นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 27, 2024, 11:07:38 am *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: นำเที่ยวตลาดปากพนัง...เมืองแห่งของกินแสนอร่อย  (อ่าน 42783 ครั้ง)
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #29 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 01:24:20 pm »

รู้จักลุ่มน้ำปากพนัง

การแบ่งเขตพื้นที่น้ำจืดและน้ำกร่อย     
    เนื่องจากในพื้นที่มีปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม อาชีพทำนาข้าวและทำนากุ้งในเรื่องของการใช้น้ำและการระบายน้ำทิ้ง การทำนากุ้งจะต้องมีการถ่ายเทน้ำเสียจากบ่อกุ้งทิ้ง ซึ่งน้ำเสียดังกล่าวได้ทำความเสียหายและเดือดร้อนแก่ชาวนามาก เพราะทำให้ดินเค็ม ปลูกข้าวได้ผลผลิตต่ำ การแบ่งเขตระหว่างพื้นที่น้ำจืดและน้ำกร่อยอย่างชัดเจนจะเป็นการแก้ปัญหาดัง กล่าวได้อย่างดี ดังนั้นทางกรมชลประทาน กรมประมง กปร. และกองทัพภาคที่ 4 ได้ประชุมปรึกษาหารือและมีความเห็นร่วมกันว่า หากต้องการรักษาระบบนิเวศวิทยาของลำน้ำในเขตพื้นที่โครงการ ควรจะมีการแบ่งเขตการใช้ที่ดินระหว่างนากุ้งและนาข้าว โดยได้ตกลงให้มีการแบ่งเขตดังนี้

   1. ด้านทิศตะวันออกเลียบชายฝั่งทะเล กำหนดให้คลองหัวไทรตั้งแต่อำเภอหัวไทรไปทางทิศเหนือจนถึงบรรจบคลองเสือหึง เป็นเขตน้ำกร่อย แนวกั้นน้ำเค็มช่วงนี้ส่วนใหญ่จะลัดเลาะไปตามแนวถนนเดิมแนวแบ่งเขตที่ต่อไป ทางทิศเหนือจะวิ่งลัดเลาะไปตามแนวถนนท้องถิ่นไปจนถึงคลองท่าพญา แนวคันกั้นน้ำช่วงนี้จะมีบางช่วงที่ไม่ใช่แนวถนนเดิม จึงต้องมีการจัดหาที่ดินเพื่อการนี้ต่อจากคลองท่าพญาขึ้นไปทางเหนือ คันกั้นน้ำเค็มจะเลียบไปทางฝั่งตะวันออกของคลองท่าพญาตามแนวถนนเดิมทั้งหมด จนไปถึงประตูระบายน้ำปากพนัง สำหรับทางด้านใต้ของอำเภอหัวไทร แนวกั้นน้ำเค็มจะเริ่มจากถนนหลวง 4017 ตัดผ่านท้องนาแล้วมาบรรจบกับถนนเดิมเลียบคลองหัวไทรไปจนถึงปากระวะ
   2. ด้านทิศเหนือเลียบอำเภอปากพนัง ใช้ แนวถนนลูกรังเดิม เป็นแนวคันกั้นน้ำเค็ม โดยเริ่มจากประตูระบายน้ำปากพนังขึ้นไปทางเหนือจนถึงถนนหลวง 4013 แล้วลัดเลาะไปตามแนวถนนที่ขนานไปกับอ่าวปากพนังจนถึงบริเวณคลองบางจาก แล้วใช้แนวถนนริมคลองบางจากทั้งสองฝั่งเป็นแนวคันกั้นน้ำเค็มต่อจากคลองบาง จากไปทางทิศตะวันตกจะมีแนวถนนที่สามารถต่อไปจนถึงคลองปากนครหรือคลองหัวตรุด

