คนเลี้ยงแพะที่ปลายพระยา จ.กระบี่ สร้างรายได้มากกว่าอาชีพหลัก

[ปื้น ปากพนัง]

อำเภอปลายพระยา จ.กระบี่ จังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งปาล์มน้ำมัน ตำบลปลายพระยาเป็นตำบลเล็ก ๆ ที่เพิ่งได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลราว 10 ปีนี้เอง

ประชาชนส่วนใหญ่ทำเกษตรคือสวนปาล์มหรือยางพาราเป็นอาชีพหลัก และในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เทศบาลตำบลปลายพระยาได้ดำเนินโครงการสัมมาชีพ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนประกอบอาชีพเสริมที่สอดคล้องกับบริบททางทรัพยากรธรรมชาติ สังคมและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ มีประสบความสำเร็จกันหายราย อาทิ บ้านเพาะเลี้ยงด้วงด้วยต้นสาคู บ้านเลี้ยงปลาดุกชายคา รวมถึงบ้านเลี้ยงแพะ

“เลี้ยงโตไม่ทันขายกันเลยตอนนี้”

ลุงสมศักดิ์ ลูกลิ้ม เกษตรกรชาวสวนปาล์มผู้เลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริม เปิดเผยด้วยรอยยิ้ม ก่อนพาเดินไปดูแพะที่เลี้ยงอยู่ในสวนปาล์มหลังบ้าน โดยคอกแพะเป็นเรือนยกสูง ใต้ถุนโรงเลี้ยงเป็นมูลแพะกองโต แต่กลิ่นกลับไม่เหม็นมากจนรบกวนการหายใจ

[ปื้น ปากพนัง]

ลุงสมศักดิ์เล่าถึงที่มาที่ไปว่า ราว 10 ปีก่อน เทศบาลตำบลปลายพระยาให้แพะมาเลี้ยง 3 ตัว จากนั้นก็ออกลูกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และได้ขายออกไปบ้าง จนตอนนี้มีแพะเลี้ยงอยู่ 150 ตัว เหตุที่ต้องยกคอกสูงเนื่องจากแพะนอนบนพื้นดินไม่ได้ เพราะมักจะเกิดอาการท้องอืด จึงต้องนอนที่สูง

จะว่าไปแล้วแพะเลี้ยงง่าย อาหารของแพะไม่ยุ่งยาก มันกินใบปาล์ม หญ้า เป็นอาหาร หรือจะบำรุงมันด้วยอาหารสำเร็จรูปเพิ่มเติมด้วยก็ได้ แพะไม่ขัดข้อง

[ปื้น ปากพนัง]

การดูแลแพะในแต่ละวัน จะปล่อยแพะออกจากคอกให้ไปหากินเองวันละครั้งทุกเย็น ช่วง 15:30 – 17:30 น. เหตุที่ไม่ปล่อยช่วงเช้าเพราะเกรงว่าหญ้าจะมีพยาธิ ถ้าจะปล่อยก็ต้องรอให้แดดร้อนก่อน แล้วพอตกค่ำแพะจะกลับคอกเอง ไม่มีหลง เพราะมันอยู่รวมกันเป็นฝูง มีจ่าฝูงนำ ทำอะไรก็ทำตามกันทั้งหมด ถ้าสมมติว่าลูกไหนตัวไหนขาดไป ยังไม่กลับคอก เราก็รู้เพราะแม่มันจะร้องเรียก

[ปื้น ปากพนัง]

ส่วนการดูแลป้องกันไม่ให้แพะติดโรค ก็มีที่ต้องระวังคือโรคท้องอืด ซึ่งเกิดจากที่นอนคือคอกสกปรก กับเกิดจากอาหารที่กินเป็นพิษ ส่วนโรคปากเท้าเปื่อยจะฉีดยาป้องกันทุก 3-6 เดือน

ในอำเภอปลายพระยามีคนเลี้ยงแพะขายอยู่สองเจ้าเท่านั้นเอง ลุงสมศักดิ์เป็นหนึ่งนั้น โดยราคาขายท้องตลาดตอนนี้ขายที่กิโลละ 70 บาท แพะอายุ 3 เดือนหนัก 14-15 กิโลก็ขายได้แล้ว คนซื้อมาซื้อถึงคอก โดยมีทั้งซื้อไปแก้บนหรือกินเนื้อ

[ปื้น ปากพนัง]

และสุดท้าย ลุงสมศักดิ์เผยถึงรายได้ให้คนฟังอิจฉาเล่นว่า

“แต่เดิมเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริม ทำไปทำมาตอนนี้ชักจะทำรายได้มากกว่าอาชีพหลักเสียแล้ว รายได้จากการขายแพะมันคิดเทียบเป็นเดือนไม่ได้ว่าได้เท่าไหร่ เพราะมันไม่แน่นอน แต่คิดเฉลี่ยรายปีก็จะอยู่ที่ 2-3 แสนบาท เป็นต้นทุนราวหนึ่งแสนกว่าบาท ช่วยให้ผมอยู่สบายมากขึ้นครับ”

cr.  http://www.108kaset.com/board/index.php?topic=1933.0