สารพัด พันธ์ุหมา
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 25, 2024, 04:05:59 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สารพัด พันธ์ุหมา  (อ่าน 46616 ครั้ง)
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 01:32:44 pm »

หากท่านใดอยาก เลี้ยงสุนัข แต่ยังไม่ทราบว่าจะเลือก พันธ์ุใด ให้เหมาะสมกับที่ต้องการ
และต้องการทราบวิธี การดูแล ก็มาที่นี้เลยครับ 


บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 

nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 01:34:12 pm »

เกรทเดน (Great Dane)
ช่างประจบประแจง ขี้อิจฉา สอนง่าย



 Grin ลักษณะทั่วไป
     สุนัขสายพันธุ์เกรทเดนนั้น มีความสง่าผ่าเผย มัดกล้ามสมส่วนดูหน้าเกรงขาม เกรทเดนถึงแม้จะดูตัวใหญ่น่าเกรงขามแต่มันไม่มีนิสัยก้ารร้าว บางครั้งมันมักจะมีอุปนิสัยดื้อและซน เกรทเดนจัดได้ว่าเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ มีความซื่อสัตย์และมีความจงรักภักดีต่อ และที่สำคัญเกรทเดนชอบที่จะได้รับความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นเจ้าของเสมอความเป็นมา

     เกรทเดนสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ เยอรมนี สุนัขพันธุ์เกรทเดนเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ชาวเยอรมันได้พัฒนาสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อล่าหมูป่า แต่ในปัจจุบันเกรทเดนได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น

 
 Grin ลักษณะนิสัย
     เกรทเดนเป็นสุนัขที่ขี้ประจบ เป็นมิตร เงียบๆ และสุภาพกับเด็กๆที่ปฏิบัติต่อมันอย่างนิ่มนวล หากมีคนมาหาจะส่งเสียงเห่าดังๆ บอกเจ้าของให้รู้ แต่ไม่ก้าวร้าวหรือกัด



 Grin การดูแล
     เกรทเดน เป็นสุนัขขนสั้น เรียบเป็นมันเงางาม ควรแปรงขนให้สุนัขเกรทเดนทุกสัปดาห์เป็นประจำ 5-10 นาที ก็เพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นในขณะที่ขนตายกำลังร่วงขนใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนทันที ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรหาเวลาออกกำลังกายให้มันอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่ของบ้านของคุณด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย เกรทเดนเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้เกรทเดนได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด

 
 Grin ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     เกรทเดนเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายมากเกินไปก่อนอายุ 12 เดือนต้องแน่ใจว่าบริเวณที่เลี้ยงควรมีรั้วรอบขอบชิด และเมื่อผู้เลี้ยงไม่อยู่บ้านต้องผูกสุนัขไว้ด้วยเพราะ เกรทเดน สามารถกระโดดข้ามรั้วได้สบายๆ ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องคอยให้ความรักความเอ็นดูสุนัขด้วยนะ
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 01:38:50 pm »

เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)
สุนัขเฝ้ายาม เป็นมิตร ไม่ก้าวร้าว



 Wink ลักษณะทั่วไป

     ตัวใหญ่ แข็งแรง กำยำ  มั่นคง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มั่นใจ เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  เดิมเลี้ยงไว้เพื่อต้อนแกะ ทำงานบนภูเขา จึงมีกระดูกค่อนข้างใหญ่แข็งแกร่ง ขนสีดำ  มีสีสนิมแทรมสมมาตรกันระหว่างลำตัวทั้งสองด้าน และแต้มด้วยสีขาว โดยเฉพาะบริเวณอก มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 8-12 ปี

 
 Wink ความเป็นมา

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  มีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พวกเขาเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้สำหรับใช้งานในฟาร์มโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะต้อนสัตว์ เฝ้ายาม ปกป้องทรัพย์สิน  แบกหามของขึ้นภูเขาสำหรับการล่าสัตว์ และการเดินเขา จนกระทั่งปีคริสตวรรษที่ 19 เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก ถูกสันนิษฐานว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากชาวไร่ชาวนาเลิกเลี้ยงมันเพราะมีเครื่องจักร เครื่องไถนาช่วยในการทำการเกษตรแทน อย่างไรก็ตามได้มีการค้นพบสายพันธุ์นี้อีกครั้งในเวลาต่อมา

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 01:46:08 pm »

 

 Shocked ลักษณะทั่วไป
     โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง ไม่เทอะทะเก้งก้างจนดูเกะกะ เป็นสุนัขที่มีนิสัยค่อนข้างจะเป็นมิตรกับทุกๆ และสุนัขที่มีความปราดเปรียวและอดทน ลีลาในการย่างก้าวหรือไหวเป็นไปด้วยความนิ่มนวล
 
 Shocked ความเป็นมา
     โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขในกลุ่มสแปเนี่ยล ซึ่งเป็นสุนัขที่มีความเชี่ยวชาญทางน้ำเป็นพิเศษ โดยมีขนาดเล็กกว่าสุนัขพันธุ์นิวฟาวน์แลนด์ แต่มีลักษณะโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน สันนิษฐานว่าอาจผสมข้ามพันธุ์มาจากสุนัขพันธุ์ไอริชเซทเทอร์ และสุนัขในกลุ่มวอเตอร์สแปเนี่ยล โดยอาจมีสายเลือดของสุนัขพันธุ์บลัดฮาวน์เข้าไปเจือปนอยู่ด้วย
 
 Shocked ลักษณะนิสัย
     นิสัยสุภาพ น่ารัก มีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ และเสียสละรักเจ้าของได้เท่ากับสุนัขพันธุ์ โกลเด้นฯนี้ ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์นี้ใจดี ชอบอยู่กับคนและสัตว์อื่น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ค่อนข้างติดคนหรืออยากให้เจ้าของสนใจ โกลเด้นฯ เป็นสุนัขที่ฝึกง่าย มันชอบเห่าเมื่อมีคนอยู่หน้าประตูบ้าน แต่มีบ่อยครั้งที่การเห่านั้นเป็นการแสดงการทักทายมิใช่การขู่



 Smiley ขนาดตัว : ใหญ่
 Smiley ออกกำลังกาย : ทุกวัน
 Smiley ทนต่ออากาศร้อน : ปานกลาง
 Smiley ดูแลรักษาความสะอาด : 1ครั้ง/2 สัปดาห์
 Smiley พละกำลัง/ความแข็งแรง : มาก
 Smiley ทนต่ออากาศหนาว : มาก
 Smiley ความยาวขน : ปานกลาง
 Smiley เป็นมิตรกับเด็ก : มาก
 Smiley พื้นที่ในการเลี้ยง : มาก
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 01:51:27 pm »



 THANK!! ลักษณะทั่วไป

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีรูปร่างสูงใหญ่ยักษ์ กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง ขนหนา มีสีดำคาดเป็นหน้ากากเสมอๆ ขนมี 2 แบบคือ แบบยาวและสั้น ซึ่งจะเป็นลักษณะขนของคอเคเซียน เชพเพิร์ด ทางสายพันธุ์จอร์เจียน และอาร์เมเนียน  คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-14 ปี


 THANK!! ความเป็นมา

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสายพันธุ์ที่เชื้อสายที่เก่าแก่เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์ โมโลสเซอร์ (Molosser)  เริ่มแรกพวกเขาถูกเลี้ยงไว้เพื่อปกป้องบ้านเรือน ครอบครัว ไร่นา และทรัพย์สิน นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่ถูกเอาไปพาขึ้นสังเวียนเดินโชว์ตัวตามงานต่างๆ ซึ่งคอเคเซียน เชพเพิร์ดเริ่มปรากฏตัวในงานโชว์ในปี ค.ศ. 1930 ที่ประเทศเยอรมัน อย่างไรก็ตามถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาจนปัจจุบัน ทว่าความนิยมของคอเคเซียน เชพเพิร์ด ก็ยังคงอยู่ในเขตแคว้นเดิมที่พวกเขากำเนิดมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสม และที่สำคัญคอเคเซียน เชพเพิร์ดไม่ได้เป็นสุนัขที่มีไว้เพื่อใครก็ได้ สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยให้เขา อาจทำให้เขามีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวหรือเป็นปัญหาได้


 THANK!! ลักษณะนิสัย

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่ฉลาด มีไหวพริบ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่บางครั้งก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระ ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง ก้าวร้าวในบางครั้ง จึงควรได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม พาออกไปมีสังคมบ้าง ไม่ควรให้เขาอยู่แต่ในบ้านหรือพื้นที่แคบยาวนานเกินไปจนเกิดความเครียด นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่พลังงานต่ำ ชอบอยู่เฉยๆ แต่ก็หูไวตาไวรู้สึกไว ยิ่งถ้าครอบครัวกำลังถูกข่มขู่คุมคาม เขาก็จะลุกขึ้นมาปกป้องทันที



 Wink ขนาดตัว : ใหญ่
ออกกำลังกาย : ทุกวัน
 Wink ทนต่ออากาศร้อน : น้อย
ดูแลรักษาความสะอาด : 1 ครั้ง/2 สัปดาห์
 Wink พละกำลัง/ความแข็งแรง : มาก
ทนต่ออากาศหนาว : มาก
 Wink ความยาวขน : ปานกลาง,ยาว
เป็นมิตรกับเด็ก : ปานกลาง
 Wink พื้นที่ในการเลี้ยง : มาก



 Grin การดูแล
 
     คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีขน  2 ชนิดคือ ขนสั้นและ ขนยาว หากเป็นชนิดขนยาวควรได้รับการแปรงขนเป็นประจำเพื่อป้องกันขนพันกัน  ส่วนขนสั้นอาจดูแลน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องแปรงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

     สำหรับการออกกำลังกายควรพาพวกเขาออกไปวิ่งหรือเดินเล่นเป็นประจำทุกวัน ให้เขาได้ใช้พลังงาน สร้างความกระตือรือร้น พวกเขาจะมีความสุขมากๆ ที่ได้ออกกำลัง หรือได้ทำงานที่ได้ใช้กำลังกาย  อย่างไรก็ตามไม่ควรปล่อยให้เขาวิ่งนำเจ้าของ เพราะจะทำให้เขาเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้นำ แล้วจะทำให้กลายเป็นปัญหาที่พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังและก้าวร้าว ควรให้เขาเดินข้างๆ หรือเดินตามหลังถึงจะดีที่สุด
 
 Grin ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดไม่เหมาะที่จะเลี้ยงในพื้นที่แคบโดยเฉพาะในอพาร์ตเม้นท์ แต่ควรเป็นบ้านที่มีบริเวณ หรือสนามหญ้ากว้างๆ เพื่อให้เขาได้เดินเล่นและได้ใช้พลังงานได้ แล้วขนที่ยาวของเขาก็มีไว้เพื่อปกป้องเขาจากอากาศหนาว และสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่างไรก็ตามถ้าเลี้ยงในเมืองไทย ควรมีห้องที่ติดแอร์ให้เขาโดยเฉพาะ เนื่องจากขนที่หนามากไม่เหมาะกับสภาพอากาศร้อน  อาจทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว เกิดอากาศฮีสโตรกได้ง่าย และอาจทำให้อารมณ์เสีย เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว  ดังนั้นหากนำมาเลี้ยงตามบ้าน โดยเฉพาะในเมืองต้องฝึกวินัย สามารถควบคุมดูแลพวกเขาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคอเคเซียน เชพเพิร์ด เป็นสุนัขที่ถ้าไม่ฝึกก็จะนิสัยเสีย ดุร้าย ดื้อ และไม่เชื่อฟังคำสั่งได้ง่าย
 
 Grin ข้อควรจำ

     ปกติแล้วคอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน ไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ แต่ก็ควรระวังโรคกระดูกสะโพกเสื่อม โรคอ้วน และโรคหัวใจได้ ดังนั้นควรดูแล สังเกตอาการและพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ   
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 01:57:54 pm »



 Grin ลักษณะทั่วไป

     คอลลี่เป็นสุนัขที่ร่าเริง แข็งแรง กระตือรืนร้นต่อสิ่งรอบข้าง เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและยืดหยุ่นดี ไม่งุ่มง่าม ยืนตัวตรงและมั่นคง อกลึกและกว้างแสดงความแข็งแรง ไหล่ลาดเอียงและข้อเท้าที่โค้งพอดีแสดงความเร็วในการวิ่ง ใบหน้าของคอลลี่นั้นแสดงความฉลาดเฉลียว ลำตัวส่วนหน้าและส่วนหลังสมดุลกัน อวัยวะทุกส่วนได้สัดส่วนและประสานกันเป็นรูปร่างที่สวยงามลงตัว
 


 Grin ความเป็นมา

     สุนัขคอลลี มีต้นกำเนิดจากบริเวณรอยต่อระหว่างตอนเหนือของประเทศอังกฤษ กับประเทศสกอตแลนด์โดยเกิดจากเมื่อเวลาที่ชาวโรมันเข้ามารุกรานประเทศอังกฤษ

 Grin ลักษณะนิสัย
     สุนัขคอลลี่เป็นสุนัจที่ชาญฉลาดมาก และชอบที่จะสุงสิงกับคน เพราะฉะนั้นการฝึกสุนัขพันธุ์คอลลี่นี้ จึง ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะทิ้งให้อยู่หลังบ้านตามลำพังเพราะเขาจะรู้สึกขาดความรัก และรู้สึกถูกทอดทิ้งซึ่งจะทำให้เขาซึมเศร้าไป สุนัขพันธุ์นี้รักความสะอาดและเหมาะจะเป็นเพื่อนที่ดีกับเด็กๆ สุนัขคอลลี่ชอบอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นเพศตรงข้าม และถ้าหากผู้เลี้ยงมีสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ ต้องเข้าใจว่าสัญชาตญาณของสุนัขเฝ้าแกะ สัตว์ตัวเล็กๆ ที่เหมือนจะชอบวิ่งหนีก็จะถูกต้อนไปยังที่ใดที่หนึ่งซึ่งเขาได้เล็งไว้
 
 Grin การดูแล
     สุนัขคอลลี่มีขนยาวสวย และต้องได้รับการแปรงขนทุกอาทิตย์เพื่อให้ขนสวยงามอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าสุนัขคอลลี่จะไม่แสดงอาการกระตือรือร้นขอให้ผู้เลี้ยงพาออกไปเดินเล่น แต่ถ้าได้ไปสุนัขจะเพลิดเพลิน และอารมณ์ดี สุนัขพันธุ์นี้มีความฉลาดและยังตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ มีพรสวรรค์ในการตามรอยและต้อนฝูงสัตว์ เพราะฉะนั้นสุนัขอาจจะอดใจไม่อยู่ เผลอไล่ต้อนสิ่งที่มาเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆ ตัว ผู้เลี้ยงจะต้องพยายามสอนให้สุนัขเข้าใจ ว่าไม่ควรทำพฤติกรรมแบบนั้น 



 Grin ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     สุนัขพันธุ์คอลลี่นี้เหมาะกับเกือบทุกครอบครัวและสามารถเลี้ยงได้ทุกสถานการณ์เพราะสุนัขพันธุ์นี้มีความอ่อนโยนและปรับตัวได้ง่าย     
 
 Grin ข้อควรจำ
 
      โรคประจำสายพันธุ์ของคอลลี่ที่ควรระวังก็คือ อาการแพ้ยา ซึ่งพวกเขามักจะอ่อนไหวง่ายต่อยากว่า 100 ชนิด ซึ่งรวมไปถึง แอนตี้ไบโอติก และ สเตรอยด์ นอกจากนี้ยังมีโรคที่เกิดจากความผิดปกติของยีนส์ ทำให้มีขนสีเทา  (canine cyclic neutropenia gray collie syndrome) ลูกคอลลี่ที่ออกมาจะมีขนสีเทา ร่างกายไม่แข็งแรง มีไข้ ท้องร่วง มีปัญหาดวงตา และผิวหนังติดเชื้อ เป็นต้น โรคนี้สามารถติดต่อกันได้ หากพบว่าลูกคอลลี่ตัวไหนที่ออกมามีการดังกล่าว ควรแยกออกมาจากคอกโดยทันที
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 02:06:42 pm »



 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลเป็นสุนัขพันธุ์ตุ๊กตา ตัวเล็กแต่มีความสง่างาม เหมาะทั้งกับชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบท เชื่อฟังเจ้าของ ฝึกง่าย คล่องแคล่วว่องไว เป็นสุนัขที่เหมาะกับการนำไปใช้ในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ขนนุ่มยาวเส้นเล็กราวแพรไหม มีทั้งหมด 4 สี คือ สีน้ำตาลเชสนัทปนสีขาว(Blenheim) สีดำปนสีขาวและสีน้ำตาลแทน (Tricolor) สีแดงเข้ม (Ruby) สีดำและสีน้ำตาลแทน อายุโดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี

 
 HAPPY2!! ความเป็นมา

     หลายสิบปีมาแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ที่ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ซึ่งได้ตั้งชื่อตามกษัตริย์ คิง ชาร์ลส์ที่ 2 ของสหราชอณาจักร ได้รับการบันทึกอยู่ในภาพวาดและรูปถ่ายร่วมกับครอบครัวชั้นสูง แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล เป็นสัตว์ที่มีเลี้ยงไว้ภายในบ้าน ประหนึ่งเป็นสมบัติอีกชิ้นที่มีราคาหรูหราของชนชั้นสูง  นอกจากนี้คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลยังสามารถระงับอารมณ์ของคนที่กำลังหวั่นวิตกให้สงบลง และเยียวยารักษาโรคเครียดได้อีกด้วย



HAPPY2!! ลักษณะนิสัย

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลมีจิตใจดี เป็นมิตร อ่อนหวาน อ่อนโยน ร่าเริงไม่เขินอาย  ไม่ก้าวร้าว  ฝึกง่าย เป็นสุนัขที่เติบโตมากับเด็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ชอบเดินออกกำลังกาย หรือไม่ก็นั่งเล่น นอนเล่น

 
HAPPY2!! การดูแล

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลอยู่ได้ดีทั้งพื้นที่กว้าง และพื้นที่แคบอย่างเช่น อพาร์ตเม้นต์ พวกเขาสามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายได้เองภายในตัวบ้าน หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน  ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลคือการพาพวกเขาเดินเล่นรอบๆ บ้านประมาณ 10 -15 นาทีเป็นประจำ  ในส่วนการดูแลทำความสะอาด ควรแปรงขนเป็นประจำ อย่างน้อยที่สุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะก่อนอาบน้ำ เพื่อไม่ให้ขนติดเป็นสังกะตัง การทำความสะอาดควรอาบน้ำ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง และควรตรวจเชคดูแลความสะอาดช่องหูและรอบดวงตาด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น หมาดๆ ทุกครั้งหลังอาบน้ำ



 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ต้องการความรักมากเป็นพิเศษ ผู้เลี้ยงควรมีเวลาอยู่กับเขา ให้มีกิจกรรมร่วมกับครอบครัว สามารถพาเขาเดินเล่นได้เป็นประจำทุกวัน และดูแลแปรงขนให้เขาสม่ำเสมอ


 
 HAPPY2!! ข้อควรจำ

     คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล  มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ โรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข ต้อกระจก โรคหูชั้นนอกอักเสบ เสี่ยงต่อการสูญเสียการรับรู้ทางเสียง ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 02:15:04 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     คีชอนเป็นสุนัขขนาดปานกลาง ดูแข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยว สมกับเป็นสุนัขสายพันธุ์ทางเหนือ มีความคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอก ขนฟู หนา หางยกสูงขึ้นพาดบนหลัง สีขนผสมกันระหว่างสีเทา สีดำ และสีครีม ทั้งเชดสีอ่อนและเข้ม สีดำแต้มบริเวณหู กระบอกปาก และเส้นตรงจากหางตาถึงโคนหู ช่วงอายุอยู่ระหว่าง 12-15 ปี

  ความเป็นมา

     คีชอน จะมีต้นกำเนิดแถวบริเวณประเทศที่ใกล้กับขั้วโลก เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์ชามอยด์, เชา เชา, เอลค์ฮาวนด์นอร์เวย์ และปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่นำมาเลี้ยงเพื่อเฝ้ายามคอยสอดส่องดูแลไร่นา เรือบรรทุกต่างๆ คีชอนเป็นสุนัขที่เลี้ยงกันมากในประเทศเนเธอร์แลนด์ ช่วงปี ค.ศ. 1700 แล้วได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองดัทช์  แพทริออท และ คอร์เนลิส เดอ เยเซลาร์ ผู้นำพรรคการเมือง  ซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขขื่อ คีส และเป็นผู้ตั้งชื่อสุนัขพันธุ์นี้ว่า คีชอน แต่เมื่อพรรคการเมืองพ่ายแพ้การเลือกตั้ง สุนัขพันธุ์คีชอนก็ได้รับความนิยมน้อยลง และจนเกือบสูญพันธุ์หายไป จนกระทั่งหนึ่งร้อยปีต่อมา สายพันธุ์นี้จึงกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา

  ลักษณะนิสัย

     คีชอนเป็นสุนัขนิสัยร่าเริง ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม บุคลิกภาพดี เป็นมิตร ต้องการความรักสูง ชอบอยู่กับครอบครัว เข้ากับเด็กๆ ได้ดี ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่เหมาะกับการเลี้ยงไว้ให้อยู่ร่วมกับครอบครัว เข้ากับเด็กๆ ได้ดีมากกว่าผู้ใหญ่  พวกเขาชอบออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และด้วยสัญชาตญาณของสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อเฝ้ายามได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขาจึงค่อนข้างไวต่อเสียง จะเห่าเมื่อได้ยินเสียงที่ผิดปกติ เพื่อให้เจ้าของรับรู้ แต่ค่อนข้างตื่นตกใจกับสิ่งต่างๆ ได้ง่าย แล้วเมื่อใดที่พวกเขาตื่นเต้นก็จะวิ่งวนไปวนมารอบตัวเองเป็นวงกลม คีชอนบางตัวอาจจะชอบเก็บตัว ดังนั้นถ้าพวกเขามีแนวโน้มขี้ขลาด หรือไม่มั่นใจในตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก ให้พาเขาออกไปเดินเล่น เจอผู้คน หรือสุนัข สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ให้เคยชิน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว สัญชาตญาณนักเตือนภัย คอยระแวดระวังจะเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เขากลายเป็นสุนัขที่ไม่ไว้ใจใคร ดุร้าย ข่มขู่ และกัดผู้อื่น



การดูแล

     คีชอนเป็นสุนัขขน 2 ชั้นที่ยาวหนา จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษ ต้องแปรงขนให้เขาเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดขนสังกะตัง และผลัดขนที่ตายแล้ว  เวลาแปรงขนต้องแปรงตั้งแต่โคนขนที่ติดกับบริเวณผิวหนัง ถ้าเวลาแปรงขนไม่เห็นผิวหนังของเขา ถือว่ายังแปรงผิดวิธี ซึ่งก่อนอาบน้ำควรแปรงขนก่อนทุกครั้ง การอาบน้ำควรอาบให้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง เวลาอาบไม่ควรให้น้ำเข้าหูหรือตา และไม่ควรใช้ยาสระผมของคนเพราะผิวหนังของเขาอาจจะเกิดอาการระคายเคืองได้ เนื่องจากขนที่หนามาก ผู้เลี้ยงต้องล้างแชมพูให้หมด อย่าให้เหลือทิ้งไว้ที่ขน เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนังเขาได้อีกเช่นกัน ส่วนการไดร์ขนไม่ควรใช้ความร้อนสูงและควรเป่าให้แห้งสนิท ไม่เช่นนั้นความชื้นที่ขน หรือผิวหนังที่ยังอยู่อาจทำให้เกิดผื่นหรือเชื้อราได้ นอกจากขนที่ต้องดูแลรักษาแล้ว หูก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องหู

     คีชอนต้องการการออกกำลังเป็นประจำทุกวัน ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะตื่นตัวมากเวลาอยู่ในบ้าน จึงจำเป็นต้องพาออกไปเผาผลาญพลังงาน หรือสร้างกิจกรรมให้เขาได้ใช้กำลังหรือร่างกายอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือวิ่งเล่นก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจ โดยเฉพาะการได้เดินเล่นร่วมกับคนในครอบครัว  นอกจากนี้คีชอนเป็นสุนัขที่น้ำหนักขึ้นง่ายมาก ผู้เลี้ยงจะต้องดูแลควบคุมปริมาณอาหารประกอบกับการพาไปออกกำลังกายป้องกันน้ำหนักเกิน  อย่างไรก็ตามพวกเขาเป็นสุนัขขนยาวและหนา ไม่สามารถทนทานได้กับอากาศร้อน เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องความร้อนภายในร่างกายขณะออกกำลังกาย ไม่ให้เขารู้สึกร้อนจากการเผาผลาญพลังงานจนเกิดไปจนเกิดอาการชักได้



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     โดยธรรมชาติแล้วคีชอนเหมาะที่จะอยู่กับสนามหญ้ามีรั้วเล็กๆ ให้พวกเขาได้วิ่งเล่น ในขณะเดียวกันพวกเขาก็มีเชื้อสายของสุนัขพันธุ์เล็กอยู่ในตัว จึงอยู่ได้ดีในพื้นที่เล็กเช่นกัน  แต่ควรพาพวกเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายนอกบ้านประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นประจำทุกวัน คีชอนสุนัขขนยาวหนา จึงไม่เหมาะกับอากาศร้อน  หากเลี้ยงควรให้เขาอยู่ในห้องแอร์ และไม่ควรปล่อยทิ้งเขาไว้นอกบ้าน เพราะเขาตื่นตระหนก ปากเปราะ เห่าง่าย แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เขาอยู่ในบ้านตัวเดียวเป็นระยะเวลานานเช่นกัน เพราะพวกเขาจะรู้สึกวิตกกังวล จนอาจทำลายข้าวของในบ้าง คีชอนจึงเหมาะกับผู้เลี้ยงที่ต้องทำงานนอกบ้าน หรือทำงานไกลบ้าน  การดูแลทำความสะอาดควรแปรงขนให้เขาเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง



  ข้อควรจำ

     คีชอนเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกสะโพกเสื่อม กระดูกสะบ้าเคลื่อน ลมบ้าหมู โรคคุชชิ่ง ซึ่งเป็น กลุ่มอาการผิดปกติของร่างกายที่เกิดจากการมีฮอร์โมนสเตอรอยด์ในเลือดสูงกว่าปกติ ก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ได้ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต ความผิดปกติของน้ำหนัก หรือขนร่วงได้ นอกจากนี้ยังมีโรคเกี่ยวกับความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด และอาการที่ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตเมื่อพวกเขามีอาการผิดปกติ และควรพาไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 02:22:31 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     เคน คอร์โซ่เป็น 1 ใน 2 สายพันธุ์ อิตาเลียน มาสทิฟฟ์ มีรูปร่างใหญ่ มั่นคง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง แลดูสง่างาม ทรงพลัง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม ขนสั้น กระด้าง เรียวตัวหนาแน่น ป้องกันน้ำได้ดี  สีขนมีได้ทั้งสีดำ สีเทา สีน้ำตาลเหลือง สีแดง หรือจนที่เป็นลักษณะคล้ายลายเสือ เป็นต้น



  ความเป็นมา

     เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขพื้นเมืองของอิตาลี เดิมพวกเขาเป็นที่รู้จักเพียงทางตอนใต้ของอิตาลีเท่านั้น ไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวาง แต่ก็มีภาพของพวกเขาปรากฎเห็นในภาพวาด งานศิลปะ ที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาตร์ของอิตาลีอยู่จำนวนมาก  ชื่อ เครน คอร์โซ่ ได้มาจาก คาเน่ ดา คอร์โซ  ชื่อประเภทสุนัขที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ในชนบท เช่น ต้อนแกะ ล่าสัตว์ เฝ้าไร่นา ต่อสู้กับหมี  ด้วยเหตุนี้เคน คอร์โซ่ จึงเป็นสุนัขที่ทำหน้าที่บอร์ดี้การ์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ในช่วงปี ค.ศ. 1970 สุนัขสายพันธุ์นี้ค่อยลดจำนวนลงจนใกล้สูญพันธุ์ จึงได้มีการพัฒนาและผสมพันธุ์ให้กลับมา  2 สายพันธุ์  แล้วกลายเป็นที่นิยมทั่วโลกในเวลาถัดมา โดยเฉพาะเมื่อถูกนำเข้ามายังสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1987 เคน คอร์โซ่ ได้รับการยอมรับโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2010

  ลักษณะนิสัย

     เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาดหลักแหลม  ง่ายต่อการฝึกวินัยและการเชื่อฟังคำสั่ง พวกเขาซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก กระตือรือร้น เฝ้าบ้านได้ดี มีความกล้าหาญและจิตวิญญาณของสุนัขผู้พิทักษ์  ตอบสนองต่อบุคคล หรือสัตว์ที่เพิ่งพบเห็นไม่ดีเท่าไหร่ เจ้าของจึงไม่ควรกระตุ้นให้พวกเขาหวาดระแวงตามสัญชาตญาณผู้ปกป้อง จนแสดงอาการก้าวร้าวออกมา  อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พวกเขาจะดูกล้าหาญ เข้มแข็ง แต่เขาก็ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากครอบครัวสูง เป็นมิตรเด็กๆ สุภาพ อ่อนโยน และเป็นเพื่อนที่ดี



  การดูแล

     เคน คอร์โซ่ มีขนสั้น หนา ควรได้รับการแปรงขนเป็นประจำอย่างน้อยที่สุดทุกสัปดาห์ เพื่อพลัดขนเก่าและ นวดผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพขนดีและเงางาม  ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกสัปดาห์ ควรอาบประมาณ  2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อครั้ง  หูของพวกเขาควรได้รับการดูแลทำความสะอาดเป็นพิเศษเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันสาเหตุการติดเชื้อในหู  ในส่วนการออกกำลังกาย เคน คอร์โซ่ มีพละกำลัง รักการผจญภัย และมีพลังงานสูง จึงต้องพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน พวกเขาสามารถวิ่งจ้อกกิ้งและปีนเขาระยะไกลได้ ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเขาเป็นสุนัขที่ต้องการบ้านที่มีสนามหญ้ากว้าง มีรั้วรอบขอบชิด



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ตามธรรมชาติของเคน คอร์โซ่ พวกเขาเหมาะกับบ้านที่มีสนามหญ้า อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถเลี้ยงให้อยู่ภายในอพาร์ตเม้นท์ได้ แต่ต้องพาเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายอย่างเพียงพอเป็นประจำ  เอาใจใส่ดูแลและอยู่เป็นเพื่อนกับเขา เพราะถ้าพวกเขาได้ความรัก การเอาใจใส่ที่ไม่เพียงพอ อาจจะทำลายข้าวของ เป็นการเรียกร้องความสนใจ ในส่วนของการทำความสะอาด พวกเขาต้องการการแปรงขนเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เช่นเดียวกับการทำความสะอาดหู ควรตรวจดูและทำความสะอาดทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

