การที่สังคมและประเทศชาติต้องตกอยู่ในสภาพวุ่นวาย มีเหตุร้ายเกิดขึ้นและทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ความถูกผิดดีชั่วก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่คนในสังคมจำแนกได้ยากขึ้น คนดีคนเสียสละกลับถูกใส่ร้าย คนชั่วคนเจ้าเล่ห์กลับได้รับยกย่อง คนชั่วไร้ยางอายจะขวนขวายกันเป็นใหญ่ คนดีจะพากันหนีไปอยู่ชนบท ในป่าในเขา
ไม่น่าเชื่อว่า ทั้งหมดนี้จะเริ่มมีให้เห็นชัดขึ้น ๆ ในยุคนี้แล้ว ยุคที่พระพุทธเจ้าเคยได้พยากรณ์ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศลที่ฝันเห็นสระน้ำที่แปลกตรงที่กลางสระนั้นขุ่น แต่บริเวณขอบสระกลับใส โดยพระพุทธองค์พยากรณ์ว่า ต่อไปนักปกครองทุศีลจะขึ้นมาเป็นใหญ่ (น้ำตรงกลางสระขุ่น) จนคนดีทนไม่ไหว ต้องหนีไปอาศัยอยู่ตามชนบทหรือในป่าในเขา (น้ำริมสระใส)
เชื่อว่าหลาย ๆ คนติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้จะต้องรู้สึกเครียดไม่น้อย ด้วยอยากจะเห็นความสงบสุขเสียที สิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในช่วงนี้ คือ ดวงจิตที่ชิงชังฝ่ายที่เราไม่เห็นด้วย จนอาจล้นออกมาทางกายและทางวาจาการแผ่เมตตาในช่วงนี้ก็อาจเผลอตัวแผ่ให้เฉพาะกับบุคคลหรือฝ่ายที่เรารัก ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งนอกจากจะไม่แผ่เมตตาให้แล้ว ยังอาจสาปแช่งแทน นี้สิ จะได้เห็นจิตใจของตัวเราเองชัดก็ตอนมีสิ่งกระทบนี้แหละ
ซึ่งจริง ๆ แล้วครูบาอาจารย์ท่านให้เราแผ่เมตตาให้ทั้งมิตรและศรัตรูผู้จ้องผลาญ โดยกรณีของการแผ่เมตตาให้ผู้ที่เราไม่รักหรือคนที่เราคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี เราก็ควรตั้งเจตนาแผ่เมตตาให้เขาคลายความหลงผิด ขอให้เขาเห็นถูกตรง และกลับมามีส่วนร่วมช่วยสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอีกแรงหนึ่งด้วย เพราะทุกชีวิตก็ล้วนเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายและเป็นเพื่อนร่วมชาติด้วยกันทั้งหมดทุกคน
การที่เรารู้สึกคับข้องใจกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะเราไม่ยอมรับความเป็นจริงของความเป็นไปที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่หลวงปู่เคยพูดไว้นานแล้วว่า
ต่อแต่นี้ไป ประเทศชาติบ้านเมืองมีแต่จะเลวร้ายลง ผู้คนจะหาอยู่หากินกันลำบากมากขึ้น ๆ และจะกระเทือนมาถึงพวกแก จึงให้พากันภาวนา อย่าประมาท พูดง่าย ๆ ก็คือ สภาพการณ์ต่าง ๆ โดยรวมแล้วมันจะเลวร้ายลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับระดับศีลธรรมที่ลดน้อยลงของผู้คนในสังคม
คนดีที่ทำดีมาอย่างเต็มที่แต่กลับมีคนเนรคุณ หากมองในด้านหนึ่ง นั่นก็มักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างทางของการบำเพ็ญบารมีอย่างโพธิสัตว์ ที่ต้องทำใจให้ได้ในเรื่องการทำความดีเพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้อื่น ทำความดีเพื่อความดี ทำความดีโดยไม่หวังคำสรรเสริญเยินยอ ใครจะเห็นความดีหรือไม่เห็นความดี ก็เป็นเรื่องความดีความเลวของผู้รับต่างหาก
เวลาที่เราเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจ เราก็จะพากันลืมคำหลวงปู่ที่ว่า ถ้าเรามีญาณหยั่งรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในชีวิตเราไม่มีเรื่องบังเอิญเลย เพราะต่างก็เกิดมาแต่กรรมและเหตุปัจจัยอื่นในระดับบุคคล ...กรรมและเหตุปัจจัยอื่นในระดับกลุ่มบุคคล ...กรรมและเหตุปัจจัยอื่นในระดับสังคม ระดับประเทศชาติ ฯลฯ ต้องสอนตัวเองว่า การที่ต้องมาเจอะเจอในสิ่งที่ไม่ชอบใจ ก็ช่วยไม่ได้ อยาก เกิด เองนี่นา
ที่มา
http://board.palungjit.com/f4/กรรมของประเทศชาติ-240506.html