วิธีการ เติม น้ำยาแอร์ อย่างถูกวิธี ครับ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 01:27:18 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการ เติม น้ำยาแอร์ อย่างถูกวิธี ครับ  (อ่าน 91551 ครั้ง)
boynotza002
Full Member
member
**

คะแนน36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 289



« เมื่อ: มีนาคม 12, 2012, 11:55:37 am »

วิธีการ เติม น้ำยาแอร์ อย่างถูกวิธี   
การเติม น้ำยาแอร์ รถ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการใช้งาน คือ
- ชุดวาวล์ และ เกจ์ วัดแรงดัน พร้อมสาย โดยสายที่ใช้ต้องมีมาตรฐาน รับแรงดันได้
- ถัง น้ำยาแอร์ R22 ราคา  หรือ  ถังน้ำยาแอร์ R134a ราคา ขึ้นอยู่กับชนิดที่รถคุณใช้ ให้สอบถามจากศูนย์ หรือ ศึกษาจากคู่มือรถ
- หาวาวล์แรงดันต่ำ (วาวล์น้ำยาตอนเย็น) และ ต่อสาย ขันเกลียวให้แน่น
- ติดเครื่อง และ เปิดวาวล์ ดูแรงดันว่า ประมาณเท่าไหร หากใกล้ๆ 200 psi แสดงยังคงปกติ อยู่ไม่มีความจำเป็นต้องเติม     แต่ถ้าระดับ แรงดันน้อยกว่ามาก หรือ เห็นตาแมว เป็นฟอง ก็ต่อสายเข้ากับถังน้ำยา
- ค่อยๆ คลายเปิดวาวล์ น้ำยาแอร์ ให้ค่อยๆไหลเข้าไปในสายแอร์
- ปิดวาวล์ น้ำยาแอร์ ตรวจดูแรงดันว่าไม่เกิน 250 PSI (ความจริง 200 psi ก็น่าจะพอ) กันปัญหาเรื่องอื่น หากชุดแอร์ใช้งานมานาน แต่จริงแล้ว ควรให้ช่างผู้ชำนาญเนผู้ดำเนินการจะดีกว่า
   http://www.refrigerant-trading.com  น้ำยาเเอร์


บันทึกการเข้า

เป็นผู้สูงอายุ อย่าสูงแค่วัน เดือน ปี แต่ต้องสูงด้วยคุณความดี ที่ฝากไว้แก่อนุชน

santipp
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน180
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 631


« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 12, 2012, 09:07:00 pm »

เห็นบอกว่า วิธีเติมน้ำยาให้ถูกวิธี แต่ที่อธิบายมาไม่เห็นบอกเลยครับว่าต้องไล่อากาศออกจากสายเกจเสียก่อน แล้วการเติมน้ำยา ทราบมั้ยครับว่าทำไมถึงต้องเติม ก่อนจะเติมต้องทำยังไง การที่น้ำยาขาดหายไป ก็แสดงว่าต้องมีจุดใดจุดหนึ่งรั่ว ถ้าอยู่ๆเช็คแล้วพบว่าน้ำยาไม่พอ ก็เติมเลยอย่างนั้นอีกไม่นานก็ต้องกลับมาเติมอีก สารทำความเย็นรั่วไหลออกไป ก็ทำให้โลกร้อน ที่ถูกต้องจะต้องแก้ไขจุดที่รั่วให้หายรั่วเสียก่อน ถึงจะทำการแว๊คคั่มและก็เติมน้ำยา
                                                                                      Smiley
บันทึกการเข้า
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 13, 2012, 11:14:50 am »

 เห็นด้วยครับsantipp
เห็นบอกว่า วิธีเติมน้ำยาให้ถูกวิธี แต่ที่อธิบายมาไม่เห็นบอกเลยครับว่าต้องไล่อากาศออกจากสายเกจเสียก่อน แล้วการเติมน้ำยา ทราบมั้ยครับว่าทำไมถึงต้องเติม ก่อนจะเติมต้องทำยังไง การที่น้ำยาขาดหายไป ก็แสดงว่าต้องมีจุดใดจุดหนึ่งรั่ว ถ้าอยู่ๆเช็คแล้วพบว่าน้ำยาไม่พอ ก็เติมเลยอย่างนั้นอีกไม่นานก็ต้องกลับมาเติมอีก สารทำความเย็นรั่วไหลออกไป ก็ทำให้โลกร้อน ที่ถูกต้องจะต้องแก้ไขจุดที่รั่วให้หายรั่วเสียก่อน ถึงจะทำการแว๊คคั่มและก็เติมน้ำยา

