คิดแบบฝรั่ง กับคิดแบบไทย ต่างกันตรงไหน
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คิดแบบฝรั่ง กับคิดแบบไทย ต่างกันตรงไหน  (อ่าน 4307 ครั้ง)
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2009, 10:12:14 am »

เป็นถึงเจ้าคุณ แต่ละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ
อย่างแรง !

เป็นบทเรียนอันเจ็บแสบ ก่อนจะให้ "เจ้าคุณ" แก่พระต่างชาติ ต้องคิดให้ดี เขาเป็นพุทธ แต่มิใช่เป็นไทย ขณะที่พุทธแบบไทยๆ เรานั้น มันคนละแบบ แต่คนไทยเรากลับทึกทักเอาเองว่า ฝรั่งมาบวชกับคนไทยก็คือพระไทย ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ ถามว่า ถ้าวันนี้จะยึดพัดพระราชาคณะคืน จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาประกาศว่า ยินดีคืน เพราะไม่อยากได้อยู่แล้ว แบบนี้มิใช่เสียหายเฉพาะคณะสงฆ์ไทย แต่จะกระทบถึงพระบรมเดชานุภาพด้วย นี่ไงที่เรียกว่า กรณีประวัติศาสตร์ ที่มหาเถรสมาคมและคนไทยต้องจดจำไว้ ถ้ายัง..รักชาติไทย อย่าแค่สวมเสื้อเหลือง แต่ก่อนจะให้อะไรใครก็ต้องถามว่า คนไทยหรือเปล่า ?
 
                                                ภาพการบวชพระภิกษุณี
ที่วัดโพธิญาณ เมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย
 


                                                                                คิดแบบไทยๆ
 
คนไทยนิยมชมชอบพระฝรั่ง หรือพระไทยพูดฝรั่ง กระแดะลิ้น กินฮอตดอก ทำยังกะว่าฟังภาษาไทยไม่ออก ทั้งๆ ที่ เป็นภาษาพ่อแม่แท้ๆ ต้องเทศน์เป็นภาษาอังกฤษถึงจะซึ้ง แม้ว่าจะเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่งก็ตามเถิด ทั้งๆ ที่พระไทยก็เทศน์เป็นไทยและฟังง่ายกว่าเยอะ แต่พวกไทยใจฝรั่งที่ยกก้นตนเองเป็นไฮโซ-ไฮซ้อ นั้น ฟังไม่เป็น ต้องฟังธรรมะเวอร์ชั่นฝรั่งถึงจะเข้าใจ สุดท้ายจึงเห่อพระฝรั่ง ทั้งๆ ที่ฝรั่งก็ยังต้องยอมตัวมาขอเป็นลูกศิษย์พระไทย เช่นพระพรหมวังโส เป็นต้น
                                                                                 คิดแบบฝรั่ง
 
มิได้สนใจซักหน่อยว่าคนไทยคิดอย่างไร มองอย่างไร สนแต่อย่างเดียวคือ ไทยมีดีอะไรที่ฝรั่งจะใช้ให้เป็นประโยชน์ได้บ้าง ดังเช่นพระพุทธศาสนาแบบไทยๆ ยิ่งสายวัดป่าด้วยแล้ว ยิ่งน่าสนใจ ถ้าได้รูปแบบพระวัดป่า ไปเป็นใบเบิกทางในต่างประเทศ พอดังแล้วก็ไม่ต้องสนใจไทย อาจจะมองด้วยซ้ำไปว่า คนไทยกระจอก มองเมืองไทยแคบแค่แม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำโขงเท่านั้น เอาสองสายนี้รวมกันยังสู้แม่น้ำมิสซิสซิปปี้ไม่ได้เลย
 
                                                                                คิดแบบไหน ใครผิด-ใครถูก ?
 
 
จริงแล้ว เรื่องความคิดนั้น มันไม่มีใครผิดหรือถูก เพียงแต่ว่าบทบาทที่แสดงออกนั้นสำคัญกว่า คณะสงฆ์ไทยภูมิใจนักหนา ที่ได้ฝรั่งมาเป็นศิษย์ ขณะเดียวกันคนไทยก็เห่อพระฝรั่ง นิยมชมชอบกระทั่งเสนอพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทรงโปรดแต่งตั้งเป็นพระเจ้าคุณฯ ทั้งๆ ที่ฝรั่งนั้นเขามิได้สนใจในเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ของไทยๆ เราหรอก เชื่อได้เลยว่าเขามิได้บวชมาเพื่อเป็นพระครู เป็นเจ้าคุณ เหมือนพระไทยเราอยากเป็น
 
โอเค มอบเจ้าคุณให้พระฝรั่งดูมันไม่เสียหาย ดีด้วยซ้ำไปในสายตาของสังคม แต่ผลกระทบเรื่องพระวิสุทธิสังวรเถรในครั้งนี้ ก็ตีกระหน่ำซะคณะสงฆ์ไทยกระเทือน แบบว่า ไอไม่สนใจว่ายูจะให้เจ้าคุณอะไรแก่ไอ แต่ไอสนใจว่าไอจะใช้สิ่งที่ไอได้มาทำอะไรมากกว่า understand ?
 
บทสรุปจึงอยู่ที่คนไทย คณะสงฆ์ไทยเราเอง จะให้อะไรแก่ใครก็ควรพิจารณาให้ดีๆ อย่าเห่อของนอกให้มากนัก ประเดี๋ยวจะช้ำใจรอบสอง เหมือนเรื่องวัดโพธิญาณและพรหมวังโส ในวันนี้
 
 
อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม

 
http://www.alittlebuddha.com/


บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ

eskimo_bkk-LSV team♥
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม..
member
*

คะแนน1887
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13886


ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวก


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2009, 10:25:05 am »

สมน้ำหน้าที่โง่เอง
มหาเถรฯภายในก็ไม่แตกต่างกับรัฐตำรวจ เลย


 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: