สารพัด พันธ์ุหมา
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 22, 2024, 01:55:44 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สารพัด พันธ์ุหมา  (อ่าน 46559 ครั้ง)
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #29 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 10:39:04 am »



  ลักษณะทั่วไป

     บางแก้วเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีสัดส่วนที่กลมกลืน มีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีการเลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว รวดเร็ว ปราดเปรียว

  ความเป็นมา
 
     สำหรับประวัติของสุนัขพันธุ์บางแก้วนั้นได้มีข้อสันิฐานว่า เกิดจากสุนัข 3 พันธุ์ด้วยกันผสมกันแล้วก็กลายมาเป็นบางแก้วนั่นก็คือ พันธุ์ไทย พันธุ์สุนัขจิ้งจอก และสุนัขป่า ซึ่งพอผสมสมกันแล้วจะมีลักษณะ ขนยาวปลานกลาง ปากแหลม หางเป็นพวง ซึ่งเป็นลักษระของสุนัข จิ้งจอก กะโหลกเป็นสามเหลี่ยม ใบหูตั้งสั้นปลายแหลม โคนหูห่างกันมากเป็นลักษณะของสุนัขป่าส่วนลักษณะของสีหรือรูปร่างก็คล้ายสุนัขพันธุ์พื้นบ้านของไทยทั่วไปนั้นเอง
 
     สุนัขพันธุ์บางแก้ว เป็นสุนัขที่ต้นกำเนิดจาก ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งในอดีตชาวบ้านอาศัยเรือนแพอยู่สองฝั่งคลอนบางแก้ว และมีอาชีพประมงแทบทุกครัวเรือน

สุนัขพันธุ์บางแก้วเป็นสุนัขไทยพันธุ์หนึ้งที่มีความสวยงามคล้ายสุนัขพันธุ์ต่างประเทศมีขนยาวสวยงาม หางเป็นพวง มีรูปร่างขนาดปานกลางรูปทรงของลำตัวตั้งแต่ช่วงขาหน้าถึงขาหลังเป็นรูปสี่เหลี่ยม
 
     ในระยะแรกๆ การเลี้ยงสุนัขบางแก้ว  มีกเลี้ยงกันภายในบริเวณเรือนแพต่อมาได้มีการเลี้ยงแพร่หลายออกไปจากบ้านบางแก้วไปบริเวณใกล้เคียงเช่นบ้านชุมแสงสงคราม  บ้านห้วยชัน  บ้างวังแร่  บ้านบางระกำ  เป็นต้น
 
     ปัจจุบันสุนัขพันธุ์บางแก้วไก้มีการเลี้ยงแพร่พันธุ์ออกไปทั่วประเทศ  ด้วยจุดเด่นและเป็นเสน่ห์คือเป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยรักเจ้าของ รักถิ่นฐาน ซื่อสัตย์ ฝึกง่าย ฉลาดว่องไว และมีนิสัยดุกว่าสุนัขพันธุ์ไทยอื่นๆ ซึ่งมี  ประโยชน์ต่อการใช้งานในด้านการพิทักษ์รักษาทรัพย์ภายในบ้าน ไร่นาและสวนหรือโกดังต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ทั้งยังมีลัษณะที่สวยงามเป็นจุดเนกว่าสุนัขไทยอื่นๆ อีกด้วย



  ลักษณะนิสัย

     บางแก้วมีนิสัยที่ค่อนข้างตื่นตัว ร่าเริง เชื่อมั่นในตัวเอง จิตประสาทมั่นคงไม่ขี้กลัวหรือตื่นตกใจง่าย ซื่อสัตย์ หวงของ ฉลาด กล้าหาญ สามารถฝึกใช้งานได้ หวงสิ่งของและหวงเจ้าของ และมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ

  การดูแล

     การให้อาหารสุนัขไทยบางแก้ว นั้นส่วนใหญ่แล้วสุนัขบางแก้วจะชอบกินเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อปลา อาจให้กินข้าวสลับกับอาหารเม็ด และควรให้กินน้ำอย่างสม่ำเสมอ (ควรเปลี่ยนน้ำทุกวันด้วย) ส่วนเรื่องการดูแลทำความสะอาดนั้น สุนัขบางแก้วเป็นสุนักที่มีขนยาวในระดับปานกลาง ควรอาบน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างสม่ำเสมอ และควรแปรงขนบ่อยๆ ด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกายนั้น หากผู้เลี้ยงมีเวลาว่าง ควรพาสุนัขออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง เพื่อเป็นการเสริมสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับสุนัข และเป็นการผ่อนคลายความเครียดให้กับสุนัขด้วย



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัขทั้งในเรื่องของความสะอาดและสุขภาพ ทั้งนี้ผู้เลี้ยงยังต้องมีความเข้าใจถึงอุปนิสัยของสุนัขบางแก้วด้วยว่า เป็นสุนัขที่ค่อนข้างดุแต่สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ หากผู้เลี้ยงมีความเข้าใจในอุปนิสัยของสุนัขว่ามีนิสัยที่ค่อนข้างหวงถิ่นที่อยู่ และหวงสิ่งของ รวมไปถึงหวงเจ้าของ และมีการฝึกให้สุนัขอยู่ในกฏระเบียบและเชื่อฟังคำสั่งก็จะไม่มีปัญหาในการเลี้ยง



  ข้อควรจำ
 
    ควรระวังหากมีคนภายนอกมาเข้ามาแตะต้อง มันจะทำร้ายทันที

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 

nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #30 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 11:15:43 am »



  ลักษณะทั่วไป
 
     ไทยหลังอานเป็นสุนัขขนาดกลาง ขนสั้น หูตั้งเป็นรูปสามเหลี่ยม ปลายจมูกสีดำและมีขนย้อนกลับที่กลางหลังเป็นรูปต่างๆกัน ยาวไปตามแผ่นหลัง ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่น สุนัขไทยหลังอานมีความแข็งแรงมาก อดทนต่อสภาพภูมิอากาศได้โดยทั่วไป ทั้งร้อนและหนาว และยังเป็นสุนัขที่มีสัญชาตญาณของความเป็นนักฆ่าสูง และมีความจงรักภักดีต่อผู้เลี้ยงอีกด้วย



  ความเป็นมา

     สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานมีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยนี่เอง มีการสันนิษฐานว่าไทยหลังอานมาจากสุนัขในกลุ่มพวกหมาป่า และเป็นสุนัขพื้นเมืองในโซนเขตร้อน แต่ไทยหลังอานมีลักษณะพิเศษเฉพาะคือมีขนเป็นเส้นย้อนกลับที่เส้นกลางหลัง ในขณะที่สุนัขสายพันธุ์อื่นๆในกลุ่มเดียวกันไม่มี

  ลักษณะนิสัย

     ไทยหลังอานมีนิสัยของการเป็นนักล่าชัดเจน เป็นนักล่าที่ดี มีความระแวดระวังสิ่งแปลกปลอมเป็นอย่างดี มีความสามารถในการกระโดดดีเยี่ยม ฉลาด มีความมั่นคง กล้าหาญเด็ดเดี่ยว รักอิสระ มีท่วงท่าที่สง่า และเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ซึ่งไทยหลังอานมีความขึ้นชื่อในเรื่องของความจงรักภักดี

  การดูแล

     สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานควรมีกรงนอนให้ด้วย ซึ่งถือเป็นการฝึกวินัยไปในตัว การให้อาหารสุนัขไทยหลังอานนั้นผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารได้ตามปกติ แต่ควรสลับมาให้อาหารเม็ดด้วย และไม่ควรลืมที่จะให้น้ำดื่ม ส่วนน้ำที่จะให้สุนัขดื่มนั้นจะต้องเปลี่ยนทุกวัน ด้านการดูแลทำความสะอาด สุนัขไทยหลังอานอาบน้ำเดือนละ 2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้ง และในเรื่องของสุขภาพควรให้ความระมัดระวังเรื่องโรคผิวหนัง เพราะสุนัขไทยหลังอานมีขนสั้น ยุงหรือเห็บหมัดอาจเป็นพาหะนำโรคมาสู่สุนัขพันธุ์นี้ได้     
 


  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่อยากจะเลี้ยงไทยหลังอานต้องเป็นผู้ที่ให้ความรักและความเอาใจใส่ได้ดีควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัข เนื่องจากไทยหลังอานต้องการการออกกำลังการ ผู้เลี้ยงควรพาออกไปวิ่งเล่นภายในบริเวณบ้านหรือสวนสาธารณะบ่อยๆ (ทุกครั้งที่พาออกไปวิ่งควรใส่สายจูงด้วย) และที่สำคัญผู้เลี้ยงควรหมั่นตรวจดูสุขภาพของสุนัขโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพผิวหนัง



  ข้อควรจำ
     เวลาที่สุนัขไทยหลังอานขัดขืน ให้รีบห้ามทันทีด้วยคำว่า “ไม่” เพราะหากปล่อยไปหลังจากนั้น เขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #31 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 11:23:05 am »



  ลักษณะทั่วไป

     บลัดฮาวด์เป็นสายพันธุ์นักล่า “กลิ่น” ที่เก่าแก่มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง พวกเขาต้องการความรักมาก แต่ก็สามารถควบคุมความขี้อายที่มีมาโดยธรรมชาติ ความอ่อนไหวต่างๆได้ พวกเขาเป็นสุนัขที่มีอารมณ์ขัน และเข้มแข็ง รูปร่างลักษณะของบลัดฮาวด์ มีร่างกายใหญ่มาก สีมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะดี สีดำกับสีน้ำตาลแทน, สีน้ำตาลเหลือกับสีน้ำตาลแทน, และสีแดง ตาลึก หน้าย่น

  ความเป็นมา

     บลัดฮาวด์กำเนิดขึ้นในทวีปยุโรปมานานก่อนสงครามครูเสดซึ่งเป็นสุนัขที่มีความสามารถในการดมกลิ่นมากกว่าสุนัขพันธุ์อื่น   โดยบลัดฮาวด์กลุ่มถูกนำมาจากคอนสแตนติโนเพิลสองสายพันธุ์คือดำและขาว สีดำรู้จักกันดีที่เซ็นต์ฮูเบิร์ตส์ นำเข้ามาครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ ส่วนสีขาวกลายมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เซาเทิร์นฮาวด์ แต่ถึงแม้ว่าบลัดฮาวด์สายพันธุ์ใหม่ในประเทศอังกฤษ ก็ยังเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากในประเทศสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลากว่าทศวรรษ พวกมันทำงานอย่างหนักให้กับศาล เพื่อค้นหาหลักฐานในการดำเนินคดีต่างๆ  และในทุกวันนี้บลัดฮาวด์ก็เป็นที่พึงพอใจของคนที่ต้องการสุนัขที่มีรูปร่างโครงสร้างดี ฝึกได้ เชื่อฟัง และ มีความสามารถในการดมและติดตามกลิ่น



  ลักษณะนิสัย

     บลัดฮาวด์เป็นที่สุนัขที่น่ารัก นิสัยดี อ่อนโยน มีความอดทนสูง ต้องการความรัก ชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และรักเด็ก ชอบให้เด็กๆปีนป่าย แต่ก็ต้องระวังไม่ให้เด็กแกล้งพวกเขา หรือแย่งอาหาร ของเล่น เพราะจะทำให้เขาแสดงอาการหวงของขึ้นมาทันที บลัดฮาวด์ค่อนข้างรักอิสระ เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องการวินัย การฝึกที่นุ่มนวล ไม่เช่นนั้นเขาอาจมีแนวโน้มดื้อ หัวแข็ง นอกจากนี้พวกเขาค่อนข้างจะก้าวร้าวกับสุนัขเพศเดียวกัน แต่โดยธรรมชาติจริงๆแล้ว พวกเขารักทุกคนเลย และต้อนรับผู้มาเยี่ยมยืนด้วยอาการสดใสรื่นเริง

     อย่างไรก็ตาม แทบจะ 90 เปอร์เซ็นต์ของบลัดฮาวด์ไม่ควรพาออกเดินนอกบ้านโดยไม่ได้ใส่สายจูง เพราะพวกเขาจะเดิมดมโน่นนี่ไปเรื่อยๆตลอดทางจนกว่าจะหาสิ่งที่เขาได้กลิ่นเจอ และความสามารถพิเศษนี้เองที่ทำให้เขาสามารถเดินตามกลิ่นได้เป็นเวลากว่าร้อยชั่วโมงได้อย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าหนทางจะยาวไกลขนาดไหน เขาต้องหาต้นตอกลิ่นนั้นให้เจอ



  การดูแล

     การทำความบลัดฮาวด์ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ขัดขนเขาเบาๆ เพราะผิวหนังเขาง่ายต่อการระคายเคือง และควรแปรงขนเป็นประจำเผื่อผลัดขนเก่า แล้วยังเป็นการนวดผิวหนังทำให้เขารู้สึกสบายตัว ควรทำความสะอาดหูเป็นประจำ โดยเฉพาะหากอยู่ในสภาพภูมิอากาศร้อน เพราะจะทำให้หูมีกลิ่นและหูติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ควรเช็ดดวงตาของเขาเป็นประจำทุกวัน

     บลัดฮาวด์รัการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ  ไม่ว่าจะวิ่ง จ๊อกกิ่ง หรือปม้กระทั่งปีนเขา เพราะ พวกเขาเป็นสุนัขที่โตเร็วต้องการการพัฒนาความแข็งแรงของกระดูก กล้ามเนื้อและข้อต่อ แต่ทุกครั้งที่พาวิ่งต้องใส่สายจูงเพื่อให้เขาไม่หันเหไปกันกลิ่นต่างๆระหว่างทาง และควรวิ่งอย่างพอเหมาะพอดีไม่ควรให้เขาวิ่งหนักจนเกินไป ระยะเวลาที่ดีที่สุดในช่วงการออกกำลังกายอย่างน้อยที่สุด 20  นาที ต้องให้เดินไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร เนื่องจากพวกเขาไม่ได้สนว่าอากาศดีหรือแย่ แต่สิ่งจำเป็นสำหรับพวกเขาคือการได้ออกกำลังซึ่งความต้องการนี้คือหนึ่งในนิสัยและบุคคลิกภาพประจำตัวของบลัดฮาวด์