อนึ่งการเติมน้ำยาไม่ได้ดูที่แรงดันอย่างเดียว ยังมีอุณหภูมิเป็นตัวแปรแรงดันอีก มากน้อยขึ้นอยู่กับบรรยากาศ
บริเวณนั้นๆ(Ambient temp) ยกตัวอย่างให้เห็นคือหากเติมน้ำยาตอนอากาศร้อน แรงดันที่วัดได้จะสูงมากกว่าตอนอากาศ
เย็น และหากเติมน้ำยารถยนต์ตอนอากาศร้อนแล้วดูที่ตาแมวจนใส น้ำยาก็จะเกินเมื่ออากาศเย็น
สรุปว่าเติมน้ำยาให้พอดีต้องชั่งกก.หรือวัดอุณหภูมิ Cheesy
บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
don ♥1,500
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน288
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 356


งานนี้..ลุยลูกเดียว

donrakna@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 13, 2012, 10:51:54 pm »

เห็นด้วยครับsantipp
เห็นบอกว่า วิธีเติมน้ำยาให้ถูกวิธี แต่ที่อธิบายมาไม่เห็นบอกเลยครับว่าต้องไล่อากาศออกจากสายเกจเสียก่อน แล้วการเติมน้ำยา ทราบมั้ยครับว่าทำไมถึงต้องเติม ก่อนจะเติมต้องทำยังไง การที่น้ำยาขาดหายไป ก็แสดงว่าต้องมีจุดใดจุดหนึ่งรั่ว ถ้าอยู่ๆเช็คแล้วพบว่าน้ำยาไม่พอ ก็เติมเลยอย่างนั้นอีกไม่นานก็ต้องกลับมาเติมอีก สารทำความเย็นรั่วไหลออกไป ก็ทำให้โลกร้อน ที่ถูกต้องจะต้องแก้ไขจุดที่รั่วให้หายรั่วเสียก่อน ถึงจะทำการแว๊คคั่มและก็เติมน้ำยา

อนึ่งการเติมน้ำยาไม่ได้ดูที่แรงดันอย่างเดียว ยังมีอุณหภูมิเป็นตัวแปรแรงดันอีก มากน้อยขึ้นอยู่กับบรรยากาศ
บริเวณนั้นๆ(Ambient temp) ยกตัวอย่างให้เห็นคือหากเติมน้ำยาตอนอากาศร้อน แรงดันที่วัดได้จะสูงมากกว่าตอนอากาศ
เย็น และหากเติมน้ำยารถยนต์ตอนอากาศร้อนแล้วดูที่ตาแมวจนใส น้ำยาก็จะเกินเมื่ออากาศเย็น
สรุปว่าเติมน้ำยาให้พอดีต้องชั่งกก.หรือวัดอุณหภูมิ Cheesy

เห็นด้วยๆ กับพี่ๆทั้งสองท่านคร๊าป Cheesy

"- หาวาวล์แรงดันต่ำ (วาวล์น้ำยาตอนเย็น) และ ต่อสาย ขันเกลียวให้แน่น

 - ติดเครื่อง และ เปิดวาวล์ ดูแรงดันว่า ประมาณเท่าไหร หากใกล้ๆ 200 psi แสดงยังคงปกติ"

200psi  นี้คือด้านไหนครับ  ด้านไฮหรือว่าด้านโล  ขอละเอียดอีกนิดน่ะครับ ผมว่ายังไม่ชัดเจนเท่าไหร่อะน่ะครับ
แต่ก็ขอบคุณสำหรับน้ำใจครับ THANK!!
บันทึกการเข้า

ตื่นๆๆๆๆ
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 04:38:34 pm »

คุณdonครับ น้ำยาขาออกเขาจะวัดต่อเมื่อน้ำยาขากลับไม่ปกติ ผมไม่สนใจขาออกมากนัก
น้ำยาขากลับ(ด้านโลว์)จะบอกจุดเดือดของน้ำยา(saturation)ดังนั้นสนใจด้านกลับด้านเดียว
ก็บอกได้แล้ว ตอนผมทำงานใหม่ๆก็มัวแต่วัดสองด้านเหมือนกัน
Pressure-Temperature Relationship of Saturated R-22 Refrigerant
ตารางน้ำยาเบอร์22

ที่มา ขอบคุณครับ
http://airconditioningmanuals.tpub.com/TM-9-4120-381-14/css/TM-9-4120-381-14_263.htm
บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
santipp
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน180
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 631