     
การรุกตัวของน้ำเค็ม    
    อิทธิพลของน้ำขึ้นน้ำลงที่ปากแม่น้ำเป็นตัวแปรที่ สำคัญประการหนึ่งที่มีผลต่อการรุกล้ำของน้ำเค็ม ถ้าการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลที่ปากแม่น้ำมีความรุนแรงมาก ปริมาณน้ำเค็มก็จะถูกดันเข้าไปในแม่น้ำได้มาก การรุกล้ำของน้ำเค็มจะมีมาก และในทางกลับกันถ้าการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลที่ปากแม่น้ำมีความรุนแรงน้อย การรุกล้ำของน้ำเค็มจะมีน้อย ซึ่งจากผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาเมื่อปี พ.ศ.2537 ช่วงเดือนเมษายน พบว่าระดับการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลส่งผลไปถึงบริเวณอำเภอชะอวดที่อยู่ห่าง จากแม่น้ำปากพนังประมาณ 100 กิโลเมตร
    นอกจากนี้ ปัจจัยทางธรรมชาติและปัจจัยที่มนุษย์ก่อขึ้นเองอีกหลายประการมีผลต่อการ รุกล้ำของน้ำเค็ม ปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น ลักษณะทางกายภาพของลำน้ำ ความลึกตื้นของลำน้ำ ส่วนปัจจัยที่มนุษย์ก่อขึ้น เช่น การนำน้ำจืดจากต้นน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้ง ทำให้น้ำจืดที่ใช้ผลักดันน้ำเค็มมีน้อยลงและการระบายน้ำเค็มลงสู่ลำน้ำ เนื่องจากมีการเพาะเลี้ยงกุ้งตามแนวชายฝั่งแม่น้ำปากพนังมาก การเปลี่ยนถ่ายน้ำในนากุ้งลงสู่คลองต่างๆ ที่ต่อเชื่อมกับแม่น้ำปากพนังจะเป็นผลให้น้ำเค็มจากนากุ้งไหลลงสู่แม่น้ำปาก พนัง
 
สภาพน้ำท่วม    
    ลุ่มน้ำปากพนังประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ระดับความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ของลุ่มน้ำปากพนังจะมีความ แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสูงต่ำของพื้นที่ ระดับน้ำท่วม และระยะเวลาที่น้ำท่วม ซึ่งสาเหตุของการเกิดน้ำท่วมในบริเวณลุ่มน้ำปากพนัง สามารถสรุปได้ดังนี้

    * เกิดจากฝนตกลงมามาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลมาจากต้นน้ำของแม่น้ำปากพนังและลำน้ำสาขามีมาก จากรายงานของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย 2532 ได้สรุปสถิติข้อมูลฝนตกมากที่สุดในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง อันดับ 1 และ 2 ตั้งแต่ปี 2505 พบว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชมีปริมาณน้ำฝนสูงติดอันดับ 1 และ 2 ของภาคใต้ฝั่งตะวันออกถึง 13 ครั้ง ใน 27 ปี ดังนั้นพอสรุปได้ว่าอุทกภัยในลุ่มน้ำปากพนังซึ่งมีพื้นที่ไม่ห่างไกลจากตัว จังหวัดนครศรีธรรมราชมากนัก เกิดขึ้นบ่อยครั้งในอดีต
    * เกิดจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูง จนน้ำในแม่น้ำปากพนังระบายออกไปได้น้อยหรือมีประสิทธิภาพในการระบายต่ำลง
    * ลักษณะทางกายภาพของลุ่มน้ำปากพนัง สภาพพื้นที่มีความลาดชันน้อยประมาณ 22.36 เมตรต่อตารางกิโลเมตร ค่า drainage density = 0.64 กิโลเมตรต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งแสดงว่ามีการระบายน้ำเลวหรือระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ช้า
    * พื้นที่ราบลุ่มในลุ่มน้ำปากพนังมีขนาดกว้างใหญ่มาก เป็น แหล่งเก็บกักน้ำของพื้นที่น้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเมื่อปริมาณน้ำที่กักขังอยู่ ยังระบายออกไม่หมด และมีพายุลูกใหม่เข้ามาเสริมทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมมากยิ่งขึ้น
    * เกิดจากการพัฒนาระบบคมนาคมทั้งถนนและทางรถไฟ ทำ ให้กีดขวางการไหลออกของน้ำในที่ราบลุ่มที่ถูกน้ำท่วม อาทิเช่น ถนนสาย 4017 ระหว่างอำเภอปากพนัง-อำเภอหัวไทร ถนนสาย 4013 ระหว่างอำเภอเมิงและอำเภอปากพนัง และถนนสาย 4151 ระหว่างอำเภอเชียรใหญ่-อำเภอชะอวด นอกจากนี้ยังมีถนน รพช. ซึ่งเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ถนนเหล่านี้มีท่อลอดหรือทางระบายน้ำน้อยมาก


