http://www.youtube.com/v/zBQfUqd8pqI?version=3&hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flashAni Choying Drolma
http://www.youtube.com/v/xVueLvn0WYE?version=3&hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flashTara Mantra - Ani Choying Drolma - tune in version
http://www.youtube.com/v/MY5wxOhlPig?version=3&hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flashabout Ani Choying Drolma
http://www.youtube.com/v/ci4irg9SVyA?version=3&hl=th_TH" type="application/x-shockwave-flash****************************
ตะลึง “เพลงธรรมะจังหวะป็อป” ของแม่ชีทิเบตเสียงเพราะที่สุดในโลก
“อะนิ เชอยิง เตรอมา” ฮิตติดชาร์ตเพลงอเมริกา-ยุโรป
เผยเป็นครั้งแรกในการนำเอาหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาใส่ไว้ในดนตรีสากลจนกลายเป็นธรรมมนตรา
หวังให้คนจิตใจสงบเข้าถึงธรรมได้ง่าย
ผ่านการโน้มนำของจังหวะดนตรี
และเสียงไพเราะกังวานดุจดังเสียงจากสวรรค์ของแม่ชี
ด้านพระ ดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย (จากวัดบวรฯ)
แจงไม่ผิดหลักพุทธ เหตุการณ์สวดมนต์ที่มีมาแต่โบราณ
ก็ใช้ทำนองเข้าช่วย เชื่อมคนให้รู้รสแห่งธรรม
อะนิ เชอยิง เตรอมา (Ani Choying Drolma)
แม่ชีชาวทิเบตจากแดนหิมาลัย ผู้เลื่องชื่อในการปลุกจิตวิญญาณ
ของผู้คนให้ตื่นจากกิเลส
ผ่านการสวดธรรมมนตราที่มีทำนองเป็นดนตรีสากลแบบ “ป็อป”
และเพราะที่สุดในโลกนานกว่า 2 ชั่วโมง
โดยผู้ฟังกว่าครึ่งร้อยคนถึงกับตกอยู่ในภาวะสงบนิ่งอย่างน่าอัศจรรย์
พระ ดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร
ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า การใช้ทำนองเพลงสากลมาถ่ายทอดหลักพระพุทธศาสนา
ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะศาสนาพุทธนิกายมหายาน
มีการนำพระธรรมบทมาร้อยเรียงเป็นบทสวดมนต์
ในลักษณะเพลงที่มีดนตรีประกอบเป็นปกติมาแต่เดิมอยู่แล้ว
ขณะที่นิกายเถรวาทเองก็มีการสวดสรภัญญะหรือการแหล่
รวมถึงการเคาะระฆัง ฆ้อง กลองมโหระทึกให้เป็นจังหวะ
ไว้ใช้ในการสืบสานหลักพุทธเช่นเดียวกัน
จึงไม่ผิดหลักศาสนาแต่อย่างใด
“อาตมาชี้ให้คิดว่าเพลงทุกวันนี้เป็นเพลงที่ยั่วยุกิเลส
มีแต่เรื่องรักใคร่ จึงไม่ใช่เพลงที่ดี
ส่วนเพลงที่ดีจะต้องเป็นที่ฟังแล้วอาการรัก โลภ โกรธ หลง ค่อยๆ จางหายไป
และธรรมคีตาของแม่ชีทิเบตผู้นี้เป็นการนำเอาพระธรรมบทมาเผยแผ่
เพียงแต่นำเอาจังหวะสากลอย่างดนตรีป็อปมาเชื่อมโยง
ให้คนสมัยใหม่เข้าถึงพระธรรมโดยง่าย
เป็นการกระชากวิญญาณและจิตใจที่กระโดดโลดเต้น
จนเกิดควรให้กลับมามีสติ อย่างเพลงดวงตาแห่งดอกไม้
หรือ Phoolko Aankhama ก็เป็นเพลงหนึ่งที่ชาวต่างชาติฮิตมาก
จนติดชาร์ตเพลงในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
