MSN messenger โปรแกรมป่วนงาน!!!
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 10:56:41 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: MSN messenger โปรแกรมป่วนงาน!!!  (อ่าน 2130 ครั้ง)
winai4u-LSV team
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน673
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3025



« เมื่อ: พฤษภาคม 22, 2007, 11:03:17 pm »

ผมได้มีโอกาสจิบกาแฟพูดคุยกับเจ้าของบริษัทหนึ่ง สมมุติว่าชื่อเฮียสอ บริษัทเฮียสอเป็นแนวบริการ มีพนักงานอยู่ไม่น้อยเชียวละ คือ 70-80 คน แล้วก็มีที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ประมาณ 40 กว่าคน       ได้ นอกจากเรื่องเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว อีกหัวข้อที่คุยกันนานมากก็คือเรื่องของโปรแกรม MSN โปรแกรมที่หลายคนบอกว่า ยังไงก็ต้องลงเครื่อง        ไม่ลงไม่ได้จะขาดใจเฉาตายยยยย นี่แหละ
 
เฮียสอเล่าว่า ก่อนหน้านี้ระบบคอมพ์ในบริษัท จะเป็นแลนที่ไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ตเพราะไม่เห็นความจำเป็น งานการและพนักงานทุกอย่างก็ดูเหมือนจะปกติเรียบร้อยดี แต่ต้นปี 48 มีการขยายงานเริ่ม    ต้องติดต่อทางอีเมล ก็เลยดำริให้ลูกน้องไปสั่งสาย       เน็ตไฮสปีดความเร็วสูงมาเชื่อมเข้าไปในระบบ จุดประสงค์หลัก ๆ คือ การเพิ่มวิสัยทัศน์ ลับคมสมองให้พนักงานด้วยการดูอินเทอร์เน็ต ศึกษาข้อมูลสินค้าต่าง ๆ รวมถึงการติดต่อกับลูกค้าผ่านอีเมลก็สะดวกรวดเร็ว และแถมพกด้วยการทำเว็บไซต์ให้ดูเป็นมาตรฐาน ดูน่าเชื่อถือ และมีแอดเดรสติดลงในนามบัตรดูเท่กว่าเดิม แถมติดต่อต่างประเทศผ่านเน็ตก็ไม่เสียตังค์ด้วย ฯลฯ เห็นประโยชน์มากมายมหาศาล ก็เลยให้ความเร็วสูงตั้ง 4 เมกกะบิต
 
แต่วันนี้เฮียน้ำตาตก บอกว่า เดินผ่านมาทีไรเห็นหน้าจอมันเล่นแต่ MSN !!!
 เช้า กลางวัน เย็น ไม่ว่าเวลาไหน เฮียบอกว่าแทบทุกคน เดี๋ยวแวบหน้าจอเดี๋ยวแวบอีกแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรมาก แต่หลัง ๆ ชักเยอะจนรู้สึกว่าพนักงานหญิงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จ้องหน้าจอกันทั้งวัน นั่งเหมือนทำงาน แต่พอตามงานก็ไม่ค่อยขยับ เสียงออกลำโพง “ตึ้งตึงตึง” (แมสเสจเข้า) ตลอดเวลา กลุ้มใจมาก จนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแล้ว ช่วยแนะนำหน่อยเถอะ
 
ผมฟังแล้วก็เห็นใจ เพราะนี่เป็นเรื่องธรรมดาและเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ว่าบริษัท ไหน ๆ ที่พนักงานมีเครื่องคอมพ์ที่ต่อเน็ต มันอดไม่ได้หรอกที่จะลง MSN กัน ส่วนใหญ่พอถาม ก็อ้างว่าลงโปรแกรมไว้ติดต่อกันเรื่องงาน แต่เชื่อเถอะว่า ร้อยทั้งร้อย ขี้จุ๊เบ่เบ๊ ขี้จุ๊ตะลาลา ที่คุยกัน 5 เปอร์เซ็นต์เรื่องงานน่ะใช่ แต่ที่เหลืออีก 95 เปอร์เซ็นต์ ไม่จีบกัน ก็คุยสัพเพเหระ เมาท์แตกกันทั้งนั้นแหละ มันเป็นธรรมดาของสัตว์สังคม อดคุยโน่นคุยนี่ไม่ได้หรอกครับ แต่ก็มีที่มากหน่อย พวกคุยไม่หยุด คุยทั้งวันก็มีไม่น้อยเลยนะเดี๋ยวนี้
   