สภาพภูมิอากาศ
    เนื่องจากลุ่มน้ำปากพนังตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกภาคใต้ของ ประเทศไทย สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไปได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฤดูกาล 2 ฤดู คือ ฤดูฝนและฤดูร้อน โดยลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดผ่านช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ก่อให้เกิดปริมาณฝนในบริเวณพื้นที่ไม่มากนักเพราะมีภูเขาสูงด้านทิศตะวันตก วางแนวขวางทิศทางลม ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านบริเวณอ่าวไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม ก่อให้เกิดปริมาณฝนตกชุก
 
ลักษณะทางกายภาพและภูมิประเทศ    
    ลุ่มน้ำปากพนังมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยม สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยเทือกเขาสูงชันทางด้านตะวันตกของพื้นที่ลุ่มน้ำโดย ทอดตัวยาวตามแนวเหนือ-ใต้ เกือบขนานกับแนวชายฝั่งทะเล สภาพของพื้นที่จะลาดเอียงลงมาทางด้านตะวันออกของลุ่มน้ำจนถึงชายฝั่งทะเล โดยจุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่เทือกเขาหลวงสูง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังแบ่งออกได้ 4 ลักษณะ คือ บริเวณที่เป็นเทือกเขาบรรทัดทางด้านตะวันตกของพื้นที่ลุ่มน้ำ อันเป็นแหล่งต้นกำเนิดของแม่น้ำปากพนังซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของลุ่มน้ำ มีความลาดชันของพื้นที่โดยเฉลี่ยมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ถัดจากพื้นที่ภูเขามาทางด้านตะวันออก สภาพพื้นที่จะค่อยๆ ลาดลงมาเป็นที่ลาดเชิงเขามีลักษณะพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนชันถึงพื้นที่ค่อน ข้างเรียบ ถัดลงมาตอนกลางของพื้นที่ลุ่มน้ำจะปรากฏมีแนวสันทรายทะเลเก่าอยู่ 2 แนว ทอดตัวตามแนวเหนือใต้ และในระหว่างแนวของสันทรายทะเลเก่าทั้งสองนี้จะเป็นที่ราบลุ่มต่ำประกอบด้วย พื้นที่พรุและพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดเป็นส่วนใหญ่ ถัดจากสันทรายทะเลเก่าออกมาทางด้านตะวันออก เป็นพื้นที่ราบลาดเทลงสู่แม่น้ำปากพนังฝั่งตะวันตก เป็นแหล่งปลูกข้าวที่ใหญ่ที่สุดของลุ่มน้ำปากพนัง ส่วนพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำปากพนังกับสันทรายริมทะเลเป็นพื้นที่ราบลุ่ม แอ่งที่ลุ่มอยู่ค่อนไปทางสันทรายและมีแนวเกือบขนานกับสันทราย ด้านที่ชิดกับสันทรายเป็นแอ่งน้ำมีน้ำท่วมขัง
    สำหรับ แม่น้ำสายปากพนังมีต้นกำเนิดจากควนหินแท่นและควนหินแก้วทางด้านตะวันตกเฉียง ใต้ของพื้นที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาบรรทัด บริเวณที่เป็นรอยต่อระหว่างเขต 3 อำเภอ คือ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง และอำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ลำน้ำมีทิศทางการไหลจากทิศใต้ไปทางทิศเหนือ ผ่านอำเภอชะอวด อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอปากพนัง ลงสู่อ่าวปากพนังบริเวณบ้านปากน้ำ ความยาวของลำน้ำปากพนังจากต้นน้ำถึงจุดที่ไหลลงอ่าวปากพนังยาวประมาณ 150 กิโลเมตร โดยที่แม่น้ำปากพนังตอนต้นเรียกว่าห้วยน้ำใสและคลองไม้เสียบ ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอชะอวดและอำเภอเชียรใหญ่เรียกว่าคลองชะอวด ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอปากพนังเรียกว่าแม่น้ำปากพนัง ลำน้ำสาขาซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนของแม่น้ำปากพนังส่วนใหญ่จะไหลลงมาจากเทือก เขาบรรทัดซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตก ลำน้ำสาขาที่สำคัญ ได้แก่ คลองลาไม คลองถ้ำพระ คลองรากไม้ คลองฆ้อง คลองเชียรใหญ่ คลองบางไทร คลองเสาธง คลองชะเมา ฯลฯ ส่วนลำน้ำสาขาทางทิศตะวันออกของแม่น้ำปากพนัง ตั้งแต่ตอนใต้ของอำเภอเชียรใหญ่ลงไปเป็นลำน้ำที่ช่วยระบายน้ำจากแม่น้ำปาก พนังลงทะเล ได้แก่ คลองปากพนัง (คลองหัวไทร) คลองท่าพญา คลองบางพรุ คลองบางทราย คลองบางโด คลองบางไทรปก ฯลฯ
 