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 05:23:12 pm »

คุณdonครับ น้ำยาขาออกเขาจะวัดต่อเมื่อน้ำยาขากลับไม่ปกติ ผมไม่สนใจขาออกมากนัก
น้ำยาขากลับ(ด้านโลว์)จะบอกจุดเดือดของน้ำยา(saturation)ดังนั้นสนใจด้านกลับด้านเดียว
ก็บอกได้แล้ว ตอนผมทำงานใหม่ๆก็มัวแต่วัดสองด้านเหมือนกัน
Pressure-Temperature Relationship of Saturated R-22 Refrigerant
ตารางน้ำยาเบอร์22

ที่มา ขอบคุณครับ
http://airconditioningmanuals.tpub.com/TM-9-4120-381-14/css/TM-9-4120-381-14_263.htm
ดูจากตาราง เราเห็นได้ว่าถ้าอุณหภูมิติดลบ แรงดันที่ท่อกลับก็จะน้อย
เราจะเห็นที่ท่อเป็นน้ำแข็งรวมทั้งที่คอล์ยเย็นด้วย การเติมน้ำยาโดยการชั่งน้ำหนักจะเป็นการเติมที่ดีที่สุด ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกมั๊ยครับพี่เฉียบ
บันทึกการเข้า
nantawut
Full Member
member
**

คะแนน36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 508


« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 16, 2012, 07:34:53 pm »

อุณหภูมิตามตารางนี้วัดจากตรงไหนครับ  Sad
บันทึกการเข้า
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 17, 2012, 12:00:23 pm »

ครับคุณน้องsantipp ใช้วิธ๊ชั่งดีที่สุด แต่ต้องเป็นท่อที่โรงงานให้มาและไม่มีการตัดต่อ
หากว่าติดตั้งทั่วไปคงทำได้ยากสำหรับแอร์ ต้องใช้ประสบการณ์ คือเติมน้ำยาให้ถึงคอมพ์
หรือวัดด้วยเทอร์โมมิเตอร์ที่ท่อขากลับก่อนเข้าคอมพ์ ต้องแน่ใจว่าเป็นอุณห์ภูมิขากลับจากห้องจริง ไม่ใช่เพิ่งออกจากแคปทิ้วส์ที่ท่อขาออก สำหรับน้ำยาเบอร์22ไม่ควรต่ำกว่า
10 องค์ศาซี (แอร์บ้าน)
อนึ่งที่สเปกแอร์บ้านจะมีคำว่าBase on temp ความหมายคือบีทียูที่ทำได้เมื่อบรรยากาศ
บริเวณนั้นๆเป็นไปตามที่อุณหภูมิกำหนด ตัวอย่างเช่น 12500บีทียูที่32องศาซี/ชั่วโมง บรรยากาศร้อน
กว่านี้ความสามารถลดลงและแรงดันน้ำยาก็จะสูงขึ้น กระแสไฟฟ้าก็สูงตามไปด้วย จากที่เคยกินกระแส1100วัตต์
(5แอมป์)อาจเป็น5.5แอมป์1210วัตต์ ดังนั้นอุณห์ภูมิเป็นตัวแปรอย่างเห็นได้ชัดเจนครับ

-อุณหภูมิตามตาราง วัดที่ท่อน้ำยาขากลับครับและกำหนดที่อุณห์ภูมิฝรั่ง ใช้พอสังเขปได้ แล้ว
จะหาของไทยมาให้ครับ

บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
don ♥1,500
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน288
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 356


งานนี้..ลุยลูกเดียว

donrakna@hotmail.com
อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 19, 2012, 05:37:45 am »

     พูดถึงเรื่องเติมน้ำยาไปทำกับเพื่อน  เห็นเพื่อนเวลาเติมแบบทั่วๆไปคือเติมแบบสถานะแก็ส  จะใช้เวลานานมากครับ  เติมไปซักพักก้นถังน้ำยาเป็นน้ำแข็งต้องหาถังใส่น้ำมาช่วยอีกแรง 20นาทีขึ้นไป(ในกรณีเติมใหม่หมด)รู้สึกว่าเหนื่อยและลำบากสำหรับผมครับ แต่ถ้ามีตาชั่งเติมแบบของเหลวก็ใช้เวลาสั้นๆครับ  ไม่เกิน5นาทีน้ำยาก็ได้ตามสเปกโดยไม่สนใจอุณหภูมิทั้งภายนอกและในห้อง(ในกรณีเติมใหม่หมด)   ถ้าเพิ่มท่อก็จะบวกน้ำยาอีก  เมตรล่ะ20กรัมครับที่พอจำได้ที่พี่จากไดกิ้นมาอบรมให้ครับ   ผิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะอีกทีครับ   HAPPY2!!
บันทึกการเข้า

