สำหรับเรื่องราวทั้งหมด มีดังนี้ "อยากขอเตือนเพื่อน ๆ ที่ชอบทานหอย อาหารทะเลสุก ๆ ดิบ ๆ ให้ระวังตัวกันหน่อยนะคะ
หลาย ๆ คนคงอยากรู้อาการและสาเหตุว่าทำไมถึงมีอาการอย่างที่เห็นในภาพ และอยากบอกอยากเตือนให้ทุกคนระวังตัวด้วยค่ะ รู้และระวังตัวไว้ก่อนดีกว่าสายไปนะคะ เรื่องนี้เกิดกับคุณแม่ของเราเองและไม่อยากให้ใครต้องเป็นเหมือนคุณแม่จึงอยากบอกต่อค่ะ
ก่อนหน้านี้ก็มีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันคือแม่ค้าขายปลาทับทิมโดนครีบแทงเสียชีวิต คาดว่าเป็นเชื้อตัวเดียวกันนะคะ
เชื้อตัวนี้ชื่อ วิบริโอ้ พาราฮิโมโลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) อาศัยอยู่ในน้ำทะเล และน้ำจืดที่มีอุณหภูมิอุ่น (ประเทศเรา) ชอบอาศัยในสัตว์น้ำเช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก (โดยเฉพาะหอยเพราะหอยเป็นสัตว์กินซาก และไม่มีใครทานหอยแบบสุก ๆ ) ถ้าหากทานอาหารที่มีเชื้อนี้เข้าไปก็จะเกิดอาการมีไข้ หนาวสั่น อาเจียน ท้องเสีย แล้วถ้าเข้ากระแสเลือดก็อยู่ที่อาการของแต่ละคนค่ะว่าจะเป็นอย่างไร แต่แผลจะคล้ายกัน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาน 4-96 ชั่วโมงในการออกอาการค่ะ (หากคนภูมิน้อย เช่นเป็นโรคเอดส์ โรคตับ จะเสี่ยงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคตับเสี่ยงกว่าคนปกติ 200 เท่า โอกาสเสียชีวิตก็มีสูง)หากใครเป็นเบาหวานโอกาสตัดขาสูงมากค่ะ
เพราะแบคทีเรียชนิดนี้เป็นแบคที่เรียที่กินเนื้อคนค่ะ จะค่อย ๆ กัดกินลามไปเรื่อย ๆ ทำให้เนื้อตาย (สีม่วง ๆ คือเนื้อของเราตายแล้ว ไม่มีความรู้สึกแล้วนะคะ)
หากเก็บอาหารในตู้เย็นที่รักษาอุณหภูมิได้ไม่ดีพอก็จะทำให้เชื้อขยายตัวอย่างรวดเร็ว ถ้านำไปปรุงอาหารในระดับอุณหภูมิที่ไม่เพียงพอก็ทำให้เชื้อแพร่กระจายเพิ่มขึ้น (โดยติดจากชิ้นหนึ่งไปสู่อีกชิ้น)
** คนปกติก็สามารถเป็นได้นะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นเริ่มแรก คือมีไข้ อาเจียน ท้องเสียนี่แหละค่ะ แต่ถ้าหากร่างกายกำลังป่วย มีภูมิคุ้มกันต่ำ ก็มีสิทธิเป็นได้เหมือนกันค่ะ (ง่าย ๆ เลยคือเชื้อนี้ทุกคนสามารถเจอได้ตลอดด้วยภูมิอากาศบ้านเรา ไม่รู้วันไหนใครจะแจ็กพ็อตโดนแบบแม่เรา)
ต้องบอกก่อนเลยว่าแม่มีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือ ตับแข็ง ม้ามโต ทำให้ทำลายเกร็ดเลือดและเลือด ทำให้ในร่างกายมีเกร็ดเลือดอย่างมากก็แค่เกือบ ๆ 20,000 (คนปกติจะมี 120,000-150,000 ขึ้นไป) ซึ่งน้อยมากอยู่แล้ว หากเป็นแผลเลือดก็จะไม่ยอมหยุดไหล จึงห้ามมีแผลอย่างเด็ดขาด
เหตุเกิดวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2557 แม่ไปทานหอยแครงเข้า ซึ่งในตัวหอยแครงนั้นอาจมีเชื้อแบคทีเรียตัวนี้อยู่ เมื่อผ่านผนังลำไส้ทำให้เกิดการดูดซึมพิษและแบคทีเรียเนื่องจากในร่างกายตับไม่ดีทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ จึงทำให้เชื้อเข้าสู่กระแสเลือด
ในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 หลังจากทาน 1 วันแม่มีไข้สูงหนาวสั่น (เนื่องจากแม่มีโรคเกี่ยวกับเลือด หากพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้เป็นไข้ในบางครั้งจึงไม่มีใครคาดว่าจะเป็นอะไร คาดเพียงพักผ่อนน้อย) และมีไข้ในวันต่อ ๆ มา
ในวันอังคารที่ 9 กันยายน 2557 มีอาการเจ็บปวดเท้า เท้าบวมเล็กน้อย ที่บ้านเข้าใจว่าเป็น โรคเกาต์ เพราะอาการคล้าย ๆ กัน