     นอกจากนี้การฝึกบลัดฮาวด์ถือว่าจำเป็นมากๆ จำเป็นต้องฝึกวินัยและฝึกให้พวกเขาเชื่อฟังอย่างน้อย 15-30 นาที เป็นประจำเพื่อให้พวกเขาสงบนิ่ง แต่ปฏิภาณไหวพริกเฉียบคม ตื่นตัว มีความสุข เพราะถ้าเขามีความสุข เขาก็จะประพฤติตัวดีไม่ดื้อรั้น



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บลัดฮาวด์ต้องการความรักมากเป็นพิเศษ  ผู้ที่เลี้ยงควรจะต้องใส่ใจ รักและดูแลความรู้สึกของเขาเป็นอย่างดี แต่ก็ต้องเป็นหัวหน้าที่มั่นคง ไม่พวกเขาไม่อาจโต้แย้งได้ ส่วนเรื่องการทำความสะอาดควรอาบน้ำให้สัปดาห์ละครั้ง ดูแลเรื่องขาร่วงเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้เขาดูดี รู้สึดี และ กลิ่นดีมากขึ้น

  ข้อควรจำ

     แม้บลัดฮาวด์จะสามารถอาศัยอยู่ในอพาร์เม้นท์ได้ แต่จะดีที่สุดถ้ามีสนามหญ้ากว้างๆให้พวกเขาได้วิ่งเล่น เพราะการออกกำลังกายและการวิ่งเล่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการอย่างมาก สายจูงก็เป็นสิ่งจำเป็นถ้าไม่อยากจะตามไล่พวกเขาเวลาเดินดมกลิ่นที่เขาสนใจทางโน้นทีทางนี้ที อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้เขาเดินหรือวิ่งมากเกินไปเพราะจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อในภายหลัง แต่ก็ไม่ควรล่ามเขาไว้ทั้งวันเช่นกัน ส่วนโรคประจำตัว บลัดฮาวด์มักเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย และ ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับสะโพกเคลื่อน สะโพกเสื่อม ไหล่เคลื่อน และ ผิวหนังขาดน้ำ จนก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ จึงควรพาเขาตรวจสุขภาพเป็นประจำ   

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 11:39:11 am »




  ลักษณะทั่วไป

     บ๊อกเซอร์ที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีต้นกำเนิดจากสุนัขพันธุ์บูลเลนไบส์เซอร์ขนาดเล็ก (บูลด๊อกชนิดหนึ่ง)

  ความเป็นมา

     บ๊อกเซอร์มีถื่นกำเนิดในประเทศเยอรมนี ผู้เลี้ยงมักนำไปใช้ล่าหมีและวัว ต่อมาบ๊อกเซอร์กลายเป็นสุนัขคุ้มกันและป้องกันภัยในทางการทหารและตำรวจ หรืออาจจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนในบ้านก็ยังได้

ลักษณะนิสัย

     บ๊อกเซอร์มีความอดทนสูงและปกป้องเด็กๆ ได้ บ๊อกเซอร์ชอบที่จะเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาชิกในครอบครัวที่เป็นเจ้าของ ไม่ว่าตัวมันจะอายุมากแค่ไหน มีนิสัยที่รักสนุก ร่าเริงมาก อารมณ์คงที่ ไม่ก้าวร้าวแม้จะถูกรบกวน ไม่ขี้อาย ค่อนข้างเชื่อฟังคำสั่งและฝึกง่าย มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้านายและคนในครอบครัว



  การดูแล

     ในเรื่องของการให้อาหารนั้น บ๊อกเซอร์เป็นสุนัขที่กินค่อนข้างง่าย ผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารทั่วไปได้ตามความเหมาะสม ในเรื่องของการดูแลทำความสะอาดนั้น ควรอาบน้ำสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หลังอาบหรือพาไปตากฝนแล้วควรเช็ดตัวให้แห้ง เพราะจะเสี่ยงต่อการเป็นโรครูมาติสม์ ผู้เลี้ยงควรมีสถานที่อบอุ่นให้สุนัขบ๊อกเซอร์หลับนอน(ควรเป็นภายในบ้าน) และควรพาสุนัขออกกำลังกายอย่างส่ำเสมอ



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ควรเป็นผู้ที่มีเวลาในการดูแลสุนัขทั้งในเรื่องของความสะอาดและสุขภาพ รวมถึงต้องมีเวลาที่จะเล่นกับสุนัข เพราะบ๊อกเซอร์เป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวสูงต้องการเล่นเจ้าของตลอดเวลา



  ข้อควรจำ

     ควรหลีกเลี่ยงการผสมเพื่อให้ได้สุนัขบ๊อกเซอร์สีขาว เพื่อไม่ให้เกิดลูกสุนัขที่หูหนวก (สุนัขหูหนวกเป็นข้อบกพร่องร้ายแรง) เพราะบ๊อกเซอร์สีขาวมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเพราะสภาวะอากาศ

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #33 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2014, 11:03:47 am »



 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     บอร์ซอยเป็นสุนัขที่มีความสง่างาม ดูผู้ดี สงบนิ่ง มีสายตาเฉียบคมสมกันเป็นสุนัขพันธุ์ล่าสัตว์ และด้วยรูปร่างที่สูง ปราดเปรียวยิ่งช่วยเพิ่งประสิทธิภาพในการวิ่งไล่ล่าเหยื่อจากระยะไกล  พวกเขามีขนยาว เนียนนุ่ม  มีขนเส้นตรง เป็นลอนคลื่น และหยิก สีขนคละกันหลายสี   บแบนกันลำตัว ไม่ฟู ทุกวันนี้ บอร์ซอยเป็นที่นิยมมากในกีฬาสุนัข และงานประกวดงานแข่งขันสุนัขอีกด้วย  อายุโดยเฉลี่ยนของบอร์ซอยอยู่ระหว่าง 10-14 ปี

 HAPPY2!! ความเป็นมา

     บอร์ซอยมาจากคำว่า “borzii” แปลว่ารวดเร็ว ว่องไว มี ถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอาราเบียน  ต่อมาในศควรรษที่ 17 ได้มีถูกนำมายังประเทศรัสเซีย และได้รับการพัฒนาข้ามสายพันธุ์มาจากอาราเบียน  เกรฮาวด์  โดยกลุ่มชนชั้นสูงชารัสเซียนานกว่า 100 ปี เพื่อใช้ในการล่าสุนัขจิ้งจอก หมาป่า และกระต่ายป่าตามทุ่งกว้างของรัสเซีย กระทั่งปี  1936 จึงเริ่มเป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกาว่าเป็น สุนัขป่าของชาวรัสเซีย (The Russian Wolfhound ) ที่มีไว้สำหรับล่าหมาป่าโดยเฉพาะ และเนื่องจากบอร์ซอยเป็นนักล่าที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จึงเป็นที่นิยมขยายวงกว้างเกือยทั่วทั้งยุโรปภายในหนึ่งปี และเป็นที่รู้จักอย่างดีในแวดวงชนชั้นสูงของอังกฤษ ที่ให้สุนัขพันธุ์บอร์ซอยเป็นของกำนัลแก่ราชวงศ์

 HAPPY2!! ลักษณะนิสัย

     บอร์ซอยมีความเฉลียวฉลาด สุภาพ เรียบร้อย  ใจดี ซื้อสัตย์ ไม่ดุร้าย เป็นมิตรกับสัตว์ที่ตัวขนาดใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเป็นสัตว์พันธุ์เล็กเช่นกันต่าย เลือดนักล่าจะทำงานทันที แต่เป็นมิตรกับเด็ก  พวกเขาต้องการความรักจากเจ้าของ  คอยระวังปกป้องครอบครัว  แต่พวกเขาก็รักอิสระ บางครั้งก็ไม่สุงสิงกับใคร เป็นตัวของตัวเองสูง ถึงขั้นเรียกได้ว่าดื้อจนฝึกยาก นอกจากนี้บอร์ซอยเป็นนักวิ่ง ต้องการพื้นที่กว้างไว้ให้ได้วิ่งเล่นบ้าง



 HAPPY2!! การดูแล

     แม้ว่าบอร์ซอยเป็สุนัขขนาดใหญ่ แต่พวกเขาก็เป็นสัตว์ที่มีไว้เลี้ยงภายในบ้าน  และแม้ว่าเขาจะต้องการความรักของเจ้าของ แต่พวกเขากลับมีนิสัยคล้ายแมว รักอิสระ ไม่แสดงความต้องการ หรือออดอ้อน บอร์ซอยต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน พวกเขามีสัญชาตญาณของนักล่าสูง จึงชอบวิ่งเล่นไล่จับสัตว์ตัวเล็กๆที่เคลื่อนที่ไปมา ดังนั้นควรจะมีรั้วรอบขอบชิด ล้อมบริเวณเฉพาะไว้ให้เขา  การทำความสะอาดควรแปรงขนให้พวกเขาเป็นประจำ อย่างน้อง  3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะขนล่วงเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงพลัดขน  รวมทั้งควรหมั่นดูแลตัดแต่งเล็บ เล็มขนบริวเวณอุ้งเท้า ทำความสะอาดหู  บอร์ซอยจะผลัดเป็นประจำ และผลัดแต่ละครั้งขนร่วงเยอะมาก แต่ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้บ่อยสอง- สามอาทิตย์ต่อครั้ง  หรืออาบน้ำให้เมื่อเขาสกปรก



 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บอร์ซอยเป็นสุนัขรูปร่างใหญ่ หากต้องการเลี้ยง ผู้เลี้ยงควรจะมีห้องแยกให้เขาอยู่โดยเฉพาะ อาจ ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เพียงแค่เป็นห้องเล็กๆให้พวกเขาได้เดินออกกำลังกายไปมาบ้าง  ควรมีมุมให้เขาได้งีบหลับไม่มีใครมารบกวน แต่ก็ต้องมีเวลาพาเขาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง เพื่อให้ได้วิ่งเล่นและได้ออกกำลังกาย ส่วนเรื่องทำความสะอาดควรมีเวลาแปรงขนให้เขาอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์  และอาจต้องมากขึ้นช่วงผลัดขน



 HAPPY2!! ข้อควรจำ

     - บอร์ซอยรักอิสระ รักอิสระ และชอบไล่ล่าสัตว์เล็ก ดังนั้นหากนำมาเลี้ยง ควรให้เวลาเขาได้ทำความรู้จักกับครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก เล็ก หรือสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก เช่น แมว หรือกระต่าย แต่โดยนิสัยของบอร์ซอยแล้ว เมื่อใดก็ตามที่พวกเขารู้สึกว่าเด็กๆหรือสัตว์เล็กๆในครอบครัวเป็นสมบัติของตน พวกเขาจะดูแลและปกป้องสิ่งนั้นๆอย่างดี
     - บอร์ซอยเป็นสุนัขที่มีช่วงอกลึก มักมีปัญหาเรื่องการย่อยอาหาร  ควรดูแลเรื่องอาหารและการกินเป็นพิเศษ  โดยการให้เขากินอาหารบ่อยๆแต่ปริมาณน้อยลง แทนที่จะให้เขากินอาหาร 2 มื้อใหญ่ๆ ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวตลอดทั้งวัน
     - บอร์ชอย  ต้องการพักผ่อนและงีบหลับจากกินอาหารเสร็จ ดังนั้นไม่ควรมีกิจกรรม หรือให้เขาออกกำลังกาย ควรปล่อยให้เขาได้พัก เพื่อลดอาการท้องอืด
     - สุนัขพันธุ์นี้มีโอกาสแพ้ยาชาและยาที่ออกฤทธิ์คล้ายๆ กันได้สูง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดหลังจากฉีดยา 

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #34 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2014, 11:18:51 am »



 ping!  ลักษณะทั่วไป

     สุนัขพันธุ์ บอสตัน เทอร์เรียร์ ลักษณะท่าทาง ของสุนัขสามารถบอกความมุ่งมั่น ความแข็งแรงและมีความตื่นตัว แม้จะเป็นสุนัขตัวเล็กแคระ แต่เขามีโครงสร้างได้สัดส่วน มีความสง่างาม โดยเฉพาะดวงตาโตใหญ่ที่บ่งบอกความรู้สึกได้

 ping! ความเป็นมา

     บอสตัน เทอร์เรียร์พัฒนาสายพันธุ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา แมสซาชูเซ็ตต์ มีบรรพบุรุษของเขาคือสายพันธ์อิงลิช บูลด็อก และอิงลิช ไวท์ เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่เลี้ยงกันในกลุ่มคนรวย ได้รับจดทะเบียนโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1893



 ping! ลักษณะนิสัย
 
      บอสตันเทอร์เรียนเป็นสุนัขที่เป็นมิตรทั้งกับคนและสัตว์อื่นๆ ร่าเริง กระตือรืร้น ฉลาดหลักแหลม ต้องการความรัก และการเอาใจใส่จากสมาชิกในครอบครัว แต่ก็พร้อมจะมอบความรัก ทุ่มเทให้แก่คนในครอบครัวเช่นกัน พวกเขาเป็นสุนัขที่มีความมุ่งมั่น รักการทำกิจกรรมเกือบทุกชนิด อีกทั้งยังรักความสะอาด ชอบอยู่เงียบๆ ข้างๆ เจ้าของ ไม่ไฮเปอร์ ซนและวุ่นวายให้ปวดหัว

 ping! การดูแล

     
     บอสตัน เทอร์เรียเป็น้องหมาขนสั้น เรียบเนียน ทำความสะอาดง่าย เน้นการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เน้นดูแลรอบใบหน้า หู และดวงตาเป็นพิเศษ ส่วนการออกกำลังกายควรพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เดินเล่น วิ่ง หรือหากิจกรรมให้ทำร่วมกับครอบครัว



 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บอสตัน เทอร์เรีย เลี้ยงไม่ยาก สามารถอยู่ได้ในพื้นที่แคบอย่างเช่นอพาร์ตเม้นท์ การทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะต้องพาไปออกกำลังกายบ้างเพื่อควบคุมน้ำหนักและจะการกับพลังงานส่วนเกิน ไม่ควรเลี้ยงพวกเขาให้อยู่แยกจากคน หรือเลี้ยงไว้นอกบ้าน เพราะพวกเขาต้องการความรักและต้องการอยู่ใกล้คิดกับคนในครอบครัว



 ping! ข้อควรจำ
 
     บอสตัน เทอร์เรียน มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับดวงตาและหู ไม่ว่าจะเป็น เชอร์รี่อาย ต้อกระจก ภาวะตาแห้ง หูอักเสบ หูหนวก ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติควรพาไปปรึกษาสัตวแพทย์ทันที

