กะทะทอดไข่เจียว กับคุณภาพที่ไม่น่าเชื่อ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 26, 2024, 01:40:45 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กะทะทอดไข่เจียว กับคุณภาพที่ไม่น่าเชื่อ  (อ่าน 24821 ครั้ง)
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2009, 08:48:01 pm »

เป็นตัวรับไวเลสบริเวณที่สัญญาณอ่อนๆคับ ผมใช้อยู่ห่าง 100 เมตรได้คับจากที่ส่ง แต่ก่อนสัญญาณที่บ้านลองค้นหาดูมีบ้างแต่อ่อนมากๆจนถึงหายไปเลย อาชีพเสริมของผมคือ รับติดจานดาวเทียม
ผมเลยคิดทำเจ้าสิ่งนี้ลองดูคับ โดยวัดจุดโพกัส ทำทุกอย่างเหมือนกับจานดาวเทียม พอเสร็จแล้วหันหน้าจานไปหาแหล่งที่ส่งสัญญาณ ลองเทสดูคับไม่น่าเชื่อคับว่ามันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ ผมใช้อยูจนทุกวันคับ ใครที่มีปัญหารับสัญญาณอ่อนๆ ลองทำแล้วนำไปใช้ดูคับ ลงทุไม่กี่บาทและไม่ผิดหวังแน่ๆคับ   กะทะ 70 บาท  usb ไวเลส 640 บาท คับ
สอบถามและติชมได้คับ


บันทึกการเข้า

shokunmusicsound
วีไอพี
member
***

คะแนน37
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 591


ตายซะดีกว่า ที่จะละทิ้งหน้าที่


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 09:25:32 am »

เท่ดีครับ แล้วตอนฝนตกตัวไวเลตจะเป็นอะไรรึเปล่าครับ
นี่แหละคนไทยสุดยอด!!!!
 
บันทึกการเข้า

been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 09:44:41 am »

เวลาฝนตกเป็นคับ แต่ผมทำแบบขาตั้งอีตัวเหมื่อนกันทุกอย่างหรือเอาขาโคมไฟตั้งโต๊ที่ไม่ได้ใช้แล้วมาต่อเป็นขาแล้วนำตัวไวเลสมาใส่ใว้หน้าจานเหมื่อนเดิมคับ จะนำภาพมาให้ดูอีกคับ ขอบคุณมากคับ ที่ติชมคับ
บันทึกการเข้า
prom jantapho
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน413
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4845


ทำดีเท่าที่ทำได้


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 11:02:40 am »

ดีครับน่าจะลงรายละเอียให้สมาชิกได้ทราบทั้งหมด เพราะว่าสมาชิบางคนอาจจะไม่สามารถทำได้ หรือว่าเอาไว้จดสิทธิบัตรดี   
บันทึกการเข้า

สามารถติดต่อได้ที่ 0841987970
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 01:04:19 pm »

แบบที่ 2 คับเป็นขาตั้งย้ายที่ได้คับใช้กับโน๊ตบุ๊ค- pc ก็ได้ ถ้าสนใจจะทำจริงๆให้โพสถามได้คับ ยินดีให้ลายละเอียดทุกอย่างคับไม่ปิดบัง
บันทึกการเข้า
korn
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25


« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 03:26:00 pm »

คำนวนจุดโฟกัสของกระทะยังไงครับ
บันทึกการเข้า
ps2518
member
*

คะแนน6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 338



อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 03:39:10 pm »

http://www.mps.ac.th/match-rasamee/para.htm
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 04:24:31 pm »

สูตรคำนวณแบบง่ายๆของผมคือ (เส้นผ่าศูนย์กลาง) คูณ (เส้นผ่าศูนย์กลาง) ส่วนด้วย (16) คูณ (ความลึกของกะทะ) = จุดโฟกัส  สูตรมีแค่นี้คับ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากคับ (หน่วยเป็นมินคับ) เช่น 30 เซนติเมตร = 300 มิลลิเมตร คับ
บันทึกการเข้า
rityaso
member
*

คะแนน5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 189


« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2009, 08:30:14 pm »

 อยากรู้ว่าสัญญานเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนครับ ผมใช้งานไวเลดของตึก(อาร์พาร์ทเมน ใน กทม)สัญญานมีแค่1ขีดหรือ2ขีดจากทั้งหมดมี4ขีด ไม่รู้ในห้องเช่าจะเพิ่มได้ไหมครับ(เดี๋ยวว่างๆจะทดลองทำดูครับ) Cheesy
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2009, 11:21:32 am »

