ภารกิจที่สำคัญของการบำรุงรักษาส่งก๊าซฯ ให้เกิดความมั่นคง และความปลอดภัยของชุมชน นอกจากจะต้องทำการซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังต้องทำการตรวจสอบสภาพของท่อส่งก๊าซฯ อยู่อย่างสม่ำเสมอ หากเกิดการั่วไหลของก๊าซธรรมชาติแล้ว อาจก่อให้เกิดมหันตภัยร้ายแรงต่อชุมชนโดยรอบแนวท่อ
ปตท. ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของชุมชนเป็นอันดับแรก จึงกำหนดให้ต้องมีการตรวจตรวจสอบโดยทั่วไปของท่อส่งก๊าซฯ อยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยจะส่งพนักงานสำรวจพื้นที่แนวท่อส่งก๊าซฯ ทุกๆ สัปดาห์ เพื่อบันทึกสภาพและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากพบว่ามีกิจกรรมที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตราย จะดำเนินการป้องกันและแก้ไขอย่างทันท่วงที นอกจากนั้น พนักงานจะต้องทำการเดินเท้าสำรวจแนวท่อส่งก๊าซฯ โดยละเอียดตลอดแนวท่อ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่ภูเขาสูงก็ตาม โดยจะนำเอาเครื่องสำรวจก๊าซฯ รั่ว (Gas Detector) ติดตัวไปตลอดการสำรวจ เพื่อตรวจหาหารรั่วของก๊าซ และหากว่าบริเวณใดมีก๊าซฯ รั่วซึมออกมาจะได้เร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป
นอกจากการสำรวจแนวท่อส่งก๊าซฯ บนบกโดยใช้คนเดินเท้าและรถยนต์แล้ว ปตท. ยังใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เพื่อสำรวจแนวท่อทางอากาซอีกด้วย เพื่อที่จะให้เห็นสภาพความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่โดยรอบแนวท่อส่งก๊าซฯ ในมุมกว้าง โดยจะทำการสำรวจแนวท่อก๊าซฯ ทุกเส้นเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง การสำรวจด้วยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์นี้จะให้พนักงานที่มีความชำนาญในพื้นที่ ทำการเก็บข้อมูลสภาพโดยทั่วไป ถ่ายภาพ นอกจากนั้น เครื่องบินจะทำการติดตั้งเครื่องสำรวจก๊าซฯ รั่วทางอากาศ (Airbone Gas Detector) ไว้บริเวณใต้ท้องเครื่องบิน เพื่อใช้ตรวจจับก๊าซมีเทน (Methane) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของก๊าซธรรมชาติที่ปะปนอยู่ในบรรยากาศและบันทึกค่า ความเข้มข้นของก๊าซมีเทนนั้นพร้อมกับตำแหน่งเส้นทางการบินที่บันทึกได้จาก GPS หากพบว่าค่าความเข้มข้นของก๊าซมีเทนมากกว่าค่าที่กำหนดไว้ แสดงว่าอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติที่จุดที่พบนี้ ผู้สำรวจจะทำการบันทึกตำแหน่งของจุดที่พบแล้วจึงแจ้งให้ทีมภาคพื้นดินทำการ สำรวจโดยละเอียดอีกครั้งต่อไป
ครื่องบินที่ทาง ปตท. ใช้สำรวจแนวท่อเป็นประจำ ได้แก่ เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ Bell รุ่น Jet Ranger ซึ่งเช่าใช้จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีจำนวนที่นั่ง 6 ที่นั่ง เป็นนักบินและช่างเครื่อง 2 ที่นั่งและพนักงานผู้ทำการสำรวจ 4 ที่นั่ง ติดตั้งเครื่องสำรวจก๊าซฯ รั่วทางอากาศซึ่งเป็นแบบ Laser Gas Detector ซึ่งผลิตจากประเทศแคนนาดา
หลักการทำงานของเครื่องสำรวจก๊าซฯ รั่วทางอากาศ คือ เครื่องจะสร้างลำแสง Laser แล้ว ยิงไปสะท้อนกระจกเงากลับไปตกกระทบที่ Detector เมื่อมีกลุ่มก๊าซฯ ลอยมาตัดลำแสง Laser นี้ พลังงานแสงที่ Detector รับได้จะมีค่าลดลง เครื่องจะคำนวณพลังงานนั้นออกมาเป็นค่าความเข้มข้นของก๊าซมีเทนที่มีอยู่ในบรรยากาศแล้วบันทึกค่านั้นไว้ใน Data Logger ซึ่งจะทำการบันทึกตำแหน่งของการสำรวจจากเครื่อง GPS ไปพร้อมๆ กัน ค่าความละเอียด (Resolution) ของการวัดสามารถวัดค่าความเข้มข้นที่แตกต่างกันได้ถึง 1 ppm เลยทีเดียว
เครื่อง Airbone Gas Detector นี้เป็นเพียง 1 ในหลายๆ เครื่องมือที่ใช้ในการรักษาความมั่นคงของท่อส่งก๊าซฯ ทั้งนี้ก็เพื่อเป้าหมายสูงสุด คือ เกิดความปลอดภัยต่อชุมชนโดยรอบนั่นเอง
ขอขอบคุณวิชาการดอดคอม