ตร.หัวหมาก จับหลอกขายโทรศัพท์ผ่านเฟซบุ๊ค
5 ธค. 2553 08:16 น. สนับสนุนโดย NECTEC
พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.หัสดินทร์ นพวงศ์ ณ อยุธยา สว.สส.สน.หัวหมาก ร.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ พงส.(สบ 1) สน.หัวหมาก พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.หัวหมาก ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.สุกัญญา ไทรชมภู อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ 5 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ 1097/2553 ลงวันที่ 17 มิ.ย.53 ในข้อหา ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หลังก่อเหตุสวมรอยเป็นคนอื่น หลอกลวงขายโทรศัพท์ให้ผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ค ก่อนเชิดเงินหลบหนี โดยสามารถจับกุมได้ที่ จุดตรวจมิตรภาพสะพานไทยลาว (ขาออก)
พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้หลอกลวงผู้เสียหายโดยวิธีการสมอ้างตัวเองเป็น น.ส.ภัทริน หรือ เบล ลาภกิตติกุล อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นดรัมเมเยอร์ ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านสยามสแควร์ และ ยังใช้รูปถ่ายพร้อมทั้งข้อมูลของ น.ส.ภัทริน ด้วย เพื่อใช้หลองลวงผู้เสียหายที่เข้ามาติดต่อให้หลงเชื่ออย่างสนิทใจ และ ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชื่อ “เฟซบุ๊ค” ในการหลอกลวง จากนั้นเมื่อตกลงเจรจาซื้อขายโทรศัพท์มือถือกับผู้เสียหายแล้ว ก็จะให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านมาทางบัญชีของผู้ต้องหา ซึ่งเปิดไว้ในชื่อของตนเอง หลังจากนั้นเมื่อผู้ต้องหาได้เงินแล้วก็จะหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้
พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวต่อว่า โดยเมื่อวันที่ 14 ก.พ.53 นายทัตตพันธ์ โพธิ์ทองคำ อายุ 27 ปี เข้าแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ว่าถูก น.ส.ภัทริน หลอกให้ซื้อโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อแบ็คเบอร์รี่ ราคา 15000 บาท โดยรู้จักกันในเฟซบุ๊ค ของผู้ต้องหาที่สมอ้างเป็น น.ส.ภัทริน จากนั้นจึงชักชวนเพื่อนที่ทำงานให้ซื้อโทรศัพท์ด้วยกัน จำนวน 4 เครื่อง เป็นเงิน 60000 บาท ผู้ต้องหาก็บอกให้โอนเงิน แต่ทาง นายทัตตพันธ์ ไม่ไว้ใจ ขอเจอตัวก่อน ซึ่งผู้ต้องหาก็ตอบตกลง แต่ให้โอนเงินมาครึ่งหนึ่งก่อน แล้วให้ไปรอที่หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ แต่เมื่อรอแล้วก็ไม่มา จึงมั่นใจว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความ ซึ่งรวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 6 แสนบาท หลังจากนั้นทางชุดจับกุมทำการสืบสวนหาข่าวกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหากำลังจะ หลบหนีออกนอกประเทศจึงประสานทาง พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวานกุล ผกก.ตม.จว.หนองคาย พร้อมนำกำลังเข้าจับกุม ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเรียนจบมาจาก คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหางวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่กำแพงแสน จ.นครปฐม มื่อปี 51 จากนั้นตนก็เข้าไปเว๊บไซต์ของมหาวิทยาลัยของ มหาวิทยาลัยที่ น.ส.ภัทริน เรียนอยู่ ก็พบ น.ส.ภัทริน ในเว็บมหาวิทยาลัย ซึ่งเห็นว่า น.ส.ภัทริน น่าตาดี จึงแฮ็กเอารูปและข้อมูลของ น.ส.ภัทริน มาทำเฟซบุ๊คเป็นของตัวเอง หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาขอเป็นเพื่อนจำนวนมาก เมื่อมีคนเข้ามาตนก็เสนอขายโทรศัพท์ และหลอกล่อคุยจนผู้เสียหายหลงเชื่อ ว่ามีปัญหาทางบ้าน พ่อแม่ไม่สบาย เพื่อให้ผู้เสียหายสงสารและยื่นมือช่วยเหลือ จากนั้นก็มีผู้เสียหายหลายรายยื่นมือเข้าช่วยโดยซื้อโทรศัพท์ และให้แบบเปล่าๆ ซึ่งตนก็ไม่ได้เรียกร้องว่าจะเอาเท่า ซึ่งมีตั้งแต่ 3 หมื่นบาท ถึง 1.3 แสนบาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีตน หลังจากได้เงินแล้วตนก็เอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจาก ตนเรียนจบมายังไม่มีงานทำ นอกจากนี้ตนยังเคยหลอกลวงนักร้องแร็บชื่อดัง กอล์ฟ ฟักกิ้งฮีโร่ แห่งวงสิงห์เหนือเสือใต้ ของค่ายก้านคอคลับ โดยตนหลอกลวงเงินไปจำนวน 3 หมื่นบาท
ด้าน นางมุกดา ตระการกิตติสกุล อายุ 49 ปี แม่ของ น.ส.ภัทริน กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุ ก็มีหมายเรียกมาหาลูกสาวตนที่บ้าน โดยกล่าวหาว่าไปหลอกลวงชาวบ้านมูลค่าความเสียหลายหลายแสนบาท ให้ไปทำการสอบปากคำ ตนก็ตกใจ หลังจากนั้นก็มีผู้เสียหายมาดักรอลูกสาวตนที่มหาวิทยาลัย เนื่องจากคิดว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกสาวตน ซึ่งลูกสาวตนก็ปฏิเสธเนื่องจากไม่ได้กระทำความผิดตามคำกล่าวหา จึงเข้าชี้แจงและขอคำชี้แนะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนโดยเช็คข้อมูลทางแอ็ดแดรส กระทั่งทราบว่าคนร้ายที่แท้จริงคือผู้ต้องหา จึงได้มีการออกหมายจับและจับกุมตัวได้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด โดยพบว่าผู้ต้องหาไม่มีงานทำ จึงตัดสินใจหลอกลวงผู้เสียหายด้วยวิธีการเช่นนี้ นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าตนเองป่วยต้องการนำเงินมารักษาตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกมากว่านี้ ซึ่งใครที่คิดว่าเคยถูกผู้ต้องหาหลอกขอให้เข้ามาให้ข้อมูลหรือดูตัวผู้ต้อง หาได้ที่ สน.หัวหมาก หลังจากนี้จะได้ส่งตัวให้ พงส.สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
http://breakingnews.nationchannel.com