ทีนี้ทำอย่างไรดี ? หลายบริษัทที่เข้มหน่อย ก็ใช้วิธีแบน ห้ามเล่น บล็อกพอร์ตไปเลย มันก็ดูจะเวิร์กที่สุด แต่หลายแห่งก็ถูกพนักงานเลี่ยงหลบหลีก จนเล่นได้ (ส่วนใหญ่แอดมินนั่นแหละช่วย) หลายบริษัทใช้วิธีห่วยกว่านั้น คือ ให้พนักงานจัดโต๊ะ ให้นั่งหันหน้าไปในทางเดียวกัน แล้วให้หัวหน้าไปนั่งข้างหลังสุด เป็นระบบผู้คุม อันนี้มันก็เกินไปหน่อย เข้าข่ายโรคจิตชอบจับผิด ลองนึกดูว่าเรานั่งทำงานแล้วมีคนมานั่งจับผิดด้านหลังมันจะทำให้สมาธิดีไหม จินตนาการ หรือไอเดียมันคงหดหายหมด เพราะมัวระแวงไอ้เจ้านายที่นั่งอยู่ด้านหลัง ถ้าบริษัทไหนทำอยู่ เชื่อว่าพนักงานคุณเขาเซ็งเบื่อจะแย่ แต่พูดไม่ได้เท่านั้นเอง
   
อย่างไรก็ตาม ผมแนะนำเฮียสอ และก็อยากจะขออนุญาตแนะนำผู้บริหารอีกหลายบริษัทด้วยว่า ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องไปเครียดกับ MSN จนเกินเหตุ ไม่ต้องไปบล็อก หรือสั่งห้ามพนักงานใด ๆ ทั้งสิ้น   ที่คุณต้องทำก็คือเลิกไปสนใจ “หน้าจอ” คอมพิวเตอร์ลูกน้องคุณ แล้วหันไปสนใจผลงานหรือ performance ของเขาแทน เพราะคุณไม่ได้จ้างให้พวกเขามานั่งหน้าจอแล้วทำหน้าเครียด เพื่อให้คุณรู้สึกดี แต่จ้างมาเพื่อเอา “ผลงาน” ใช่ไหม ? ส่วนวิธีการทำงานของเขาจะเป็นอย่างไร จะทำงานไปนั่งเล่นหรือนั่งแชตไป ฯลฯ ถ้าผลงานออกมาดี มีความก้าวหน้า ผลประกอบการดีขึ้น กำไรงาม ยอดขายพุ่ง ฯลฯ ต่อให้เล่นตะกร้อลอดห่วงในออฟฟิศ ผมว่าคุณก็คงไม่ว่าอะไรละมั้ง (ฮา)
   
ตรงกันข้าม ในกรณีที่ตรวจสอบผลงานแล้วว่ามันแย่ลง ก็ให้ไล่บี้ไปเป็นคน ๆ  ตามลำดับขั้น มีการตรวจสอบงานตามเวลา มีการวัดผลงานทุกกี่เดือน เชื่อเถอะว่า พนักงานจะมองความสำคัญ และผลงานมาก่อน แล้วจะลดการใช้ MSN ไปเองโดยอัตโนมัติ หลายคนที่ผมรู้จัก มักจะเปิด Status ของตัวเองเวลาทำงานเป็น Busy เสมอ เพราะงานเยอะ รู้ว่าหน้าที่ต้องมาก่อน ส่วนเวลาว่างจะเปลี่ยน Status เพื่อนจะรู้ว่าว่าง ถึงจะคุยกันได้ ก็เป็นที่รู้กันไปเอง จะว่าไป แล้ว ตัวผมเองสมัยเป็นพนักงานประจำ เวลาเครียดงานได้คุยกับเพื่อนบ้าง มันก็ทำให้ผ่อนคลายได้มาก พอให้หายเหนื่อย ก็ค่อยกลับมาทำต่อ
   
MSN ถ้าไม่มีคนไปคลิก มันก็คงอยู่เงียบ ๆ ที่ทาสก์บาร์นั่นแหละ ใช่ไหม? สรุปคือ เรื่องนี้จะโทษพนักงาน โทษ MSN หรือจะโทษเจ้านายดีล่ะเนี่ย.......ช่วยผมคิดหน่อยสิครับ.

Creadit : คุณณัฐพงษ์ stepclub.net



บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!