ที่ตั้งและอาณาเขต    
    ลุ่มน้ำปากพนังตั้งอยู่ในลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกส่วนที่ 4 ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสาขาของลุ่มน้ำหลักภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีพื้นที่รวมประมาณ 3,183.89 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,989,932 ไร่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างลองจิจูดที่ 7 องศง 45 ลิบดา - 8 องศา 30 ลิบดาเหนือ และละติจูดที่ 99 องศา 41 ลิบดา - 100 องศา 30 ลิบดาตะวันออก ครอบคลุมจังหวัดนครศรีธรรมราช 11 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่ทั้งหมดของอำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร อำเภอพระพรหม และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บางส่วนของอำเภอลานสกา อำเภอทุ่งสง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช บางส่วนของอำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง และอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
    อาณาเขตติดต่อกับพื้นที่ใกล้เคียง

        * ทิศเหนือ จรด อำเภอเมืองและอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
        * ทิศใต้ จรด อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา และอำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง
        * ทิศตะวันออก จรด อ่าวไทย
        * ทิศตะวันตก จรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง

http://pakpanang.wu.ac.th/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=3&Itemid=8&limitstart=5

----------------------------------------
อาหารกินกันแบบง่ายๆรวมญาติพี่ๆน้องๆ .. อร่อยหลายๆ กินไปอ่านข่าวไป  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า

prom jantapho
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน413
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4845


ทำดีเท่าที่ทำได้


« ตอบ #30 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 02:47:18 pm »

ปลาลายจุดที่พี่เล็กถามแถวบ้านผมเขาเรียก ปลาขี้ตังส์
บันทึกการเข้า

สามารถติดต่อได้ที่ 0841987970
Anan7107
วีไอพี
member
***

คะแนน16
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 234


อีเมล์
« ตอบ #31 เมื่อ: เมษายน 29, 2009, 08:44:49 pm »

อ้างถึง
ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ อยู่แถวไหนครับ เผื่อว่างๆได้เจอตัวเป็นๆกัน อิๆ 
อยู่บ้านเลขที่16 หมู่2 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตกครับ อาจารย์เล็กเรียนจบม.3จากโรงเรียนปากพนังเมื่อปี45  ตอนนี้เรียนอยู่ราชมงคล คลอง6   คณะ วิศวกรรมศาสตร์ เอกอิเล็กทรอนิกส์  อีกปีเดียวจะจบแล้วครับ 
บันทึกการเข้า
b.chaiyasith
แก้ปัญหาไม่ตกคุยกันเวลางานline:chiabmillion
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน650
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3008


ไม้ดีไม่ลอยน้ำมาไกล


อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2009, 07:21:12 pm »

 Smiley Cheesy-ขอบคุณที่พาเที่ยวและทานอาหารอร่อยๆรายละเอียดแน่นเพียบเลย คงได้มา
 จริงๆอีกไม่นาน ถ้าไม่ได้มา Sad
บันทึกการเข้า

