ดวงเมือง
มฤตยูจร(0)สถิตราศีเมษ/พฤหัสบดีจร(5)สถิตราศีกันย์
แม่หมอสมัครเล่นฉบับนี้ผู้เขียนขอพักเรื่องวิธีดูคนเบื้องตนจากวันเกิดไว้ก่อน
เพราะกระแสการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักรไทยวันที่ 7สิงหาคม2559
กำลังใกล้เข้ามาและการเมืองก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ
อีกทั้งกำลังใกล้ช่วงเวลาสำคัญที่รอคอยมานานที่เหตุการณ์ทั้งดีและร้าย
รวมทั้งการเปลี่ยนแปลง-กวดล้างสิ่งเก่าสถาปนาสิ่งใหม่ที่จะกำหนดอนาคตและความเป็นไปในดวงเมือง
ก่อนเข้าสู่ยุคใหม่ของดวงเมืองยุคที่ 13 ของกรุงรัตนโกสินทร์
ที่จะเริ่มต้นตั้งแต่ 2มีนาคม2562 เป็นต้นไปแล้วยุคนี้จะกินเวลานานไปอีกยี่สิบปี
โดยช่วงเวลาที่สำคัญที่จะกำหนดอนาคตของชาติที่ว่านี้
คือระหว่าง 7 สิงหาคม 2559-6กันยายน2560
สามารถอธิบายโดยหลักทางโหรคือ
1.ย้อนกลับไปไม่นานมานี้ทางโหรดวงเมืองออกอาการ-ส่งสัญญาณว่า
จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่
มาตั้งแต่ประมาณ17มิถุนายน2557แล้ว
(เป็นวันที่พฤหัสบดีหยุดตรึงกับพระเสาร์ในดวงเมือง)
ต่อมาหลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 โดยพลเอกประยุทธ จันทร์โอชานั้น
รัฎฐาธิปัตย์พยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างตั้งแต่วันนั้น
2.เกณฑ์เปลี่ยนแปลงใหญ่จริงๆในเมืองเริ่มขยับมาตั้งแต่การเดินเข้า
ราศีเมษทับลัคนาและพระอาทิตย์(๑)ดวงเดิมดวงเมืองรอบแรกระหว่าง13กรกฎาคม2558-8กันยายน2558
( มฤตยูเดินเข้าราศีเมษรอบแรก)ที่อะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นมากมายเพียงแต่เราจะสังเกตุหรือไม่เท่านั้น
เช่นการเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ การเกิดของภาษีมรดก
ระเบิดพระพรหมเอราวัณ ศาลจำคุกกลุ่มคนที่ปล่อยเงินกู้
ของธนาคารกรุงไทยถึง 22 คนฯลฯ
แต่การมารอบนี้ของมฤตยูยังไม่ใช่ของจริงเพราะเดินอยู่ในราศีเมษในระยะสั้นๆ
3.ครั้นตั้งแต่6มีนาคม 2559เป็นต้นมา มฤตยูจรเดินอยู่ในราศีเมษทับลัคนาและพระอาทิตย์(๑)
ดวงเมืองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งจะยังความเปลี่ยนแปลงชนิดอย่างน้อยปฏิรูป
ถ้าจะให้ถูกโฉลกต้องปฏิวัติขึ้นไป ในเมือง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
และกลุ่มบุคคลสำคัญๆคนมียศฐานาบรรดาศักดิ์
หรือตำแหน่งต่างๆอย่างถึงแก่น โดยเกณฑ์นี้จะเป็นไปถึงกรกฎาคม2565
ขอให้สังเกิดอาการลงมือของมฤตยูนั้นจะต้องมีการสั่งสมพลังของการเปลี่ยนแปลงก่อน
จนเมื่อได้ที่แล้วก็จะระเบิดกวาดล้างสิ่งเก่า สถาปนาสิ่งใหม่ขึ้นแบบแปลกประหลาดคาดไม่ถึง
