เป็นที่ยอมรับกันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรของเกษตรกรไทยยังไม่มีการพัฒนาเท่าที่ควร เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ขาดแคลนเงินทุน และใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรกลได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ประกอบกับต้นทุนในการจ้างบริการเครื่องจักรกลการเกษตรค่อนข้างสูง และขาดแคลน
ฉะนั้นการปรับปรุงระบบบริหารจัด การการใช้เครื่องจักรกลตลอดจนอุปกรณ์เครื่องมือด้านการเกษตร ของเกษตรกร จึงเหมาะสมที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเครื่องจักรกลการเกษตรขั้นพื้นฐานที่ให้บริการสมาชิกและเกษตรกรโดยทั่วไป การจัดสรรเงินสงเคราะห์เกษตรกร จำนวน 1,000 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพื่อการส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลให้กับกลุ่มเกษตรกร นับเป็นแนวทางหนึ่งที่เหมาะสมต่อการส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรให้มีศักยภาพในงานด้านการผลิต
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพหลัก ดูแลและเร่งดำเนินการในส่วนต่าง ๆ ของโครงการนี้ซึ่งคาดว่างบประมาณในส่วนนี้จะสามารถช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ทำการเกษตรทั่วประเทศที่มีการรวมกลุ่ม สามารถนำเครื่องจักรไปใช้ในการพัฒนาอาชีพเกษตรมากขึ้น เนื่องจากการมีเครื่องจักรที่ทันสมัย นอกจากจะนำไปสู่การผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย
ล่าสุดกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณ นำร่องใน 76 จังหวัด รวมจำนวน 190 ล้านบาท ให้กับกลุ่มเกษตร เพื่อใช้ไปในการจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรให้ทันกับฤดูกาลเพาะปลูก ในขณะนี้ โดยคาดว่าเงินจำนวนดังกล่าว ทางกลุ่มเกษตรกรจะสามารถนำไปใช้ในการซื้อเครื่องจักรกล เพื่อพัฒนาศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่ เป็นอยู่
สำหรับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณที่ทางรัฐบาลอนุมัติให้มาครั้งนี้ ได้มีการมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเกษตรกรที่เป็นองค์กรเกษตรกร เนื่องจากการรวมกลุ่มกันดำเนินงานจะก่อให้เกิดเป็นสถาบันเกษตรกรที่มีความเข้มแข็ง ส่งผลดีต่อการพัฒนาศักยภาพการผลิต และมีอำนาจต่อรองในส่วนของการจำหน่ายสินค้าเกษตรในอนาคต ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น มีการพัฒนาร่วมกันที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้การส่งเสริมการให้บริการเครื่องจักรกลของกลุ่มเกษตร กร จะไม่เสียดอกเบี้ย มีกำหนดชำระคืนเงินกู้ภายใน 7 ปี ระยะปลอดการชำระหนี้ 2 ปีแรก และเงินจ่ายขาดตามที่จ่ายจริงไม่เกินร้อยละ 3 ของวงเงินกู้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการ
โดยนำร่องกลุ่มเกษตรกร จำนวน 76 กลุ่ม จัดหาเครื่องจักร กลการเกษตร กลุ่มละไม่เกิน 2.5 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 190 ล้านบาท เมื่อการดำเนินการในระยะแรกได้ผลเป็นที่น่าพอใจทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงจะขออนุมัติคณะกรรม การสงเคราะห์เกษตรกรเพื่อดำเนินการต่อไป พร้อมออกระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อดำเนินการในโครงการนี้ให้รัดกุมและเป็นประโยชน์แก่ทางราชการและเกษตรกรต่อไป
นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการให้การช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้มีอุปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือในการทำการเกษตรแบบประหยัดและ คุ้มค่า และเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตได้อย่างเต็ม เม็ดเต็มหน่วยมากยิ่งขึ้นอันจะยังมาซึ่งรายได้ของเกษตรกรที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
http://www.norsorpor.com/ข่าว/n1574848/นาข้าว%2076%20จังหวัดจะมีเครื่องจักรช่วยทำงาน