ตื่นๆๆๆๆ
maymad
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 41


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2012, 05:03:19 am »

     พูดถึงเรื่องเติมน้ำยาไปทำกับเพื่อน  เห็นเพื่อนเวลาเติมแบบทั่วๆไปคือเติมแบบสถานะแก็ส  จะใช้เวลานานมากครับ  เติมไปซักพักก้นถังน้ำยาเป็นน้ำแข็งต้องหาถังใส่น้ำมาช่วยอีกแรง 20นาทีขึ้นไป(ในกรณีเติมใหม่หมด)รู้สึกว่าเหนื่อยและลำบากสำหรับผมครับ แต่ถ้ามีตาชั่งเติมแบบของเหลวก็ใช้เวลาสั้นๆครับ  ไม่เกิน5นาทีน้ำยาก็ได้ตามสเปกโดยไม่สนใจอุณหภูมิทั้งภายนอกและในห้อง(ในกรณีเติมใหม่หมด)   ถ้าเพิ่มท่อก็จะบวกน้ำยาอีก  เมตรล่ะ20กรัมครับที่พอจำได้ที่พี่จากไดกิ้นมาอบรมให้ครับ   ผิดถูกอย่างไรช่วยชี้แนะอีกทีครับ   HAPPY2!!
เติมแบบของเหลว มีวิธีและขั้นตอนการทำยังไงครับ พอดีมีแอร์ลูกค้ารั่วไปวัดน้ำยาเกือบหมด เหลือแค่นิดเดียว กะว่าจะปล่อยน้ำยาออกให้หมด ซ่อมรั่วแล้วเติมใหม่ทั้งหมด เหมือนกัน
รบกวนขอความรู้ด้วยครับ ผมช่างมือใหม่ไร้ประสบการณ์ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม
บันทึกการเข้า
prachan-mb
ชุมชนคนรักอาชีพช่าง
member
*

คะแนน6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90


« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2012, 11:18:50 am »

ตอนไล่อากาศในสายไล่เยอะๆหน่อยก็ได้ หรือตอนแว็คก็แว็คในสายถังเติมด้วยก็ดีจะได้ไม่ต้องไล่   บางคนอาจจะสับสนว่าที่เราไล่อากาศในสายเพราะกลัวความชื้น แต่จริงๆปัญหาก็คือตัวอากาศนั่นแหละ บางทีหรือบางเคสตัวอากาศอาจจะมากับถังน้ำยาก็ได้ เพราะช่างหลายรายจะซื้อน้ำยาแบบเอาถังเก่าไปเติม ไม่รู้ว่าก่อนไปเติมอากาศอยู่เต็มถังหรือปล่าวก็ไม่รู้   เมื่อมันเข้าไปในระบบแล้ว ความชื้นยังมีดรายเออร์กำจัดได้ แต่อากาศมันไม่ไปไหน เป็นหัวโจกอันธพาลอยู่ ทำให้น้ำยาเกเรไม่เป็นไปตามคุณสมบัติแล้ว
บันทึกการเข้า
t1234t
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9


« ตอบ #11 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2012, 02:03:51 pm »

ตารางที่ท่านให้ ผมเคยวัดแล้วครับ เป็นไปตามนี้จริงๆๆ  ช่วงแรก เปิดแอร์ 30นาที วัดเกจ ได้ 85  psi อุณหภูมิ ท่อดูด  10.5 'c   คอมเพรสเซอร์ กินกระแส 5.4 A  ผมปล่อย น้ำยาออก ไป ให้เหลือประมาณ 70 psi  กระแส ลดลง เหลือ 5.2A   อุณภูมิท่อดูด 4.7'C  ผมไม่กล้าปล่อยเยอะกว่านี้กลัวน้ำยาขาด  มากไปคอมทำงานหนัก กินกระแสสูง น้อยไป ท่อดูด เป็นน้ำแข็ง ไม่เย็น เพราะน้ำยาน้อย

เติมน้ำยาเท่าที่ศึกษา มาควรเติม สถานะ ก๊าซ ทางท่อดูด เพื่อยืดอายุคอมเพรสเซอร์   Sad
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!