"CHIAB"
มนุษย์เราแต่ละคน  ต่างไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไม่มีใครรู้จักกันมาก่อนเลย  แล้ววันหนึ่งก็มาพบหน้ากัน  สมมุติเป็นพ่อ  เป็นแม่  เป็นเมีย  เป็นสามี  เป็นลูก  อยู่ร่วมกัน  ใช้ชีวิตร่วมกัน และแล้ววันหนึ่ง  ก็แยกย้ายด้วยการ  "ตายจาก"  กันไปสู่  ณ  ที่ซึ่งไม่มีใครได้ตามพบ  คืนสู่ความเป็นผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน  ไปไหน  และคืนสู่ความเป็น  "คนแปลกหน้า"  ซึ่งกันและกันอนันกาลอีกครั้งหนึ่ง...และอีกครั้งหนึ่ง!?
ขอขอบคุณ คุณเปลว สีเงิน ที่ให้ข้อคิดดีๆ
pronprasert
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


อีเมล์
« ตอบ #33 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2009, 02:56:56 pm »

คนบ้านเดียวอิอิอิ 
บันทึกการเข้า
ช่างเล็กๆ(เล็กซาวด์)
Administrator
member
*

คะแนน603
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 642


..สนับสนุนสิ่งที่ถูกต้อง..


« ตอบ #34 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2009, 03:20:06 pm »

อ้างถึง
คนบ้านเดียวอิอิอิ 

..ยินดีรู้จักครับ ตอนนี้อยู่ที่ไหนเอ่ย  Smiley HAPPY2!!
บันทึกการเข้า

..ช่างไม่ช่วยกัน แล้วใครจะมาช่วยเรา ...
zener12v
member
*

คะแนน8
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 263



« ตอบ #35 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2009, 03:37:19 pm »

อยากไปบ้งครับ.
บันทึกการเข้า
Mr.T.♥
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน68
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 418



« ตอบ #36 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2009, 08:55:06 am »

ชอบจังครับ น่าดูมาก แต่ยังสัยสัย ไมนกทำรังในตึก แปลกดีนะครับ
บันทึกการเข้า

ทำดีได้ด้วยใจเรา..ใช่ใครเยินยอ..ใครมองว่าบ้าบอ..เชิดชูคอไว้ดังหงส์..พอใจในสิ่งที่ตัวเองพอใจ...
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #37 เมื่อ: สิงหาคม 20, 2009, 10:21:08 am »

..ตึกให้นกนางแอ่นอยู่ ผมไปถ่ายภายในตึกมาแล้ว แต่เจ้าของตึกขอร้องอย่านำลงเนท เพราะมีเทคนิคทุกรูปแบบให้นกนางแอ่นมาอยู่ครับ  เช่นฉีดน้ำฝอย ...ทำเสียงนกร้อง(แผ่นซีดีต้องสั่งจากมาเลเซียแผ่นละหมื่นกว่า..แผ่นละร้อยกว่าเรียกนกไม่ค่อยได้ผล) ...และเทคนิคอื่นๆมากมาย ผมไม่สามารถนำมาถ่ายทอดลงในนี้ได้ เพราะรับปากกับเจ้าของตึกไว้แล้วครับ 

  ..ตึกที่ผมไปถ่ายทำ(ปกติจะไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าเด็ดขาด).. ตึกนึ้เป็นตึกใหญ่ราคาก่อสร้างตกตึกละเกือบ100ล.(คงแพงเพราะเป็นตึกครอบตึก)...เจ้าของตึกสนิทกับคุณแม่ผม .... รายได้แต่ละตึกไม่มากเท่าไรครับ เก็บรังนกอย่างเดียวเดือนละ 1-2ล้านเป็นของธรรมดาๆ(ประมาณ80รัง/1ก.ก. ตกก.ก.ละ8หมื่นถึงแสนบาทแล้วแต่ราคาขึ้นลง)   HAPPY2!!

..ท่านใดพอมีเงินเหลือใช้ซัก10-20ล.ก็น่ามาลงทุนนะครับ ..ส่วนที่ดินติดต่อผมได้ครับ ในตัวอ.เมือง ผมพอมีว่างๆอยู่3ไร่ครับ ..แต่ผมไม่มีปัญญาหาเงินมาสร้างตึก ..เสียดายจังงง  ... 

