รัฐบาล เพื่อไทย ..เริ่มถังแตก เตรียมรีดภาษีอีกระลอก

[ช่างเล็ก(LSV)]

หลังจากขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่ในอัตราก้าวหน้า โดยอ้างว่าเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้าแล้วนั้น เงินคงคลังจะเพิ่มขึ้นมามากกว่าปีละ1หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังไม่พอหมุนเวียนกับรายจ่าย ดังนั้นรัฐบาล เพื่อไทย จึงเตรียมมาตรการอีกขั้นเพื่อหารายได้เข้าคลังโดยมี “รมช.คลัง” ชี้ไทยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างภาษี เล็งการปรับขึ้น “แวต”เพียง 1% ช่วยเพิ่มรายได้เข้ารัฐ 6 หมื่นล้านบาท
       
       นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แสดงปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “เดินหน้าสู่เออีซีด้วยนโยบายภาษีที่เป็นธรรม” โดยระบุว่า เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ไทยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างภาษี
       
       ซึ่งขณะนี้รอผลการประเมินการจัดเก็บรายได้ แต่ยังกังวลการจัดเก็บรายได้ เนื่องจากรัฐบาลมีรายจ่ายจากนโยบายต่างๆ เช่น รถยนต์คันแรก และการปรับลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 20 ในปีนี้ ทำให้อาจต้องชะลอการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไป ประกอบกับเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน
       
       รมช.คลัง ยอมรับว่า คลังเตรียมแก้ไขกฎกระทรวง เพื่อยกเว้นภาษีให้แก่เกษตกรที่ปลูกยาสูบ และหันส่งขายให้แก่โรงบ่ม เพราะหลังจากมีการปรับภาษีสรรพสามิตยาสูบ ทำให้เกษตรกรต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 1-10 ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และถือเป็นการเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อน เนื่องจากโรงบ่มเมื่อมีการบรรจุยาเส้นห่อขาย จะต้องเสียภาษีในส่วนที่มีการปรับเพิ่มอยู่แล้ว จึงเห็นควรว่าต้องเร่งดำเนินแก้ไขกฎกระทรวงยกเว้นภาษีให้แก่เกษตรกรตามการร้องเรียน
       
       นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ขณะนี้การปรับลดภาษีนิติบุคคลของไทยถือเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทย และเป็นแรงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งภาษีนิติบุคคลของไทยถือเป็นภาษีที่ต่ำเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน และถึงแม้ว่าจะมีส่วนทำให้รายได้ของภาครัฐลดลง ก็ยังถือว่าบริหารจัดการได้ เพื่อเป็นการสร้างฐานการผลิตในระยะยาว
       
       อย่างไรก็ตาม การเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐบาล การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวตถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งประเทศก็ได้มีการศึกษา เพราะจะทำให้ลดภาระงบประมาณได้ เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ร้อยละ 1 จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 6 หมื่นล้านบาท แต่การจะปรับแวตขึ้นนั้น จะต้องดูศักยภาพการผลิตของประเทศด้วย
pantip.com

[sunshine music]

ไม่เก่งจริงเหมือนตอนหาเสียง

[sunshine music]

การนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย. นี้ โดยมีพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ได้กล่าวเปิดเสวนา พร้อมกับยืนยันว่า จะไม่ย่อท้อในการเดินหน้าขับไล่รัฐบาล และเชื่อว่าการที่ทุกฝ่ายมาร่วมกันครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จและเป็นผลดีต่ออนาคตของประเทศชาติ
พล.อ.บุญเลิศ ยังกล่าวว่า กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม จะมีการนัดชุมนุมใหญ่ขององค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ อย่างแน่นอน โดยจะเริ่มต้นการชุมนุมในเวลา 09.01 น. ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และจะไม่มีการเคลื่อนย้ายไปที่อื่น ซึ่งเบื้องต้นตั้งเป้าผู้ร่วมชุมนุมจำนวน 1 ล้านคน และจะชุมนุมเพียง 1 วันเท่านั้น แต่หากมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมมาก ก็อาจจะขยายเวลาการชุมนุมออกไป ไม่ให้ยืดเยื้อเกิน 2 วัน 1 คืน พร้อมย้ำว่า ถือเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแล้ว
ทั้งนี้ การชุมนุมปวงชนชาวไทยภาคีเครือข่ายพิทักษ์สยาม ในวันนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้แต่ละกลุ่มได้นำเสนอปัญหาจากการดำเนินงานของรัฐบาล โดยมีตัวแทนภาคีเครือข่าย กว่า 100 ภาคี จากทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุม และมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมอภิปรายบนเวทีหลายท่าน ซึ่งในช่วงท้ายจะเป็นการอภิปรายปิดประชุม โดย นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ พร้อมกับอ่านปฏิญญาสภาภาคีเครือข่ายพิทักษ์สยาม และการอ่านประกาศนัดชุมนุมใหญ่