ผมว่าน่าจะได้คับ แต่ต้องต่อสายออกไปข้างนอกห้องนะคับแล้วลองหันหน้าจานดูว่าทิศไหนที่สัญญาณมากที่สุดแล้วลองขยับตัวไวเลสเข้าออกอีกนิดหนึ่งเผื่อสัญญาณมันจะเพิ่มขึ้นคับ ถ้า 1-2 ขีดเล่นเน็ตได้แล้วได้เจ้าตัวกะทะมาเพิ่มก็สะบายคับ ส่านสายให้ใช้เป็นแบบที่มีตัวแม่เหล็กติดอยู่อีกทางนะคับ มันเรียกว่าสาย usb อะไรไม่รู้คับจำไม่ได้หาซื้อได้ตามร้านคอมน่าจะมีคับ ถ้าเป็นสายธรรมดาไม่ได้คับคอมหาไม่เจอเลย สงสัยอะไรหรือไม่ได้ก็โพสบอกด้วยนะคับจะหาวิธีช่วยคับ และจะปรับปรุงคับ ขอบคุณมากๆคับ
บันทึกการเข้า
kpkp
Full Member
member
**

คะแนน25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 422


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 10:39:53 am »

usb ไวเลส 640 บาท  มันเหมือนกับ Access point  หรือเปล่าครับ   สายที่ต่อซื้อ หรือต้องทำเองครับ เพราะมันต้องใช้สายยาวมาก ๆ   ....  ผมก้ลักเขาใช้อยู่เหมือนกันครับ มันมาแค่ 1  ขีด หลุดบ่อย ต้องหามุมวางเครื่องคอมฯ  กว่าจะได้หามุมนานมากครับ  ก็อยากจะทำดู    เจ้า usb ไวเลส  ยังไม่เคยเห็นของจริง  ซื้อมาแล้วจะต้องมีการปรับแต่งค่าอะไรอีกไหมครับ   Cheesy
บันทึกการเข้า
kpkp
Full Member
member
**

คะแนน25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 422


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 11:36:53 am »

ใช้ แอร์การ์ด มันจะดีกว่า หรือด้อยกว่าอย่างไร  .........เพื่อน ๆ ที่ทราบ อธิบายบ้างครับ  ..........กำลังจะตัดสินใจซื้อมาใช้งาน   Cheesy
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 06:54:55 pm »

usb กะ  Access point  ต่างกันคับ  usb  จะรับอย่างเดียวคับ ใช้เสริมคอมที่ไม่มีไวเลส แต่ Access point  เป็นตัวรับและกระจายสัญญานคับในตัวคับแต่ราคา ก็ 2500 บาท ขึ้นคับ

บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 07:14:57 pm »

แอร์การ์ด  ดีคับแต่ช้าเล่นที่ไหนก็ได้แต่ที่สำคัญคือ 1.ต้องมีสัญญานมือถือ 2.จ่ายรายเดือนค่าซิมเน็ต 3.ราคาประมาณ 3000 คับ พี่ที่ทำงานด้วยกันใช้อยู่คับจ่ายค่าซิมเน็ตเดือนละ 199 บาท 50 ชม. คับ แนะนำคับ ถ้าจะใช้โหลดหรือเล่นเกมส์ผมว่าอย่าเลยคับ เป็นแค่การเปลียบเที่ยบของผมนะคับ
บันทึกการเข้า
พรเทพ-LSV team♥
รับติดตั้งจานดาวเทียม ลาดพร้าว บางกะปิ
Senior Member
member
*

คะแนน1453
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 12125

091-091-9196 ID LINE : tv59


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2009, 07:50:32 pm »

usb กะ  Access point  ต่างกันคับ  usb  จะรับอย่างเดียวคับ ใช้เสริมคอมที่ไม่มีไวเลส แต่ Access point  เป็นตัวรับและกระจายสัญญานคับในตัวคับแต่ราคา ก็ 2500 บาท ขึ้นคับ


ผมอ่านภาษาไทยแต่ผมไม่เข้าใจภาษาไทย
เป็นตัวรับ คำนี้เข้าใจ
กระจายสัญญาณ คำนี้ไม่เข้าใจ
ใช่เป็นตัวส่งไหม?
หมายความว่า เอาตัวนี้รับ แล้วส่งไปให้อีกตัวหรือเครื่องอื่นๆได้ใช่ไหม
เช่นบ้าน นาย ก.รับสัญญาณได้อ่อน บ้านนาย ข. รับสัญญาณไม่ได้เลย พอบ้านนาย ก.ใช้ตัวนี้รับมาได้แล้ว บ้าน นาย ข. ก็สามารถรับได้ด้วยหรือไหม  โดยรับต่อจาก บ้านนาย ก.  และเจ้าตัวนี้ มันส่งได้ไกลเท่าไร  กำลังส่งเท่าไร 

