วังนาคินทร์คำชะโนด
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 24, 2024, 12:31:13 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วังนาคินทร์คำชะโนด  (อ่าน 18282 ครั้ง)
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 02:32:56 pm »

ไปไหนๆ ในเมืองไทย ก็มักพบเห็นพระพุทธรูปงามตาองค์ใหญ่ ถูกสร้างขึ้นทั่วทุกหนแห่ง ตามแรงศรัทธาของคนในพื้นที่นั้นๆ











บันทึกการเข้า

TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 02:40:15 pm »

วังนาคินทร์คำชะโนดหรือเมืองชะโนด ตั้งอยู่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี เป็นเมืองที่ปรากฏในตำนานพื้นบ้าน บ่อยครั้งที่ชาวบ้านในละแวกนั้นจะพบเห็นชาวเมืองชะโนดไปเที่ยวงานบุญพระเวท รวมถึงหญิงสาวที่มายืมเครื่องมือทอผ้าอยู่เป็นประจำ และเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงที่อำเภอบ้านดุง แต่น้ำก็ไม่ท่วมบริเวณคำชะโนด เมื่อระดับน้ำลดลง คำชะโนดก็ยังคงอยู่เช่นเดิม









ประตูสู่เมืองพญานาคในตำนาน



ตำนาน

ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า มีพญานาคอยู่ สองตนได้ปกครองเมืองหนองกระแส โดยครึ่งหนึ่งเป็นของ สุทโธนาค (เจ้าพระยาศรีสุทโธ) ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นของ สุวรรณนาค ทั้งสองปกครองเมืองอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข แต่มีข้อตกลงกันอยู่ว่า ถ้าเมื่อฝ่ายใดออกไปล่าสัตว์หาอาหาร อีกฝ่ายหนึ่งจะต้องไม่ไป เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน และเมื่อฝ่ายที่ออกไปล่าสัตว์หาอาหารมาได้นั้น ให้นำมาแบ่งกันอย่างละครึ่ง

เมื่อถึงคราวสุวรรณนาคได้ออกไปล่าสัตว์หาอาหารได้เนื้อช้างมา จึงนำเนื้อช้างที่ได้แบ่งให้สุทโธนาค พร้อมทั้งนำขนของช้างไปยืนยันว่าเป็นเนื้อช้างจริง อีกครั้งที่สุวรรณนาคออกไปล่าสัตว์หาอาหารอีก ครั้งนี้ได้เม่นมาเป็นอาหาร จึงได้นำเนื้อเม่น และขนของเม่นไปมอบให้แก่สุทโธนาคเหมือนเช่นเคย แต่สุทโธนาคกลับแสดงความไม่พอใจ เพราะเมื่อดูจากขนของเม่นที่มีขนาดใหญ่กว่าขนของช้าง ปริมาณเนื้อที่ได้ก็ควรมีมากกว่าเนื้อของช้าง แต่ปริมาณเนื้อนั้นกลับมีน้อยกว่ามากนัก จึงคิดว่าสุวรรณนาคไม่มีความซื่อสัตย์ ฝ่ายสุวรรณนาคพยายามอธิบายอย่างไรก็ไม่เป็นผล จึงเกิดสงครามระหว่างสุทโธนาค และสุวรรณนาค

พระอินทร์ได้ทราบเรื่อง จึงหาวิธีการที่จะทำให้พญานาคทั้งสองนั้นหยุดทำสงครามกัน โดยให้พญานาคทั้งสองสร้างแม่น้ำขึ้นคนละสาย ถ้าใครสร้างได้ถึงทะเลก่อนจะให้ปลาบึกขึ้นอยู่ในแม่น้ำนั้น เมื่อได้ยินเช่นนั้น สุทโธนาคก็ได้สร้างแม่น้ำมุ่งไปทางทิศตะวันออกของหนองกระแส และด้วยความที่สุทโธนาคมีนิสัยใจร้อน เมื่อพบเจอภูเขากั้นทางแม่น้ำก็จะทำการหลบหลีก โค้งไปโค้งมา จึงเกิดเป็น แม่น้ำโขง (โค้ง) ส่วนทางฝ่ายสุวรรณนาคนั้น ได้ทำการสร้างแม่น้ำขึ้นทางทิศใต้ของหนองกระแส สุวรรณนาคมีความละเอียด และใจเย็น แม่น้ำที่สร้างขึ้นจึงมีความตรงกว่าแม่น้ำทุกสาย ได้แก่ แม่น้ำน่าน

สุทโธนาคเป็นผู้ที่สร้างแม่น้ำได้เสร็จก่อน จึงมีปลาบึกขึ้นอยู่ในแม่น้ำโขงเพียงแห่งเดียว และเมื่อเป็นเช่นนั้น สุทโธนาคก็ได้ขอทางขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองมนุษย์ไว้อีก 3 แห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ คำชะโนด ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้น เป็นสัญลักษณ์ ให้สุทโธนาค พร้อมบริวารสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ (พญาศรีสุทโธ) และตั้งบ้านเมืองปกครองอยู่ที่คำชะโนดได้เมื่อข้างขึ้น 15 วัน อีก 15 วันข้างแรม ให้กลายเป็นนาค อาศัยอยู่เมืองบาดาล (พญานาคราชศรีสุทโธ)




