ผมชอบจังเลย คนที่มีความคิดลักษณะผม มีความสนใจเหมือนกัน..........................
เตารีดไฟฟ้ามี 2 แบบที่ใช้ในปัจจุบัน
แบบอัตโนมัติ ก็สามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งาน ได้ 2 แบบคือ เตารีดแบบแห้งและเตารีดแบบพ่นไอน้ำ
1. เตารีดแบบแห้ง เป็นแบบที่ใช้งานมานานแล้ว สามารถแบ่งตามลักษณะของแผ่นความร้อนได้ คือ
1.1 เตารีดแบบเปลี่ยนแผ่นความร้อนได้ เป็นเตารีดที่มีการใช้งานมาก่อน สามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูก เมื่อแผ่นความร้อนเสียสามารถที่จะหาซื้อแผ่นความร้อนมาถอดเปลี่ยนได้
1.2 เตารีดแบบเปลี่ยนแผ่นความร้อนไม่ได้ เป็นเตารีดที่มีการใช้งานพัฒนามาจากเตารีดแบบที่เปลี่ยนแผ่นความร้อนได้ โดยเตารีดแบบนี้จะมีแผ่นความร้อนฝังอยู่ในส่วนที่เป็นแผ่นรีด เวลาที่แผ่นความร้อนเสียไม่สามารถที่จะถอดมาเปลี่ยนได้ ถ้าจะเปลี่ยนแผ่นความร้อนจะต้องเปลี่ยนทั้งแผ่นรีด ส่วนการใช้งานนั้นเตารีดแบบนี้จะมีความทนทานนานกว่าเตารีดแบบที่เปลี่ยนแผ่นความร้อนได้
2. เตารีดแบบพ่นไอน้ำ เตารีดแบบนี้จะมีคุณลักษณะและอุปกรณ์เหมือนกับเตารีดแบบเปลี่ยนแผ่นความร้อนไม่ได้ เพียงแต่เตารีดแบบนี้จะเพิ่มชุดที่ใช้สำหรับพ่นไอน้ำออกมาจากแผ่นรีดของเตารีดในขณะที่กำลังรีดผ้า และจะทำให้ผ้าที่รีดสามารถรีดได้เรียบขึ้น
การแก้เตารีดแบบแห้ง
ปัจจุบันนี้ใช้เตารีดแบบอัตโนมัติและเปลี่ยนแผ่นความร้อนไม่ได้ เพราะมีความทนต่อการใช้งานนานกว่า โดยทั่ว ๆ ไป เตารีดรุ่นแบบอัตโนมัติจะคล้ายกันเกือบทุกรุ่นและยี่ห้อ เช่น ของ SHARP รุ่น AM-200/200T
ส่วนประกอบเตารีดรุ่นนี้จะมีส่วนประกอบไม่มาก และส่วนใหญ่จะยึดติดกันเป็นชุด เวลาถอดส่วนประกอบก็ติดกันออกมา
1. แผ่นความร้อน
2. เทอร์โมสแตด
3. ฝาครอบเครื่อง
4. มือจับ
5. ปุ่มปรับระดับความร้อน
6. ปลอกสายไฟ
7. สายไฟกำลัง
8. ฝาปิดด้ามจับด้านหลัง
9. หลอดสัญญาณ
10. ฝาครอบหลอดสัญญาณ
แผ่นความร้อน จะทำจากลวดนิโครมบรรจุอยู่ภายในของท่ออะลูมิเนียมและฝังไว้ในแผ่นรีดของเตารีด มีหน้าที่ทำให้เกิดความร้อนที่แผ่นรีดของเตารีด จะมีความต้านทานประมาณ 60-80 โอห์ม
เทอร์โมสแตต เป็นชุดควบคุมความร้อน มีหน้าที่รักษาระดับความร้อนของเตารีดให้คงที่ตลอดเวลา เมื่อเตารีดร้อนเกินที่กำหนดเทอร์โมสแตตก็จะตัดวงจรและเมื่อแผ่นรีดเย็นลงก็จะวงจรใหม่ โดยอาศัยการทำงานของแผ่นไบเม็ททอลคือ แผ่นรีดของเตารีดร้อน ความร้อนที่แผ่นรีดของเตารีดจะถ่ายเทความร้อนไปสู่แผ่นไบเม็ททอล แผ่นไบเม็ททอลจะโก่งงอขึ้น ทำให้กลไกของหน้าที่สัมผัสชุดควบคุมความร้อนเกิดการแยกตัวและตัดวงจรทางไฟฟ้าออก ทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านชุดเทอร์โมสแตตได้ เมื่อร้อนเกินกำหนดที่ตั้งไว้เทอร์โมสแตตจะตัดการทำงานของเตารีด
และเมื่อแผ่นรีดของเตารีดเย็นลงหลังจากที่เทอร์โมสแตตตัดวงจรไฟฟ้าแล้ว แผ่นไบเม็ททอลก็จะเย็นลงและเริ่มหดตัวลง
กลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้ง ทำให้หน้าสัมผัสของเทอร์โมสแตตต่อวงจรไฟฟ้าอีกครั้ง และแผ่นรีดก็จะร้อนอีกด้วย
เครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้
เครื่องมือที่จำเป็นในการซ่อมเตารีด มีไขควงชุด ทั้งปากแบนและปากแฉก และมัลลิมิเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง
ขอบคุณ
http://www3.easywebtime.com/archeewa/area5.html