ตร.แกะรอยรวบ รับทำมาแล้ว2ปี ฉกได้ถึง46ล้าน
ตำรวจยานนาวารวบ หัวขโมยตัวแสบ พร้อม ของกลางเพียบ สารภาพเพิ่งพ้นคุกในคดีเดียวกันมาเมื่อปี 50 แต่ไม่เข็ด ออกตระเวนลักทรัพย์อีกนับ 100 ครั้ง ได้ทรัพย์สินรวมแล้ว 46 ล้านบาท เผยแผนประทุษกรรม เลือกเหยื่อที่มีแต่คนสูงวัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ก่อนอ้างเป็นช่างแอร์ ทำทีคนในบ้านให้มาซ่อม จากนั้นฉวยโอกาสรื้อค้นเอาทรัพย์สินมีค่าหลบหนี อ้างเอาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วยเป็นมะเร็ง อีกส่วนเอาไปถลุงในบ่อนพนันประเทศเพื่อนบ้าน พอเงินหมดออกล่าเหยื่อใหม่ เฉลี่ยแล้วเดือนละเกือบ 10 ครั้ง
จับหัวขโมยแสบก่อเหตุลักทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง รวมมูลค่าทรัพย์สิน 46 ล้านบาท เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.อ.เสถียร ตัณฑะกูล ผกก.สน. ยานนาวา พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา นำตัวนายจอมภพ โสภณสิริรัตน์ หรือนายชานนท์ โสภณสิริรัตน์ หรือนายภูผา นิราศรพ หรือนายอภิลาภ นิราศรพ หรือนายนักรบ พิราศรพ หรือนายภูผา ศิริพิน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2998/หมู่ 77 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. มาแถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมของกลางเกือบ 100 รายการ ประกอบด้วย ธนบัตรโบราณสกุลไทยและต่างประเทศ พระเครื่อง บัตรผู้สื่อข่าวพิเศษนิตยสารจักรวาลตำรวจ และเครื่อง ประดับมีค่า โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.1082/2551 ลงวันที่ 28 พ.ย. 51 จับกุมได้เมื่อช่วงสายวันที่ 14 ธ.ค. ขณะผู้ต้องหาไปทำบุญกระดูกบิดาที่วัดนวลจันทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
พ.ต.อ.เสถียรเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 51 เกิดเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 287 ถนนศรีเวียง แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. โดยคนร้ายมีเพียงคนเดียว อ้างเป็นช่างแอร์เข้าไปก่อเหตุ จากการตรวจสอบแฟ้มประวัติคนร้าย รวมทั้งแผนประทุษกรรม เชื่อว่านายจอมภพเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เพราะเมื่อปี 44 เคยถูกฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา จับกุมมาครั้งหนึ่ง ในคดีลักทรัพย์ในเคหสถาน 19 คดี ส่วนผู้ต้องหา หลังถูกจับกุมได้นำไปตรวจค้นที่บ้านพักย่านสวนหลวง พบของกลางอีกหลายรายการ พร้อมอายัดรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ฌภ 7591 กรุงเทพมหานคร 1 คัน รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน วทค 757 กรุงเทพมหานคร 1 คัน มาตรวจสอบ โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ใช้รถ จยย.เป็นพาหนะก่อเหตุ ส่วนรถยนต์เป็นของบิดาที่ป่วยเป็นมะเร็งเพิ่งเสียชีวิตไป
ผกก.สน.ยานนาวากล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหา เบื้องต้นทราบว่า เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 50 แต่ไม่ เข็ดหลาบ ยังตระเวนก่อเหตุอีกนับร้อยครั้ง ได้ทรัพย์สินทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 46 ล้านบาท ล่าสุดเข้าไปลักทรัพย์บ้านหลังหนึ่งในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร โดยใช้ แผนประทุษกรรมเดิมหลอกคนในบ้านว่ามาซ่อมแอร์ ก่อนเข้าไปลักทรัพย์ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้มีผู้เสียหายมาตรวจสอบของกลางแล้ว 2 ราย และชี้ยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกลักทรัพย์ไป ขั้นตอนต่อจากนี้ อยู่ระหว่างประสานผู้เสียหายรายอื่นๆมาดูของกลาง และแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติม ส่วนรถยนต์ ฮอนด้า แจ๊ซ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นของพ่อ จะตรวจสอบอีกครั้งว่ามีที่มาอย่างไร เนื่องจากพ่อผู้ต้องหาไม่ได้ประกอบอาชีพ และเสียชีวิตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงประชาชนที่เคยถูกก่อเหตุในลักษณะนี้มาตรวจสอบทรัพย์สิน และชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.ยานนาวา
ขณะที่นายจอมภพให้การว่า ก่อเหตุลักทรัพย์ลักษณะ นี้มาประมาณ 100 ครั้ง โดยใช้รถ จยย.คู่ใจ ตระเวนหาบ้านที่มีเหยื่อเป็นผู้สูงอายุอาศัยเพียงลำพัง หรือคนในบ้านออกไปทำงานช่วงกลางวัน โดยหยิบจดหมายที่อยู่หน้าบ้านมาดูว่าบุคคลที่อยู่ในบ้านชื่ออะไร ก่อนอ้างชื่อบุคคลในจดหมาย ใช้ให้มาซ่อมเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน เมื่อเข้าไปได้แล้ว จะหลอกให้เหยื่อช่วยเฝ้าสะพานไฟ หรือกดเปิดปิดสวิตช์ไฟให้ ตนจะอาศัยช่วงจังหวะนี้รื้อค้นเอาทรัพย์สิน เงินสด รวมทั้งของมีค่าอื่นๆก่อนหลบหนี โดยนำทรัพย์สินมีค่าประเภทนาฬิกา เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ ไปขายตามร้านรับซื้อของเก่าย่านเยาวราช นำเงินไปรักษาพ่อที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว อีกส่วนจะนำไปเล่นการพนันบาคาร่าที่บ่อนปอยเปต ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเงินหมดจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก เฉลี่ยเดือนละประมาณ 10 ครั้ง ส่วนสาเหตุที่เปลี่ยนชื่อถึง 6 ชื่อ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ส่วนบัตรผู้สื่อข่าวนิตยสารตำรวจให้เพื่อนทำให้ ไม่ได้ใช้ในการก่อเหตุ
นสพ.ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
15 ธันวาคม 2552, 01:19 น.
tags:
,โจรซ่อมแอร์ 100 คดี,ขโมย
