*
เดิมทีคนไทยจะบริโภค ผลอินทผลัม ส่วนใหญ่เป็นผลอินทผลัมแช่อิ่มและเชื่อม มีรสชาติหวานจัดที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะไม้ผลตระกูลปาล์มปลูกแถบตะวันออกกลาง และตอนเหนือของประเทศแอฟริกา โดยเฉพาะอินทผลัมจากประเทศอิสราเอลถือว่ามีคุณภาพดีที่สุด ราคาตกกิโลกรัมละ 500-600 บาท แต่ปัจจุบันเมืองไทยสามารถปลูกอินทผลัมได้แล้ว หลังจากที่ ศักดิ์ ลำจวน เจ้าของสวน "บ้านสวนโกหลัก" หมู่ 1 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ สามารถพัฒนาสายพันธุ์อินทผลัมลูกผสมระหว่างพันธุ์แลคเรตนัวของอิสราเอล กับพันธุ์บาไฮของจอร์แดน จนประสบผลสำเร็จจนออกผลผลิตมาแล้ว 3 ปี ตั้งชื่อใหม่อินทผลัมไทยพันธุ์เคปแอล 1 "แม่โจ้ 36 " มีคุณสมบัติพิเศษออกผลผลิตเร็ว สามารถบริโภคผลสดๆ มีสชาติหวาน กรอบ มัน เนื้อหนา เมล็ดเล็ก*ข้อความนี้ผมเอามาจากเวปที่ท่านลงไว้ อ่านแล้วรู้สึกไม่ตรงกับความเป็นจริง อินทผลัม(Dates)ไม่จำเป็น
ต้องเชื่อมหรือแช่อิ่ม แก่เต็มที่ตัดออกวางตากแดด เหมือนกล้วยตาก เมื่อเปลือกแห้งจะเหมือพุทรา อัดใส่ปีบ
ส่งขายได้เลย และราคาก็ไมถึงขนาด กก.ละ500-600 บาท น่าจะไม่เกิน200-300บาท อย่างแพง
ส่วนเรื่องสายพันธุ์ผมเคยนำมาจากซาอุฯทดลองปลูก ยังไม่ทันออกลูกโดนด้วงเล่นงานต้นเป็นโพรง
ตายหมด และอยากแนะนำว่า อินทผลัมที่มีขายในท้องตลาดถ้าท่านเห็นว่าอร่อย ก็สามารถใช้เมล็ด
เพาะขึ้นได้ ผมเคยทดลองเพาะใช้เวลาประมาณ3เดือนจะงอกให้เห็นครับ ไม่จำเป็นต้องซื้อต้นละ
800บาท ที่มีขายทางใต้ก็มีเมล็ดเคยมีคนเอามาฝากทดลองเพาะก็งอกครับ ส่วนเรื่องสัพคุณทางยา
ดีแน่ครับ
http://www.palmwonders.com/