คือฝรั่งเขาฟังไม่รู้ความหมายก็จริง
แต่ด้วยทำนองและพลังเสียงของแม่ชีก็สามารถสะกดให้ใจสงบนิ่งได้
ถือว่าเป็นก้าวใหม่ของการเผยแผ่ธรรมมะ
ที่คนไทยควรรู้จัก” พระ ดร.อนิลมานกล่าว
ด้าน อะนิ เชอยิง เตรอมา กล่าวว่า เวลาพูดถึงเมโลดี้หรือทำนอง
เดิมพระพุทธศาสนาก็มีการใช้ทำนองเพลงเชื่อมให้คนเข้าถึงหลักธรรมอยู่แล้ว
เพราะทำนองจะทำให้เรารวบรวมจิตใจได้ง่าย
และมีพลังมากพอที่จะทำให้เทวดา คน หรือสัตว์
แม้แต่ต้นไม้ ดอกไม้ สงบนิ่งได้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้แถบทิเบต เนปาล
นิยมสวดมนตราในแบบธรรมคีตา
ที่ใส่ทำนองเพลงเข้าไปเพื่อให้การเข้าถึงพระธรรมได้ผลดีที่สุด
รวมถึงการนำเอาธรรมบทมาร้อยเรียงด้วยทำนองเพลงป็อปในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
“เพลงบนโลกมีหลายประเภท หลายแบบ
แต่ส่วนมากเป็นเพลงทางโลกที่มีแต่เรื่องอกหัก รักๆ ใคร่ๆ
เป็นเพลงที่ส่งเสริมปัญหา แม่ชีจึงอยากทำเพลงที่มีพุทธคุณ
คำสอนสถิตอยู่ เพื่อให้คนที่เกรี้ยวกราด
กลับมามีสติเหมือนอย่างแม่ชีที่เคยเป็นมาได้
ซึ่งหลักการในการสร้างสรรค์มนตราของแม่ชี
ก็เพียงแค่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาถอดเป็นคำง่ายๆ
แล้วร้อยเรื่องใส่ทำนองเพลงเข้าไปให้ทุกคนไว้ฟัง”
แม่ชีทิเบตระบุ พร้อมกล่าวด้วยว่า
ถ้าเราสามารถสร้างจังหวะของการสวดมนตราให้เข้ากับจังหวะการหายใจของเราได้
อำนาจแห่งเพลงพระธรรมจะมีพลังล้างสิ่งไม่ดีในตัวเราให้ออกไปได้
และในโอกาสครบรอบ 2,600 ปี พุทธชยันตี
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างถ่องแท้
และวิธีฉลองที่ดีที่สุดก็คือการนำเอาคำสอน
ของพระองค์ท่านมาสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง
ด้วยการเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
อะนิ เชอยิง เตรอมา เป็นแม่ชีชาวทิเบต ที่บวชตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
ด้วยปัญหาทางบ้าน และอยู่ในร่มของพระธรรมสืบมาจนปัจจุบันอายุได้ 41 ปี
อะนิ เชอยิง เตรอมา
สืบสานพระพุทธศาสนาผ่านธรรมคีตา
จนมีอัลบั้มเพลงธรรมะอย่างน้อย 4 อัลบั้ม
พร้อมกับการเดินทางแสดงธรรมผ่านการขับร้องมนตราทั่วโลก
ไม่น้อยกว่าปีละ 50 รอบการแสดง
ปัจจุบันมนตราของอะนิ เชอยิง เตรอมา
เป็นที่นิยมของกลุ่มผู้นับถือศาสนาพุทธ
ในแถบอเมริกาและยุโรปอย่างมาก
ทั้งนี้ อะนิ เชอยิง เตรอมา ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ
ให้เปล่งเสียงเพลงแห่งธรรมผ่านทำนองสากล
ต่อหน้าพระพักตร์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ภายในงานประชุมองค์กรพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.)
ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค.2555 ที่ผ่านมาอีกด้วย.
http://www.thaipost.net/x-cite/280512/57420