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #35 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2014, 11:50:18 am »




 lv! ลักษณะทั่วไป

     บาเซ็นจิเป็นสุนัขขนสั้น รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หลังตรง รูปร่างถือว่าไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับสุนัขล่าเนื้อชนิด อื่น ๆ

 lv! ความเป็นมา

     บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์อัฟริกา ที่หลายๆ ชนเผ่าเลือกที่จะใช้เป็นสุนัขล่าเนื้อ และถ้าหากว่าใครก็ตามที่ไม่มี บาเซ็นจิเป็นสุนัขคู่กายก็จะไม่ได้รับยกย่องว่าเป็นนักล่าสัตว์เลยทืเดียว ทั้งนี้บาเซ็นจิมีต้นกำเกิดตั้งแต่สมัยยุค ฟาโรห์ เชื่อกันว่าสายพันธุ์ของบาเซ็นจินี้มีมานานกว่าปิรามิดเสียอีก แต่อารยธรรมตะวันตกเพิ่งค้นพบสุนัขสาย พันธุ์บาเซ็นจิในราวปี ค.ศ. 1985 ในดินแดนคองโก และคำว่า บาเซ็นจิ เป็นภาษาสวาฮีลีแปลว่า "สิ่งที่อยู่ใน พุ่มไม้"



 lv! ลักษณะนิสัย

     บาเซ็นจิเป็นสุนัขฉลาด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเห่าแต่ก็สามารถใช้เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี บาเซ็นจิมีสัญชาติญาณ ความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับขู่เข็ญ



 lv! การดูแล 

     อาหารที่ให้สุนัขบาเซ็นจิควรเป็นอาหารของคน ควรควบคุมปริมาณอาหารและ จำนวนมื้อให้เหมาะสม และควรหมุน เวียนวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารเพื่อให้ ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลาย บาเซ็นจิเป็นสุนัขที่ดูแลง่าย ไม่ต้อง คอยเแปรงขน และไม่ต้องอาบน้ำให้ บ่อยๆ เพราะว่าบาเซ็นจิจะใส่ใจความ สะอาดของตัวเองมาก โดยบาเซ็นจิจะ ใช้อุ้งเท้าทำความสะอาดให้ตัวเองคล้ายกับแมว

แต่ถึงอย่างไรก็ตามในการดูแลการทำ ความสะอาดสุนัขพันธุ์บาเซ็นจินั้นก็มีราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มาอยู่พอสมควร ช่องหู ของบาเซ็นจิควรใช้สำลีพันปลายไม้ ชุมน้ำอุ่น หรือใช้น้ำยาเช็ดหูสำหรับสุนัข ทำความสะอาดซอกหูและช่องหู ใช้สำสี สะอาดชุมน้ำบิดให้แห้งเช็ดทำความสะอาด บริเวณขอบตาให้กับบาเซ็นจิเมื่อมี ขี้ตาบริวเรณตา และควรตรวจสุขภาพฟัน เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา เหงือก อักเสบหรือคราบหินปูนกาะฟัน

     ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย บาเซ็นจิเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้บาเซ็นจิได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อว่าบาเซ็นจิจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด



 lv! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะสำหรับคนเลี้ยงที่สามารถให้อิสระกับบาเซ็นจิได้เท่าที่ต้องการ สามารถพาเขาไปออกกำลังกายเป็นกระจำทุกวัน มีพื้นที่ให้เขาได้วิ่งเล่น



 lv! ข้อควรจำ

     เนื่องจากบาเซ็นจิเป็นสุนัขที่รักอิสรภาพสูงทำให้บางที บาเซ็นจิจะอยู่กับเจ้าของได้ยาก     

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #36 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2014, 12:00:05 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     บาสเซ็ต ฮาวด์มีลำตัวยาว หูยาว  กระดูกใหญ่ หนา แต่ขาสั้น เคลื่อนไหวได้ลคล่องแคล่วสมกับมีสายเลือดสุนัขนักล่าสายพันธุ์ฮาวด์  ขนสั้นเกรียน สีอะไรก็ได้ตามลักษณะสีขนตามสายพันธุ์ฮาวด์ เช่น สีดำ ปนกับสีขาว สีน้ำตาลแทน หรือสีอื่นๆ บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขที่มีจิตใจดี สุภาพ ไม่ดุร้าย เกรี้ยวกราด และเนื่องจากพวกเขาเป็นสุนัขที่มีสายเลือดนักล่า จึงไวต่อกลิ่น และการไล่ล่าสัตว์ต่างๆ จึงเหมาะกับการนำไปใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเฝ้าเรือกสวน ไร่นา แกะรอย และ ล่าสัตว์

  ความเป็นมา

     บาสเซ็ต ฮาวด์ มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฝรั่งเศส  เพื่อใช้ในเกมการล่าสัตว์ จนกระทั่งเริ่มเป็นที่นิยมกว้างขวางมากขึ้นในหมู่ราชวงศ์ของฝรั่งเศส ยุคสมัยของสมเด็จมหาจักรพรรดินโปเลียน และในปีค.ศ. 1880 สมเด็จกระราชินีอเล็กแซนดราเลี้ยงเหล่าบาสเซ็ต ฮาวด์ ไว้ในคอกของราชสำนัก และด้วยคุณสมบัติการดมกลิ่นเป็นเลิศของบาสเซ็ต ฮาวด์ จึงถูกนำไปเป็นของขวัญให้แก่เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ในเกมล่าสัตว์ จนกลายเป็นที่นิยมในเลาต่อมา



  ลักษณะนิสัย

     บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขอ่อนหวาน อ่อนโยน สุภาพ รักสงบ เป็นเพื่อนที่ดีกับผู้คน  แต่ภายในจิตใจเข้มแข็ง  เป็นสุนัขที่เหมาะนำมาเลี้ยงอยู่ร่วมกับครอบครัว เป็นมิตรกับเด็ก ต้องการความรักจากคนในครอบครัวสูง รักการกินอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ต้องระวังเรื่องน้ำหนักเกิน หากต้องการฝึกวินัยกับพวกเขาควรฝึกด้วยความรัก ความอ่อนโยน  ไม่ควรใช้ความรุนแรง หรือบังคับ เพราะพวกเขาอาจจะดื้อ หรือเกิดอาการต่อต้าน  และเนื่องจากพวกเขามีสัญชาตญาณของนักล่า บางครั้งเขาอาจเสียสมาธิขณะฝึก หากเจอสัตว์ตัวเล็กๆ ผู้เลี้ยงต้องมีความอดทน และให้เวลาพวกเขาในการฝึกวินัย

  การดูแล
 
     บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขขนสั้น หนา เรียบไม่ชี้ฟู จึงง่ายต่อการดูแลรักษาความสะอาด แปรงขนเพียง  2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาบน้ำ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ในช่วงฤดูผลัดขนควรแปรงขนก่อนอาบน้ำทุกครั้ง  ขนรอบๆ ใบหู และในหูควรเช็ดและทำความสะอาดเป็นพิเศษ เพราะเวลาพวกเขาวิ่งเล่น ดื่มน้ำ กินอาหาร หูจะเปรอะเปื้อน สัมผัสสิ่งต่างๆได้ง่ายจึงเสี่ยวต่อการติดเชื้อ และสะสมเชื้อโรค

     การออกกำลังกาย บาสเซ็ต ฮาวด์ต้องการการออกกำลังเป็นประจำทุกวันอย่างเหมาะสม เพื่อควบคุมน้ำหนัก เสริมสร้างสุขภาพกระดู และข้อต่างๆให้แข็งแรง นอกจากนี้พวกเขายังมีความขี้เกียจอยู่ในตัว การออกกำลังกายจะช่วยให้เขาได้ยืดเส้นยืดสาย และตื่นตัว ผู้เลี้ยงควรใส่สายจูงขณะออกกำลังกาย เพราะพวกเขามักไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง และชอบเดินตามกลิ่นต่างๆ หรือวิ่งไล่สัตว์ตัวเล็กๆ อย่างไรก็ตาม เพียงพาเดินตามทางเท้าถือว่าไม่เพียงต่อต่อการเผาผลาญพลังงานของบาสเซ็ต ฮาวด์ และอาจนำไปสู่โรคอ้วน ความเครียด และโรคข้อกระดูกต่างๆ ดังนั้นนอกจากเดินเฉยๆ แล้ว ควรให้พวกเขาได้วิ่งเล่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรคทั้งทางร่างกายและจิตใจ



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บาสเซ็ต ฮาวด์เป็นสุนัขที่สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แต่โดยธรรมชาติของพวกเขาแล้ว เหมาะกับเลี้ยงไว้นอกบ้าน เนื่องจากมีสายเลือดสุนัขล่าสัตว์  จึงไม่เหมาะกับจะเลี้ยงไว้ในอพาร์ต นอกจากนี้ บาสเซ็ต ฮาวด์ยังต้องการการออกกำลังเป็นประจำ ผู้เลี้ยงควรพาเขาออกไปเดินเล่นนอกบ้านหรือหาเกมให้เขาไว่วิ่งไล่ล่าบริเวณสนามหญ้าจะถูกใจพวกเขาเป็นพิเศษ การดูแลทำความสะอาด ผู้เลี้ยงควรมีเวลาแปรงขนให้อย่างน้อง 2 ครั้งต่อสัปดาห์



  ข้อควรจำ

     โรคหรือปัญหาสุขภาพสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นพิเศษคือ โรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน ซึ่งไม่ได้มีสามารถมาจากการกินอาหารมากเกินไปเท่านั้น แต่ยังเกิดจากหมอนรองกระดูกมีปัญหา  นอกจากนี้ยังมีโรคสะบ้าเคลื่อน โรคหนังตาม้วนกลับ โรคโรคตาซึ่งเกิดจากความดันภายในลูกตาสูง และ โรคกระเพาะอาหารบิดเป็นต้น ดังนั้นผู้เลี้ยงควรสังเกตอาการผิดปกติ พาไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น หรือสามารถรักษาได้ตั้งแต่เริ่มเป็นในอาการเบื้องต้น และหากในครอบครัวมีเด็กเล็กก็ควรระวังไม่ให้ขึ้นไปขี่หลังของพวกเขาเล่น เพราะ จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่หลัง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อกระดูกได้ง่าย
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #37 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2014, 12:11:19 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     บิชอง ฟริเซ่เป็นน้องหมานิสัยร่าเริง มีความสุข รูปร่างเล็ก ตาสีเข้ม ขี้สงสัย หางปุกปุย ขนเหมือนปุยฝ้าย หยิกฟูกลมเป็นลูกบอล ขนชั้นนอกหยาบ ส่วนขนชั้นในนุ่มเหมือนแพรไหม ขนสีขาว แต่ก็มีเชดสีครีม สีแอปริคอท รอบ ๆ หูหรือขนบนลำตัว



  ความเป็นมา

     บิชอง ฟริเซ่มีการพัฒนาสายพันธุ์ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน  เมื่อสุนัขพันธุ์บาร์เบท (สุนัขสายพันธุ์วอเตอร์สเปเนียลตัวใหญ่)  ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ กับสุนัขบ้านตัวสีขาวตัวเล็ก ๆ ซึ่งต่อมาบาร์เบทก็ได้พัฒนามาเป็น บาร์บิชอง แคม ซึ่งเรียกสั้น ๆ ว่า บิชอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่คล้ายกัน พัฒนามาจากบาร์เบ็ตไปเป็นพูดเดิล และมอลทีส  แม้ว่าตอนนี้จะเป็นพันธุ์ที่แยกออกจากกัน แต่ก็มีบรรพบุรุษที่เหมือนกัน 
 
     บิชอง ฟริเซ่ ปรากฎขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากวอร์เทอร์ สเปเนียล นำเข้ามาค้าขายโดยกลาสีเรือชาวสเปน ส่งผ่านจากทวีปหนึ่งสู่อีกทวีปหนึ่ง จนท้ายที่สุดกลายมาเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นสูงและราชวงศ์ในฝรั่งเศส แล้วก็เป็นพันธุ์ที่เหล่าจิตกรในโรงเรียนศิลปะในสเปนชื่นชอบ แล้วก็มักนำพวกเขาเข้าไปอยู่ในงานศิลปะ รวมทั้งมีคณะละครสัตว์นำบิชอง ฟริเช่ไปใช้ในการแสดงต่าง ๆ เพื่อเอนเตอร์เทนผู้ชม าวันนี้พวกเขาจึงเป็นน้องหมาที่มีความสุขทุกครั้งที่ได้พบปะฝูงชนไม่ว่าจะคนในครอบครัวหรือคนแปลกหน้าก็ตาม

  ลักษณะนิสัย

     บิชอง ฟริเซ่ เป็นสุนัขที่มีนิสัย ร่าเริง อ่อนหวาน ปราดเปรียว กระฉับกระเฉง กระโดดโลดเต้น แอคทีฟ  มีพลังงานเหลือเฟือ สามารถผจญภัยไปได้ไกล ถ้าพลาด สายจูงหลุดเป็นเรื่อง กระโดดข้ามรั้วหายไปนานเลยล่ะค่ะ แต่เขาก็เป็นน้องหมาที่ใจดีสุภาพอ่อนโยน  ขี้เล่น เล่นได้ทั้งวี่ทั้งวัน  รักทุกคนเลยเป็นน้องหมาอารมณ์ “Happy go Lucky” ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนแปลกหน้า เจ้าของ บุรุษไปรษณีย์ ยันคนเก็บขยะ แต่ก็พอจะสามารถเป็นน้องหมาเฝ้าบ้านได้ค่ะ เข้ากันได้ดีกับเด็กคนในครอบครัว  แต่เพราะเขารักทุกคนเขาก็เลยอ่อนไหวและเจ็บปวดได้ง่าย เสียใจได้ง่าย เวลาที่เขาชอบมากที่สุดก็คือ นอนกกอยู่บนตักใครสักคน โดยเฉพาะคนที่เขารัก ชื่นชอบ อ่อนไหวด้วย รักด้วย ตอบสนองด้วย พวกเขาเป็นน้องหมาที่รักอิสระ มีเสน่ห์  แต่ก็เป็นสุนัขเฝ้าบ้านได้นะ ชอบอยู่กับคน