ล้อคถล่มอย่างเหลือเชื่อ อย่างที่เกิดกับประเทศอังกฤษเรื่องเบร๊กซิส
ที่ทั้งโลกยังงงกับผลอยู่ทุกวันนี้(มฤตยูจรเข้าราศีเมษ-ทับลัคนาดวงโลกด้วย)
ผู้เขียนจึงค่อนข้างเชื่อว่าผลที่มฤตยูทับลัคนาดวงเมืองไทยและพระอาทิตย์ดวงเดิม(๑)
อันหมายถึงการเมืองด้วยนี้ ผลของประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่จะทำกันวันที่ 7 สิงหาคม 2559
ระหว่าง08.00-16.00น.คงจะออกมาแบบไม่ธรรมดา
สร้างความแปลกใจ และล้อคถล่มชนิดที่ไม่กล้าทำนายผลล่วงหน้าเลยล่ะ
3.สิ่งสำคัญที่ผู้เขียนอยากส่งสัญญาณถึงคนไทยทั้งประเทศคือ
ขณะที่กรอบใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมืองระดับปฏิวัติจึงจะถูกโฉลก
กำลังถูกกำกับโดยมฤตยูนั้น วันที่ 7 สิงหาคม 2557หลังปิดหีบลงประชามติไม่นาน
พระพฤหัสบดีจร(5)หัวหน้าเทวดาประจำเมืองจะยกจากราศีสิงห์ที่เคยผงาดคุ้มครองลัคนาเมืองมาเป็นปี
จะเดินเข้าสู่ราศีกันย์ภพอริ-ปัญหาอุปสรรคของบ้านเมืองแล้ว
จะอยู่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่ไปจนถึง6 กันยายน2560
ขณะที่มฤตยูกำลังบีบให้เมืองเปลี่ยนแปลงเช่นนี้แล้ว
หัวหน้าเทวดาประจำเมืองเข้ามุมอับ ผู้เขียนเกรงว่าเรื่องใหญ่ทั้งดี-ร้าย ได้-เสีย พลิกผัน ล้อคถล่ม คาดไม่ถึง
ที่ทั้งสะสมพลังมานาน หรือกำลังเริ่มสั่งสมจะทยอยระเบิดหรือเกิดขึ้นเป็นระยะๆ
พูดง่ายๆคือแม้อิทธิพลของมฤมตยูจะยังอยู่เพื่อเปลี่ยนเมืองอีกนาน
แต่เหตุการณ์ที่จะเกิดระหว่าง 7สิงหาคม2559-6กันยายน 2560 จะเป็นช่วงสำคัญที่จะตัดสินอนาคตของประเทศ
หลังจากนั้นพระสยามเทวาธิการจะเข้มแข็งขึ้น
ฉะนั้นที่ผ้รับผิดชอบทั้งหลายต้องช่วยกันคัดท้ายประเทศ
ให้ถึงปลายปี 2560 เราจะได้เริ่มเห็นสิ่งดีๆเริ่มโผล่พ้นของฟ้า
ส่วนคำทำนายเพิ่มเติมด้านการเมืองนั้นยังย้ำคำเดิมคือต้องมีรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง
ที่น่าสนใจคือดวงผู้นำกลับฟื้น คือตั้งแต่ 5สิงหาคม 2559 ภาพรวมดวงชะตาพลเอกประยุทธ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี
หัวหน้าคสช.ที่ตกมาหนึ่งปีอึดอัดใจเรื่องญาติพี่น้องจนต้องหยุดสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นดวงชะตาจะฟื้นแล้ว
ประมาณมีนาคม2560 ท่านอาจจะเปลี่ยนแปลงทบทวนแก้ไขอะไรมากมาย
แบบไม่คาดฝันแต่คงไม่ใช่ช่วงที่จะพูดว่าผมพอหรือไปแล้วอย่างที่ผู้เขียนเคยทำนายไว้เพราะดูดาวไม่รอบคอบ
คงประมาณธันวาคม 2560เป็นต้นไปนั่นแหละวาสนาท่านเหมาะอยู่เบื้องหลังอย่างทรงอิทธิพล
(พระเสาร์จรดาวประจำตัวเข้าภพวินาสน์-แต่ราหูดวงเดิมคู่มิตรรองรับอยู่).
Cr:
http://www.thaipost.net/