(หรือ ชั้น 3 รับได้อ่อน ชั้น 5  รับไม่ได้เลย เอาตัวนี้ไปใส่ชั้น 3  ทำให้ชั้น 5 รับสัญญาณได้ด้วยไหม?)
บันทึกการเข้า

been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2009, 02:34:10 am »

คับถูกต้องแล้วคับ  เอามาฝากคับจะได้เข้าใจขึ้น  เอาบทความเรื่องความรู้เกี่ยวกับการทำงานของ AP มาฝากนะครับ เวลาไปสั่งซื้อหรือไปซื้อมาใช้จะได้เข้าใจครับ
ราคาสำหรับ AP ที่สามารถทำงานได้ตามบทความนี้ เริ่มตั้งแต่ 5,xxx ขึั้นไปถึงหลัก 10,xxx ครับ

ถ้าคุณต้องการจะสร้างระบบเครือข่ายไร้สาย อุปกรณ์หนึ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้คุณอีกนิด โดยไม่ต้องปวดหัวกับการต่อแบบ Ad-hoc ก็คือเจ้าอุปกรณ์ที่เรียกว่า Access Point หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า AP (เอ-พี) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น “จุดกระจายและเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย” เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายทุกชนิด (ที่ทำงานภายใต้มาตรฐานของ IEEE802.11) เข้าด้วยกัน

แล้วคุณรู้หรือไม่ว่านอกจากจะทำหน้าที่เป็น Access Point แล้ว AP ที่ดียังสามารถทำหน้าที่อื่นๆ เพื่อช่วยให้ระบบเครือข่ายไร้สายตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างถึงขีดสุด วันนี้เราจึงอยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับหน้าที่ต่างๆ ของ AP ที่ดี ที่จะช่วยสร้างระบบเครือข่ายไร้สายของคุณให้ทรงประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแท้จริง

AP Mode

1. Default: Access Point Mode แรกของอุปกรณ์ชิ้นนี้ที่เราจะทำความรู้จักกันก็คือ Access Point Mode ซึ่งเป็นหน้าที่หลักโดยกำเนิดของ AP ทุกตัว และเป็นที่มาของชื่อเรียกของเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ AP ที่ทำหน้าที่เป็น Access Point จะว่าไปแล้วก็เปรียบเสมือนสวิตซ์ ในการสร้างระบบเครือข่ายผ่านสาย (ไม่ว่าจะเป็นสาย UTP หรือสาย Fiber Optic) โดย AP จะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับ รับระบบเครือข่าย ไร้สาย เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Computer, Print Server, Camera หรือ อุปกรณ์พกพาต่างๆ (Smart Phone / PDA) เพื่อให้ใช้ทรัพยากรในวงแลนร่วมกัน ทั้งซอฟท์แวร์ อาทิ แชร์ไฟล์ แชร์โปรแกรม แชร์อินเตอร์เน็ต หรือ ฮาร์ดแวร์ อาทิ การแชร์ Printer เป็นต้น Access Point Mode นี้จึงเป็นหัวใจหลักของ การสร้างระบบเครือข่าย ไร้สาย ที่ต้องการจะเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายเข้าด้วยกัน

2. Client Mode (AP Station / AP Client) ใน Mode นี้ AP จะทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกันกับ Wireless Card (หรือ Wireless Adapter อื่นๆ) คือทำหน้าที่เป็นตัวลูกข่าย และเชื่อมต่อผ่านทางสัญญาณไร้สายกับ AP เท่านั้น โดยจะไม่สามารถกระจายสัญญาณไร้สายไปยังอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ ได้อีก การใช้งานใน Mode นี้เหมาะสำหรับการอำนวยความสะดวกให้กับ Station ที่ไม่พร้อมสำหรับการใช้งานไร้สาย แต่พร้อมสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งในวง LAN เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักและพิมพ์ Label ในศูนย์การค้า (โดยเฉพาะในแผนกผักผลไม้) ที่ใช้ดึงข้อมูลจาก Database แล้วคำนวณออกมาเป็นค่าสินค้า โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์ดังกล่าวกับระบบฐานข้อมูลด้วยสายซึ่งเกะกะ หรือตั้งอยู่ในจุดที่ไม่สะดวกในการติดตั้งสาย หรือจะใช้ AP ใน Mode นี้สำหรับการเชื่อมต่อวงแลน 2 วงที่อยู่ห่างกัน เข้าด้วยกัน หรือจะใช้กับเครื่อง Macintosh ที่ไม่ต้องการซื้อ Wireless Card ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงมาใช้งาน โดยสามารถนำ AP มาใช้งานแทนได้