  การดูแล

     การทำความสะอาด ต้องใช้แชมพูแบบสำหรับผิวแพ้ง่ายเท่านั้น เพราะผิวและขนแพ้ง่ายมาก ขนของบิชอง ฟริเซ่ต้องการการแปรงเป็นประจำทุกวัน คอยตัดแต่งเล็มขนที่ติดเป็นสังกะตังเป็นประจำทุกวัน จะไม่ค่อยผลัดขนแต่ขนจะเป็นแผงสังกะตัง แล้วนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ควรเลี้ยงเขาไว้นอกบ้าน 
 
     บิชอง ฟริเซ่ ต้องการอาบน้ำบ่อยหากเทียบกับน้องหมาพันธุ์อื่น ๆ ที่มีขนยาวปานกลาง ต้องอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ หรืออย่างนานสุดไม่ควรเกินเดือนค่ะ ถ้าเขาไม่ได้ออกไปข้างนอกบ่อย ๆการอาบน้ำจะล้างน้ำมันบนขนที่เป็นสาเหตุของการทำให้ขนติดเป็นสังกะตัง หูก็ควรดูแลอย่างดี ถ้าเลี้ยงในบ้านก็ควรตัดเล็บ เพราะถ้ายาวเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้
 
     บิชอง ฟริเซ่ต้องการการออกกำลังกาย คนส่วนใหญ่จะแค่ให้อาหาร กับพาไปอาบน้ำ ต้องออกกำลังกายแต่จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับอายุ  บิชอนต้องการการออกกำลังน้อย เพราะตลอดทั้งวันพวกเขาวุ่นวาย กระโดดไปโน่น เล่นไปนี่ ตลอดเวลา มีพลังงานเยอะเกินพิกัด น้องหมาพันธุ์นี้ตัวเล็ก ไม่ต้องการพื้นที่ในการออกกำลังกายมาก ให้เดินเล่นหน้าบ้าน เล่นลูกบอลก็เพียงพอ เพราะไม่ได้เป็นสายพันธุ์ที่ไว้ล่าสัตว์ตลอดทั้งวัน หรือเดินขึ้นภูเขา

  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะกับอพาร์ตเม้นท์ อยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แต่พวกเขาก็ต้องการการออกกำลังกาย เพราะมีพลังงานเหลือเฟือมาก แต่ก็ไม่ควรถูกทิ้ง หรือเลี้ยงไว้นอกบ้าน ไม่ต้องการพื้นที่ในบ้านมากมาย พวกเขาปรับตัวได้กับทั้งอุณหภูมิหนาวหรือร้อน แต่ก็ไม่ควรหนาวหรือร้อนจนเกินไป


  ข้อควรจำ
 
     ความผิดปกติของกระดูกสะบ้าหัวเข่า มีผลทำให้เคลื่อนไหวไม่ดี กะเผลก บางทีก็เข่าล็อก ฟันร่วง ต้อกระจก ติดเชื้อที่หู ผู้เลี้ยงควรสังเกตอย่างใกล้ชิดเมื่อมีอาการผิดปกติ และควรพาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #38 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 03:46:23 pm »



 THANK!! ลักษณะทั่วไป

     บีเกิลถูกจัดอยู่ในกลุ่ม "สุนัขไล่หมาจิ้งจอกขนาดเล็ก" ขนสั้นเรียบลำตัวมีความยาวของลำตัวมากกว่าด้านสูงเล็กน้อย หูชิดกับหัว ปกติสีของบีเกิ้ลมี 3 สี ขาว ดำและแทน แต่สีที่เด่นและเป็นที่ยอมรับ คือสีผสมกันทุกสีจะเป็นที่ยอมรับ สุนัขบีเกิ้ลเป็นสุนัขที่อยู่ในกลุ่มต้นๆ ของสุนัขล่าสัตว์ แผลเป็นส่วนใหญ่มักเกิดจากการล่าสัตว์ รอยตัด รอยแหว่งที่หู ที่อาจเกิดจากหญ้า หนาม ใบไม้เป็นพิษ เป็นต้น

 THANK!! ความเป็นมา

     ต้นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์บีเกิลนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เชื่อกันว่าสุนัขกลุ่ม Hound สายพันธุ์นี้น่าจะมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษตั้งแต่ยุคสมัยก่อนที่จักรวรรดิโรมันจะเข้ายึดครอง บางรายงานกล่าวว่ามีการพบสุนัขสายพันธุ์นี้ในสมัยฝรั่งเศสและกรีกโบราณ และมีหลักฐานที่แน่ชัดชิ้นหนึ่งซึ่งบ่งชี้ว่ามีการใช้สุนัขสายพันธุ์บีเกิลนี้สำหรับล่าสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างกระต่าย ตั้งแต่ยุคสงครามครูเสด



     สุนัขสายพันธุ์บีเกิลสามารถพบเจอได้เกือบทุกพื้นที่ของประเทศอังกฤษเนื่องจากเป็นสายพันธุ์ซึ่งชาวอังกฤษนิยมเพาะมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง ความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของพวกเค้าคือมีความคล่องแคล่วปราดเปรียวอย่างสูงในการไล่ล่าและแกะรอยกระต่ายป่า ดังนั้นนายพรานชาวอังกฤษจึงมักพาเจ้าบีเกิลออกไปเป็นฝูงๆ แต่เช้ามืดเพื่อดมกลิ่นหาเหยื่อ เมื่อพวกเค้าได้กลิ่นเป้าหมายก็จะเห่าบอกเจ้านายและตามตีวงล้อมอย่างไม่ลดละ บีบให้เหยื่อเหลือทางหนีน้อยที่สุด (และหากเจ้ากระต่ายตัดสินใจหนีออกทางที่เหลืออยู่ก็มักต้องพบนายพรานดักรออยู่นั่นเอง) ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมของนายพรานชาวอังกฤษเป็นอย่างมาก

     ในเวลาต่อมา ได้มีผู้นำสุนัขสายพันธุ์บีเกิลไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง หากแต่บีเกิลที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาช่วงแรกๆ นั้นก็ยังไม่มีรูปร่างสวยงามตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์เหมือนอย่างบีเกิลของประเทศอังกฤษ กระทั่งถึงปี ค.ศ.1870 จึงมีนักพัฒนาสายพันธุ์สุนัขชาวสหรัฐฯ กลุ่มหนึ่งเริ่มหันมาสนใจพัฒนาสายพันธุ์ของบีเกิลอย่างจริงจัง จนทำให้ได้บีเกิลซึ่งมีลักษณะดี เป็นที่ยอมรับ ถูกต้องตามมาตรฐานในที่สุด ซึ่ง American Kennel Club ก็ได้ทำการจดทะเบียนรับรองสุนัขสายพันธุ์บีเกิลตัวแรกเมื่อปี ค.ศ.1885 และต่อมาในปี ค.ศ.1888 จึงได้มีการก่อตั้งชมรมผู้เพาะพันธุ์บีเกิลแห่งสหรัฐฯ ขึ้นอย่างเป็นทางการ



     ปัจจุบันสุนัขสายพันธุ์บีเกิลยังคงเป็นสุนัขซึ่งมีผู้นิยมเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยความน่ารัก คล่องแคล่ว และเป็นมิตรกับทุกคน อย่างไรก็ตามบีเกิลอาจไม่เหมาะนักสำหรับการเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เพราะความที่เค้าต้องการสังคมสูง ชอบเล่นสนุก ชอบผูกมิตรกับสมาชิกในครอบครัวและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ดังนั้นหากปล่อยให้เค้าต้องอยู่ตามลำพังเป็นเวลานานจนเกินไปอาจทำให้เค้าเกิดความเครียดและนำไปสู่พฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์หลายๆ ประการ

 THANK!! ลักษณะนิสัย
       บีเกิลเป็นสุนัขที่เป็นมิตร ร่าเริง ไม่ขี้อาย ไม่ขี้กลัว และไม่ก้าวร้าว ต่อคนหรือสัตว์อื่นๆ ด้วยขนาดที่กระทัดรัด และด้วยที่เค้าชอบคน บีเกิลจึงเป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กๆได้ดี บีเกิ้ลสามารถปรับตัวเข้ากับคนได้เป็นอย่างดีจนเค้าไม่เหมาะจะเป็นสุนัขกลางแจ้ง การที่ถูกทิ้งไว้หลังบ้านตลอดเวลา จะทำให้เค้าเบื่อซึ่งจะแสดงออกโดย การเห่า หอน ขุด และพยายามหนี้



 THANK!! การดูแล

     การดูแลทำความสะอาดให้สุนัขขนสั้นอย่างบีเกิลนั้นแสนง่าย แค่อาบน้ำให้เค้าอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ จากนั้นก็เช็ดหรือเป่าตัวของเค้าให้แห้งพร้อมๆ กับแปรงขนไปด้วย หรือถ้าไม่สกปรกมากอาจใช้แค่ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตัวให้เค้าก็ได้ ส่วน เรื่องการแปรงขนให้บีเกิลสามารถทำได้โดยง่าย เนื่องจากว่าเค้ามีขนสั้นและสีเข้ม ควรแปรงขนให้แก่น้องบีเกิลทุกๆ 3-4 วัน เพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไปและช่วยเพิ่มความเงางามแข็งแรงแก่เส้นขน

และถึงแม้ว่าสุนัขสายพันธุ์บีเกิลนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยเหตุที่จุดประสงค์ดั้งเดิมที่เค้าถูกพัฒนาขึ้นมาคือการเป็นสุนัข สำหรับล่าสัตว์ ทำให้พวกเค้ามีพลังงานในตัวมากและชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง จึงควรพาน้องบีเกิลไปออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น และหากอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่มีบริเวณกว้างขวางนัก อย่างเช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ ก็จะต้องพิจารณาให้ดีว่าพอมีเวลาและมีสวนสาธารณะใกล้เคียงที่สามารถพาเค้าไปเดินเล่นออกกำลังได้หรือไม

 THANK!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บีเกิลเป็นสุนัขที่เหมาะกับเด็กๆ ดังนั้นครอบครัวที่มีเด็กจึงเหมาะกับการเลี้ยงสุนับพันธุ์นี้มากๆ



 THANK!! ข้อควรจำ

     บีเกิลไม่ชอบและจะเบื่อถ้าถูกทิ้งอยู่ตามลำพัง ตัวเดียวได้เป็นเวลานานๆ ถ้าพวกเขารู้สึกเบื่อ เขาจะซนมาก คอยจะขุดหลุม หลีกหนี หรือดึงเสื้อผ้าที่ตากบนราวลงมาเล่น   

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #39 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 04:03:41 pm »



 ju_ju!! ลักษณะทั่วไป

      บูลเทอร์เรีย เป็นสุนัขในกลุ่ม (Terrier Group) คือ หนึ่งในสุนัขประเภทเทอร์เรีย 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ในการกัดสุนัข ได้แก่ American Pittbull Terrier, Staffordshire Bull Terrier, Miniature Bull Terrier, และ Bull Terrier ทั้งนี้ สุนัข บูลเทอร์เรีย จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 15 ปี น้ำหนักมาตรฐานอยู่ระหว่าง 52-62 ปอนด์ ส่วนสูงอยู่ที่ 21-22 นิ้ว บูลเทอร์เรีย ดูแลง่าย ขนสั้น มีหลายสี ทั้งสีขาวล้วน ขาวแต้มดำหรือสีน้ำตาล และลายเสือ บูลเทอร์เรีย นับเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างพละกำลัง และความงดงาม มีลําตัวและโครงสร้างที่แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มีส่วนสัดที่รับกันอย่างพอดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว กระตือรือร้น มีไหวพริบและความฉลาด แบบฉบับของ สุนัข บูลเทอร์เรีย อันเป็นที่ยอมรับกันนั้นต้องขาวบริสุทธิ์ คือขาวปลอด จมูกดำปิ้ด รูปร่างสันทัดล่ำสัน ขากรรไกรแข็งแรง และนัยน์ตาเป็นรูปสามเหลี่ยม นั่นแหละเขาหละ

 ju_ju!! ความเป็นมา

    สุนัข บูลเทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มเทอร์เรีย มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ราวปี ค.ศ.1835 เป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง บูลด็อก (Bulldog)กับ อิงลิชเทอร์เรียสีขาว (English White Terrier )ได้ออกมาเป็น "บูลแอนด์เทอร์เรีย" แต่เนื่องจากตัวเล็กเกินไป สองสามปีต่อมาจึงมีคนเอา บูลแอนด์เทอร์เรีย ไปผสมกับ สแปนิช พอยน์เตอร์ (Spanish Pointer Blood) ทำให้ได้บูลเทอร์เรียที่ตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งการพัฒนาสายพันธุ์ก็มีมาเรื่อยๆ กระทั่งในปี ค.ศ. 1850 มีการผสมพันธุ์ให้ขนสั้นลงมีสีขาวล้วน



 ju_ju!! ลักษณะนิสัย

     สุนัขบลูเทอร์เรีย เป็นนักสู้ที่อ่อนหวานโดยธรรมชาติ เป็นนักสู้ที่ใจถึง เป็นสุนัขอารักขาที่กระฉับกระเฉง รักครอบครัวและอาณาเขตของเขาโดยสัญชาติญาณ ผู้ที่อาศัยอยู่ตามอพาร์ทเม้นท์ซึ่งมีเนื้อที่จำกัด จะนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อช่วยอารักขา เนื่องจากเป็นสุนัขอารักขาที่ดี แล้วยังเป็นสุนัขที่ประหยัดอีกด้วย บางครั้งอาจจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่ก็เป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้เขาอยู่ในโอวาทควรมีการฝึกปรือตั้งแต่วันแรกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจะเลี้ยงเขารวมกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น โดยธรรมชาติแล้วจะก้าวร้าวกับสุนัขที่ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น



 ju_ju!! การดูแล

     บูล เทอร์เรียร์ จะมีการผลัดขน 2 ครั้งต่อปี ขนที่หมดอายุสามารถเอาออกได้เป็นประจำทุกวันโดยการแปรงขน ควรตรวจเล็บและนิ้วติ่ง เป็นประจำทุกเดือนและคอยตัดเล็บโดยใช้กรรไกรตัดเล็บสุนัข บูล เทอร์เรียร์ โดยธรรมชาติผิวหนังจะค่อนข้างแพ้แสงแดดดังนั้นควรเอาใจใส่ดูแลในเดือนที่มีอากาศร้อนเป็นพิเศษ บูล เทอร์เรียร์ ต้องการรั้วรอบขอบชิดเพื่อ ความปลอดภัย บริเวณสนามวิ่งเล่นที่มีขนาดใหญ่สักหน่อยเพื่อจะได้ไม่ต้องล่ามโซ่หรือผูกเขาไว้กับที่ และสิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องการคือมิตรภาพจากพวกเรา



 ju_ju!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     บูล เทอร์เรียร์ สามารถทนพฤติกรรมของของเด็กได้มาก แต่จะไม่ทนหากถูกแหย่และสามารถเกเรถ้าถูกแหย่ให้โกรธเสมอๆ เจ้าของ บูล เทอร์เรียร์ ต้องมีความรับผิดชอบสูงและการผสมพันธุ์ควรจะอยู่ในความรับผิดชอบและการดูแลของผู้เป็นเจ้าของสุนัขเท่านั้น

 ju_ju!! ข้อควรจำ

     แม้ว่าโดยทั่วไปสุขภาพจะดีก็ตาม แต่ บูล เทอร์เรียร์ ก็มีแนวโน้มเกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังได้ง่าย โดยเฉพาะแผลจากการถูกแมลงกัด ส่วนในลูกสุนัขควรตรวจดูว่าหูหนวกหรือไม่