..แต่หลายตึกก็ลงทุนไม่สูงมากเพียง10-30ล.ทำตึกให้เย็นสบายๆคล้ายถ้ำมากที่สุด นกก็มาอยู่ครับ ..อีกทั้งความสูงก็สำคัญ ไม่ควรต่ำกว่า4ชั้น ... ตึกสูงๆในอ.ปากพนัง ตอนนี้กลายเป็นคอนโดนกแทบทั้งหมด ...ส่วนคน กลับมาอยู่บ้านชั้นเดียวครับ...ผมเองก็อยู่กระต๊อบชั้นเดียวเช่นกัน อิๆ  Shocked
บันทึกการเข้า
Mr.T.♥
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน68
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 418



« ตอบ #38 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2009, 07:34:40 pm »

โหนั่นคอนโดนกเหรอครับ แพงซะยิ่งกว่าคนอยู่อีก โหเงิน10-20ล้านมาลงทุนนี่ต้อง คนมีฐานะอย่างมากเลยนะครับถึงจะทำแบบนี้ได้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีมากเลยครับ ดูตึกนก เหอๆ ฝรั่งจะคิดได้แบบคนไทยมะเนี่ย สุดยอดดดดด.... wav!!
บันทึกการเข้า

ทำดีได้ด้วยใจเรา..ใช่ใครเยินยอ..ใครมองว่าบ้าบอ..เชิดชูคอไว้ดังหงส์..พอใจในสิ่งที่ตัวเองพอใจ...
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #39 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2009, 08:00:53 pm »

..เท่าที่สัมผัส เมืองปากพนังเป็นเมืองของคนที่รวยก็รวยมาก..และคนจนก็จนมากครับ เพราะคนจนส่วนใหญ่ต้องพึ่งพากับงานเกษตรเท่านั้น ..ส่วนมากมักนิยมทำงานราชการกันมากกว่า...

.. สมัย10ปีก่อนรวยกับการทำนากุ้ง สมัยนี้หมดตัวกับนากุ้งกันก็เยอะ เพราะนากุ้งที่ปากพนังเขาทำกันแบบจริงจัง แต่ละบ่อกุ้งขนาด4-5ไร่ยังถือว่าเป็นบ่อไม่ใหญ่มาก ล่าสุดเดือนนี้เพื่อนน้องชายผมน๊อคได้บ่อแรกล.กว่าบาท บ่อที่เหลืออีก2บ่อเป็นกำไรไปเลย(แต่ละบ่อใช้ทุนเลี้ยงต่อครั้งประมาณ7แสนบาท ค่าไฟฟ้าต่อเดือนมากกว่า2หมื่นบาท ใช้ตีน้ำบ่อกุ้งด้วยมอเตอร์ขนาด3-5แรงม้านับสิบตัวครับ ) ..
  ผมก็อยากทำเหมือนกัน ตอนนี้ดูๆไปก่อน เพราะทุนรอนมีจำกัดครับ พลาดไม่ได้  Sad HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
pimchanokabc
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


คนนครศรีธรรมราช


« ตอบ #40 เมื่อ: กันยายน 03, 2009, 09:56:25 pm »

เพิ่งทราบว่าพี่ช่างเล็กเป็นคนปากพนังผมเข้าเว๊ปนี้เมื่อหลายปีที่แล้ว(ประมาณ 7-8 ปี)ช่วงนั้นยังไม่มีเมล์เป็นของตนเองเลยต่อมาก็สมัครเข้าเว๊ปนี้หลายครั้งก็ไม่ได้เพิ่งประสบผลสำเร็จเมื่อปลายปีที่แล้ว ก่อนนั้นก็ไปอยู่ ตรงอื่น ได้เข้ามาอ่านช่วงหลังนี้มีความหลากหลายดี พบกระทู้และหัวข้อเกี่ยวกับปากพนังก็เข้ามาดู เห็นหัวข้อเกี่ยวกับการเกษตรและเศรษฐกิจพอเพียง ก็ดีใจเลยเข้ามาทักทาย ผมอยู่อำเภอเชียรใหญ่ พ่อแม่ผมก็อยู่เชียรใหญ่ก่อนถึงเส้นทางตัววายเส้นหนึ่งเข้าอำเภอเชียรใหญ่ อีกเส้นฝ่านอำเภอเชียรใหญ่ทางเส้นนอกไปบ่อล้อ  ก่อนถึงทางด้านซ้ายมือ จะมีป้าย เขียนว่าศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ จะมีรูปสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และรูปพ่อและแม่เฝ้ารับเสด็จอยู่ ถ้าฝ่านมาทางนี้ก็ด้วยความยินดีนะครับร้านผมอยู่ในตลาดเชียรใหญ่ข้างคิวรถตู้  เบอร์โทรและชื่อร้านตามลายเซ็นนะครับ
ลิ้งกิจกรรมที่บ้านที่พ่อแม่เป็นผู้ดำเนินการเห็นว่าเหมือนกิจกรรมที่พี่เสนออยู่ ครับ http://www.fisheries.go.th/fpo-nakhon/king/25501019_patep_ubon/25501019_pratep_ubon_1.html
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #41 เมื่อ: กันยายน 06, 2009, 08:03:48 pm »

