกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ 7-8%
เปิดโอกาสรายย่อยก่อน เพื่อเป็นทางเลือกในภาวะดอกเบี้ยต่ำ
เปิดขายพ.ค.-มิ.ย.นี้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เปิดเผยหลังร่วมสัมมนาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจวันนี้ (8ก.พ.) ว่า
กระทรวงการคลังเตรียมกำหนดอัตราผลตอบแทน
ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
(ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ : TFF) 7-8% โดยมีกำหนดเสนอขาย
หน่วยลงทุนให้แก่ผู้สนใจราวเดือนพ.ค.-มิ.ย.นี้กองทุนดังกล่าวจะเสนอขายครั้งแรกในวงเงิน 4-5 หมื่นล้านบาท
จากขนาดกองทุน 1 แสนล้านบาท
โดยตั้งเป้าเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นลำดับแรก
เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนผู้ฝากเงิน
ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ เชื่อว่า จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งนี้ หน่วยลงทุนดังกล่าวจะมีโครงการลงทุนของการพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
มาเป็นหลักทรัพย์ โดยเลือก 2 โครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ
มาเป็นโครงการที่จะเปิดขายให้นักลงทุน
โครงการไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เป็นแหล่งเงินสำหรับรัฐวิสาหกิจในการลงทุน
โดยใช้เงินจากภาครัฐ ซึ่งหลังจากนำโครงการของกทพ.มาเสนอขายแล้ว
มองว่า จะมีโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ(กฟผ.)
และการประปาส่วนภูมิภาค เข้ามาขายในหน่วยลงทุนในระยะต่อไปด้วย
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า
คณะกรรมการกทพ. จะประชุมเพื่อคัดเลือก 2 ใน 3 โครงการ
ที่จะเข้ามาขายในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟัน ประกอบด้วย
1.ทางพิเศษเส้นเอกมัย-รามอินทรา-อาจณรงค์
2.เส้นบูรพาวิถีมุ่งหน้าพัทยา
3. ทางพิเศษดาวคะนอง มุ่งไปภาคใต้
โดยเงินจากากรขายหน่วยงานลงทุนจะนำไปสร้าง
เส้นทางใหม่คือพระราม 3 ดาวคะนองวงแหวนรอบนอก
และสคร.อยากให้มีการก่อสร้างในเส้นทาง N 2 (เกษตรนวมินทร์) ด้วย กองทุนนี้จะแบ่งรายได้ของ 2 โครงการ 40-60% มาขายให้กับนักลงทุน
ยกตัวอย่างโครงการมีรายได้ 100 ล้านบาท นำมาเพียง 40 ล้านบาท มาขายต่อนักลงทุน
เมื่อขายได้ ก็ส่งให้กทพ.นำเงินไปลงทุนโครงการใหม่
เท่าที่สคร.และที่ปรึกษาทางการเงินดูเรื่องผลตอบแทน
พบว่าการดำเนินโครงการให้ผลตอบแทนที่ดีมาก
ดูจากการจราจรในเส้นทางดังกล่าวมีรถมาใช้บริการคับคั่ง
เมื่อมาเทียบกับรถไฟฟ้าบีทีเอส พบว่าให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันมาก
บีทีเอส ให้ผลตอบแทน 6-8%
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินกำลังพิจารณาในเรื่องรายละเอียด
ในการเสนอขายหน่วยลงทุน เรื่องการกำหนดผลตอบแทนที่ชัดเจน
และเรื่องระยะเวลาของกองทุนกำหนดเบื้อนต้น 20-30 ปี
รวมถึง สัดส่วนในการเสนอขายว่าจะกำหนดระหว่างรายย่อย
สถาบันว่าจะมีสัดส่วนเท่าใด คาดสามารถยื่นไฟลิ่งต่อสำนักการ
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ในช่วงเดือนมี.ค.นี้
Cr:
www.bangkokbiznews. com