3. Repeater Mode ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าทำหน้าที่เป็น Repeater ก็คือการทำหน้าที่ รับสัญญาณไร้สายมาเพื่อ “กระจายต่อ” โดยระบบเครือข่ายสำหรับการเชื่อมต่อในลักษณะนี้ ต้องอยู่ในวงแลนเดียวกันเท่านั้น ไม่ใช่การสร้างหรือการเพิ่มวงแลนแต่อย่างใด และ AP ที่ทำหน้าที่เป็น Repeater จะต้องอยู่ในรัศมีของสัญญาณจาก Access Point การเชื่อมต่อใน Repeater Mode นั้น จะสามารถสร้าง Hop ได้ทั้งหมด 8 Hop (1 AP + 8 Repeater) โดยแต่ละ Hop ที่เกิดขึ้น จะทำให้สัญญาณเครือข่ายไร้สายช้าลงตามความหน่วงและตามสภาวะแวดล้อม และหากเกิด Network Down จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไล่ตรวจสอบ AP ทีละตัว ทำให้เกิดปัญหายุ่งยากในการดูแลระบบเครือข่ายไร้สาย นอกจากนี้ การใช้ Repeater จะทำให้การเชื่อมต่อกับเครื่องลูกข่ายทั้งหมดไปรวมอยู่ที่ Access Point ซึ่งต้อง Load งานหนัก และอาจจะพาลแฮงค์ไปทั้งระบบเลยก็ได้ การตั้งค่า AP ด้วย Repeater Mode จึงเหมาะสำหรับการแก้ไขระบบเครือข่ายที่ได้รับการออกแบบมาผิด เนื่องจากไม่ถูกสำรวจความต้องการใช้งานให้ดีก่อนที่จะสร้างระบบเครือข่าย หรือใช้สำหรับกระจายสัญญาณไปยังจุดอับสัญญาณจริงๆ เนื่องด้วยรูปแบบของสถานที่ใช้งาน เช่นตามซอกหลืบของอาคาร การใช้งาน Repeater Mode นั้นค่อนข้างจะเป็นการฝืนธรรมชาติของการใช้งานระบบเครือข่ายไร้สายแบบปกติชาวโลกใช้กัน จึงควรใช้สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่าจะใช้เป็นทางเลือกหลักในการวางระบบเครือข่ายไร้สายที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

4. Bridge Mode (WDA: Wireless Distribution Architecture / WDS: Wireless Distribution System) สำหรับใน Mode นี้ AP จะทำหน้าที่เหมือนเป็นสะพาน เชื่อมระหว่างวงแลนเข้าหากัน จะเรียกง่ายๆ ก็คือ Bridge Mode ทำให้วงแลน 2 วง ที่ต่างคนต่างทำงานกันเป็นปกติอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้ และต่างก็สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ของอีกวงแลนหนึ่งได้ (แตกต่างจาก Client Mode ตรงนี้ Client Mode จะไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ไร้สายเครื่องอื่นๆ ได้ แต่ใน Bridge Mode นี้ทำได้) การเชื่อมต่อในลักษณะ Bridge Mode ทำได้ทั้งแบบ Point to Point (PtP) คือเชื่อมระหว่างวงแลน 2 วงเข้าด้วยกัน และการเชื่อมต่อแบบ Point to Multi-Point (PtMP) นั่นก็คือสามารถเชื่อมต่อวงแลนมากกว่า 2 วงแต่สูงสุดไม่ควรจะเกิน 7 Bridge เนื่องจาก จะทำให้การเชื่อมต่อช้าลงเนื่องจากความหน่วง (เช่นเดียวกันกัน Repeater Mode) ไม่ใช่ AP ทุกตัวที่จะสามารถทำงานได้ครบทั้ง 4 Mode ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือก AP ตัวใด ควรสอบถามจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจก่อนว่า AP ที่คุณซื้อนั้นสามารถใช้งานใน Mode ที่คุณต้องการได้ เพื่อให้การจ่ายเงินของคุณเกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญ AP ในแต่ละ Mode ล้วนแล้วแต่มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันไป จะเลือกใช้ Mode ใด ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ และลักษณะของระบบเครือข่ายที่คุณต้องการ ดังนั้นก่อนที่จะสร้างระบบเครือข่าย สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาความต้องการให้ดี เพื่อที่จะได้ออกแบบระบบเครือข่ายที่รองรับการทำงานของคุณอย่างแท้จริง
บันทึกการเข้า
prom jantapho
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน413
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4845


