ลักษณะของสวนบ้านที่ปรากฎนั้นไม่ได้หมายถึงสวนที่จัดด้วยหิน แต่หมายถึงสวนที่จัดโดยใช้หินเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเรื่องราวในการสร้างจุดเด่นขึ้นมา
โดยมีต้นไม้และหรือน้ำเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ สวนหิน นั้น ๆ มี ชีวิต ขึ้นมารูปแบบของสวนหินมีได้มากมาย แต่โดยทั่วไปแล้วจะแสดงออกในรูปแบบของธรรมชาติ เพราะหินเป็นวัสดุธรรมชาติที่แสดงออกถึงพลังความมั่นคงและแข็งแกร่ง การดัดแปลงปรับแต่งหินให้มีรูปร่างตามต้องการนั้นดูจะเป็นเรื่องยากและไม่คงเอกลักษณ์เหมือนสภาวะตามธรรมชาติของมัน นอกจากการที่จะนำหินมาใช้สำหรับการก่อสร้าง เช่น สร้างพีระมิด สร้างปราสาท สร้างวิหาร เป็นต้น
สิ่งที่พอจะแสดงออกถึงการนำหินมาใช้ในเชิงประติมากรรมและเชิงของงานจัดสวน จัดภูมิทัศน์ (LANDSCAPE) ตั้งแต่อดีตกาลและยังคงเป็นปริศนาแก่ชนรุ่นหลังถึงทุกวันนี้ก็คือ อาณาบริเวณเสาหินในประเทศอังกฤษ ที่เรียกว่า STONEHENGE ซึ่งยังไม่มีใครทราบว่าใครคือผู้สร้างกลุ่มเสาบ้านเหล่านี้ และสร้างไว้เพื่ออะไร นอกจากจะเดาว่าเอาไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ความมหัศจรรย์ของเสาบ้านดังกล่าวก็คือก้อนเสาหินมหึมาสูงกว่า 4 เมตรที่ตั้งตระหง่านอยู่เป็นรูปวงกลม และมีหินก้อนยาววางนอนอยู่ระหว่างเสาติดต่อกันไป ใครคือผู้ที่มีเทคโนโลยีหรือความสามารถในการยกหินมหึมาขึ้นไปวางอยู่ได้ ทั้งที่เวลาล่วงเลยมาแล้ว 1,500 ปี
เนื้อหาของสวนเห็นที่น่ากล่าวถึงก็คือการออกแบบสวนหินขนาดใหญ่ ในตำบล WISLEY ซึ่งห่างจากกรุงลอนดอนไปครึ่งไมล์ เป็นสวนหินที่อยู่รายรอบเชิงเขา จัดทำขึ้นตามดำริของราชสมาคมสวนไม้ประดับแห่งเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งนับเป็นเรื่องท้าทายความสามารถและการดำเนินงานของนักจัดสวนอย่างมาก เพราะต้องลำเลียงหิน(หินทราย)กว่า 550 ตัน จากแหล่งหินที่ห่างออกไป 40 ไมล์โดยทางรถไฟและรถราง กับการลำเลียงพันธุ์ไม้นานาพันธุ์กว่า 65,000 ต้น โดยทำการออกแบบสวนตามสภาพธรรมชาติที่ปรากฎคือ ความลาดเอียงของเชิงเขา สระน้ำตามธรรมชาติ การออกแบบจะทำในลักษณะเสริมให้เกิดความสวยงามขึ้น เช่น การใช้หินวางเป็นชั้นของลาดเขา วางเป็นขอบของสระน้ำ ใช้ไม้สูงสำหรับกำหนดขอบเขต ไม้พุ่ม ไม้ดอกสำหรับสร้างความสวยงามและนุ่มนวลให้กับบริเวณเชิงเขา
สวนหินแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 นี่เอง คือในปีค.ศ.1911 หรือประมาณ 80 ปีมาแล้ว และนับเป็นตัวอย่างสวนหินระดับชาติที่ใช้อ้างอิงได้ดีที่สุดสวนหนึ่ง ไม่เฉพาะแต่ในอังกฤษเท่านั้น อเมริกาก็นิยมจัดสวนหินมาก ซึ่งจะทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับแนวทาจัดสวน การเลือกรูปแบบของหิน พืชพันธุ์ที่ใช้กับสวนหิน เรียกว่าศึกษากันอย่างเอาจริงเอาจัง ตั้งแต่ ค.ศ.1920 เป็นต้นมาทีเดียว และตามประวัติที่ปรากฎก็หนีไม่พ้นการศึกษารูปแบบสวนหินในตะวันออก ซึ่งก็คือสวนหินในจีนและญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งสวนหินในทางปฏิบัตินั้นจะรวมถึงการนำน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ น้ำตก และสระน้ำเข้ามาประกอบกับสวนหินด้วย