  ข้อควรจำ

     โรคประจำตัวของเคน คอร์โซ่ส่วนใหญ่จะเป็น โรคกระดูกเคลื่อน ลำไส้บวม  และต่มน้ำตาขยายใหญ่ เพื่อความแน่ใจว่าลูกเคน คอร์โซ่ที่นำมาเลี้ยงเสี่ยงต่อโรคดังที่กล่าวมาหรือไม่ ต้องตรวจสอบดูจากพ่อและแม่ของพวกเขา เนื่องจากเป็นโรคที่ติดมาทางกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ ควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคต่างๆ   
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 02:28:58 pm »



 ping! ลักษณะทั่วไป

     เครนเทอร์เรียเป็นสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียขาสั้น แต่รูปร่างมั่นคง แข็งเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ยืนเอียงไปทางด้านหน้า อกลึก ความยาวช่วงหลังกำลังพอดี ศีรษะสั้นกว่าสุนัขพันธุ์เทอร์เรียทั่วๆไป ขนหนา ทนต่อสภาพอากาศได้ทั้งร้อนและหนาว หน้าตามีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก   เป็นสุนัขที่ตื่นตัว แอคทีฟ เป็นมิตร เชื่อฟังคำสั่งได้ดี ช่วงอายุประมาณ 12- 15ปี

 ping! ความเป็นมา
 
     เครนเทอร์เรีย มีต้นกำเนิดอยู่บริเวณที่ราบสูงของสก็อตแลนด์และบริเวณก่อนทางเหนือของสก็อตแลนด์ (the Isle of Skye)   ซึ่งเครนเทอร์เรียจัดอยู่ในกลุ่มสกายเทอร์เรีย (Skye Terrier) มีเทือกแถวใกล้ๆ กับสก็อตทิชเทอร์เรียและเวสท์ ไฮแลนด์ ไวท์ เทอร์เรีย  ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 สายพันธุ์ทั้ง 3 สายพันธุ์เริ่มแยกออกมา “เครน” หมายถึงกองหิน หรือถ้ำหินที่พวกสุนัขจิ้งจอกและตัวแบดเจอร์อาศัยอยู่ในแถบชนบท ซึ่งสุนัขสายพันธุ์นี้มีหน้าที่เห่าบอกตำแหน่งที่ซ่อนของศัตรูหรือผู้รุกล้ำอย่างสุนัขจิ้งจอกหรือตัวแบดเจอร์เพื่อให้ชาวนามาฆ่า ด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อว่า เครนเทอร์เรีย



 ping! ลักษณะนิสัย

     เครนเทอร์เรีย เป็นสุนัขพลังงานสูง ร่าเริง อยู่ไม่สนุข ฉลาดหลักแหลม ซื่อสัตย์จงรักภักดี ปกป้องครอบครัว จนบางครั้งมักลืมไปว่าตัวเองเป็นเพียงสุนัขตัวเล็กๆ โดยธรรมชาติของสายพันธุ์เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เขาอาจจะก้าวร้าวหรือดุเมื่อเจอคนแปลหน้า สุนัขหรือสัตว์ตัวอื่นๆ และออกจะขี้หวง ไม่ว่าจะอาหาร สิ่งของ หรือของเล่น พวกเขา เป็นเพื่อนเล่นที่ดีมกับเด็กๆ แต่พวกเขาไม่ค่อยชอบปล่อยทิ้งให้อยู่คนเดียว อาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ทำลายข้าวของได้ หรือขุดดิน หรือเห่าไม่หยุด ควรได้รับการฝึกวินัยในเชิงบวก ซึ่งจะช่วยให้สภาพกายและใจของเขาดีขึ้น พวกเขาเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้ง่าย ของรางวัลและความรักจะช่วยให้การเรียนรู้ รวมทั้งการทำงานของเขามีประสิทธิภาพ การลงโทษขณะฝึกวินัยจะเป็นการทำร้ายจิตใจของเขามากๆ เพราะเขาเป็นสุนัขที่อ่อนไหวง่าย ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นเสียง หรือใช้ความรุนแรง อาจจะทำให้เขาเกิดความเครียด และเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวตามมา

 ping! การดูแล

     เครนเทอร์เรียเป็นสุนัขที่ต้องการการดูแลเพียงระดับพื้นฐาน ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านกรูมมิ่งเสริมสวย พวกเขาต้องการเพียงการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน  เนื่องจากขนชั้นในมีแนวโน้มพันกันเป็นสังกะตัง ซึ่งอาจก่อนให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังอักเสบ และติดเชื้อ การอาบน้ำควรอาบน้ำประมาณ 2-3 สัปดาห์เป็นอย่างมาก ไม่ควรอาบบ่อยกว่านี้  เพราะจะทำให้น้ำมันที่อยู่บนขนของน้องหมาถูกชะไปกับน้ำ อาจทำให้ผิวหนังแห้ง และทำลายเส้นขนได้ ควรเลือกดูแชมพูที่มีอ่อนโยนโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แชมพูของคนเป็นอันขาด นอกจากนี้ควรดูแลขนรอบๆ หูและดวงตาอย่างเป็นประจำ คอยเล็มขนที่แทงเข้าไปในดวงตา และทำความสะอาดภายในหูเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ส่วนการออกกำลังกาย ถึงแม้เขาจะสามารถอยู่ในพื้นที่เล็กๆได้ดี ก็ยังต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่เช่นนั้นเขาอาจเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ ถ้าไม่เสนอกิจกรรมให้เขาทำ หรือพาเขาไปวิ่งเล่น พวกเขาชอบเล่นวิ่งไล่ลูกบอลที่สนามหญ้าร่วมกับครอบครัว หรือแค่เดินเล่นๆ เขาก็รู้สึกดี ไม่ควรให้เขากระโดด เพราะอาจทำให้เกิดโรคสะบ้าเคลื่อนได้ ควรให้เขาออกกำลังกายแต่พอเหมาะพอดี



 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     แม้เครนเทอร์เรียจะเป็นสุนัขอารมณ์ดี ร่าเริง เหมาะกับผู้เลี้ยงที่ต้องการความแอคทีฟ ตื่นตัว แต่ถ้าผู้เลี้ยงไม่พาเขาออกไปพบปะกับสุนัขตัวอื่นๆ บ้างอาจทำให้เขาเป็นสุนัขเข้าสังคมยาก แล้วอาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวดุ เห่า สัตว์อื่นๆ หรือคนแปลกหน้าได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงควรมีเวลาพาเขาไปสังสรรค์นอกบ้าน เล่นกับสุนัขหรือสัตว์ตัวอื่นบ่อยๆ ในระหว่างพาออกไปเดินเล่นหรือออกกำลังกายซึ่งควรทำอยู่แล้วเป็นประจำทุกวัน เช่นเดียวกับการแปรงขน ควรแปรงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ



 ping! ข้อควรจำ

     เครนเทอร์เรียมีโรคประจำสายพันธุ์ คือโรคอ้วน  โรคผิวหนัง โรคต้อกระจก โรคเกี่ยวกับกระดูก โดยเฉพาะกระดูกสะโพก และ โรคสะบ้าเคลื่อน ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตอาการผิดปกติของพวกเขา หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดโรคดังกล่าว และควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ   
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2014, 02:34:49 pm »



  ลักษณะทั่วไป
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขฉลาด คล่องแคล่ว เชื่อฟังคำสั่ง มีลักษณะการยืนที่มั่นคง โดดเด่น ลำตัวเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงตามแบบสายพันธุ์เทอร์เรีย ขนหยักหนาทั่วตัว สีน้ำเงินเทามีตั้งแต่อ่อนไปจนถึงสีเข้ม ถ้าไม่ใช่สีดังกล่าวถือว่าไม่ได้มาตรฐาน  มีอายุอยู่ในช่วง 12 – 15 ปี

  ความเป็นมา
     เคอร์รี่  บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขภูเขา มีต้นกำเนิดอยู่ที่ คันที เคอร์รี่ ประเทศไอร์แลนด์ ในปี ค.ศ. 1700 โดยเลี้ยงไว้เพื่อจุดประสงค์ ในการใช้งาน และใช้สำหรับเกมล่าสัตว์เล็กๆ และใช้ในการล่านก ต้อนแกะ ต้อนวัว ชาวนาในไอร์แลนด์ได้คิดพัฒนาสายพันธุ์เคอร์รี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มชนชั้นสูง ซึ่งพวกเขาได้ถูกนำไปช่วยชาวนาในการล่อสัตว์เล็กๆ ที่อยู่ตามพื้นดิน บลูเทอร์เรียถือได้ว่าเป็นเทอร์เรียประจำชาติของไอร์แลนด์ และต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไอร์แลนด์ในเวลาต่อมา



  ลักษณะนิสัย
 
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย มีจิตวิญญาณ แห่งความเป็นสุนัขสูง ไม่ว่าจะความซื่อสัตย์  ฉลาด เป็นมิตร น่ารัก จิตใจดี สุภาพอ่อนโยน สามารถป้องและดูแลครอบครัวได้อย่างดี  แต่จากขนาด ความสูง ความแข็งแกร่ง และสีที่มีลักษณะเฉพาะ พวกเขามักถูกนำไปใช้ในการแข่งขันสุนัข โดยมีชื่อขนานนามว่า “ปีศาจสีน้ำเงิน” (Blue Devils) อย่างไรก็ตาม ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะชอบวิ่งไล่แมว หรือสัตว์ตัวเล็กๆ รวมถึงสุนัขพันธุ์เล็กด้วย ผู้เลี้ยงจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และโดยธรรมชาติของเคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย แล้วพวกเขาเหมาะกับการนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะทั้งงานในที่ร่มหรือที่แจ้ง ซึ่งพวกเขาฉลาดและมีไหวพริบอย่างเหลือเชื่อในการทำงาน ไม่ว่าต้อนแกะ ติดตามเส้นทาง และการล่าสัตว์ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่ง ตื่นตัว สามารถสอนทักษะใหม่ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเรื่องการนำไปใช้งาน หรือให้เล่นเกมน่ารักๆ เพื่อความสนุกสนาน แต่เวลาสอนพวกเขาควรใช้โทนเสียง และน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับพวกเขา เพราะเคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย ค่อนข้างอ่อนไหวง่ายต่อการรับคำสั่ง ผู้เลี้ยงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

  การดูแล
 
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเกิดอาการแพ้บริเวณผิวหนัง การทำความสะอาดไม่ยุ่งยากเท่าใดนัก เพียงแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และได้รับการตัดแต่งขนเมื่อยาวเกินไป เพื่อไม่ให้ขนพันกันเป็นสางกะตัง อักเสบที่ผิวหนังจนเกิดการติดเชื้อ และควรอาบน้ำให้ 3-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่วนการออกกำลังกายเนื่องจากเคอร์รี่ บลู เทอร์เรียมีความเป็นสุนัขนักแข่งอยู่ในสายเลือด  พวกเขาจึงต้องการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะการเดิน หรือ วิ่ง พวกเขาก็จะรู้สึกดี ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการได้ออกกำลังกายร่วมกับเจ้าของจะช่วยให้เขายิ่งรู้สึกผูกพันมากยิ่งขึ้น



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     เคอร์รี่ บลู เทอร์เรียมีความตื่นตัวและต้องการใช้พลังงาน รวมทั้งการออกกำลังกายสูง แต่พวกเขาก็สามารถอยู่ได้ดีในอพาร์ตเม้นท์หรือบ้านหลังเล็ก พวกเขาสามารถวิ่งเล่นหากิจกรรมได้เองภายในบ้าน พวกเขาค่อนข้างขี้เบื่อควรจัดหากิจกรรมให้เขาได้เล่น หรือถ้ามีสนามหญ้าก็ปล่อยให้เขาได้วิ่งเล่นบ้าง แต่ว่าควรล้อมรั้วไว้ให้เรียบร้อย ผู้เลี้ยงไม่ควรล่ามเขาไว้อยู่กับที่ตลอดทั้งวัน เพราะพวกเขาต้องการความรักและการเอาใจใส่สูง  การปล่อยทิ้งให้เขาอยู่ตัวเดียวเป็นเวลานานจะส่งผลเสียต่อสภาวะจิตใจได้

  ข้อควรจำ

     โดยทั่วไปแล้ว เคอร์รี่ บลู เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ แต่อาจมีแนวโน้มเป็นโรคประจำสายพันธุ์ได้ นั่นก็คือ ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา กระดูกสะโพกเคลื่อน  และอาการแพ้ที่บริเวณผิวหนัง หรือรูขุมขนบ้างเล็กน้อย นอกจากนี้ก็อาจมีอาการแพ้ยาบางชนิด ผู้เลี้ยงจึงควรสังเกตอาการเป็นพิเศษ หากให้เขากินยาอะไรก็ตามเข้าไป นอกจากนี้ควรพาเขาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคที่อาจจะเกิดขึ้น 
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2014, 02:01:56 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีรูปร่างเล็ก ขนยาวปานกลาง มีลักษณะคล้ายสุนัขพันธุ์ชิสุ แต่ว่ามีขนบริเวณศีรษะและใบหน้าค่อนข้างสั้น สีขนทั่วไปจะเป็นสีขาวสลับสีดำ หรือ สีขาวสลับแดง อุปนิสัยค่อนข้างอ่อนไหวง่าย ฉลาด มีไหวพริบ เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่เกิดขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์สำหรับเป็นเพื่อนกับมนุษย์โดยเฉพาะ เขาจึงต้องการความรักสูง พวกเขาคล่องแคล่ว ขี้เล่น ง่ายต่อการถูกฝึกสอนให้แสดงโชว์หรือเล่นเกมต่างๆ



  ความเป็นมา

     เจแปนนิส ชิน มีประวัติต้นกำเนิดที่ยาวนาน และยังไม่สามารถรู้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นมาจากประเทศใด บ้างกล่าวว่า ต้นกำเนิดและการพัฒนาสายพันธุ์ มาจากถิ่นพื้นเมืองของประเทศจีน พวกเขาเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์และความน่ารัก สามารถเป็นที่รักได้กับทุกๆ คน  ในสมัยก่อนเจแปนนิส ชินได้รับการผสมพันธุ์เพื่อเป็นเพื่อนกับกลุ่มหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ในราชวัง นอกจากนี้พวกเขายังถูกนำมาเป็นภาพประกอบอยู่บนเครื่องปั้นดินเผาและลายเย็บปักถักร้อยเมื่อร้อยกว่าปีก่อน แต่สุนัขพันธุ์นี้คนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อได้ เนื่องจากพวกเขาจะถูกเลี้ยงและเก็บไว้เฉพาะชนชั้นสูง อย่างไรก็ตามในบางหลักฐานกล่าวว่า ต้นกำเนิดของเจแปนนิส ชิน เริ่มแรกเดิมทีอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ช่วงประมาณ ค.ศ. 732 เป็นสุนัขที่มีไว้สำหรับมอบเป็นของขวัญให้แก่ครอบครัวของราชวงศ์เกาหลีและญี่ปุ่น รวมทั้ง บรรดาขุนนาง และชาวต่างชาติที่ทำงานรับให้ญี่ปุ่น  จนกระทั่งร้อยกว่าปีต่อมา เพอรรี่ ผู้บังคับการเรือชาวอเมริกัน ได้นำสุนัขพันธุ์นี้เข้าไปยังประเทศอังกฤษ จนกลายเป็นที่นิยมทางฝั่งตะวันตก

  ลักษณะนิสัย

     เจแปนนิส ชิน เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง สดใส ตื่นตัว ซื่อสัตย์ ว่องไว อ่อนไหว อ่อนโยน เป็นมิตร และขี้เล่น  ด้วยเหตุที่พวกเขาเป็นสุนัขที่ผสมพันธุ์ขึ้นมาเพื่อเป็นเพื่อนมนุษย์และครอบครัว พวกเขาจึงค่อนข้างอ่อนไหวง่าย และต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่สูง ยิ่งผู้เลี้ยงดูแลและให้ความรักได้ดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรักได้มากเท่านั้น พวกเขาเข้าได้ง่ายกับคนแปลกหน้า สัตว์ตัวอื่น ปรับตัวได้ดีกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อย่างไรก็ตาม เจแปนนิส ชิน พวกเขามีข้อเสียเล็กน้อย ตรงที่ต้องการการเอาใจใส่มากจนติดนิสัยเอาแต่ใจ ต้องการเป็นจุดสนใจ  และถ้าพวกเขาไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เขาก็จะเกิดอาการอิจฉา อารมณ์ไม่ดี วิตกกังวล



  การดูแล

     เจแปนนิส ชิน มีขนยาวควรได้รับการแปรงขนประมาณ  3-4  นาทีเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนสวยและดูเงางามอยู่เสมอ ขนของเจแปนนิส ชินเป็นขนชั้นเดียว มีการพลัดขนปานกลาง ควรอาบน้ำให้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ใช้แชมพูที่อ่อนโยนเป็นพิเศษต่อผิว ควรหลีกเลี่ยงครีมนวด  หากไม่สกปรกมากนัก การแปรงขนเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา การดูแลรักษาตาสำคัญมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ ควรทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน หูก็เช่นกัน เพราะอาจจะพบสัญญาณของการติดเชื้อได้ ส่วนการดูแลรักษาฟันก็ควรรักษาให้สะอาดเช่นกัน เพราะการคอยตรวจเชคและดูอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ฟันของพวกเขาอยู่ได้นานมากขึ้น  นอกจากนี้ควรตรวจดูเล็บเท้า หากยาวให้ตัดบริเวณปลายเล็บออก

     การออกกำลังกาย เจแปนนิส ชินต้องการการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย เพราะพวกเขาเป็นสุนัขที่มีพลังงานต่ำ ควรให้เขาออกกำลังกายวันเว้นวันเป็นอย่างมาก หรือ 2-3 วันต่อครั้ง พวกเขาชอบเดินมากกว่าวิ่ง ซึ่งการออกกำลังกายแต่พอดีทำให้เขารู้สึกพึงพอใจและมีความสุข แต่ต้องระวังสุนัขตัวอื่นพยายามเข้ามาจู่โจม หรือเข้ามาเล่นด้วยความรุนแรงเพราะจะทำให้พวกเขาตกใจ