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #40 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 04:13:48 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกเป็นหนึ่งในกลุ่มสายพันธ์สวิสส์  เมาน์เทนด็อก  แต่เป็นพันธุ์เดียวเท่านั้นที่มีขนยาวสลวยราวแพรไหม เติบโตในสภาพอากาศหนาวเย็น  ฉลาดหลักแหลม ร่างกายแข็งแรงและแข็งแกร่งสามารถทำงานหนักและทำงานได้ดีบนภูเขา ซึ่งเป็นถิ่นต้นกำเนิดของเขานั่นเอง เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่โครงสร้างแข็งแรง มีขนสีดำ สีสนิมและสีขาวอยู่บนตัว และมีความโดดเด่นเฉพาะตัว  เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกตัวผู้จะดูแข็งแกร่งทะมัดทะแมง  ในขณะที่ตัวเมียจะดูแจ่มใสร่าเริง อายุโดยเฉลี่ย 14 ปี

  ความเป็นมา

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงก่อนคริสตวรรษที่ 17  ซึ่งชื่อสายพันธุ์ได้รับการตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขตการปกครองแห่งเบิร์น  จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าว ด้วยลักษณะรูปร่างที่ใหญ่ มั่คง แขงแรง สุขุม มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำให้พวกเขาถูกเลือกนำไปใช้ในการทำงาน เพื่อการขนส่ง หรืองานดูแลฟาร์ม พื้นที่การเพาะปลูก อีกทั้งยังเป็นมิตรที่ดีเยี่ยมกับชาวไร่ชาวนา ด้วยเหตุนี้เองจุดประสงค์หลักของการเลี้ยง เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกแรกเริ่มเดิมทีจึงเลี้ยงไว้เพื่อเป็นสุนัขในฟาร์ม



  ลักษณะนิสัย

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง กล้าหาญ ซื่อสัตย์  ตื่นตัว ฉลาด เป็นมิตร อ่อนโยน  ใจดีมีเมตตาเข้ากับสัตว์อื่นๆได้ง่าย  ไม่ก้าวร้าวหรือขี้อาย ยืนตั้งตัวตรงสง่าแม้จะพบเจอคนแปลกหน้าก็ตาม  แต่ง่ายที่จะถูกยั่วยุจากสัตว์หรือวัตถุขนาดเล็กที่เคลื่อนไหวไปมา เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกชอบอยู่และเป็นส่วนหนึ่งกับคนในครอบครัว ต้องการความรักและความอบอุ่นมากๆ

  การดูแล
 
     การออกกำลังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  เพราะพวกเขาสืบเชื้อสายสุนัขฟาร์มมาแต่กำเนิด อย่างไรก็ตามการฝึกฝนวินัยก็จำเป็นมากเช่นกัน โดยวิธีการออกกำลังการที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา คือการพาเดินช้าๆระยะทางยาวๆ รอบเมืองหรือในสวนสาธารณะ นอกจากนี้ เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก ยังรักและต้องการเวลาอยู่กับคนในครอบครัว พวกเขาจะมีความสุขมากๆถ้าได้อยู่ใกล้และมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ในส่วนการดูแลความสะอาด เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  มีแนวโน้มว่าจะพลัดขนบ่อยเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนให้เขาอย่างสม่ำเสมอ



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่สนใจเลี้ยงเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  จำเป็นต้องมีเวลาให้พวกเขาค่อนข้างสูง ทั้งการพาออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ สภาพขน และ เวลาที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับเขาอย่างใกล้ชิด

  ข้อควรจำ

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกบริเวณสะโพกและข้อขา นอกจากนี้สิ่งที่ผู้เลี้ยงจะต้องระวังก็คือ ถึงแม้เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก จะไม่ได้มีสัญชาตญาณนักล่ามาแต่กำเนิด แต่บ่อยครั้งที่พวกเขาวิ่งไล่กัดสัตว์หรือสิ่งทีชีวิตตัวเล็กๆ และบางตัวก็มีแนวโน้มจะเป็นนักขุด เรื่องการฝึกวินัยจึงจำเป็นสำหรับพวกเขา 

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #41 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 04:35:00 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     สุนัขปอมเมอเรเนียนหรือเรียกสั้นๆ ว่า น้องปอมอยู่ในกลุ่ม Toy Group มีขนาดกระทัดรัด หลังสั้น ขนชั้นล่างอ่อนนุ่ม แน่นทึบ ขนชั้นนอก ยาว ฟู มีมาก ค่อนข้างหยาบ ตำแหน่งโคนหางสูง ขนหางแน่น เป็นพวง หางวางราบบนหลัง ปอมส่วนใหญ่ ท่าทางตื่นตัว ร่าเริง อยากรู้อยากเห็น แสดงความฉลาดให้เห็นได้เสมอ มีย่างก้าวที่คล่องแคล่ว สง่างาม และมั่นคง

  ความเป็นมา

     บรรพบุรุษของน้องปอมย้อนกลับไปถึงยุคก่อนคริสตกาล พบภาพวาดในแผ่นหินและรูปหล่อสัมฤทธิ์ตามโลงศพที่พบในอียิปต์ พบโครงกระดูกสุนัขพันธุ์เล็กคล้ายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ในอุโมงค์ที่บรรจุศพสมัยโบราณของชาวอียิปต์



     เชื่อกันว่า ปอมเมอเรเนียนได้รับการพัฒนาให้เป็นน้องปอมในปัจจุบัน ครั้งแรกที่เมืองปอมเมอเรเนีย ประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในยุโดรเหนือแถบทะเลบอลติก ดินแดนกว้างใหญ่จากตะวันตกของเกาะรูเกนถึงแม่น้ำวิทูลา ที่แห่งนี้มีการเลี้ยงสุนัขอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อให้เป็นสัตว์และเพื่อให้เป็นสุนัขอารักขา ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดจากพันธุ์สปิทซ์ในสมัยโบราณ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมเมอเรเนียนพัฒนาจากสุนัขพันธุ์ซามอยด์

     ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศรัสเซียแถบไซบีเรีย บางคนเชื่อว่าพัฒนามาจากสุนัขป่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามถ้ำในประเทศเยอรมัน และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะในทวีปยุโรปตอนกลางและตอนล่าง นำมาพัฒนาในยุโรปเพื่อช่วยในการเลี้ยงแกะ ซึ่งบรรพบุรุษของปอมฯ น่าจะมีน้ำหนักมากถึง 30 ปอนด์ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมฯ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ โดยอ้างหลักฐานจากภาพวาดสมัยโบราณหลายภาพที่มีอายุ 400 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบประมาณ 2500 ปีมาแล้ว มีภาพของสุนัขขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนสุนัขปอมฯ ในปัจจุบัน คือ Stop ที่เด่นชัด ช่วงปากแหลม หูสั้น ลักษณะการเดินและการแสดงออกเหมือนกับที่พบได้ในปัจจุบันทุกประการ ยกเว้นแต่ตำแหน่งของหางที่อยู่ต่ำเกินไปเท่านั้น

     แสดงว่าสุนัขพันธุ์ปอมนี้มีขนาดเล็กมากตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ไม่ใช่เพิ่งพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมาตามที่มีคนในประเทศอังกฤษอ้างเสมอ ประมาณปี 1800 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ทรงมีความชื่นชอบในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและส่งสุนัขของพระองค์ลงประกวด ทำให้เกิดความนิยมปอมเมอเรเนียนอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ และเพราะความที่พระองค์โปรดปรานสุนัขที่มีขนาดเล็ก

     ผู้เพาะพันธุ์หลายคนเริ่มที่จะคัดสุนัขที่มีขนาดเล็ก ปัจจุบันปอมฯ ที่เราเห็นอยู่มีขนาดที่เล็กลงจากปอมฯ ที่เป็นต้นตำรับ 4-5 ปอนด์ ความฉลาดและความสามารถของปอมฯ ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นพระเอกในคณะละครสัตว์อย่างต่อเนื่อง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเยอรมัน นิยมเลี้ยงกันเป็นฝูง บางแห่งทำเป็นสุนัขลากเลื่อนก็มี ปอมฯ เข้าสู่อังกฤษช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น มีการตั้งชมรมคือ English Pomeranian Club ในปี 1891 ภายหลังสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงออกงานพร้อมสุนัขพันธุ์นี้บ่อยครั้ง ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว

ส่วนในประเทศอเมริกามีการปรากฎตัวครั้งแรกของปอมฯ ที่งานกระกวดสุนัขแห่งหนึ่งประมาณปี 1892 ไม่กี่ปีหลังจากนั้นมีการสั่งนำเข้าอีกเกือบ 200 ตัว มาตรฐานของปอมฯ โดยทั่วไป รูปรางจะเหมือนสุนัขจิ้งจอก มีขนาดกลาง ตาเป็นวงรีสีดำ หูเล็กตั้งตรง ลำตัวสั้นขนาดกระทัดรัด หางเป็นพวงแผ่อยู่บนส่วนหลัง



  ลักษณะนิสัย

     น้องปอมส่วนใหญ่มีการแสดงออกถึงความเฉลียวฉลาด ร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ขี้ประจบ แต่เป็นสุนัขค่อนข้างตกใจง่าย เห่ามาก ยิ่งตัวเล็กยิ่งเห่าเก่ง

  การดูแล

     การที่จะรักษาขนของสุนัขปอมเมอเรเนียน ให้สวยงามนั้นทำได้ง่ายมาก เจ้าของสุนัขใหม่ๆส่วนใหญ่จะเชื่อว่า จะต้องอาบน้ำให้สุนัขทุกสัปดาห์ และต้องคอยแปรงขนตลอด ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด และจะทำให้ขนของเค้าเสียอีกด้วย

     การอาบน้ำบ่อยเกินไป จะทำให้ขนของปอมเมอเรเนียนแห้ง บาง และทำให้ขนร่วงตลอดเวลา การใช้โลชั่น และน้ำยาทำความสะอาดชนิดต่างๆ ติดต่อกันก็จะทำให้ผิวหนังอักเสบได้ ส่วนใหญ่แม้ว่าขนชั้นนอกจะสกปรกแล้ว แต่ขนชั้นในก็จะยังคงสะอาดอยู่ ด้งนั้นการแปรงขน เพียงสัปดาห์ละครั้ง และใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่อุ่นๆ ลูบขน จากนั้นจึงเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดอุ่นๆ ซึ่งบิดพอหมาดๆ ก็นับว่า เพียงพอที่จะทำให้ขน ของปอมเมอเรเนียนอยู่ในสภาพดีแล้ว



    แชมพูที่ใช้อาบน้ำให้สุนัขควรเป็นแชมพูที่ผลิตโดยเฉพาะ เพราะจะไม่ส่งผลกระทบต่อการระคายเคืองของผิวหนังและสภาพขน ในขณะอาบน้ำอาจจะใช้สำลีอุดรูหูทั้งสองข้างก่อนอาบ หรือใช้มือกดใบหูทั้งสองข้างให้หลุบลง เวลาอาบน้ำควรราดน้ำให้เปียกทั่วตัวก่อนแล้วจึงเทแชมพูลงไปแล้วเกาให้ทั่วลำตัว หลังจากนั้นก็ใช้น้ำล้างสบู่ออกให้สะอาดหมดจด เมื่ออาบเสร็จก็ต้องเช็ดตัวให้แห้งพร้อมกับแปรงขนทุกครั้ง การเช็ดตัวให้แห้งเป็นการป้องกันความอับชื้นซึ่งเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค และช่วยป้องกันโรคปอดบวมได้

     ส่วนในด้านของการออกกำลังกายนั้น การออกกำลังกายมากๆ หรือใช่พื้นที่เยอะๆ ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับปอมเมอเรเนียน แต่เราควรหันมาใส่ใจสักนิด ควรเริ่มพาปอมฯออกกำลังกายตั้งแต่ยังเล็กเพราะจะสามารถควบคุมเวลาในการออกกำลังกายไ ด้ ควรให้เดินเล่นวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 นาที ถ้าปล่อยให้วิ่งเล่นกลางแจ้งนานเกินไป(โดยเฉพาะเวลาที่แดดจัด)อาจทำให้สุนัขเกิดอาการช็อค อาการนี้อาจส่งผลให้สุนัขเสียชีวิตได้