ที่มา : http://th.wikipedia.org

บันทึกการเข้า
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 02:48:28 pm »

ร่องรอยอะไรบนต้นชะโนด คงไม่ต้องบอกกันนะครับ  สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงอยู่คู่กับคนไทย
















ศรัทธาของผู้มาเยือน

บันทึกการเข้า
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 02:58:54 pm »

ก้าวแรกที่ก้าวพ้นปากประตูเข้ามา เสียงกังวานแว่วของฆ้องดังมาแต่ไกล









หลายคนอธิษฐานก่อนจะทำการลูบฆ้อง (ถ้ามีบุญก็ขอให้ดัง ดังไปสู่เมืองบาดาลหรือเปล่าก็มิรู้ได้)
บ้างก็ดัง บ้างก็ไม่ดัง ตามแต่เหตุปัจจัยและสรีระของฝ่ามือของแต่ละคน
บางคนลูบเพียงไม่นานก็ดังกังวานก้องป่า อีกหลายๆ คนทั้งลูบทั้งถูก็ไม่ยักกะดัง
(เห็นพยายามจนเหงื่อตก จนถอดใจเลิกไปเอง)  Tongue

บันทึกการเข้า
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 03:02:24 pm »

บรรยากาศรอบๆ ป่าคำชะโนด ดูวิเวกวังเวงมิใช่น้อย












บันทึกการเข้า
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 03:04:36 pm »

ลักษณะต้นชะโนด ให้เอาต้นมะพร้าว ต้นหมาก และต้นตาล อย่างละเท่าๆ กันผสมกัน







บันทึกการเข้า
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 03:08:52 pm »

แม้แต่บายศรีที่นำมาถวายบูชา ก็ยังเป็นรูปพญานาคตามความเชื่อและความศรัทธาที่ยึดมั่น








บันทึกการเข้า
TongTang-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน985
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3404



« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 03:26:19 pm »












ตามราชโองการของพระอินทร์ และพญาสุทโธนาคได้เข้าเฝ้าพระอินทร์
ทูลขอทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์ เอาไว้ ๓ แห่ง
พระอินทร์จึงทรงอนุญาตให้มีรูพญานาคเอาไว้ ๓ แห่ง คือ
๑.ที่พระธาตุหลวงนครเวียงจันทร์
๒.ที่หนองคันแท
๓.ที่พรหมประกายโลก หรือเรียกว่า...คำชะโนด










สำหรับบ่อน้ำในป่าคำชะโนด ว่ากันว่าเป็นบ่อน้ำที่ความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ชาวบ้านเชื่อกันอย่างนั้น มีหลายคนเคยลองอธิษฐานตรงหน้าบ่อน้ำก็ได้ตามประสงค์ บางคนเจ็บป่วยไปดื่มหรืออาบโรคร้ายก็หายเป็นปลิดทิ้ง สร้างความอัศจรรย์ใจยิ่งนัก แต่นั่นไม่ใช่ทุกคน อยู่ที่ความเชื่อมีมากน้อยแค่ไหน หลายคนไม่เชื่อแถมยังลบหลู่ ตักน้ำจากบ่อแล้วนำมาล้างเท้าแทนที่จะหายป่วยไข้กลับทุกข์ทรมานซ้ำหนักกว่า เดิม

เช่นเดียวกับใครที่อยากจะเข้าไปสัมผัสป่าลี้ลับคำชะโนดก็ต้องสำรวมและ ปฏิบัติตามข้อห้ามอื่นๆ เป็นต้นว่า ห้ามใส่รองเท้าทั่วทั้งบริเวณป่า หมวก แว่นตา ร่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ห้ามเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้คือการดูถูกดูหมิ่นต่อผู้ปกปักรักษาผืนดิน

“แต่ก่อนห้ามใส่เสื้อสีแดงด้วย ไม่ได้เลยนะ ใครใส่เข้ามานี่เป็นเรื่อง อยู่ไม่ได้นานหรอก ต้องรีบออกไป ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนท่านไม่ชอบ แต่พอหลวงปู่ (หลวงตาคำ สิริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดศรีสุทโธ วัดละแวกป่าคำชะโนด) ได้ทำพิธีขอยกเว้นตอนหลังก็ใส่ได้” ทองหล่อ ตลิ่งชัน กำนันตำบลวังทองบอก









มุมเล็กๆ ข้างขอบบ่อ เหล่าสัตว์ตัวน้อยก็อยากลงไปแวกว่ายในบ่อน้ำกับเขาด้วย



บันทึกการเข้า
dekwat♥
member
*

คะแนน458
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 303



« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 07:21:14 pm »

ไม่เคยไปก็เหมือนไปเองเลยครับ

ขอบคุณหลาย ๆ
บันทึกการเข้า
sodsai13♥
วีไอพี
member
***

คะแนน43
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 579


sodsai13@gmail.com


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2010, 11:14:24 am »

เคยเดินเข้าไปที่นั้นเย็นมากๆครับนึกว่าติดแอร์เลยน่ะ
บันทึกการเข้า

อีบุคสอนซ่อมเครื่องซักผ้าเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้าแก็ซและหม้อหุงข้าว
http://sodsai.info

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!