ลืมแนบรูปครับ
จากวงจร หลังจากจ่ายไฟเข้าวงจร R1 จ่ายไฟให้ C2 และขา B ของ TR1 จน C2 มีแรงดัน 9 Volts และคงแรงดันไว้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ขา E ของ TR1 จะมีแรงดัน 9V - 0.6V ซึ่งมีกระแสบางส่วนไหลลง R2 ผ่าน VR1 ลงกราวด์ และ C1 เก็บกระแสผ่านขา B ของ TR2 รักษาแรงดันไว้คงที่ และทำให้ TR2 ถึงจุดหยุดการทำงาน
ขา C ของ TR2 หยุดนำกระแส R3 จึงเริ่มจ่ายกระแสให้ C3 Opamp 1/1 ต่อแบบขยาย 1:1 เพื่อให้มี output มีความต้านทานต่ำ แรงดันที่ได้จะประมาณ 7V
R5,R6 แบ่งเป็นชุดแบ่งแรงดันปกติจะมีค่าประมาณครึ่งหนึ่งของแรงดันแหล่งจ่ายไฟ (~4.5V) Opamp 1/2, 1/3 ทำงานวัดความต่างของแรงดัน เพื่อให้มีการทำงานคล้ายระบบดิจิตอล มีค่า 0(%2V) และ 1(~7V)
Opamp 1/2 ขา 7 ของ Opamp มีแรงดัน 7V ทำให้หลอด LED สว่างแสดงว่าวงจรอยู่ในสภาวะปกติพร้อมทำงาน และจ่ายไฟให้ C5 จนเท่ากับ 7V-0.6V ตามค่า diode
Opamp 1/3 ทำงานเหมือน Opamp 1/2 แต่ต่างกันตรงที่ Opamp 1/3 ทำงานกลับเฟส หรือเป็น Inverter ดังนั้นขา 8 จึงมีแรงดันออกมาเพียง 2V และชาร์ทให้ C6 ได้แรงดัน 2V-0.6V
R9, R11 ทำงานแบบเดียวกับ R5,R6 เป็นชุดแบ่งแรงดัน และทำงานร่วมกับ Opamp 1/4 เป็นวงจรผลิตความถี่และขยายเพื่อขับกระแสให้ TR3 ผ่าน R13 และ R14
เมื่อนิ้วแตะที่ T จะทำให้เกิดแรงดันจากตัวเรา เป็นสัญญาณเข้าทำให้ TR1 หยุดทำงาน การทำงานส่วนอื่นๆก็ทำงานในทางตรงกันข้าม Opamp 1/4 เป็นวงจรผลิตความถี่และขยายมากขึ้นกว่าปกติ ขับ TR3 เป็นสัญญาณเสียงออกลำโพง
การเพิ่มเติมวงจร