     การพาน้องปอมไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ปอมท้องไม่ผูก และสามารถป้องกันโรคได้อีกหลายๆชนิด การที่สุนัขได้วิ่งด้วยความเร็วและสนุกสนาน มีผลดีต่อหัวใจ หลอดเลือด กล้ามเนื้อ ต่อมขับต่างๆ ได้อุ่นเครื่องจนร้อน เมื่อกลับจากการออกกำลังกายก็สามารถกินอาหารได้มากขึ้น ยิ่งถ้าได้อาหารที่ถูกต้องยิ่งทำให้สุนัขมีสัดส่วนที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงมันจะมี step การเคลื่อนไหวที่ดี และสวยงาม อย่างไรก็ดีไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายหลังจากที่กินอาหารอิ่มเต็มที่



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่มีเวลาเอาใจใส่ดูแลเรื่องความสวยงามของสุนัข จำเป็นต้องมีการดูแลตัดแต่งขนของสุนัขอยู่เสมอเพื่อความสวยงาม นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีพื้นที่ในการเลี้ยงที่จำกัด

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #42 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 04:43:00 pm »



  ลักษณะทั่วไป

   สุนัข พันธุ์ปักกิ่งมีบุคลิกแบบสวย เริ่ด เชิด และหยิ่งในศักดิ์ศรี พร้อมด้วยอาการดื้อดึงแต่พองาม เป็นสุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเอง มีท่าทีการเคลื่อนไหวอย่างสง่างามระเหิดระหง อารมณ์ดีแต่สงบเงียบ ไม่เอะอะโวยวายหรือร่าเริงเกินเหตุ แต่ก็ใช่ว่าจะนิ่งจนน่าเบื่อ ถ้าอยู่กับเจ้านายหรือผู้ที่คุ้นเคยมันก็จะเล่นด้วยอย่างสนุกสนานน่ารัก นอกจากนี้ปักกิ่งยังเป็นสุนัขที่กล้าหาญ ไม่เคยมีประวัติเรื่องวิ่งหนีหางจุกตูด เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทรหดอดทนและเลี้ยงง่าย ทั้งยังเป็นมิตรและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างยิ่งด้วย

  ความเป็นมา

   มีหลักฐานว่าคนจีนเลี้ยงสุนัขขนาดเล็กมาตั้งแต่ 1500 ปีก่อนแล้ว ในปี ค.ศ. 565 พระเจ้าจักรพรรดิประเทศจีนทรงพระราชทานนามสุนัขของพระองค์ว่า "ชิ ซู" หรือ "เสือแดง" เป็นสุนัขเปอร์เซียน เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทรงม้า "เสือแดง" จะขึ้นไปนั่งบนตะกร้าที่ผูกไว้ด้านหน้าอานม้า ในปี ค.ศ. 620 มีบันทึกว่าสุนัขตัวผู้ตัวเมียคู่หนึ่ง สูงประมาณ 6 นิ้ว ถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายจักรพรรดิเกาสู

     บันทึกอ้างว่าสุนัขคู่นี้มีความเฉลียวฉลาดมาก สามารถนำทางม้าในเวลากลางคืน หลักฐานทำนองนี้สืบเนื่องกันมากจนกระทั่งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อราชวงศ์ของกุบไลข่านถูกพิชิตลง บันทึกหลักฐานต่างๆ ก็หมดสิ้นลงไปด้วย เป็นเวลาสืบเนื่อง 33 ปี เรารู้แต่ว่าคนจีนหันมานิยมเลี้ยงแมวแทนสุนัข โดยเฉพาะในสังคมชั้นสูง ธรรมเนียมการเลี้ยงสุนัขขนาดเล็กของจีนมาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดระหว่างปี ค.ศ. 1820 ถึง 1850 ในช่วงเวลานั้นมีสุนัขอยู่หลายพันธุ์ในนครปักกิ่ง พวกขันที 4000 คน ยังมีหน้าที่เฉพาะในการผลิตเพาะสุนัขแบบที่เราเรียกว่า "พันธุ์ปักกิ่ง" ด้วย

     พระนางซูสีไทเฮาทรงเป็นผู้ทำนุบำรุงกิจกรรมนี้ พระนางยังทรงกระตุ้นให้สร้างรูปแบบพันธุ์คล้ายกับ "สุนัขสิงห์โต" แบบเก่า กิจกรรมข้อหนึ่งก็คือจัดร่างกฎเกณฑ์แบบเฉพาะของสุนัข ข้อความที่นำมาเสนอแบบย่อๆ มีดังนี้ "จงให้มันสวมคลุมขนแห่งความสง่ารอบๆ คอ ขาคู่หน้าของมันจะต้องโค้ง เพื่อไม่ให้มันเดินออกไปไกลๆ หรือเดินออกนอกเขตพระราชฐาน จงสอนมันให้ละเว้นการเตร็ดเตร่ไปมา ให้มันมีขนเหมือนสิงห์โต เหมาะที่จะอุ้มไว้ในชายแขนเสื้อคลุม …" กฤษฎีกานี้ยังกำหนดต่อไปถึงอาหารของสุนัข เช่น "หูฉลาม" "ตับนก" และ "ส่วนอกนกกระทา" เราอาจจะไม่ถือเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังนัก อย่างไรก็ตามหลักฐานนี้ ทำให้เรารู้ว่ามีสุนัขพันธุ์ปักกิ่งเกิดขึ้นมาแล้ว และมักจะพบสุนัขพันธุ์นี้ในพระราชวังเท่านั้น ในสมัยก่อนผู้ใดขโมยสุนัขนี้จะได้รับโทษถึงประหารชีวิต



     พระราชวังแห่งปักกิ่งถูกชาวต่างชาติบุกเข้ายึดครองเมื่อปี ค.ศ. 1860 ก่อนการสูญเสียมีคำสั่งจากพระราชวงศ์ว่า  ให้สุนัขตายไปเสียดีกว่า จะให้ตกอยู่ในมือของคนต่างชาติ เจ้าฟ้าหญิงพระองค์หนึ่งไม่ยอมเสด็จหนี ทั้งไม่ยอมให้ทหารดรากูนเข้าจับกุมด้วย ทรงปลงพระชนม์ชีพของพระองค์เอง แต่ไม่ได้ทำลายสุนัขที่เลี้ยงไว้ สุนัขปักกิ่งสี่ตัวถูกทหารยึดได้ ตัวหนึ่งถูกส่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระราชินีวิคตอเรีย อีก 3 ตัวที่เหลือยุคแห่งริชมอนด์เลี้ยงดูไว้ ต่อมาก็มีผู้นำตัวอื่นๆ เข้าสู่อังกฤษอีก ตัวหนึ่งได้นำถวายควีนวิคตอเรีย ส่วนอีก 3 ตัวมอบให้ LORD HAY และได้แพร่พันธุ์กระจายไปทั่วไปโลก ซึ่งก็หมายถึงการเลี้ยงดูเพาะสร้างสายพันธุ์ที่ตามมา

เรื่องราวเหล่านี้อ่านแล้วเหมือนนิยาย แต่ก็เป็นเรื่องจริง เรื่องคล้ายนิยายและความเกี่ยวพันกับราชวงศ์ซึ่งเป็นของสูงนี้ ทำให้พันธุ์ปักกิ่งได้รับความนิยมอย่างใหญ่หลวง ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น LION DOG SUN DOG หรือ STEEVE DOG ปักกิ่งเป็นสุนัขขนาดเล็กที่น่าสนใจที่สุด และมีบุคลิกลักษณะที่ผิดธรรมดาที่สุด มันมีลักษณะผสมกันประหลาดๆ ของความขบขันและความทรนง เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ด้วยทั้งยังมีความหัวแข็งดื้อรั้นอย่างน่าทึ่ง บางครั้งก็ไม่ยอมรับคำสั่งโดยเด็ดขาด พวกมันชอบเก้าอี้นวมบุแพรไหม แต่ถ้ามีอารมณ์สนุกแล้วก็อกไปวิ่งไล่จับกระต่ายเลย

     ลักษณะเฉพาะตัวเหล่านี้ทำให้สุนัขพันธุ์นี้พุ่งขึ้นไปสู่ระดับสุดยอด พันธุ์ปักกิ่งไม่เคยหลุดออกจากยี่สิบอันดับแรกสุนัขยอดนิยมของอังกฤษ (Top Twenty) และยังคงติดอันดับสูงมาจนทุกวันนี้ สำหรับในสหรัฐอเมริกานั้นทั้งๆ ที่พันธุ์ปักกิ่งเพิ่งเข้าไปเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่ก็เป็นสุนัขระดับยอดนิยมแล้ว

  ลักษณะนิสัย

     สุนัขพันธุ์ ปักกิ่ง ปราศจากความกลัวต่อทุกสิ่งที่ทำให้ เขาโกรธ ไม่สนใจแม้กระทั่งขนาดสุนัขตัวอื่นหรือแม้แต่คนแปลกหน้า ความภักดีคือสิ่งที่บ่งบอกคุณลักษณะสุนัขพันธุ์นี้ได้ดีที่ สุดพวกเขาจะป้องกันทุกสิ่งที่พวกเขาคิดเป็นของพวกเขา



  การดูแล

     ปักกิ่ง ต้องการการเอาใจใส่ดูแลสัปดาห์ละครั้ง เพราะมีขนที่หนาและมีจำนวนมาก จึงต้องได้รับการแปรงขน และต้องทำความสะอาดขนเป็นประจำ นอกจากนั้นยังต้องทำความสะอาดบริเวณตา หู และบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ของตัวผู้ สัปดาห์ละครั้ง และตัดเล็บนิ้วเท้าให้สั้นอยู่เสมอ ปักกิ่ง ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงนอกบ้าน เนื่องจากเป็น สุนัขกลุ่มทอยซึ่งจะรักความสะดวกสบาย และความอบอุ่นของการใช้ชีวิตภายในบ้าน ควรจูงสุนัขเดินบนแข็งๆ สม่ำเสมอแต่ไม่ต้องไกลมาก

  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     สุนัขปักกิ่งเหมาะกับผู้เลี้ยงทุกเพศทุกวัย



  ข้อควรจำ

     ปักกิ่ง ไม่ใช่สุนัขที่จะนอนเล่นบนตักคุณอยู่นิ่งๆ แม้ว่าเขาจะชอบถูกกอดรัดเป็นครั้งคราวและอาจจู้จี้ บ้าง เขาอยู่ได้กับคนทุกวัยและสามารถเป็นเพื่อนไป ได้ตลอดชีวิต รักสนุกและชอบเล่น ตอนเป็นลูกสุนัขควรมีของเล่นให้เขาได้เล่น และเมื่อพวกเขาโตขึ้นพวกเขาก็จะเล่นกับของเล่น หรือลูกบอลบนสนามหญ้าภายในบ้าน ปักกิ่ง ยอมรับสภาพแวดล้อมทุกแบบแต่ชอบอยู่ในพื้นที่ของตนมากกว่า
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #43 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2014, 07:30:19 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     สุนัขพันธุ์ปั๊ก เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ดึงดูดให้ต้องหลงใหลทั้งความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ที่มีอยู่ในปั๊กสุนัขที่น่ารักพันธุ์นี้ ถ้ามีพื้นที่น้อยหรืออาศัยในห้องชุด ปั๊ก จะเป็นคำตอบสำหรับคุณ พวกเขาไร้ซึ่งกลิ่นอับที่อาจพบในสุนัขเล็กพันธุ์อื่น มีขนที่สั้นและไม่ค่อยมีการผลัดขน จึงเป็นสุนัขที่ค่อนข้างสะอาด



  ความเป็นมา

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีกำเนิดตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ต่อมาสุนัขพันธุ์ ปั๊ก กระจายไปอยู่ส่วนต่างๆของยุโรป ในประเทศฮอลแลนด์ให้เกียรติสุนัขนี้มาก

     เนื่องจากปั๊กได้ช่วยชีวิตของเจ้าชายวิลเลียม โดยการเตรียมให้รู้ว่าพวกสเปนได้ยกทัพเข้ามาใกล้แล้ว ส่วนฝรั่งเศส มเหสี นโป-เลียนได้ซ่อนจดหมายไว้ที่ปลอกคอของ ปั๊ก ไปให้นโปเลียนเพื่อบอกว่า พระนางถูกจับขังไว้ที่ LESCARMES เหตุการณ์นี้เกิดในปี 1970



  ลักษณะนิสัย

 
     ปั๊ก นั้นโดยส่วนใหญ่จะซน สามารถอยู่ในที่เล็กๆได้หรือสามารถอยู่ร่วมกันหลายตัวได้

  การดูแล

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก โดยส่วนมากจะขี้เกียจ ถ้าปล่อยให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มีอุปกรณ์ฝึกเขา ให้พาเขาเดินหรือเล่นเกม โยนของไปให้เขาเก็บทุกวัน แต่อย่าให้เขาออกกำลัง กายหนักๆในช่วงที่ มีอากาศร้อนหรือหลังกินอาหารเสร็จ

     ปั๊ก เป็นสุนัขที่ฉลาด และมีแนวโน้มที่จะดื้อไม่ค่อย เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ง่ายเลยที่จะฝึกสุนัขพันธุ์ปั๊ก แต่ก็สามารถฝึกได้ และจะทำให้พวกเขาเป็นสุนัขที่ ดีต่อไป ชมรมผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้หรือศูนย์ฝึก ที่สามารถฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งจะช่วย แนะนำคุณได้ และจะแนะนำทุกอย่าง ที่เจ้าของสุนัขควรรู้ เพื่อทำให้ ปั๊ก ตัวน้อยเป็นเพื่อนกับเรา ไม่ใช่แค่เป็นสัตว์เลี้ยงผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เนื่องจากปั๊กเป็นสุนัขที่ชอบอยู่กับคนดังนั้นเขาจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ปั๊กเป็นสุนัขตัวเล็กๆ ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวตลกโดยธรรมชาติและจะทำให้ คุณหัวเราะได้เสมอ พวกเขานอนกรน หายใจเสียงดัง ทำเสียงฟึดฟัดในจมูก หายใจออกแรง และจามใส่หน้าของคุณ