  ข้อควรจำ

     เจแปนนิส ชินมีปัญหาได้เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์หน้าสั้นทั่วๆ ไป พวกเขามีแนวโน้มมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ ส่งเสียงครืดคราด ถ้าหากอยู่ในระดับรุนแรงมากขึ้น ควรพาไปพบสัตวแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะเป็นกระดูกสะบ้าอักเสบ ต้อหิน ต้อกระจก โรคลมแดด  และเสี่ยงอย่างมากที่จะเป็นโรคหัวใจในสุนัข โดยเฉพาะเมื่ออายุย่างเข้า 10 ปี ดังนั้นจึงควรพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ และหากพบอาการผิดปกติควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2014, 02:11:55 pm »



 lv! ความเป็นมา

     จริงๆแล้วมีสุนัข spitz อยู่หลายพันธุ์ เช่น Japanese spitz , Finnish Spitz ,German Spitz แต่ที่ได้รับความนิยมในบ้านเราที่สุดคือ Japanese spitz ซึ่งเป็นสุนัขที่เกิดจากการ ผสมพันธุ์ระหว่างสุนัข Siberian และ Samoyed ให้ตัวเล็กลง จะเห็นว่าหน้าตาเหมือนเจ้า Samoyed ทุกอย่าง เพียงแต่ว่าขนาดเล็กลงมาเท่านั้นเอง ในสมัยก่อนสุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นมาก จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์



 lv! ลักษณะนิสัย

     มีนิสัยร่าเริง ฉลาด และขี้เล่น ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา และเชื่อฟังเจ้าของ อาจจะเห่าเก่ง เพราะมันจะมีสัญชาติญาณในการเตือนภัยให้เจ้าของเมื่อมันรู้สึกว่ามีอันตราย หรือมีคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาใกล้ มันจะทำตัวเป็นยามปกป้องบ้านอยู่เสมอเลย ตามปกติแล้วเป็นสุนัขที่ฝึกได้ง่ายครับ แต่เจ้าของจะต้องให้เวลากับมันและฝึกอย่างสม่ำเสมอ สุนัขพันธุ์นี้จะชอบเล่นเกม อย่างพวกขว้างของแล้วให้ไปเอากลับมานี่จะชอบมากเป็นพิเศษ โดยทั่วไปแล้วสุนัขพันธุ์นี้เป็นมิตรกับเด็ก และเข้ากันได้ดีกับสุนัขที่ถูกเลี้ยงอยู่ในบ้านเดียวกัน

 lv! การดูแล

     การดูแลขน นี่ควรจะได้รับการแปรงหรือหวีอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องพาไปตัดขน ตามปกติแล้วเจ้าสปิตซ์เป็นหมาที่รักสะอาดมาก อาจจะไม่ต้องอาบน้ำบ่อยนักในหน้าผลัดขน ขนของสุนัขพันธุ์นี้จะร่วงค่อนข้างเยอะ ตามลักษณะของสุนัขพันธุ์ที่มีขนสองชั้นและเป็นสุนัขในกลุ่ม Northern Breed ทั่วไป



 lv! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้เลี้ยงต้องให้เจ้าตูบออกกำลังกายอย่างเพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่พลังงานค่อนข้างเยอะ ในแต่ละวันควรให้โอกาสมันได้วิ่งเล่น หรือเล่นเกมกับเขาบ้าง ก็จะลดปัญหาเรื่องการกัดทำลายข้าวของ ในบ้านลงได้


 lv! ข้อควรจำ

     สิ่งที่อาจจะเป็นปัญหาก็คือเรื่องการเห่า เพราะได้ชื่อว่าเป็น "หมาเล็กใจใหญ่" เป็นสุนัขที่กล้าหาญและพร้อมที่จะปกป้องเจ้าของหรือบ้านที่อาศัยตลอดเวลา จะสงสัยคนแปลกหน้าเอาไว้ก่อน 
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2014, 02:19:30 pm »



  ลักษณะทั่วไป
     เป็นนักล่าตัวเล็กๆ ที่ยอดเยี่ยม มีความว่องไวในการไล่ล่า เป็นสุนัขที่ฉลาดและเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายและปฏิบัติตามได้เป็นอย่างดี

  ความเป็นมา
     แจ็ครัสเซลล์ได้มีการเพาะพันธุ์สายพันธุ์ขึ้นมาใหม่เมื่อต้นปี ค.ศ. 1800 ในประเทศอังกฤษโดยศาสนจารย์ Jack Russell ซึ่งภายหลังสุนัขพันธุ์ดังกล่าวจึงถูกเรียกว่า Jack Russell Terrier (JRT) ตามชื่อของท่านศาสนจารย์ นอกจาก Jack Russell Terrier จะมีชื่อตามศาสนจารย์ที่เรียกกันแล้ว ก็ยังมีบางครั้งที่คนมักเรียกก็คือ PARSON JACK RUSSELLโดยทั่วไปแล้วสุนัขสายพันธุ์กลุ่ม TERRIER จะใช้ในการล่าสัตว์และติดตามเหยื่อไปหลังจากที่เหลือ โดยสุนัขในกลุ่ม HOUND ไล่ต้อนมาก่อนหน้านี้แล้ว



  ลักษณะนิสัย
     แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียร์ มีความเป็นนักล่าตัวเล็กๆ โดยจะไล่ล่าไปตั้งแต่ หมาจิ้งจอก จนถึงหนูตัวเล็กๆ มันจะใช้เวลาในการสำรวจพื้นที่ก่อนจะทำการไล่ล่า แจ็ครัสเซลล์ ทอร์เรียร์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด ซึ่งเห็นได้ ชัดจากการที่สุนัขเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสนามแข่งขัน

  การดูแล
     สุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียร์ ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย การอาบน้ำแค่เดือนละครั้งก็ไม่ถือว่าน้อยเกินไป และปริมาณการอาบน้ำอาจจะมีเพิ่มมากขึ้น ได้ถ้าสุนัขชอบเล่นซนหรือไปคลุกกับสิ่งสกปรกต่างๆ แต่ก็ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้งเนื่องจากน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติถูกชำระล้างออกไป และไม่ควรใช้แชมพูหรือสบู่ของคนเพราะไม่เหมาะกับสภาพผิวของสุนัข นอกจากนี้ยังต้องแปรงขนเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วงออกไปสัปดาห์ละครั้งด้วย สุนัขพันธุ์นี้จะมีการผลัดขนทุกปี ซึ่งในช่วงนั้นอาจจะต้องแปรงขนหรืออาบน้ำบ่อยขึ้น

     นอกจากนี้คุณผู้เลี้ยงยังต้องคอยสังเกตลักษณะของ ดวงตา ฟัน หู เท้า และเล็บอย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะหากพบปัญหาก็จะได้รักษาตั้งแต่เบื้องต้น โดยเฉพาะในลูกสุนัข



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
     สุนัขพันธุ์แจ็กรัสเซลล์มีพลังงานสูง ผู้เลี้ยงควรจะมีเวลาพาพวกเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำ ชอบใช้ชีวิตในแบบแอคทีฟ สนุกสนาน สร้างสรรค์และต้องการความร่าเริงกับชีวิต แจ็กรัสเซลล์ต้องหารการดูแลเอาใจใส่ การได้ทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ ชีวิตผู้เลี้ยงที่ชอบหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ อาจจะรู้สึกหงุดหงิดง่าย และเหนื่อยที่จะเลี้ยงค่ะ หากบ้านมีพื้นที่ให้พวกเขาได้วิ่งเล่นจะดีมากๆ

  ข้อควรจำ

     แจ็กรัสเซลล์มีโอกาสเป็นโรคได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น ตาแฉะ ลืมตาไม่ได้ สีตาเปลี่ยน หรือโรคหัวใจที่ส่งผลต่อระบบการหายใจ โรคตับที่ส่งผลให้ มีการขับปัสสาวะออกมามาก ความต้องการอยากอาหารลดลง หากพบความผิดปกติของร่างกายควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาเบื้องต้น
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2014, 02:28:53 pm »



 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     ชเนาเซอร์มีถึง 3 สายพันธุ์ คือ ไจแอนท์ ชเนาเซอร์ สแตนดาร์ดชเนาเซอร์ และ มินิชเนาเซอร์ เป็นสุนัขที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มีคิ้ว มีหนวด ดูน่าเกรงขามและดุ แต่ตรงกันข้ามเป็นสุนัขที่รักบ้าน และเจ้าของมากๆ เป็นมิตรกับคนด้วยโดยเฉพาะเด็กๆ

 HAPPY2!! ความเป็นมา

   ชเนาเซอร์สุนัขพันธุ์เก่าแก่ ต้นกำเนิดเป็นสุนัขเลี้ยงแกะ ถิ่นกำเนิดอยู่ทีประเทศเยอรมันนี โดยคำว่า ชเนาซ์ (Schnauze) เป็นภาษาเยอรมัน มีความหมายว่าปาก คำว่าชเนาเซอร์จึงมีความเหมาะสมที่จะเรียกสุนัขที่มีหนวดเคราอย่างสุนัขพันธุ์นี้ ในสมัยก่อนพ่อค้าที่ต้องเดินทางในช่วงศตวรรษที่ 15-16 จะใช้ชเนาเซอร์เพื่อคุ้มกันรถบรรทุกเทียมม้าในระหว่างการเดินทางไปแต่ละหมู่บ้าน ขนาดดัวของสุนัขไม่ควรจะใหญ่เกินไปเพราะต้องสามารถอยู่บนหลังคาของรถบรรทุกเทียมม้าขณะเดินทางได้ แต่ก็ต้องดุร้ายพอที่จะขับไล่พวกขโมยได้ด้วยเช่นกัน มินิเอเจอร์ และไจแอนท์ชเนาเซอร์ถูกพัฒนาจากสแตนดาร์ดชเนาเซอร์



 HAPPY2!! ลักษณะนิสัย
 
     เป็นสุนัขที่ฉลาด กระฉับกระเฉง ว่องไว สนใจและสำรวจสภาพแวดล้อมของมันอยู่เสมอ มีความรักให้กับครอบครัวผู้เลี้ยงและชอบอยู่กับคนที่สุด มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี ไม่ก้าวร้าว มีสัญชาตญาณความปลอดภัยดี หากพบคนแปลกหน้ามันจะไม่สน ผู้เลี้ยงจึงควรแนะนำผู้มาเยี่ยมให้มันรู้จัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานการเลี้ยงจากเจ้าของ เพราะนิสัยของแต่ละตัวก็จะย่อมแตกต่างกันไป



 HAPPY2!! การดูแล
 
     สุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์นั้น ไม่ค่อยมีปัญหาในการดูแลอะไรมาก เพราะเป็นสุนัขทอดทนและแข็งแรง แต่สิ่งที่ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอคือ เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงจะต้องอาบน้ำให้สุนัขอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยแชมพูที่ใช้นั้นควรจะใช้ของสุนัข โดยเฉพาะและมีความอ่อนโยนต่อผิว ควรแปรงขนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง อาจมีตัดขนได้บ้าง หากไม่ต้องการให้มีเยอะมากเกินไป

ในเรื่องของการให้อาหาร ผู้เลี้ยงควรให้อาหารที่มีคุณภาพสูง อาจไม่จำเป็น ที่ต้องเพิ่มวิตามินหรืออาหารอย่างอื่นใดๆ ลงไปก็ได้ การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุนัขพันธุ์ชเนาเซอร์ คือการวิ่งออกกำลังกายในช่วงเวาสั้นๆ เช่นวันละ 15 – 20 นาที่ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้มีการตื่นตัวตลอดเวลา จึงควรออกกำลังกายวันละหนึ่งครั้ง ผู้เลี้ยงควรให้ความสำคัญกับเรื่องของที่นอนของสุนัข ไม่ควรให้สุนัขนอนในบริเวณที่มียุงชุม ควรจะต้องมีมุ้งลวดติด เพราะหากโดนยุงกัดมากๆ จะทำให้เกิดโรคหนอนหัวใจได้

 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ชเนาเซอร์เป็นสุนัขที่ไม่มีการผลัดขน ไม่มีกลิ่นตัว ฉะนั้นผู้ที่เป็นภูมิแพ้ก็สามารถเลี้ยงได้ และยังเหมาะกับผู้เลี้ยงที่ต้องการนำมาคุ้มครองป้องกันภัยและครอบครัว ทั้งสำหรับผู้เลี้ยงที่เอาใจใส่ และพร้อมที่จะให้ชเนาเซอร์เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพราะพื้นฐานการเติบโตของสุนัขพันธุ์นี้มาจากความรัก ความจงรักภักดีและสภาพแวดล้อมที่ดี



 HAPPY2!! ข้อควรจำ

     ชเนาเซอร์เป็นสุนัขที่ชอบความท้าทาย จึงไม่เหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นเท่าไหร่ จะไม่ใช้เวลานานต่อการทำกิจกรรมใด กิจกรรมหนึ่งควรที่จะเปลี่ยนกิจกรรมบ่อยๆ เพื่อฝึกให้เชื่อฟังและจะได้ไม่ทำให้มันเบื่อ
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2014, 02:35:44 pm »



 ping! ลักษณะทั่วไป
 
     ชาเป่ยเป็นสุนัขขนาดกลาง รูปร่างคล้ายกับฮิปโปโปเตมัส ขนสั้น ลักษณะภายนอกที่เห็นแล้วระบุได้ชัดเจนว่า “เจ้าคือชาเป่ย” ก็คือหนังยับๆย่นๆ ปกคลุมบริเวณส่วนศีรษะและลำคอ แต่รอบย่นพวกนี้จะหายไปเมื่อมีอายุมากขึ้น

 ping! ความเป็นมา
 
     สุนัขพันธุ์ชาเป่ยชาร์ไป่ เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดจากหมู่บ้านเล็กๆ เมืองไต้ลี่ มณฑลกวางตุ้ง และมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ในตอนใต้ของประเทศจีน สมัยราชวงศ์ฮั่น

     และชื่อ ชาเป่ย หมายความว่า ผิวของดิน แต่ก็มีการตีความผิดไปว่า ผิวของกระดาษทราย หรือผิวหนังที่หยาบกร้านคล้ายกระดาษทราย จากการตีความหมายนี้ได้กลายเป็นคุณสมบัติเฉพาะของสุนัขพันธุ์ชาเป่ย ที่มีผิวหนังคล้ายสีของพื้นดิน น้ำตาลบ้าง ดำ-น้ำตาลบ้าง แต่ทุกสีจะมีลักษณะเดียวกันคือ ขนสั้น

     ทั้งนี้ มีการสันนิษฐานว่า ชาเป่ย น่าจะเกี่ยวโยงกับเชา เชา เพราะมีลักษณะร่วมกัน คือมีลิ้นสีน้ำเงินเข้ม หรือม่วง เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุด และถึงกับเคยถูกบันทึกให้เป็นสุนัขที่หายากที่สุดมาแล้ว แต่ปัจจุบันได้มีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย แต่เดิม ชาเป่ย ไม่ได้หน้าตาแบบที่เราๆ เห็นกัน เพราะกว่าเราจะได้เห็นหมาย่นเหมือนผ้าห่มไปทั้งตัวอย่างนี้ ก็ผ่านการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นะระยะ โดย ชาเป่ย เริ่มจากการเป็นหมาชาวบ้านชาวเมืองทั่วไป เฝ้าบ้าน เฝ้าไร่นาเรือกสวน ชาเป่ย ถูกพัฒนาในด้านความฉลาด และพละกำลัง หลังจากนั้น ชาเป่ยก็ถูกจับไปใช้ในการแข่งขัน คือเอามาต่อสู้กัน ตอนนี้เองที่เอกลักษณ์โดดเด่นของชาเป่ย ได้ถูกพัฒนาขึ้นมา นั่นก็ความยับย่นทั่วตัว ซึ่งว่ากันว่าเกิดขึ้นเพื่อช่วยไม่ให้ถูกคู่ต่อสู้งับไว้ได้ง่ายๆ



 ping! ลักษณะนิสัย

     ชาเป่ยเป็นสุนัขที่ฉลาดและค่อนข้างมีมาดพอสมควร ดูสุขุม นิ่งๆ ไม่ค่อยเป็นทั้งมิตรกับคนแปลกหน้าและสุนัขตัวอื่นๆ แต่มีความซื่อสัตย์กับเจ้าของสุดๆ และที่สำคัญชาเป่ยมีความสามารถในการเฝ้าบ้านเป็นอย่างมาก เชื่อฟังคำสั่งและชอบประจบเจ้าของ ไม่ชอบใช้ความรุนแรงหรือคอยหาเรื่องกับสุนัขตัวอื่น แต่จะสู้ไม่ถอยเมื่อโดนรังแก

 ping! การดูแล

     ในเรื่องของการให้อาหารนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผสมสีสังเคราะห์ (ไม่ใช่สีผสมอาหาร) วัตถุกันเสียและเนื้อแดง หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวโพดและถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้ ส่วนในเรื่องของความสะอาดนั้น สุนัขชาเป่ยเป็นสุนัขที่ต้องการความสะอาดเป็นอย่างมาก เพราะชาเป่ยมีเหงื่อเยอะต้องหมั่นอาบน้ำให้สะอาดอยู่เสมอๆ และต้องคอยดูแลเรื่องการสะสมของสิ่งสกปรกในหูที่จะทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวกการที่จะเลี้ยงสุนัขชาเป่ยให้มีสุขภาพดีได้นั้น ผู้เลี้ยงจะต้องพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ดูแลเรื่องเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ



 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     สุนัขชาเป่ยเหมาะสำหรับผู้เลี้ยงที่ต้องการสุนัขที่ซื่อสัตย์กับเจ้านายเพียงคนเดียว ทั้งนี้ผู้เลี้ยงจะต้องเข้าใจอุปนิสัยของสุนัข ต้องมีเวลาในการดูแลเรื่องของความสะอาด และต้องเข้าใจถึงการแสดงออกของสุนัขด้วย



 ping! ข้อควรจำ
 
     ชาเป่ยเป็นสุนัขที่มีน้ำลายเยอะมาก ดังนั้นต้องทำใจไว้ก่อนว่าจะเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านจะต้องเต็มไปด้วยน้ำลายของชาเป่ย
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2014, 01:52:42 pm »



 Roll Eyes ลักษณะทั่วไป

     ชิบะอินุเป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด เป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับพันธุ์อะคิตะ (Akita) รูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ขนสั้น 2 ชั้น มีทั้งสีดำผสมสีน้ำตาล สีแดง หรือ สีงาแดง ดวงตาสดใสและรูปริมฝีปากโค้งเหมือนกับกำลังยิ้ม ชิบะอินุ เป็นสุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม  มีอายุเฉลี่ยประมาณ 12-15 ปี แต่มีสายพันธุ์ ชิบะ ปูสุเกะ (Shiba Pusuke) ซึ่งได้รับการออกกำลังอย่างเป็นกระจำจนร่างกายแข็งแรง สามารถอยู่ได้ยืนยาวถึง 26 ปี

 Roll Eyes ความเป็นมา

     ชิบะ อินุ มีต้นกำเนิดสายพันธุ์มาจากสุนัขล่าสัตว์ที่เติบโตอยู่ในบริเวณภูเขาของประเทศญี่ปุ่น ถือว่า เป็นสุนัขพื้นเมืองของชาวญี่ปุ่น เลี้ยงไว้ล่าสัตว์เล็กๆ  คำว่า “ชิบะ” หมายถึงพุ่มไม้หนา “อินุ” หมายถึง สุนัข ชิบะ อินุเป็นสุนัขที่ได้รับมาตรฐานสายพันธุ์แรกของญี่ปุ่น และได้รับการยอมรับและตั้งเป็นอนุสาวรีย์ของญี่ปุ่นผ่านกฎหมายทางทรัพย์สินทางวัฒนธรรม เพื่อการอนุรักษ์ของสุนัขญี่ปุ่น  ชิบะ  อินุเคยเกือบจะสูญพันธุ์เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลมาจากระเบิด สารเคมีและเชื้อโรค แต่หลังจากสงครามได้มีการนำชิบะ อินุที่เหลืออยู่ 3 สายเลือดคือ ชินชุ ชิบะ จากจังหวัดนากาโน่  มิโน ชิบะ จากจังหวัดไอจิ และ ซานอิน  ชิบะ จากจังหวัดทตโตะริและจังหวัดชินามิ มาผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นที่รู้จักจนถึงทุกวันนี้



 Roll Eyes ลักษณะนิสัย

     ชิบะ อินุ เป็นสุนัขที่ร่าเริงแจ่มใส คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ว่องไว ขี้เล่น ฉลาด รักอิสระซื่อสัตย์ กล้าหาญ ใจดี อ่อนโยน รักและผูกพันกับสมาชิกในครอบครัวมากๆ และเป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก  อย่างไรก็ตามชิบะ อินุ มีข้อเสียก็ตรงค่อนข้างเอาแต่ใจโดยเฉพาะ ขณะฝึกวินัย บางครั้งถึงกับทำให้เจ้าของปวดหัวกับอาการดื้อของพวกเขา ดังนั้นต้องฝึกฝนพวกเขาเป็นประจำอย่างอดทน 

 Roll Eyes การดูแล

     ชิบะ อินุ เป็นสุนัขขนสั้น หนา ง่ายต่อการดูแลรักษา ผู้เลี้ยงควรแปรงขนให้เขาเป็นประจำ เพื่อแปรงเอาขนที่หลุดล่วงออก ส่วนการอาบน้ำควรอาบให้อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ซึ่งปกติแล้วพวกเขาจะถูกเลี้ยงไว้อยู่ในบ้าน จึงไม่สกปรกมาก การอาบน้ำให้แต่ละครั้งมักมีจุดประสงค์เพื่อชำละล้างชั้นขนที่หลุดล่วงตามฤดูกาล นอกจากขนที่ผู้เลี้ยงต้องดูแลแล้ว ฟันก็ควรได้รับการดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้พวกเขามีฟันไว้บดเคี้ยวอาหารให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ส่วนการดูแลช่องหู ควรใช้น้ำมัน (Baby oil) และสำลีทำความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อในช่องหู เป็นสาเหตุของหูอักเสบ หรือเกิดการทำลายหูชั้นใน

     ในส่วนของการออกกำลังกาย ควรพาเขาออกไปเดินหรือวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวัน  แต่ควรให้ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะไม่หักโหมจนเกินไป  เพราะโดยปกติแล้วชิบะ อินุเป็นสุนัขที่มีความตื่นตัวอยู่ตลอด สามารถวิ่งเล่น ออกกำลังกายด้วยตัวของมันเอง เพียงแต่การพาไปออกกำลังร่วมกับเจ้าของ เป็นเสมือนการฝึกวินัย และสร้างความผูกพันต่อเจ้าของไปด้วยในตัว



 Roll Eyes ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ชิบะ อินุพวกเขาเป็นสุนัขที่ปรับตัวได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม สามารถอยู่ในอพาร์ตเม้นท์ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่อาจต้องพาเขาไปออกกำลังกายนอกบ้านเป็นประจำ ยิ่งถ้าเป็นพื้นที่โล่งกว้างให้เขาได้วิ่งเล่นเขาจะรู้สึกดีมากๆ แต่ควรมีรั้งรอบขอบชิด พวกเขาต้องการความรักและอยู่ร่วมกับครอบครัว ไม่ควรเลี้ยงเขาไว้นอกบ้าน ฝึกวินัยยาก ผู้เลี้ยงจึงต้องมีความอดทนต่อการฝึกพวกเขา

 Roll Eyes ข้อควรจำ

     ชิบะ อินุมีโรคทางกรรมพันธุ์ คือโรคต้อหิน ต้อกระจก ประสาทตาเสีย สะโพกเสื่อม กระดูกสะบ้าเสื่อม รวมทั้งเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ ดังนั้นผู้เลี้ยงควรสังเกตดูอาการที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพาพวกเขาไปตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคอาจเกิดขึ้นทั้งก่อนหรือตามช่วงวัย
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2014, 01:58:45 pm »




  ลักษณะทั่วไป

     ชิวาวา เป็นสุนัขขนาดเล็ก ถือว่าตัวเล็กที่สุดในโลก!! หูมีขนาดใหญ่ ดวงตากลมโต เหมาะที่จะใช้เลี้ยงเป็นเพื่อน ชอบออกไปเดินเล่นกับเจ้าของ เห่าเสียงดัง ค่อนข้างติดเจ้าของและไม่ทำลายข้าวของ

  ความเป็นมา

     ชิวาวาหรือเจ้าชิวาว่ามีต้นกำเนิดที่ประเทศเม็กซิโก ชาวพื้นเมืองนิยมเลี้ยงเพราะมีความเชื่อถือในเรื่องโชคลางต่างๆ จนถึงขั้นมีการนำชิวาวาไปใช้ในพิธีบูชายันต์!!

  การดูแล
   
     วงอายุที่ต้องการเอาใจใส่มากที่สุดในการเลี้ยงชิวาวาเพราะสุนัขจะตายมากที่สุดคือช่วงอายุระหว่าง 2-3 เดือน เนื่องจากวัยนี้เป็นช่วงที่สุนัขเพิ่งเริ่มอดนมใหม่ๆ ซึ่งหากลูกสุนัขกินอาหารอะไรที่ผิดไปเพียงนิดเดียว ก็จะส่งผลให้สุนัขท้องเสียได้ โดยถ้าสุนัขตัวไหนไม่มีภูมิต้านทานได้รับเชื้อก็อาจจะถึงตายได้เหมือนกัน แต่หลังจากช่วงอายุ 2-3 เดือนไปแล้ว ก็สามารถที่จะเอาใจใส่น้อยลงได้

     แล้ววิธีสังเกตง่ายๆ ว่าสุนัขมีอาการผิดปกตินั้นให้สังเกตจากการที่สุนัขไม่ค่อยกินข้าวหรือกินข้าวน้อยลงก็ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าสุนัขกำลังจะไม่สบาย และส่วนการให้อาหารนั้นผู้เลี้ยงสามารถเลือกซื้ออาหารสุนัขสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดมาให้กับสุนัขกินได้เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับสุนัขเท่านั้น

     ในเรื่องของการออกกำลังกาย ผู้เลี้ยงสามารถปล่อยให้ชิวาวาไปออกกำลังกายได้เองภายในสวนหรือพื้นที่จำกัด แต่ชิวาวาชอบที่จะออกไปเล่นกับเจ้าของมากกว่า

     ส่วนเรื่องสุขภาพนั้นโรคที่จะเกิดขึ้นกับชิวาวาก็จะเหมือนกับสุนัขพันธุ์อื่นทั่วๆ ไป ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือ โรคลำไส้อักเสบกับไข้หัด สาเหตุของโรคทั้งสองเป็นโรคติดต่อซึ่งหากสุนัขตัวไหนไม่มีการฉีดวัคซีนแล้วไปถูกเชื้อเข้าก็จะติดต่อได้



   ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     ผู้เลี้ยงชิวาวาต้องมีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกายบ่อยๆ เพื่อควบคุมน้ำหนัก และต้องมีความรอบคอบในการดูแลสุนัข เนื่องจากชิวาวาเป็นสุนัขพันธุ์เล็กหากผู้เลี้ยงไม่มีความระมัดระวังอาจจะเผลอถอยรถเหยียบหรือพลัดหล่นจากมือตกลงมาตายหรือกัดสายไฟถูกไฟช๊อตตายได้ ดังนั้นการป้องกันอุบัติเหตุที่ดีที่สุดคือการใส่สุนัขไว้ในกรงตลอดเวลา



  ข้อควรจำ

     ระวังอย่าให้ศีรษะได้รับการกดหรือการกระแทก เพราะน้องชิวาวามีความเสี่ยงที่กระโหลกหน้าผากจะปิดไม่สนิทแม้จะอยู่ในช่วงโตเต็มวัย นอกจากนี้ ฟันของชิวาวามักมีหินปูนจับบ่อย จึงต้องพาไปหาสัตวแพทย์ ปีละ1-2ครั้ง
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2014, 02:02:36 pm »



 lv! ลักษณะทั่วไป
 
     ชิสุเป็นสุนัขที่แข็งแรง ร่าเริง กระตือรือร้น บรรพบุรุษเป็นสุนัขของชนชั้นสูงในจีน จึงมีลักษณะสง่างาม หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง ถึงแม้จะมีขนาดแตกต่างกันแต่โดยทั่วไปชิสุจะต้องตัวเล็กกะทัดรัด กระนั้นก็ไม่ถึงกับบอบบาง ต้องมีสุขภาพดีและมีโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน

 lv! ความเป็นมา
 
     ชิสุ ชื่อของสุนัขพันธุ์นี้มาจากภาษาจีน แปลว่า สุนัขสิงโตเป็นสุนัขในสามสายพันธุ์ชั้นสูง พวกเดียวกับปักกิ่งและปั๊ก เป็สุนัขที่หรูหราที่สุดจากจักรพรรดิจีน โดยกล่าวว่าพระทิเบตมอบสุนัขพันธุ์ชิสุให้จักรพรรดิจีนเป็นของกำนัล สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักนอกอาณาจักรจีนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 เริ่มจากอังกฤษ ฝรั่งเศส ชิสุเป็นสุนัขตัวเล็กขนยาว เจ้าเสน่ห์มีหางไม่ยาวนักยกสูงขึ้นเหนือหลัง ขนที่หัวมักจะโดนรวบขึ้นแล้วผูกโบว์สีแดงดูสะดุดตามาก มีท่วงทำนองการเดินสูงศักดิ์แบบขุนนาง แต่ลักษณะการเห่าของชิสุจะมีความเป็นเฉพาะตัวอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่มันจะเห่าทักทายด้วยเสียงใหญ่ดังน่ากลัวมากตลอดเวลาจนกว่าเจ้าของจะปรามถ้าเป็นแบบทีคัพก็จะยังดังอยู่มากด้วย



 lv! ลักษณะนิสัย

     ปกติชิสุจะมีนิสัย ดุ เห่าเก่งมากและดังมากดูจะเป็นสุนัขอารมณ์ศิลปินซะด้วย หลายครั้งที่พบว่ามันจะไม่เชื่อฟังเจ้าของถ้ามันไม่อยากทำซะอย่าง ขี้ประจบ ตื่นตัว รักษาสะอาด เป็นมิตร ทำให้ปรับตัวได้ดี ชิสุชอบวิ่งและรักความสนุกซึ่งเจ้าของจำเป็นจะต้องพามันออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง

 lv! การดูแล 

     ชิสุเป็นสุนัขที่เหมาะจะเลี้ยงไว้ในบ้าน ผู้เลี้ยงควรจูงเขาเดินเล่นเป็นประจำวัน ควรอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเป่าขนให้แห้งทันทีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ กำจัดเห็บหมัดอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อขนของชิสุ ยาว ผู้เลี้ยงควรพาไปตัดแต่งขนและดเล็บอย่งสม่ำเสมอ ส่วนอาหารนั้นผู้เลี้ยงควรให้อาหาร 2 ครั้งต่อวัน ควรให้อาหารตรงเวลา และอาหารที่ให้ควรเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะชิสุมีขนยาว หากให้กินอาหารกระป๋องจะทำให้เลอะและมีกลิ่นปากได้ ด้านการดูแลสุขภาพผู้เลี้ยงควรพาชิสุไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคสุนัขบ้าและวัคซีนอื่นๆ ตามตารางที่สัตว์แพทย์ได้กำหนด และควรดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยให้อยู่ในบ้านตัวเดียวนานๆ เพราะสุนัขอาจมีอาการซึมเศร้าได้



 lv! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ชิสุ มีบุคลิกกระฉับกระเฉง สามารถให้ความรักกับสุนัขได้ มีเวลาในการดูแลเอาใจใส่ เช่น เล่น แปรงขน ฝึกให้เข้าสังคม เป็นต้น ไมม่จำเป็นต้องมีพื้นที่กว้าง สามารถอยู่ได้ที่อพาร์ตเม้นท์ แต่ควรจะมีเวลาพาไปออกกำลังกาย เผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และให้ได้มีโอกาสพาออกไปรู้จักสังคม จะได้ไม่ดุ และอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายเมื่อพบเจอคนแปลกหน้า



 lv! ข้อควรจำ

     ชิสุมีปัญหาเรื่องโรคผิวหนังได้ง่าย ควรใช้แชมพูสำหรับแพ้ง่าย ไม่ควรใช้แชมพูของคนเด็ดขาด ควรแปรงขนเป็นประจำทุกวันเพื่อขจัดขนที่ตายแล้ว รวมทั้งรังแค นอกจากนี้ชิสุยังมีโรคประจำสายพันธุ์คือ โรคหลอดลมตีบ โรคตาแห้ง โรคเชอร์รี่อาย และ โรคหูอักเสบ หากพบมีว่าผิวหนังมีอาการผิดปกติควรปรึกษาสัตวแพทย์
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2014, 02:08:30 pm »




  ลักษณะทั่วไป

     เป็นสุนัขที่มีความกระตือรือล้นสูง มีความแข็งแรงมาก เพราะมีคุณลักษณะในแบบสุนัขดูแลแกะ เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด เชดแลนด์ชิพด๊อกอาจจะเรียกได้ว่าเป็นคอลลี่รุ่นเล็ก คนยาวปานกลาง แลดูสวยงาม ขนหนา รูปร่างดูปราดเปรียวว่องไว เหมาะกับเป็นน้องหมาต้อนแกะ

  ความเป็นมา

     เป็นการผสมกันระหว่างสุนัขพันธุ์คอลลี่ (Collie) กับสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนเกาะเซทแลนด์ที่เป็นกลุ่มสายพันธุ์สปิตซ์ (Spitz Type) และมีส่วนผสมของสายพันธุ์ ไอซ์แลนด์ดิก ชีพด็อก สำหรับ สุนัข เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอังกฤษ ในปี 1909 เป็นสุนัขเพศเมีย ชื่อ Badenock Rose และ เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอเมริกา ในปี 1911 คือ Lord Scott



  ลักษณะนิสัย

     มีความเฉลียวฉลาด รักเด็ก มีความรับผิดชอบ มีสัญชาตญาณที่ดี ซื่อสัตย์ ชอบความสงบ สามารถฝึกได้โดยง่าย ไม่ใส่ใจกับคนแปลกหน้าโดยจะแสดงอาการไม่ใส่ใจ ร่าเริง วิ่งเร็วและกระโดดเก่ง