ทำดีเท่าที่ทำได้


« ตอบ #16 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2009, 10:13:13 am »

เยี่ยมครับ สมาชิกจะได้ทำใช้ไม่ต้องลำบากมากนัก  wav!!   Lips Sealed  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า

สามารถติดต่อได้ที่ 0841987970
kpkp
Full Member
member
**

คะแนน25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 422


อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2009, 08:11:59 pm »

ขอบคุณครับ   กะว่าจะไปซื้อแอร์การ์ดมาใช้งาน  ในเมื่อมันไม่ดีก็คงไม่ซื้อแล้วละครับ  และถามอีกนิด  ถ้า AP เราเพิ่มกำลังส่งให้แรง ๆ  มันมีผลอะไรไหม  จะใช้งานได้หรือไม่   เห็นมีบางท่านบอกว่า เพิ่มกำลังส่ง ส่งได้ไกลแค่ไหน  ก็ไม่มีประโยบน์อะไร  ตราบใดตัวรับไวเลสส่งสัญญาณไปไม่ถึงตัวส่ง   (งงหรือเปล่าครับ   หมายความว่า  ทั้ง 2  คือภาครับ และส่ง  จะต้องส่งสัญญาณเชื่อมต่อกัน   ก์คือตัวรับจะต้องส่งสัญญาณไปให้ถึงตัวส่ง ) .......หลักการทำงานมันอย่างงี้หรือเปล่าครับ   Cheesy
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2009, 08:37:01 am »

ถูกต้องคับ แต่จะให้ส่งได้ไกลต้องเปลี่ยนเสาแบบสูงหรือยาวขึ้นมีขายทั่วไปคับและต้องวางตัวส่งให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงนิดๆโล่งๆไว้และห่างจากฝาผนังคับแล้วตัวส่งจะทำหน้าที่กระจายสัญญาณแบบเต็มกระบอกสูบคับ
บันทึกการเข้า
kpkp
Full Member
member
**

คะแนน25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 422


อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2009, 06:55:02 pm »

ขอบคุณ been  มากครับ ที่ตอบให้ทราบ ... ขอถามเพิ่มนิด  ตอนนี้ผมรับสัญญาณไวเลส (ไม่ทราบผู้ใดส่งมา) Speed : 5.5 Mbps  รับได้แค่ 1 ขีด ไม่เข้ารหัส  ถ้าผมต้องการเพิ่มในการรับ ผมต้องซื้อตัวอะไรมาขยายเพิ่มครับจึงจะรับสัญญาณได้มากกว่านี้ครับ  แล้วจะหาแหล่งที่ส่งมาได้อย่างไรครับ   Cheesy
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #20 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2009, 07:24:17 pm »

ตัวนี้ตอบยากมากคับ ที่ท่านใช้เป็น pc หรือ nb ผมว่าใช้แบบมีเสาต่อสายออกไปข้างนอกแบบผมใช้จะดีกว่าคับ สังเกตุตามประสบการของผม จุดที่ปล่อยน่าจะมี 1 สถานที่ราชการ 2 ร้านเน็ต 3 ห้องเช่า 4 โรงแรม ในรัสมีประมาณ 50 m. ได้คับ
บันทึกการเข้า
kpkp
Full Member
member
**

คะแนน25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 422


อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2009, 12:47:40 am »

 Cheesy  ผมใช้ NB ครับ  มันมีอีกเจ้าหนึ่งเป็นร้านซ่อมคอมฯ ส่งมา และเก็บเงินค่าสมาชิกเดือนละ 200 บาท  มักจะยิงสัญญาณกวนช่องที่ส่งฟรี ทุกครั้งเลย  สัญญาณของเขาแรงมากส่งได้เกือบ กม. ทำให้ช่องที่เขาส่งฟรีล้ม  เข้ารหัสหากจะใช้ของเขาต้องเอา NB ไปลงโปรแกรม MAX (ไม่รู้เป็นอย่างไร) จึงจะสามารถเล่นของเขาได้  ตอนนี้โหลดโปรแกรม Hack  Wireless มาตัวหนึ่ง สามารถดูรหัส และนามผู้ใช้ได้   สัญญาณ net น่าจะมาจากส่วนราชการที่อยู่ใกล้ ๆ ครับ  ยังไงเดียวจะลองทำตามของท่านดูซิว่าสัญญาณจะมาได้สักเท่าไหร่  ขอบคุณอีกครั้งครับท่าน been
บันทึกการเข้า
500
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28