  ข้อควรจำ

     เนื่องจากรูปทรงของตาและหน้าทำให้ ปั๊ก มีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บที่ตาได้ง่าย ถ้าปั๊กของคุณกำลังถูตาอยู่ กระพริบตาถี่ๆ มีน้ำตาไหลมากเกิน หรือตามีการเปลี่ยนสีไป ควรปรึกษาสัตว์แพทย์ของคุณโดยทันที และการที่เป็นสุนัขจมูกสั้น ปั๊ก จึงมีปัญหาเกี่ยวกับเพดานปากอ่อน และจำเป็นต้องตรวจสอบอยู่เสมอ

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #44 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2014, 03:26:48 pm »



 ju_ju!! ลักษณะทั่วไป

     สุนัขพันธุ์ปั๊ก เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบของสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ดึงดูดให้ต้องหลงใหลทั้งความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ที่มีอยู่ในปั๊กสุนัขที่น่ารักพันธุ์นี้ ถ้ามีพื้นที่น้อยหรืออาศัยในห้องชุด ปั๊ก จะเป็นคำตอบสำหรับคุณ พวกเขาไร้ซึ่งกลิ่นอับที่อาจพบในสุนัขเล็กพันธุ์อื่น มีขนที่สั้นและไม่ค่อยมีการผลัดขน จึงเป็นสุนัขที่ค่อนข้างสะอาด

 ju_ju!! ความเป็นมา

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เป็นสุนัขที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง มีกำเนิดตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาลในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ต่อมาสุนัขพันธุ์ ปั๊ก กระจายไปอยู่ส่วนต่างๆของยุโรป ในประเทศฮอลแลนด์ให้เกียรติสุนัขนี้มาก



     เนื่องจากปั๊กได้ช่วยชีวิตของเจ้าชายวิลเลียม โดยการเตรียมให้รู้ว่าพวกสเปนได้ยกทัพเข้ามาใกล้แล้ว ส่วนฝรั่งเศส มเหสี นโป-เลียนได้ซ่อนจดหมายไว้ที่ปลอกคอของ ปั๊ก ไปให้นโปเลียนเพื่อบอกว่า พระนางถูกจับขังไว้ที่ LESCARMES เหตุการณ์นี้เกิดในปี 1970

 ju_ju!! ลักษณะนิสัย

 
     ปั๊ก นั้นโดยส่วนใหญ่จะซน สามารถอยู่ในที่เล็กๆได้หรือสามารถอยู่ร่วมกันหลายตัวได้

 ju_ju!! การดูแล

     สุนัขพันธุ์ ปั๊ก โดยส่วนมากจะขี้เกียจ ถ้าปล่อยให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มีอุปกรณ์ฝึกเขา ให้พาเขาเดินหรือเล่นเกม โยนของไปให้เขาเก็บทุกวัน แต่อย่าให้เขาออกกำลัง กายหนักๆในช่วงที่ มีอากาศร้อนหรือหลังกินอาหารเสร็จ



     ปั๊ก เป็นสุนัขที่ฉลาด และมีแนวโน้มที่จะดื้อไม่ค่อย เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ง่ายเลยที่จะฝึกสุนัขพันธุ์ปั๊ก แต่ก็สามารถฝึกได้ และจะทำให้พวกเขาเป็นสุนัขที่ ดีต่อไป ชมรมผู้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้หรือศูนย์ฝึก ที่สามารถฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งจะช่วย แนะนำคุณได้ และจะแนะนำทุกอย่าง ที่เจ้าของสุนัขควรรู้ เพื่อทำให้ ปั๊ก ตัวน้อยเป็นเพื่อนกับเรา ไม่ใช่แค่เป็นสัตว์เลี้ยงผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เนื่องจากปั๊กเป็นสุนัขที่ชอบอยู่กับคนดังนั้นเขาจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ปั๊กเป็นสุนัขตัวเล็กๆ ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวตลกโดยธรรมชาติและจะทำให้ คุณหัวเราะได้เสมอ พวกเขานอนกรน หายใจเสียงดัง ทำเสียงฟึดฟัดในจมูก หายใจออกแรง และจามใส่หน้าของคุณ



 ju_ju!! ข้อควรจำ

     เนื่องจากรูปทรงของตาและหน้าทำให้ ปั๊ก มีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บที่ตาได้ง่าย ถ้าปั๊กของคุณกำลังถูตาอยู่ กระพริบตาถี่ๆ มีน้ำตาไหลมากเกิน หรือตามีการเปลี่ยนสีไป ควรปรึกษาสัตว์แพทย์ของคุณโดยทันที และการที่เป็นสุนัขจมูกสั้น ปั๊ก จึงมีปัญหาเกี่ยวกับเพดานปากอ่อน และจำเป็นต้องตรวจสอบอยู่เสมอ

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #45 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2014, 03:31:10 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     สุนัขขนาดเล็กขาวยาวสลวยเหมือนเส้นไหม หูตั้งสวยรูปทรงคล้ายปีกผีเสื้อ ต้องการการดูแลมากกว่าสุนัขพันธุ์เล็กทั่วไป เนื่องจากมีคนยาวเป็นจุดเด่น เป็นมิตรรักเจ้าของ ชอบออกกำลังกาย หูลักษณะคล้ายกับปีกผีเสื้อ (Papillon ในภาษาฝรั่งเศส หมายถึงผีเสื้อ)

  ความเป็นมา
    ปาปิยองเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของยุโรป มีการสันนิษฐานถิ่ยกำเนิดว่าอยู่ในประเทศฝรั่งเศส บ้างสันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดในจีนแต่มีการนำไปค้าขายและขยายพันธุ์กันอย่างกว้างขวางในประเทศเสปน ซึ่งเดิมปาปิยองเป็นน้องหมาหูตก มีชื่อเรียกว่า สเปเนียลแคระ เป็นที่นิยมนำมาเป็นแบบวาดรูปของอิตาลีช่วงคริสศตวรรษที่ 13 ถึงคริสศตวรรษที่ 15 นอกจากนี้ยังพบในภาพวาดของฝรั่งเสศและเสปน ส่วนมากจะเป็นรูปน้องหมาปาปิยองนั่งอยู่บนตักของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ โดยทางสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขFCI ได้ตั้งชื่อพวกเขาอย่างเป็นทางการว่า "ทอย สเปเนียล" ต่อมามีการพัฒนาสายพันธุ์กลายมาเป็นปาปิยองหูตั้ง ขนหูแผ่ยาวสบายคล้ายปีกผีเสื้อ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นปาปิยอง ที่แปลว่า ผีเสื้อในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เลือกที่จะเรียกพวกเขาว่า "ปาปิยอง"  ส่วนปาปิยองหูตกจะเรียกเป็นอีกชื่อว่า "ฟาแลน" (Phalène) ซึ่งปาปิยองได้รับการจดทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เมื่อปีค.ศ. 1915

  ลักษณะนิสัย

     เป็นน้องหมาที่มีความฉลาดเฉลียว มีไหวพริบเป็นเลิศ หูไว ตาไว เป็นน้องหมาเฝ้าเวรยามได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเขายังเป็นมิตร รักเด็ก รักครอบครัว เชื่อฟังคำสั่ง มีความสามารถในการทำโชว์การแสดงต่างๆ รักรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ของคนในครอบครัว หรือคนแปลกใหม่ เก่งการสร้างความประทับใจ ขี้เล่น เหมาะกัลเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนรักของครอบครัว แต่ในบางอารมณ์ก็เอาแต่ใจตัวเอง เรียกร้องความสนใจ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และดื้อเงียบ

  การดูแล
 
      ปาปิยองมีขนที่ค่อนข้างยาว พลัดขนบ่อย รักความสะอาดจำเป็นต้องได้รับการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน โดยแปรงที่ใช้ควรเป็นแปรงที่มีความอ่อนนุ่ม ควรอาบประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และทำความสะอาดที่หูเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดการอักเสบได้ง่าย

     ส่วนการออกกำลังกาย ควรพาพวกเขาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือหากิจกรรมเกมสนุกๆ ให้พวกเขาได้เล่น พาเข้าสังคมบ้านจะได้ไม่กลัวหรือหวาดระแวงคนแปลกหน้า ที่สำคัญควรฝึกเอ็นเตอร์เทน เช่น ยืน 2 ขา เต้นระบำ หมุนตัว เป็นต้น พวกเขารักและมีความถนัดในด้านนี้มากๆ

  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ปาปิยองเป้น้องหมาน่ารักชอบอยู่กับคน แต่ก็ซุกซนมากๆ ก็ควรมีรั้วรอบขอบชิด หมั่นพาออกไปเดินเล่น พาไปออกกำลังกาย ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องคอยให้ความรัก ความเอ็นดูสุนัขด้วยนะ

     การพาปาปิยองเข้าสังคมก็เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นถึงธรรมชาตินิสัยจะเป็นน้องหมาจิตใจดี อ่อนโยนก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้พวกเขาหวาดกลัวคนแปลกหน้า เกิดพฤติกรรมก้าวราว จึงไม่ควรเก็บเขาไว้แต่ในบ้านไม่ให้พบปะเจอใคร อาจส่งผลให้พวกเขารู้สึกเหงา และรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณืได้ และที่สำคัญควรหมั่นแปรงขน และทำความสะอาดขนให้พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ

  ข้อควรจำ

     ปาปิยองมีกระดูกขาที่ค่อนข้างเล็กและเปราะบางควรระมักระวังเรื่องอุบัติเหตุ วิ่งชนตู้ โต๊ะ เตียง นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มมีปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูกขาหลัง ไม่ควรให้พวกเขาวิ่งกับพื้นลื่นๆ เป็นเวลานาน อีกตำแหน่งหนึ่งที่ควรระมักระวังคือบริเวณกลางกะโหลกศีรษะ ที่จะมีช่องเปิดตรงส่วนกลาง กะโหลกศีรษะค่อนข้างบาง ควรป้องกันไมให้ได้รับการกระทบกระเทือน แล้วถ้าดูแลรักษาสุขภาพเขาได้ดีก็จะสามารถมีอายุได้ยืนยาวเฉลี่ย 16 ปี

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #46 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2014, 03:35:09 pm »




  ลักษณะทั่วไป

     พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้มีลำตัวขนาดกลาง ลำตัวล่ำ ช่วงขาสั้น  ส่วนหัวคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก ใบหูตั้งชัน มีขนทั้งสีแดง สีชา น้ำตาลอ่อน น้ำตาลแดง และสีดำ หางสั้น ชอบอยู่ในพื้นที่เล็กๆแคบๆ จึงเป็นที่นิยมเลี้ยงไว้ในบ้าน  นอกจากนี้ยังเป็นขวัญใจในการประกวดสุนัขและการแข่งขันกีฬาสุนัขอีกด้วย เดิมทีพ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะขนาดเล็กเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดี  มีอยู่ด้วยกัน  2  สายพันธุ์  คือ  พันธุ์คาร์ดิแกน  หางยาว ปานกลาง  และพันธุ์เพ็มโบรค  หางสั้น  ตัวจะสั้นกว่า  กระดูกขาเล็กกว่า

  ความเป็นมา

     สุนัขสายคอร์กี้สายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในรัฐเพ็มโบรคเชียร์ แคล้นเวล์ส ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสายพันธุ์เก่าแก่เมื่อ  3,000  ปีก่อน  ในช่วงศตวรรษที่ 12 เริ่มด้วยตอนแรกเรียกสุนัขพันธุ์นี้ว่า เวลส์ เคอร์ (Welsh Cur) กระทั่งถึงศตวรรษที่ 19 จึงเปลี่ยนมาเรียกเป็น เวลส์ คอร์กี้ (Welsh Corgi) จนถึงปัจจุบัน โดยในปีค.ศ. 1107 ช่างทอผ้าชาวเฟรมมิช ซึ่งมีรกรากเดิมอาศัยอยู่ในประเทศเบลเยี่ยม ได้นำบรรพบุรุษสายตรงของพ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ข้ามช่องแคบระหว่างเกาะอังกฤษกับประเทศฝรั่งเศส เข้ามายังแคว้นเวล์ส สุนัขสายพันธุ์นี้ เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์หลายพันธุ์คือ คีชอน ,ปอมเมอเรเนียน ซามอยด์ นอร์วีเจียน เอลค์ฮาวนด์ และ ฟินนิช สปิตซ์



  ลักษณะนิสัย

     พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ดูภายนอกเหมือนห้าวหาญเด็ดเดี่ยว แต่จริงๆ แล้วใจดีมากๆ เชื่อฟังเจ้านายและฝึกง่าย  สุภาพอ่อนโยน อยากรู้อยากเห็น มีความกล้าหาญเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดี แต่ไม่ก้าวร้าว ไม่ชอบเห่า พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า และน้องหมาตัวอื่นๆ ติดเจ้าของ ไม่ว่าจะเจ้าของจะไปไหนก็อยากไปด้วย

  การดูแล

     พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้เดิมเป็นสุนัขที่เติบโตในฟาร์ม เขาจึงต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ เช่นเดียวกันกับการแปรงขนเพื่อให้ขนนุ่มสวยเป็นประจำทุกวัน ควรอาบน้ำ 2 ครั้งต่อเดือน ไม่ควรอาบบ่อยเพราะจะทำให้มีปัญหาเรื่องผิวหนัง นอกจากนี้ ควรพาเข้าสังคม ทำความรู้จักคนแปลกหน้า น้องหมาตัวอื่นๆ เพื่อไม่ให้พวกเขารู้สึกหวั่นกลัว เขินอาย ไม่ไว้ใจใคร จนกลายเป็นน้องหมาที่ก้าวร้าวในเวลาต่อมา



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่เหมาะสมจะเลี้ยง พ็อมโบรค เวล์ช คอร์กี้ จะต้องเป็นผู้ที่มีเวลาพาเขาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขพภาพขน มีเวลาเล่น ทำกิจกรรมกับพวกเขา ไม่ปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง เนื่องจากพวกเขาเป็นน้องหมาที่ต้องการความรัก และ การเอาใจใส่จากเจ้าของค่อนข้างสูง



  ข้อควรจำ

     มักมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา และโรคจอรับภาพเสื่อมเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เนื่องจากพวกเขามีลำตัวที่ค่อนข้างยาว ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนขณะเคลื่อนไหว จึงไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอ้วน เพราะจะส่งผลทั้งต่อการรับน้ำหนักของกระดูสันหลัง และโรคต่างๆ ที่จะตามมา 