  การดูแล

     พาไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ต้องอาบน้ำบ่อย แต่ถ้าอยู่ในเมืองไทย ออกกลางแจ้งบ่อยๆ ก็ควรอาบ 1ครั้งต่อ 1-2 สัปดาห์ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพขนคือการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันขนพันกัน ติดเป็นสางกะตัง

  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่ต้องการเลี้ยง เชดแลนด์ชิพด๊อกควรมีบ้านที่มีอาณาบริเวณ มีรั้วรอบขอบชิดให้พวกเขาได้วิ่งเล่น เพราะพวกเขาเคยเป็นน้องหมาต้อนเก็บมาก่อน ธรรมชาติจะชอบอยู่อย่างอิสระ มีพื้นที่ให้ได้วิ่งไปมา นอกจากนี้ผู้ต้องการเลี้ยงพวกเขาควรเวลาดูแลเรื่องขนให้แก่เขาเป็นประจำทุกวัน พาไปตัดแต่งทรงขน ทำความสะอาดหู เล็บเท้า เพื่อให้พวกเขาเป็นสุนัขที่สวยงาม สุขภาพดี



  ข้อควรจำ
       
      เชดแลนด์ชิพด๊อกต้องระวังเรื่องโรคสะบ้าเคลื่อน โรคสะโพกเคลื่อน หูอักเสบ โรคต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา และอาจจะต้องระวังสำหรับบางตัวที่อาจมีอาการเลือดหยุดออกยาก จึงควรระวังเรื่องการเคลื่อนที่ของพวกเขา ทำความสะอาดหูอย่างสม่ำเสมอ ควรพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากมีอะไรผิดปกติควรไปพบแพทย์
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2014, 02:15:40 pm »




   ลักษณะทั่วไป
 
     เชาเชาเป็นสุนัขที่มีพละกำลังเยอะมาก คล่องแคล่วว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอ มีขนหนาแน่นโดยเฉพาะที่รอบคอ ขนมีความมันวาวเป็นประกาย ทำให้ดูมีความสง่างามและมีความเป็นธรรมชาติ หน้าตาดุดัน ออกจะวางท่าสุขุมพอสมควร

  ความเป็นมา
 
     เชาเชา มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นพันธุ์ผสมระหว่าง มาสตีฟและชามอย และภายหลังเริ่มมีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษด้วยเพราะได้รับความสนใจจากพระนางวิคตอเรีย ปัจจุบันเป็นที่นิยมไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย



  ลักษณะนิสัย
 
     เป็นสุนัขที่มีความเฉลียวฉลาด มีการตัดสินใจที่ดี รักสงบและความอิสระ ที่สำคัญเชาเชาชอบวางท่าสุขุมเป็นผู้ดี มีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ อารมณ์ดี รักอิสระและซื่อสัตย์มาก และชอบเล่นกับคนในครอบครัวมากกว่าคนแปลกหน้า

  การดูแล
 
     เรื่องของความสะอาด ผู้เลี้ยงควรหมั่นอาบน้ำให้บ่อยๆ เพราะเป็นเชาเชาเป็นสุนัขที่รักความสะอาดมาก การแปรงและหวีขนเป็นประจำเพื่อทำให้ขนดูสวยอยู่เสมอ และช่วยป้องกันไม่ให้ในบ้านไม่เต็มไปด้วยขน ที่เกิดจากการผลัดขนของสุนัข ... ในเรื่องของสุขภาพผู้เลี้ยงจะต้องมีเวลาพาเชาเชา ไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงยังต้องหมั่นดูและเรื่องสุขภาพผิวหนังของสุนัข เนื่องจากสุนัขเชาเชามีโรคประจำตัวคือผิวหนังอักเสบ มีน้ำเหลืองเยิ้ม กระดูกข้อต่อของช่วงขาไม่แข็งแรง และการม้วนกลับของหนังตา ทำให้ขนตากลับไปทิ่มแทงลูกตา แต่ก็สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัด



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     ผู้เลี้ยงที่จะเลี้ยงสุนัขเชาเชาได้ดีนั้นคนที่มีเวลาเรื่องการตัดแต่งขนและการออกกำลังกายให้กับเชาเชาได้ และสุนัขเชาเชาจะรู้สึกว่าผู้เลี้ยงเหมือนเพื่อนเล่นมากกว่าเจ้าของ



  เกร็ดความรู้
 
   เชาเชาเป็นสุนัขที่รักสะอาดอย่างมากและมักจะทำความสะอาดหน้าของเขาเองหลังจากการกินด้วย
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2014, 08:23:52 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     โดยธรรมชาติแล้ว ซามอยด์เป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้เพื่อใช้งาน มีความแข็งแรง กระตือรือร้นและตื่นตัว ดูแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกออกจะสวยและสง่างาม ขนหนาเหมาะกับอากาศหนาว สีขนมีทั้งสีขาวบริสุทธิ์ สีขาวผสมขนมปังกรอบ สีครีม หรือสีขนมปังกรอบ ซามอยด์เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีริมฝีปากดำ หยักนิดๆ ที่มุมปาก จนได้รับขนานนาม “รอยยิ้มซามอยด์”  ซามอยด์เพศผู้จะมีช่วงหลังไม่ยาวนักเพราะความยาวที่มากจะทำให้หลังอ่อนแอ บาดเจ็บได้ง่าย แล้วด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงไม่ค่อยเหมาะกับการทำงานที่หนักหน่วงจนเกินไป แต่สำหรับเพศเมียช่วงหลังจะยาวกว่าเพศผู้นิดหน่อย พวกเขามีความสามารถทั้งในเรื่องของการลากเลื่อน การจูงลากดึงของที่มีน้ำหนัก ต้อนสัตว์ หรือแม้แต่แบกของให้แต่นักไต่เขา มีอายุได้ถึง 12-14 ปี

  ความเป็นมา

     ซามอยด์เป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่เก่าแก่ มีเชื้อสายใกล้กับสุนัขพื้นเมือง ซึ่งการผสมพันธุ์ร่วมกับหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก แล้วได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวซามอยด์ของไซบีเรีย เพื่อใช้ต้อนกวางเรนเดียร์ ลากเลื่อน  ซามอยด์ได้รับการดูแลจากชาวพื้นเมืองเป็นอย่างดี ถึงขนาดอนุญาตให้เข้าไปนอนในเต้นท์ได้ เพราะความเป็นความตายของพวกเขาขึ้นอยู่กับสุนัขสายพันธุ์นี้



  ลักษณะนิสัย

     ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีความฉลาด อ่อนโยน เชื่อฟัง ซื่อสัตย์ เป็นมิตร กระตือรือร้น ปรับตัวง่าย พร้อมที่จะรับใช้เจ้าของ รักที่จะอยู่กับครอบครัวมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากมนุษย์เป็นพิเศษ เข้ากันได้ดีกับเด็กๆ สามารถเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิต แต่เนื่องจาก ได้รับมรดกตกทอดจากเชื้อสายสุนัขใช้งาน พวกเขาจึงต้องคิดหา สร้างสรรค์กิจกกรมที่ทำให้เขาเพลิดเพลินด้วยตัวเอง เช่น ไล่จับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ หนู หรือแมว อะไรก็ตามที่ตัวเล็กๆ ชอบวิ่ง และชอบเห่า เพื่อเป็นหนทางในการปลอดปล่อยพลังงาน แทนการทำงานหรือกิจกรรมหนักๆที่พวกเขาไม่ได้ทำ

  การดูแล

     การทำความสะอาดซามอยด์ควรอาบน้ำให้ประมาณเดือนละครั้ง ไม่ควรอาบบ่อยจนเกินไป เพราะจะล้างน้ำมันที่ขนและผิวหนังซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติออกไป ทำให้ผิวแห้งและก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา  ขนของพวกเขา มักจะพันกันยุ่งเหยิง ควรแปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์ และแปรงบ่อยครั้งขึ้นช่วงฤดูผลัดขน

     อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีไว้ใช้งาน เมื่อนำมาเลี้ยงตามบ้าน จึงมีพลังงานเหลือเฟือ ดังนั้นการออกกำลังกายทุกวันเป็นประจำจึงจำเป็นมากๆ สำหรับพวกเขา เพื่อเผาผลาญพลังงาน เพราะถ้าพวกเขารู้สึกเบื่อหน่าย จะเกิดอาการพาล อารมณ์ไม่ดี วิ่งไปมา หรือเห่า อาจถึงขั้นทำลายข้าวของ เช่นเดียวกับเวลาที่เขาเกิดความวิตกกังวลกระวนกระวาย จึงควรพาเขาไปวิ่งหรือออกกำลังกายในพื้นที่กว้างๆ เช่นสนามหญ้าหรือสวนสาธารณะ แต่ซามอยด์ค่อนข้างตื่นตระหนกได้ง่าย และชอบเห่า จึงไม่ควรพาเขาออกไปอยู่ข้างนอกเป็นเวลานาน

     ซามอยด์ต้องการความรักและต้องการอยู่ร่วมกับคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงไม่ควรทิ้งเขาให้อยู่บ้านตัวเดียว พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้ตามลำพังนานจนเกินไป



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่ต้องการเลี้ยงซามอยด์ ต้องมีเวลาให้เขาเป็นอันดับแรก เพราะพวกเขารักที่จะอยู่กับคนในครอบครัว การทิ้งให้เขาอยู่ตามลำพังเกินหนึ่งชั่วโมง สามารถทำให้เขารู้สึกไม่มั่นคง และไม่มีความสุข และอาจทำลายข้าวของเวลาที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ แล้วถึงแม้พวกเขาจะสามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่แคบๆ นอนอยู่ในห้องบนโซฟากับเจ้าของ แต่การออกกำลังกายทุกวันก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับซามอยด์ เพื่อจัดการกับพลังงานที่เหลือใช้ได้มีทางปลดปล่อย เผาผลาญพลังงาน จะได้ไม่วิ่งซนไล่กัดสัตว์ตัวเล็ก หรือเห่าไม่ยอมหยุด จนกลายเป็นปัญหาของครอบครัว

  ข้อควรจำ

     ซามอยด์ต้องการความรักและการเอาใจใส่จากครอบครัวอย่างมาก อีกทั้งควรระวังโรคเกี่ยวกับสะโพกเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน ประสาทตาเสีย ซึ่งอาจมีผลทำให้ตาบอดได้ และโรคเบาหวาน ดังนั้นจึงควรพาไปตรวจร่างกายเป็นประจำ
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #22 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2014, 08:35:42 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     แม้ว่าซาลูกิจะมีความสง่างาม บอบบาง แต่มีความเฉลียวฉลาด คล่องแคล่ว ว่องไว แข็งแรง ทนทาน สมกับที่มีสายเลือดสุนัขล่าเนื้อ ซาลูกิมีขนยาวสลวยปกคลุมถึงช่วงขา  สีขนมีทั้งสีขาว สีครีม สีทอง สีแดง สีน้ำตาลลูกกวาง สีเทาผสมน้ำตาลแทน สีดำผสมสีน้ำตาลแทน หรือมีปนกัน 3 สี อายุโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12 – 14 ปี

  ความเป็นมา

     ซาลูกิมีถิ่นกำเนิดในประเทศอียิปต์  ในฐานะสุนัขของราชวงศ์แห่งอียิปต์  พวกเขาเป็นสุนัขที่ได้รับความชื่นชมและภาคภูมิใจว่ามีรูปร่างที่สง่างามมาก เฉกเช่นรูปลักษณ์ของกษัตริย์ฟาโรห์  แต่เดิมชาวอาหรับนำซาลูกิไปใช้ล่ากวาง เนื่องจากพวกเขาทนกับ สภาพอากาศแบบทะเลทราย ได้ดี สายตาว่องไว มีความสามารถในการล่าสัตว์ ซึ่งในปีค.ศ. 1840 ได้มีการนำเข้าซาลูกิยังประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยถูกนำไปเลี้ยงไว้เพื่อล่ากระต่ายป่า



  ลักษณะนิสัย

     ซาลูกิมีนิสัยรักอิสระเหมือนแมว ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่มีอ่อนไหวบ้าง เป็นมิตรกับผู้คน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ไม่ก้าวร้าว ซาลูกิมีเชื่อสายของสุนัขล่าเนื้อ จึงเป็นสุนัขที่สามารถฝึกสอนให้เชื่อฟังได้ดี แต่ต้องอาศัยความอดทน พวกเขาต้องการพื้นที่โล่งกว้างสำหรับวิ่งเล่น ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน



  การดูแล

     แม้ว่าซาลูกิจะอยู่ได้ดีภายในบ้าน แต่พวกเขาก็ต้องการออกไปนอกห้องหรือนอกบ้านบ้าง มีพื้นที่กว้างๆ ให้ได้ออกกำลังกาย โดยเฉพาะช่วงขาที่ยาวเป็นพิเศษ ซาลูกิชอบอยู่ในอากาศอบอุ่น แต่พวกเขาก็สามารถเจริญเติบโตได้ทุกที่ ควรแปรงขนให้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์  นอกจากขนแล้วยังต้องดูแลความสะอาดบริเวณตา หู และเท้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ผิวหนังพวกเขาบอบบาควรใช้ยาสระขนชนิดอ่อน ควรปล่อยให้แห้งโดยแสงแดดตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลดูบาดแผลที่เล็บซึ่งอาจเกิดขึ้นเวลาวิ่งเล่น

  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     มีพื้นที่สนามหญ้ารอบบริเวณบ้านให้เขาได้วิ่งเล่น ออกกำลังกายช่วงขา พาเขาวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวัน อีกทั้งควรจะมีเวลาดูแลรายละเอียดในการรักษาทำความสะอาด  ผิวหนังของสุนัขพันธุ์ซาลูกิบอบบางมากต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ



  ข้อควรจำ

     35.6 เปอร์เซ็นต์ของซาลูกิ เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถัดลงมาเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ เช่น โรคหัวใจล้มเหลว ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องการกินและสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาเป็นอย่าง หมั่นพาไปตรวจสุขภาพ และฉีดวัคซีน เป็นประจำ
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2014, 08:41:37 pm »



  ลักษณะทั่วไป
 
     สุนัขที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตาซึม ๆ คล้ายดูจะอึดอาด ต้องยกให้กับพันธุ์นี้เลย “เซนต์เบอร์นาร์ด” หน้าของมันจะมีเหมือนหน้ากากขนสีดำปกคลุมไว้ จึงทำให้ดูน่าเกรงขาม จะว่าไปเจ้าเซนต์นั้นก็เป็นสุนัขที่มีพละกำลังอยู่มาก มากพอที่จะลากคนได้ตัวปริวเลยทีเดียวล่ะ ยังไม่แค่นั้นเจ้าเซนต์ยังมีรูปร่างสูง ใหญ่ กำยำ มีกล้ามเป็นมัดๆ โดยเฉพาะบริเวณขาและแขน ที่เกิดจาการออกกำลังกายการฝึกฝนอยู่เสมอ หากอยู่ในท่ายืนตัวจะสูงกว่าหรือเท่าคนเลยนะจะบอกให้ จัดอยู่ในกลุ่ม Working Group หรือ สุนัขที่มีประโยชน์ในการกู้ภัย เฝ้าบ้านและงานด้านตำรวจ



  ความเป็นมา
 
     ประวัติของยังไม่เป็นที่แน่ชัดในต้นกำเนิดที่แท้จริงใน 700 ปีก่อนคริสตกาล แต่เจ้าเซนต์เบอร์นาร์ดนี้มีความเป็นมาที่ยาวนานมากๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1660 – 1670 นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบันระยะเวลาประมาณได้กว่า 1,000 ปี ถิ่นกำเนิดของเซนต์เบอร์นาร์ด คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ดที่ปกคลุมด้วยหิมะ แห่งเทือกเขาแอลป์(Alps) เป็นสุนัขภูเขาที่มีไว้รักษาความปลอดภัยให้กับพระและช่วยเหลือ กู้ภัยชีวิตมนุษย์ เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1048
 
     นักบวชชาวคริสต์ศาสนา ชื่อว่า เบอร์นาร์ดได้ไปยังบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ด เพื่อทำการขับไล่พวกโจรชาวฮังการีและซาราเซที่มักจะปล้น และฆ่าคนเดินทางหรือยึดตัวไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ให้ออกจากบริเวณนั้น เพื่อให้เกิดความสงบสุขและปลอดภัยต่อนักเดินทาง ซึ่งนักบุญเบอร์นาร์ดและเหล่าฤษีได้สร้างสถานที่พำนักไว้ช่วยเหลือ เหล่านักเดินทางถึงแม้จะกำจัดโจรได้อย่าง เส้นทางของช่องเขาเซนต์เบอร์นาร์ดก็เต็มไปด้วยอันตรายกับการเดินทางด้วยเท้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอากาศเหน็บหนาว ทั้งพายุหิมะหรือหิมะถล่มที่เป็นอันตรายต่อผู้เดินทางสัญจรไปมา หลายครั้งที่มีคนติดอยู่ใต้หิมะที่ถล่มลงมา เมื่อเป็นอย่างนี้นักบุญเบอร์ดนาร์ดได้นำสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ด มาฝึกฝนในการเพื่อช่วยเหลืองานผู้ประสบภัย จมูกของมันนั้นไวและสามารถดมกลิ่นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายใต้หิมะได้เหลายๆฟุต