« ตอบ #22 เมื่อ: ธันวาคม 31, 2009, 12:07:59 pm »

ตอนนี้โหลดโปรแกรม Hack  Wireless มาตัวหนึ่ง สามารถดูรหัส และนามผู้ใช้ได้


ระวัง หน่อย นะครับท่าน
เรื่องนี้ ผิด ...เออะไรซักอย่าง นะ เหมือนๆ กะ อายงอาญา อะไร นี่แหนะ
 แรงกว่า ส่ง fm กวน TV ชาวบ้าน เสียอีก 555
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #23 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2010, 11:37:58 pm »

ขอบคุณมากที่เตือนนะครับ แต่ว่านี่เป็นการทำตัวรับสัญญาณ ที่อยู่ใกลตัวส่งครับ 50-100 m ได้นะครับ แต่ใน พื้นที่โล่งนิดๆ
บันทึกการเข้า
kiano♥
kiano555@gmail.com
กลุ่มสนับสนุนLSV+มีน้ำใจ
member
****

คะแนน337
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 570


การให้น่าภูมิใจกว่าได้รับ Line ID : Tech64

kiano555@windowslive.com kiano555@yahoo.com
เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #24 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 07:30:56 am »

ยังไม่เห็นคำตอบเรื่องสายพ่วงต่อจาก USB ออกมายาวๆเลยครับ ว่าซื้อหรือทำเอง
ผมเคยต่อเองความยาวประมาณ 3 เมตรโดยใช้สายชิลด์ที่คิดว่าดีที่สุด แต่ใช้งานไม่ได้
เสียบ Wireless Card แล้วคอมมองไม่เห็นอุปกรณ์
พอจะไปซื้อที่เค้ามีขายก็เห็นแค่สายกับหัว USB ไม่เห็นมีวงจรอะไรช่วย เลยกล้วว่าจะใช้ไม่ได้
เมื่อก่อนเคยไปต่างประเทศเคยผ่านตา สายพ่วง USB ยาวประมาณ 5 เมตร มีแผงวงจรภายในด้วย
คิดว่าจะเป็นวงจรขยายหรืออะไรซักอย่าง
สายอย่างนั้นคิดว่าน่าจะใช้ได้ แต่ไม่ได้ซื้อมา ที่บ้านเราไ่ม่เห็นมีอย่างนั้นขายเลยครับ
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #25 เมื่อ: สิงหาคม 12, 2010, 05:07:52 pm »

ของผมตัวสีฟ้าจากรูปด้านบน ยาว 2.50 m. ครับ ไม่มีวงจรอะไร เอามา 2 เส้น ต่อกัน ได้ 5 m. ครับ บวกกับสายที่แถมมากับตัว usb แล้ว 6 m. ครับ ใช้ได้สบายเลยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ผมว่าต้องลองเสี่ยงดูครับ แต่ต้องลองสายที่มี หัวกลมๆ อีกข้างนะครับ แบบ สายสีฟ้าแบบรูปด้านบน ถ้าไม่มีอย่าไปซื้อให้เสียงินเลย ผมลองแล้ว ลองดูครับ
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #26 เมื่อ: สิงหาคม 13, 2010, 01:54:08 pm »

ไปซื้อมาเมื่วานนี้ 5 m. 90 บาทครับ
บันทึกการเข้า
sukit127
member
*

คะแนน-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 05:12:03 pm »

ผมใช้ที่คั่นกะทิแทนกะทะใช้ได้ดี และรับสัญาณเพิ่มขึ้น 60-80 ping!
บันทึกการเข้า
been
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


อีเมล์
« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2010, 10:22:02 pm »

เยี่ยมยอดเลยครับ ภูมิปัญญาครับ น่าจะมีภาพมาให้ดูด้วยนะครับ เพื่อเป็นแนวทางอีกแบบ ให้สมาชิกได้เห็นหลายๆแบบ เพื่อนำไปดัดแปลงต่อครับ Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!