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #47 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2014, 03:44:48 pm »



 ping! ลักษณะทั่วไป

     พูเดิ้ลที่มีสายพันธุ์ดีจะเป็นสุนัขที่ฉลาดและตอบสนองไวที่สุดในบรรดาสุนัข ทั้งหมด พูเดิ้ลมีด้วยกัน 3 ขนาด คือ ขนาดมาตรฐาน ขนาดเล็ก และขนาดทอย(ตุ๊กตา) พูเดิ้ลทุกขนาดจะเป็นสุนัขที่น่าหยิกน่าหมั่นไส้ แสนประจบ ซน และขี้เล่น พูเดิ้ลพันธุ์เล็กกับพันธุ์ทอยมีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า และมีความอดทนกับเด็กน้อยกว่าพันธุ์สมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม พูเดิ้ลเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ซึ่งคุณก็ควรฝึกสอนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะเห็นว่ามันมีความสามารถในการทำตามคำสั่งที่ยอดเยี่ยมทีเดียว ข้อเสียของมันก็คือมันมีนิสัยชอบเห่า แต่คงเพราะตัวเล็กไปหน่อยจึงได้แต่เห่าอย่างเดียว ทำอะไรใครไม่ได้ สุนัขพันธุ์นี้เหมาะที่จะเลี้ยงในคอนโด แต่ก็ควรให้ได้รับการออกกำลังกายพอสมควรด้วยแต่ถ้าใครคิดจะเลี้ยงเจ้าพุด เดิ้ลขนาดจิ๋ว (เล็กกว่าพันธุ์ทอย) ก็จงระวังให้ดี เพราะมันค่อนข้างขี้โรคและมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย

 ping! ความเป็นมา

     พูเดิ้ล มีชีวิตอยู่หลายศตวรรษ และมีเอกสารอ้างอิงมากมายว่าพบในเยอรมนี อังกฤษ อิตาลีและฝรั่งเศสหลักฐานที่พบเป็นภาพสุนัขที่ถูกตัดขนให้ดูคล้ายสิงห์โต โดยส่วนท้ายของลำตัวจะไม่มีขนปกคลุม ยกเว้นบริเวณรอบขาและหางที่มีขนลักษณะพองฟูขณะที่ลำตัวส่วนหน้าเต็มไปด้วยขนที่หนา ยกเว้นบริเวณใบหน้าและขาหน้าซึ่งเป็นการยืนยันว่าในยุคนั้น พูเดิลถูกใช้เพื่อเกมกีฬาเก็บคาบ แต่ก่อนขน พูเดิล จะหนักมากเวลาตัว เปียกต้องคอยตัดออกบ้าง หางยังยาวเป็นพุ่ม มีริบบิ้นผูกไว้ที่ปลายหาง ในขณะปฏิบัติงานเพื่อแยกพูเดิลออกจาก นกหรือสัตว์อื่นๆ



 ping! ลักษณะนิสัย

      ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ขนาดใด ทุกคนจะรู้ถึงความเฉลียวฉลาดของ พูเดิ้ล เป็นอย่างดีพวกเขาดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยมิตรภาพและเป็นผู้คุ้มกันที่ยอดเยี่ยม



 ping! การดูแล

     พูเดิ้ล เหมือนกับสายพันธุ์อื่นที่มีขนสองชั้นเป็นปุย ดูคล้ายขนแกะ มีการผลัดขนเหมือนสุนัขพันธุ์อื่นๆ แต่จะจับตัวอยู่กับขนชั้นในซึ่งต้องคอยตัดแต่งขน พูเดิล สม่ำเสมอไม่เช่นนั้นขนจะจับตัวกันเป็นก้อน จนดูแลอยาก

      ถึงแม้ว่าเราต้องคอยดูแลเรื่องขนของ พูเดิ้ล เป็นพิเศษ แต่จะเป็นผลดีต่อคนที่มีอาการแพ้ขนสัตว์ และป้องกันขนและกลิ่นของสุนัขไปติดพรม เฟอร์นิเจอร์ หรือเสื้อผ้าได้ นอกจากนี้เรื่องของสุขภาพของพุดเดิ้ลยังสามารถดูแลได้โดยการให้อาหารที่ครบถ้วน คุณค่าสารอาหารและสมดุล รวมทั้งการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นกับสุนัขทุกตัว



 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เหมาะกับผู้เลี้ยงเกือบจะทุกคน ทอย พูเดิ้ล พัฒนาเพื่อเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนให้กับผู้ที่มีที่อยู่อาศัยขนาดเล็กหรือมีพื้นที่ไม่มากนัก

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #48 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2014, 03:49:49 pm »



  ลักษณะทั่วไป
 
     รูปร่างกลม ๆ ป้อม ๆ บวกกับขาสั้น ๆ ทำให้เวลาเดิน สะโพกของ เฟรนช์ บูลด็อก จะส่ายไปมา เมื่อรวมเข้ากับจมูกสั้น ย่น ปากกว้างที่ดูเหมือนยิ้มตลอดเวลา และใบหูอันใหญ่โตที่คล้ายกับหูค้างคาว

  ความเป็นมา

     ประมาณปี 1860 มีสุนัข Bulldog มากมายในประเทศอังกฤษและสุนัขชนิดนี้ไม่ค่อยนิยมเลี้ยงเท่าไร สุนัขเหล่านี้บางส่วนถูกส่งเข้าไปในประเทศฝรั่งเศส และได้ผสมกับสุนัขพันธุ์ต่างๆในฝรั่งเศส จนในที่สุดเกิดเป็นสุนัขพันธุ์ เฟรนช์ บูลด็อก ( French Bulldog ) ขึ้นและสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยง  ในประเทศฝรั่งเศสโดยเฉพาะสุภาพสตรี ปี 1880 ปารีส เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของชาวอเมริกาผู้มั่งคั่ง และเมื่อมีข่าวสุนัขพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น ต่างก็ต้องการอยากจะไปดูด้วยตาตนเอง
   
     สิ่งที่พวกเขาได้พบคือสุนัขพันธุ์ เฟรนช์ บูลด็อก สุนัขพันธุ์นี้มาจากอังกฤษ ความจริงอเมริกามีอิทธิพลในการเลือกเพาะพันธุ์นี้ขึ้นมาให้มีลักษณะอย่าง เฟรนช์ บูลด็อก ในปัจจุบันได้รับการยอมรับที่สามารถให้พัฒนาให้มีหัวอย่างมัสตีฟ ขากรรไกรเป็นรูปสี่เหลี่ยม ลำตัวกะทัดรัดและที่สำคัญคือที่ใบหูเหมือนค้างคาวอย่างที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขพันธุ์เล็กน้ำหนักไม่เกิน 28 ปอนด์ หน้าเหมือน บูลด็อก ทั่วไป ริมฝีปากหนา จมูกหักสั้นเข้าไปด้านใน นัยน์ตาสดใส ลักษณะพิเศษคือใบหูเหมือนค้างคาว ซึ่งไม่มีสุนัขพันธุ์ใดในโลกนี้เหมือนเขาจะเห่าและขู่บ้าง แต่มีความเป็นมิตรชอบทำตัวเป็นเจ้าของบ้านมากกว่าเป็นผู้อารักขา พร้อมที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าเสมอไม่ว่าจะเป็นคนแก่ เด็ก แมว และสัตว์อื่นๆ มีนิสัยขี้เล่น ร่าเริงรักเด็กขนาดใกล้เคียงกับ Pug และ Boston Terrier



  ลักษณะนิสัย

     ฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง ชอบเล่น ชอบออกกำลังกาย และตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นมิตร เข้ากับคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ดี เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขที่เห่าน้อย ไม่ทนต่ออากาศร้อน โดยเฉพาะตัวที่นำเข้าจากต่างประเทศ อาจจะยังปรับตัวไม่ได้ แต่สำหรับสุนัขเฟรนช์ บูลด็อก ที่เกิดในเมืองไทยจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสภาวะอากาศเท่าไรนัก

  การดูแล
     ด้วยความที่เป็นสุนัขขนสั้น เฟรนช์ บูลด็อก  จึงไม่ต้องการการดูแลมาก แต่เขาจะผลัดขนในช่วงหน้าร้อน การออกำลังกายทำได้ง่าย โดยพาเขาเดินเล่นรอบๆ บ้านหรือโยนลูกบอลเล่นกับเขา เขาไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ กับเรื่องระบบการหายใจของสุนัขด้วย  หายใจทางปากถี่ขึ้นจนผิดปกติ ควรรีบนำเขาเข้าที่ร่มหรือห้องแอร์โดยเร็ว และหากมั่นใจว่าเขาอาจจะเป็นฮีทสโตรก (ชักเนื่องจากความร้อน) ควรลดอุณหภูมิร่างกายของเขาให้เร็วที่สุด เช่น เอาน้ำราด เอาน้ำแข็งไปโปะ แล้วพาไปหาหมอให้ฉีดยากันชักโดยเร็ว



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเด็กโตได้ดีเยี่ยม



  ข้อควรจำ
     เช่นเดียวกับสุนัขที่จมูกสั้นพันธุ์อื่นๆ ที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจและในช่วงฤดูร้อน ที่มีสภาพอากาศร้อนจัดอาจทำให้เขาเกิดความเครียดได้ 

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #49 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2014, 04:04:19 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     มอลทีส หรือ มัลทีส เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส เรียบร้อย และเชื่อฟังคำสั่ง สุภาพอ่อนโยน มีความเป็นมิตรกับคนทั่วไปชอบที่จะให้อุ้มหรือกอดอยู่เสมอ ในบางครั้งอาจจะเกรี้ยวกราดบ้างกับสุนัขด้วยกัน มอลทีสเป็นสุนัขที่มีนิสัยอิจฉาชอบประจบเจ้าของ รักเจ้าของมาก ชอบปกป้องเจ้านายหรืออาณาเขตของมันเองออดอ้อนออเซาะ ไม่เป็นรองใครมีความฉลาดแสนรู้ แต่จิตใจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวไม่ยอมใครดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงรวมไว้กับสุนัขตัวโตๆ เพราะจะมีโอกาสรอดไม่ถึงแก่ตาย โดยปกติแล้วไม่ควรทิ้งให้อยู่ตามลำพังเป็นเวลานานๆ มอลทีส ไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน แม้ว่าจริงๆแล้ว เขาก็เฝ้าบ้านได้ดีและก็สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ดีเช่นกัน มอลทีส เป็นสุนัขที่มีความรักให้กับคุณอย่างมากมาย ทำให้คุณชื่นใจทุกครั้งด้วยการคอยต้อนรับคุณที่ประตูเป็นสุนัขที่ฉลาดและชอบให้เอาใจ



  ความเป็นมา

     สุนัขมอลทีสมีถิ่นกำเนิดในประเทศ MALTA (แถบทะเลเมอร์ดิเตอริเนียน) มานานเกือบ 2800 ปีแล้ว นักเขียนหรือนักวาดภาพในสมัยโบราณมักนิยมเขียนเรื่องราวหรือภาพของสุนัขพันธุ์นี้ และเป็นที่นิยมเลี้ยงของผู้คนสมัยนั้น และจนกษัตริย์อียิปต์โบราณและ QUEEN VICTORIA ด้วย MALTESE เป็นสุนัขที่มีขนมีขาวสะอาดมีสุขภาพดี คล้ายสุนัขใหญ่กลุ่ม SPANIEL ในปี ค.ศ. 1607 มีการซื้อขายพันธุ์ MALTESE ตัวหนึ่งสูงถึง 2000 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 50000 บาท

  ลักษณะนิสัย

     มอลทีส ไม่ใช่สุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน แม้ว่าจริงๆแล้ว เขาก็เฝ้าบ้านได้ดีและก็สามารถฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งได้ดีเช่นกัน มอลทีส เป็นสุนัขที่มีความรักให้กับคุณอย่างมากมาย ทำให้ผู้เลี้ยงชื่นใจทุกครั้งด้วยการคอยต้อนรับคุณที่ประตูเป็นสุนัขที่ฉลาดและชอบให้เอาใจ และถึงแม้จะตัวเล็กแต่ก็กล้าหาญ ซื่อสัตย์และน่ารัก ถือเป็นสุนัขที่สุภาพอ่อนโยนมากในหมู่สุนัขเล็กด้วยกัน แต่ก็กระตือรือร้น ร่าเริง กระฉับกระเฉงและขี้เล่น



  การดูแล

     มอลทีส จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน แต่พวกเขาชอบอยู่ในบ้านซึ่งจะได้ใกล้ชิดกับเรามากกว่า ถ้าเลี้ยงเขาในแฟล็ตหรือคอนโด ก็ควรจะจูง เขาไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง มอลทีส เป็นสุนัขประกวดที่สวยงาม หากไม่เล้ียงไว้ประกวดก็สามารถเล็มแต่งขนเขาสั้นลงเพื่อดูแลรักษาง่ายๆ แต่เราต้องแปรงขนเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ขนพันกัน อาบน้ำให้น้องมอลทีสซักสัปดาห์ละครั้ง พร้อมทั้งเป่าขนให้แห้งเสมอ

     อุปกรณ์สำคัญสำหรับสุนัขพันธุ์มอลทีสนี้ได้แก่ แปรงสำหรับแปรงขนดีๆ หวีซี่เล็ก กรรไกรสำหรับ แต่งขนบริเวณใต้ฝ่าเท้า รวมทั้งกรรไกร ตัดเล็บสุนัข และกรดบอริคเพื่อเช็ดรอยคราบน้ำตา เป็นต้น

  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม   

     เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อน มีเวลาพาน้องหมาไปตัดแต่งทรงขน ดูแลสุขภาพผิวเป็นอย่างดี และที่สำคัญมีเวลาแปรงขนน้องหมาเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนน้องหมาไม่พันกันเป็นสังกะตัง และเงางาม

  ข้อควรจำ
     แม้จะจัดสุนัขพันธุ์นี้อยู่ในกลุ่มทอย มอลทีส ก็ยังต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดูแลเรื่องการให้อาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่อ้วนเกินไป

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!