     โดยทุกครั้งที่จะออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่คอของมันจะมีถังไม้เล็กๆ ที่บรรจุเหล้าองุ่นหรือยาให้ผู้ประสบภัยเปิดกินและใช้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเซนต์เบอร์นาร์ด บางตัวอาจมีผ้าห่มผูกติดหลังเอาไว้เพื่อให้ผู้ประสบภัยห่มกันหนาวด้วย จึงได้รับสมญานามว่าเป็น “หมานักบุญ(SAINT)” ต่อมาได้มีการนำเซนต์เบอร์นาร์ดเข้าสู่เมืองและมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงมากขึ้น พร้อมทั้งได้รับการยอมรับและยกย่องว่า เป็นสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ดนั้นเป็นสายพันธุ์แท้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการประกาศให้เป็นสุนัขประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้นมา



  ลักษณะนิสัย
     
     เป็นสุนัขที่ใจดีที่สุดในบรรดาเหล่าสุนัขทั้งหลาย(โดยเฉพาะกับเด็กๆ) ฉลาด ไม่ก้าวร้าวและขี้กลัว เป็นมิตรกับคน ถ้าคนไหนไม่รู้จักก็จะต้องแนะนำให้รู้จักก่อนนะ เพื่อมันจะได้ไม่ระแวงคนๆนั้น จริงๆแล้วมันจะได้โชว์ความน่ารักของมันต่างหากล่ะ บางตัวก็จะมีนิสัยเงียบขรึม บางตัวก็จะมีนิสัยร่าเริง บางครั้งอาจร่าเริงเกินเหตุจนอยู่ไม่เป็นสุขอีกด้วย แต่เจ้าเซนต์นี้มันเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนเอาการเลยนะ เพราะรูปร่างลักษณะของตัวมันทำให้ต้องมีการระบายความร้อนอยู่เสมอ แต่ถึงจะขี้ร้อนก็เถอะเจ้าเซนต์ยังชอบฝึกฝนและออกกำลังกายอีกด้วย

  การดูแล

ในเรื่องของการทำความสะอาด ควรดูแลอย่างประจำ ไม่ควรใช้น้ำที่เย็นมากเกินไป ในการอาบน้ำ สำหรับสุนัข ควรอาบน้ำ ให้เขาในช่วงกลางวันขณะที่น้ำและอากาศไม่เย็นมาก หลังจากอาบเสร็จ ให้เช็ดตัวสุนัขให้แห้ง และแปลงขนเพื่อกำจัดขนที่หมดอายุ เห็บ หมัดและทำให้ขนดูมีระเบียบเรียบร้อย

     ส่วนเรื่องของสุขภาพ ควรหมั่นคอยดูแลรักษาน้ำหนักในช่วงที่ยังเป็นลูกสุนัขเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มมากเกินไป เพราะจะเพิ่มแรงกดและเป็นภาระต่อกระดกและข้อต่อที่กำลังเจริญเติบโต ที่สำคัญหากเลี้ยงในบริเวณบ้านควรมีรั้วสูงอย่างน้อย 2 เมตร เพื่อกันไม่ให้สุนัขหนีเที่ยว และวครจะให้สุนัขออกกำลังกายอย่างมีขอบเขต สม่ำเสมอ ไม่ควรหักโหมมากเกินไป เพราะ กระดูกของสุนัขแต่ละวัยจะรับน้ำหนัก แรงกดได้ไม่เหมือนกัน ต้องค่อยๆ ฝึกออกกำลังกายไปตามลำดับ เมื่อสุนัขเติบโตเต็มวัยควรออกกำลังกายแค่พอประมาณเท่านั้น



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
 
     ไม่ว่าจะผู้อยู่คนเดียว หรือครอบครัวก็สามารถเลี้ย'ได้ เซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีการดูแลเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ผู้เลี้ยงที่เหมาะสมก็จะต้องมีเวลาในการดูแล และมีกำลังทรัพย์พอต่อการเลี้ยง

  ข้อควรจำ
 
     สุนัขพันธุ์นี้ลักษณะรูปร่างใหญ่ มีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคต่างๆได้ง่าย จึงต้องใส่ใจต่อการดูแลอย่างมาก เพื่อไม่ให้ลดเวลาการใช้ชีวิตของมันสั้นลง และที่สำคัญมั่นตรวจสอบสุขภาพมันอยู่เสมอ เพื่อสามารถรักษาอาการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2014, 08:46:32 pm »



 ju_ju!! ลักษณะทั่วไป

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่เช่นเดียวกับสายพันธุ์มาสทิฟฟ์อื่นๆ  แข็งแรง มั่นใจในตัวเอง ศรีษะใหญ่ ผิวหนังของพวกเขาควรจะเป็นสีดำที่บริเวณใต้ท้อง ใต้ขน และหรือปาก ซึ่งจะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ ขนของเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์จะสั้น หนาแน่น มีทั้งสีน้ำตาลเหลือง สีน้ำตาล สีครีม และสีน้ำตาลแดง ส่วนที่มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า “Boerboel” นั้น มีความหมายว่า สุนัขฟาร์ม พวกเขาถูกเลี้ยงไว้เพื่อใช้ในการทำงานในฟาร์มตามชนบทของแอฟริกาใต้ และเป็นเพื่อนที่ดีกับคน

 ju_ju!! ความเป็นมา

     ชอง แวน รีบีค เดินทางไปยังช่องแคบแอฟริกัน ในปี ค.ศ. 1652 และนำสุนัขของเขาติดไปด้วยเพื่อปกป้องครอบครัว จากป่าเขาหรือชนบทที่เขาไม่รู้จัก ซึ่งสุนัขของเขาเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า “บูลเลนบิทเจอร์” สุนัขสายพันธุ์มาสทิฟฟ์ร่างหนาใหญ่ ได้ผสมพันธุ์กับสุนัขพันธุ์พื้นเมืองของแอฟริกาใต้ แล้วให้ชื่อสายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์นี้ว่า “บัวโบว์” (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์) เพื่อนำมาใช้งานในฟาร์ม ล่าสัตว์ที่มารุกล้ำพื้นที่ หรือนำพวกเขาไปใช้ในเกมการล่าสัตว์อื่นๆ



 ju_ju!! ลักษณะนิสัย

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขที่เอาไว้เฝ้าบ้า เฝ้าไร่นา ดูแลปกป้องครอบครัวได้ดี พวกเขาจะเห่าคนแปลกหน้าหรือสัตว์แปลกๆที่มาบุกรุกให้ผู้เลี้ยงได้รู้ แต่ถ้าพวกเขาได้รับการแระนำให้รู้จักคนแปลกหน้า พวกเขาก็เรียนรู้ได้ดีว่านี่คือเพื่อนใหม่ หรือใครที่สามารถต้อนรับเข้ามาในบ้านได้ อย่างไรก็ตามแม้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์จะดูดุดันกับคนแปลกหน้า แต่พวกเขาก็รักรักครอบครัวมาก ชอบใช้เวลาร่วมกับครอบครัว พวกเขาสามารถเข้ากันได้ดีกับเด็กๆ ได้ทุกช่วงวัยเพราะทนทานต่อสภาพการเล่นอันรุนแรงของเด็กๆ ได้ ทว่าก็ไม่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่กับเด็กๆเพียงลำพัง ควรอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ นอกจากนี้พวกเขายังเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อีกด้วย

 ju_ju!! การดูแล

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นน้องหมาขนสั้น หนา จึงทำความสะอาดง่าย ควรแปรงขนครั้ง  - สองครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อผลัดขนเก่าทิ้งไป นอกจากนี้บริเวณด้านในขา ช่วงปลอกคอ และตามจุดอับต่างๆ ตามผิวหนังอาจมีเห็บกัดเกาะอยู่ ควรเชคดูเป็นประจำทุกๆ เดือน โดยแป้งกันเห็บหมัดให้เขาอย่างสม่ำเสมอ การน้ำควรอาบให้เดือนละครั้ง หากอาบมากเกินไปจะทำให้ผิวหนังแห้ง เป็นสะเก็ดได้ นอกจากนี้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์มีแนวโน้มที่จะแพ้แชมพูและครีมนวด ดังนั้นควรเลือกแชมพูสำหรับผิวแพ้ง่ายให้เขาโดยเฉพาะ อีกส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษคือฟัน ควรทำความสะอาดฟันให้เขาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในปาก ฟันร่วง และมีกลิ่นปาก

     สำหรับการออกกำลังกาย แม้เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์เป็นสุนัขตัวใหญ่แต่พวกเขาก็ไม่ได้ต้องการการออกกำลังกายมากเป็นพิเศษ เพียงมีพื้นที่วิ่งเล่น  หรือเล่นกับสุนัขตัวอื่นภายในบ้านก็เพียงพอ พวกเขาเป็ฯสุนัขที่สามารถหากิจกรรมเพื่อออกกำลังให้ตัวเองได้ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ชอบที่จะเดินเล่นออกกำลังกายร่วมกับเจ้าของ และสมาชิกในครอบครัว พวกเขาชอบเล่นวิ่งไล่ลูกบอลร่วมกับเด็กๆ ในครอบครัว แต่การพาเขาไปข้างนอก ผู้เลี้ยงก็ต้องมั่นใจว่าเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ที่เลี้ยงไว้จะอยู่ภายใต้การควบคุมได้แน่นอน ไม่เป็นอันตรายต่อคนที่วิ่งสวนไปมา



 ju_ju!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่กว้างๆ ในบ้านก็ควรมีห้องหลายห้องให้เขาไปเดินไป เดินมา  มีสนามหญ้าให้เขาวิ่งเล่น ออกกำลังกายแต่ก็ควรมีรั้วรอบขอบชิด การทำความสะอาดไม่ยุ่งยากนัก อาบน้ำให้  2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง แปรงขึ้นให้เป็นประจำ พวกเขาเป็นน้องหมานักพิทักษ์ปกป้องครอบครัว หากมีคนแปลกหน้ามาบ้าน ผู้เลี้ยงควรให้เขาทำความรู้จัก คุ้นเคยเพื่อให้เขายอมรับว่าคนที่เข้ามาในบ้านเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่สำคัญถึงเขาจะตัวใหญ่แต่ก็ต้องการความรักจากครอบครัวมากๆ ไม่ควรปล่อยให้เขารู้สึกขาดความรัก ควรเอาใจใส่เขา และให้เขามีส่วนร่วมในครอบครัว

 ju_ju!! ข้อควรจำ

     เซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง แทบจะไม่ต้องหาไปสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอาการใดๆ เป็นพิเศษ  แต่ก็สภาวะอาการ 2 ลักษณะที่อาจเกิดขึ้นกับเซาท์ แอฟริกัน มาสทิฟฟ์โดยกรรมพันธุ์  นั่นก็คือ ช่องคลอดขยายซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะเพศเมียเท่านั้น  และ อีกอาการหนึ่งคือสะโพกเสื่อม ดังนั้นผู้เลี้ยงควรพาเขาไปตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อป้องกันสภาวะหรือโรคดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้น   
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #25 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2014, 08:55:59 pm »



  ลักษณะทั่วไป

     ไซบีเรียน ฮัสกี หรือเรียกสั้นๆว่า ไซบีเรียน สุนัขขนาดกลาง ขนฟูแน่น แข็งแรง คล่องแคล่ว มีหน้าตาเป็นอาวุธ เพราะ หน้าดุ ทำให้คนสามารถกลัวได้ ลักษณะจะเหมือนหมาป่า แต่จริงๆแล้วไม่ดุอย่างหน้าตาหรอกนะ เป็นมิตรกับคนและเข้ากับคนได้ง่าย สุนัขพันธุ์ไซบีเรียนนี้จะรู้จักกันดีในกีฬาลากเลื่อนที่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยม

  ความเป็นมา

     ไซบีเรียน อัสกีนี้มีต้นกำเนิดในตะวันออกของไซบีเรีย คำว่า “ฮัสกี้” ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต(Inuit) โดยเพาะพันธุ์มากจากสุนัขในวงศ์สปิตซ์(สุนัขขนยาวและหนา)ของชาวชุกซี ต่อมาได้ถุกนำเข้ามาในอลาสกาและแพร่พันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา จนพัฒนามาเป็นสุนัขลากเลื่อนเมื่อประมาณ ค.ศ.1900 ต่อมาจึงนำมาไซบีเรียนเลี้ยงเป็นสุนัขตามบ้าน

http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/prig/Breed/Running-huskies-849x563333.jpg

  ลักษณะนิสัย
 
     ไซบีเรียนเป็นสุนัขที่ฉลาด ไฮเปอร์ตื่นตัว พลังงานสูง สมาธิค่อนข้างสั้น รักอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เข้าขั้นเรียก่า ดื้อ ขี้บ่น ขี้เถียง ฝึกยาก เป็นนักทำลายข้าวของตัวยง แต่ไซบีเรียนเป็นน้องหมาที่เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ว่าจะคุ้นหน้า หรือแปลกหน้า ไหวพริบดี ฉลาดแกมโกง ซึ่งไหวพริบกับความฉลาดที่มีของพวกเขานั้นไม่ค่อยได้เอาไปใช้ประโยชน์สักเท่าไหร่ โดยส่วนมากจะเป็นเล่ห์เหลี่ยมเพื่อหาทางซุกซนเสียมากกว่า ไซบีเรียนฮัสกี้ชอบหอนมากกว่าเห่า จนกลายเป็นปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวและเพื่อนบ้าน พวกเขาค่อนข้างฝึกยาก จึงควรได้รับการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุกวัน วันละ 10 - 15 นาที แต่ควรได้รับการออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันมากกว่า 15 นาที โดยการวิ่ง เพื่อให้พวกเขาได้เผาผลาญพลังงาน ไม่ซุกซนจนเกินควร



  การดูแล
 
     การให้อาหารสุนัขไซบีเรียนนั้น จะให้ 2-3 ครั้ง/วัน ได้ แต่สุนัขพันธุ์นี้จะค่อนข้างกินอะไรยากอยู่เช่นกันหากไม่ถูกปาก มันจะยอมอดอาหารได้ 3-4 วัน ดังนั้นวิธีการที่จะกระตุ้นความอยากอาหารได้คือการพาสุนัขไปออกกำลังกาย ส่วนของอาหารนั้นผู้เลี้ยงสามารถสามารถนำอาหารสำเร็จรูปมาผสมกับอาหารอื่นได้เพื่อเพิ่มรสชาติและอรรถรสในการกินมากขึ้น อาหารที่สุนัขไซบีเรียนโปรดปรานที่สุด คืออาหารที่มีปลาผสมอยู่ในอาหาร สุนัขจะกินหมดได้อย่างรวดเร็ว

     ส่วนเรื่องของการทำความสะอาดนั้น ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไป อาบ2-3 สัปดาห์ต่อครั้งก็พอ เพราะไซบีเรียนนั้นเป็นสุนัขสะอาด ไม่มีกลิ่นตัว หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สกปรกก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยๆ ก็ได้ ที่สำคัญเวลาอาบน้ำต้องใช้แชมพูอาบน้ำสุนัขโดยเฉพาะ ควรมีความอ่อนโยนมากๆ และหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วจะต้องใช้ไดร์เป่าขนให้แห้งสนิท อาจใช้ระยะเวลานาน แต่เพื่อไม่ทำให้น้องไซบีเรียนเป็นโรคผิวหนัง

     เรื่องของขนสุนัขไซบีเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญที่ผู้เลี้ยงควรใส่ใจ หากอยู่ในช่วงฤดูผลัดขนนั้น มันจะมีปริมาณขนที่ผลัดออกมาเยอะมากๆ ฉะนั้นผู้เลี้ยงควรจะต้องมั่นดูแล และแปรงขน เพื่อไม่ให้เกิดขนพันกัน ส่วนเรื่องของสุขภาพของสุนัขก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและผู้เลี้ยงควรจะให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพจิตของสุนัขดีขึ้นด้วย ควรใช้เวลาการออกกำลังกาย 15 นาที/วัน ดีที่สุดและทำทุกๆวัน

     ผู้เลี้ยงจะต้องทราบว่าหากไม่ได้พาสุนัขไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไซบีเรียนจะกลายเป็นตัวยุ่ง ก่อความรำคาญในทันที เพราะมันจะเกิดความเบื่อหน่าย จึงต้องหาอะไรทำเพื่อลดออาการเบื่อหน่ายลงไป อีกทั้งการออกกำลังกายยังเป็นการช่วยกนะตุ้นให้ไซบีเรียนนั้นอยากอาหารไปในตัวอีกด้วย



  ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ไซบีเรียนเหมาะสำหรับคนที่พร้อมจะดูแล มีเวลาให้ และให้ทุกอย่างที่มันต้องการได้ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย และมิตรภาพจากเจ้าของ เพื่อสร้างมิตรภาพระหว่างเจ้านายกับสุนัข จะทำให้สุนัขเชื่อฟังและไม่ดื้อกับเจ้าของของมัน

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #26 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2014, 09:01:52 pm »



 HAPPY2!! ลักษณะทั่วไป

     ดัชชุน รูปร่างเตี้ย ขาสั้น ตัวยาว แต่มีการพัฒนาของกล้ามเนื้อที่แน่นและแข็งแรง ลักษณะการเชิดศีรษะเต็มไปด้วยความกล้าหาญและมั่นใจ สีหน้าของดัชชุนแสดงออกซึ่งความฉลาด ทั้งๆ ที่ขาสั้นเมื่อเทียบกับความยาวของลำตัว แต่ดัชชุนด์ไม่เคยแสดงออกถึงลักษณะของความพิการ งุ่มง่ามหรือยืดยาดในการเคลื่อนไหว มีความฉลาด สดใสและกล้าหาญโดยไม่คำนึงถึงอันตราย มุ่งมั่นในการทำงานทั้งบนดินและใต้ดิน ประสาทสัมผัสทั้งหมดพัฒนาอย่างดี มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับเกมการล่าสัตว์ใต้ดิน นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณในการล่าสัตว์ รูปร่างและจมูกที่เหมาะสม ทำให้ได้เปรียบเหนือพันธุ์อื่นทั้งหมดของสุนัขที่ใช้ในกีฬาการสะกดรอย



 HAPPY2!! ความเป็นมา

     สุนัขดัชชุน เป็นสุนัขที่อยู่ในกลุ่มฮาวด์มีรูปร่างที่กระทัดรัด ฉลาด ขี้ประจบ ลำตัวยาวดูแปลกตาจึงเป็นที่รู้จักกันในนาม "สุนัขไส้กรอก" ชื่อดัชชุน (dachs หมายถึงสัตว์ชนิดหนึ่ง hund หมายถึงสุนัข ) ปรากฎในหนังสือเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในยุโรปสมัยกลาง เป็นสุนัขที่มีความคล้ายคลึงสุนัขฮาวด์ในการแกะรอย และมีรูปร่างและอารมณ์คล้ายสุนัขเทอร์เรียร์ มีความสามารถในการติดตามตัวแบดเจอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ใต้ดินและมักจะออกมาหาอาหารตอนกลางคืน จึงมักถูกเรียกว่าสุนัขแบดเจอ
 


     ด้วยความแข็งแรงและทรหด บวกกับความฉลาดและกล้าหาญ ทั้งบนและใต้พื้นดิน สุนัขดัชชุน หลายตัวรวมกันสามารถเข้าต่อกรกับหมีป่าได้อย่างสบาย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงมีการปรับปรุงพันธุ์เพื่อใช้ในเกมล่าสัตว์แบบอื่นๆ สุนัขดัชชุนด์ขนาดเล็กที่มีน้ำหนัก 16 - 22 ปอนด์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับสุนัขจิ้งจอก และในการแกะรอยกวางที่ได้รับบาดเจ็บ สุนัขขนาดนี้ได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันดีในอเมริกา สุนัขที่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีน้ำหนัก 12 ปอนด์ ถูกนำมาใช้ล่าสัตว์ป่าชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "Stoat" มีขนาดเล็ก มีขนสีน้ำตาล อาศัยอยู่ในยุโรปตอนเหนือ
 
     การนำเข้าสุนัขพันธุ์ดัชชุนด์มายังประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นมาก่อนการจัดโชว์สุนัขอเมริกาครั้งแรก สุนัขที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกใช้ในการล่าสัตว์น้อยมากเพราะว่าไม่ค่อยมีตัวแบดเจอร์และหมีป่า และไม่มีการล่ากวางด้วยสุนัข รวมทั้งไม่มีการล่าสุนัขจิ้งจอกด้วยการดมกลิ่น ลักษณะและรูปร่างที่ถูกต้องของสายพันธุ์ได้รับการส่งเสริม โดยการนำเข้าสายพันธุ์ที่ใช้ในการล่าสัตว์ของเยอรมันและเพื่อส่งเสิรมความสามารถในการล่าสัตว์ รวมถึงรูปร่างและอารมณ์ที่ดีเลิศ ความสามารถในภาคสนามตามกฎของ AKC ได้รับการกำหนดขึ้นในปี 1935

 HAPPY2!! ลักษณะนิสัย

     ดัชชุนเป็นสุนัขฉลาด ขี้สงสารและไม่ค่อยสร้างความ ยุ่งยาก ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน หากได้ รับการ ฝึกอย่างดี อย่างถูกวิธี มันจะเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังคำสั่ง เข้ากับเด็กได้ดี ทีเดียว



 HAPPY2!! การดูแล
 
     สุนัขพันธุ์ดัชชุนมีสัญชาตญาณของความเป็น นักล่ามันชอบขุดดินเป็นนิสัยในสายพันธุ์ มันชอบที่จะ ขุดดินนอกบ้าน และตะกรุยพื้นในบ้าน หากไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มีแนวโน้มที่จะอ้วนเพราะสุนัขพันธุ์ดัชชุนตัวเตี้ยเล็กนี้ จะมีขาสั้นแต่ลำตัว ยาว อันจะเป็นสาเหตุทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับหลัง กำลังศูนย์ถ่วงที่น้ำหนักตกลงบนลำตัว หากกินมากเกินไป จนอ้วนจะทำให้หลังแอ่นอาจจะมีปัญหากับกระดูกสันหลังได้ ผู้เลี้ยงควรใส่ใจกับปัญหาดังกล่าวด้วย



 HAPPY2!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่จะเลี้ยงดัชชุน ควรเป็นผู้เลี้ยงที่มีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกาย และให้ความสำคัญกับการควบคุมดูแลสุขภาพของสุนัข

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #27 เมื่อ: พฤษภาคม 08, 2014, 09:10:49 pm »



 THANK!! ลักษณะทั่วไป

     ดัลเมเชียนเป็นสุนัขที่มีจุดโดดเด่น ตื่นตัว แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระฉับกระเฉง ไม่ขี้อาย เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขที่มีความทรหดอดทนผนวกกับการวิ่งที่ค่อนข้างเร็ว



 THANK!! ความเป็นมา
 
     เป็นสุนัขที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน มีประวัติและตำนานอันยาวนาน รูปร่างของเขาเป็นการผสมผสานระหว่าง สุนัขพันธุ์พ้อยเตอร์และสุนัขพันธุ์ฮาวนด์ที่มีใบหูเล็กและผิวหนังที่ตึงของทวีปยุโรปตะวันออก เนื่องจากมันไม่ได้ถูกใช้เป็นสุนัขดมกลิ่นหรือช่วยในการล่าสัตว์ จึงเป็นการยากที่จะรู้ถึงเทือกเถาเหล่ากอที่แน่ชัด ตามตำนานได้เล่าขานว่า เล่าขานว่ามาจากทางตอนเหนือของประเทศอินเดียเมื่อนานมาแล้ว แล้วถูกนำเข้าทวีปยุโรปตะวันออกโดยชาวยิปซี เนื่องจากพบบันทึกเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ในเมืองดัลเมเชียในยุคแรกๆ จึงมีการตั้งชื่อสุนัขพันธุ์นี้ว่าดัลเมเชียน
     ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดอย่างไร เจ้าที่คอยวิ่งตามม้าเทียมรถตั้งแต่ยุคกลาง เพื่อปกป้องนักท่องเที่ยวจากโจรที่ปล้นคนเดินทาง แต่ในที่สุดมันก็กลายมาเป็นเครื่องประดับของผู้รากมากดี จากภาพที่สุนัขพันธุ์นี้วิ่งไปตามถนนของกรุงลอนดอน เพื่อกันผู้คนไม่ให้ไปเกะกะเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงมีชื่อเล่นว่าสุนัขดับเพลิง ดัลเมเชียนเป็นสัตว์เลี้ยงที่สะอาด สงบเสงี่ยมและมองได้ไกล กลายเป็นสุนัขที่คอยระแวดระวังเกี่ยวกับเพลิงไหม้ เป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่ายกเว้นจะมีอะไรหลงเข้ามา สุนัขพันธุ์นี้มีความอดทนอย่างเหลือเชื่อ สามารถที่จะวิ่งในความเร็วปานกลางแบบไม่มีกำหนด ความจำเป็นในการออกกำลังกายจึงมีมาก

 THANK!! ลักษณะนิสัย
 
     ร่าเริง รักสะอาด ตื่นตัว แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระฉับกระเฉง ไม่ขี้อาย เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขที่มีความทรหดอดทนผนวกกับการวิ่งที่ค่อนข้างเร็ว ดัลเมเชียนเป็นสุนัขรักสนุกที่แม้จะติดตลกด้วย แต่ก็ยังมีความสง่างามในตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ประจำของสุนัขพันธุ์นี้คือ "รอยยิ้ม" ของเขาที่เราเห็นบ่อยมักจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นการแยกขี้ยวคำรามถ้าไม่เหลือบไปเห็นหางระริกระรี้ที่กระดิกอยางเป็นมิตรอย่ด้วยวามที่เป็นสุนัขอ่อนไหวเขาจะคอยตามติด และคอยอ้อนขอความรักจากผู้เลี้ยงเสมอ



 THANK!! การดูแล
 
     ไม่ต้องการการดูแลเรื่องความสะอาดและการตัดแต่งขนมากนัก ไม่เหมือนกับพันธุ์อื่น เนื่องจากมีที่ขนสั้นแน่น ดัลเมเชียน ต้องการการแปรงบ้างในบางครั้งเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดี ด้วยความที่เป็นสุนัขที่แข็งแรงและตื่นตัว ดังนั้นต้องคอยฝึกให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของเราด้วย รวมทั้งต้องพาพวกเขาไปเดินเล่นเดินทุกๆ วันและต้องให้เขาอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด   

 THANK!! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ดัลเมเชียน เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยม สุนัขเฝ้ายาม และเป็นสัตว์เลี้ยงมหัศจรรย์ประจำครอบครัว แต่ด้วยความที่พวกเขาแข็งแรงและร่าเริงจนออกจะซนไปสักหน่อยจึงต้องมั่นใจว่าคุณจะสอนเขาให้อยู่คำสั่งผู้เลี้ยงได้



 THANK!! ข้อควรจำ

     ดัลเมเชียน มีความเสี่ยงที่จะเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ง่าย และบางตัวอาจมีปัญหาโรคผิวหนัง ขณะที่บางตัวอาจหูหนวกตั้งแต่เกิด     

บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
nongtop
ผู้ช่วย Admin
member
*****

คะแนน682
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1433


อีเมล์
« ตอบ #28 เมื่อ: พฤษภาคม 10, 2014, 10:26:14 am »



 ping! ลักษณะทั่วไป

     โครงร่างสง่างาม กล้ามเนื้อเห็นชัดเจน รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สังเกตุได้จากความสูงจากหัวไหล่ถึงปลายเท้าหน้าเท่ากับความยาวจากหน้าอกถึงบั้นท้าย หัวยาวเรียว กะโหลกด้านบนแบน โคนหูอยู่สูง ใบหูค่อนข้างเล็ก ตามธรรมชาติหูจะปรกลง แต่ถ้าได้รับการตัดแต่งหูจะต้องตั้งตรงได้สัดส่วนกับความยาวของส่วนหัว และตัดหางให้มันดูสง่าขึ้น คอยาวพอดี ตั้งตรงได้สัดส่วนกับลำตัว ความลึกของหน้าอกต้องไม่เกินครึ่งหนึ่งของความสูงทั้งหมด โคนขาใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

 ping! ความเป็นมา
     
         โดเบอร์แมน หรือ โดเบอร์แมนน์ มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมนีในศตวรรษที่ 19 นายฮอร์ ลูอิส โดเบอร์แมนน์ อาศัยย่ในเมืองอพอลโด(เยอรมันตะวันออก)ในอาณาจักรของเธอริงเจนเขารับราชการเป็นผู้เก็บภาษีที่มีสุนัขคอยดินตามปกป้องเขา นายฮอร์โดเบอร์แมนน์ต้องการสุนัขเฝ้ายามที่ปราศจากความกลัวจึงเริ่มต้นคัดเลือกสุนัขเพื่อทำการเพาะพันธุ์ให้ได้สุนัขตามที่เขาต้องการ ไม่มีใครรู้แน่ว่าเขาผสมโดยใช้สายันธุ์ใดบ้างแต่ได้ยินว่าอาจเป็นเกรตเดน เยอรมันเชพเพิร์ดสายดั้งเดิมไม่ใช่เยอรมัน เชพเพิร์ดที่เรารู้จักในปัจจุบัน) ไวมาราเนอร์ แมนเชสเตอร์เทอร์เรีย์เกรยฮาวนด์และพันธุ์อื่นๆ อีกมากมายลอดชีวิต60 ปีกับการผสมข้ามสายพันธุ์นายเฮอร์โดเบอร์แมนน์ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการคัดเลือกสายพันธุ์เพื่อใช้เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ต้องการหน่วยเมริกันมารีนส์รู้จักโดเบอร์แมน กันในนาม"สุนัขปีศาจ"และใช้มันเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในแปซิฟิค โดยถูกนำขึ้นฝั่งพร้อมกับทหารเรือเพื่อไล่ล่าศัตรู



 ping! ลักษณะนิสัย
 
     โดยทั่วไปแล้วธรรมชาติของ โดเบอร์แมน เป็นสุนัขที่ไว้ใจได้และเป็นเพื่อนที่ภักดีกับเจ้าของ นิสัยสุภาพ แต่แข็งแรงและอึดเท่าที่คุณใส่ใจฝึกฝนเขาเป็นเพื่อนเล่นที่ดีกับเด็กใน"ครอบครัว" เท่านั้น เขาจะชอบร่วมกิจกรรมต่างๆของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นที่โต๊ะอาหารหรือจะขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยความจริงแล้วเขาอาจลืมไปนึกว่าตัวเองก็เป็นคนด้วย แม้จะรักและเชื่อฟังเจ้าของโดเบอร์แมน ก็สามารถวางปึ่งทำเหมือนไม่สนใจเราได้เช่นกันอย่างไรก็ตามในภาวะปรกติแล้วไม่ควรแสดงอาการฉุนเฉียวหรือก้าวร้าวแต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็ไม่น่าไว้ใจและอาจแสดงนิสัยที่ไม่ดีเหล่านี้เวลาเครียดได้

 ping! การดูแล
 
     โดเบอร์แมน เป็นสุนัขขนาดใหญ่ ร่าเริงฉลาดคุณต้องตั้งใจพาเขาไปออกกำลังกายและใส่ใจความต้องการของเขาคนทีคิดจะเลี้ยงโดเบอร์แมนควรมีเวลาพาเขาไปออกกำลังกายและฝึกฝนเขาเป็นประจำทุกวัน ถ้าอยากให้เขาอยู่กับเราอย่างมีความสุข เราจำเป็นต้องสอนเขาให้เชื่อฟังคำสั่งและอยู่ในการ ควบคุมได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเพียงขั้นพื้นฐาน หรือขั้น สูงสุดจนได้รับใบประกาศ ทั้งคุณและสุนัขของคุณมี ความสุข และได้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้โดเบอร์แมน ต้องเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ   



 ping! ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้เลี้ยงทุกคนที่มีเวลาพาสุนัขไปฝึกฝน พาเข้าสังคมและพาไปออกกำลังกายได้



 ping! ข้อควรจำ

     เพราะว่า โดเบอร์แมน ถูกเพาะพันธุ์เป็นสุนัขใช้งาน สภาพจิตใจและความพร้อมในการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับ ความสามารถในการปฎิบัติตามคำสั่ง การประเมินความสามารถในการทำงาน (Working Aptitude Evaluation) มีจุดมุ่งหมายเพื่อทดสอบสุนัขว่าเหมาะกับลักษณะงานหรือไม่ เหมาะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน หรือเป็นผู้คุ้มกันเรา 
บันทึกการเข้า

..กำลังหาเพื่อนร่วมเรียน+ปรึกษา..pre degreeนิติศาสตร์รามปี2ครับ


หาเงินหลักหมื่น/เดือนได้ไม่ยาก หากท่านชอบถ่ายภาพ..สนใจสมัครที่ shutterstockได้เลย..คลิ๊ก!!ครับ. Huh?
 
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!