ด้วยความยินดีครับคุณ ..pimchanokabc ..ประมาณ2เดือนก่อน ผมได้ผ่านสามแยกตัวY ไปฟาร์มแพะเจ๊ย้ง คงจะอยู่ใกล้ๆกันนะครับ
.หากผ่านไปอีกครั้งจะแวะไปเยี่ยมชมกิจการนะครับ ..มีลูกปลาขายไหมครับ  HAPPY2!! Smiley
บันทึกการเข้า
pimchanokabc
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19


คนนครศรีธรรมราช


« ตอบ #42 เมื่อ: กันยายน 07, 2009, 11:26:06 am »

พันธ์ปลามีเฉพาะพันธุ์ปลานิลจิตลดา 3 เพาะแบบธรรมชาติ ครับ ไม่พอต่อความต้องการของตลาดครับ ผลิตไม่ทัน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นขาประจำบริเวณอำเภอไกล้เคียง บ้านป้าย้งผมเคยไปครับไปเอาพันธุ์ปลาดุกมาเลี้ยงครับ   อยู่เลยบ้านผมไปประมาณ 9-10 กิโลเมตร ครับ  Cheesy
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #43 เมื่อ: กันยายน 27, 2009, 08:19:14 am »

..พูดถึงปลากระเบน สามารถนำมาแปรรูปได้อีกเยอะครับ ..ปลากระเบนย่างจิ้มน้ำปลา ..อร่อยเช่นกันครับ เดี๋ยวนี้ราคาไม่ถูกแล้วครับ ตกกิโลละ180.-ทีเดียว ..จำได้สมัยเด็กๆเพื่อนๆคุณพ่อที่อยู่ติดทะเลเอามาให้ที่บ้านบ่อยๆจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรกินกัน เพราะสมัย40ปีก่อน ปลากระเบนไม่มีราคา ...หนังสามารถมาทำเป็นกระดาษทรายขัดไม้แทนตะไบหรือบุ้งได้ ส่วนหางปลากระเบนพวกเราเด็กๆเอามาเล่นแทนแซ่ โดนใครเข้าเป็นเลือดออกซิบๆ  HAPPY2!!

 ..ถั่วฝักยาวที่เป็นผักเครื่องเคียงข้างจาน แฟนผมปลูกเองครับ ไม่ฉีดยา ไม่ใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ใช้แต่ปุ๋ยตราขี้น้องกระต่าย ปลูกไว้ไม่ถึงสิบต้น เดือนกว่าๆก็เป็นฝักแล้ว  กินกันแทบไม่ทัน ต้องแจกเพื่อนบ้านครับ  HAPPY2!!

.. ถั่วฝักยาวปลูกที่ปากพนังแปลกดีที่ไม่มีเพลี้ยมากินเลย ต่างกับแม่โจ้..จ.เชียงใหม่ปลูกทีไรเพลี้ยสีแดงมาเกาะเต็มฝักทุกที..  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #44 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2009, 06:41:54 pm »

หอยแมงภู่สดๆ... ราคาถูกมากครับ 10 บาท กินกัน4คนอิ่ม... อร่อยอีกต่างหาก  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #45 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2009, 06:44:56 pm »

ช่างที่ดีต้องขี้สงสัย ..  Shocked

  ..หอยสีแดงกับสีซีดหมายถึงอะไร..ตัวผู้ตัวเมีย?... หอยกำลังท้อง? ... ใครบอกได้บ้าง  Sad  HAPPY2!!
บันทึกการเข้า
ช่างเล็ก(LSV)
Administrator
member
*

คะแนน1346
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18843


คิดดี ทำดี ชีวิตมีแต่สุข


อีเมล์
« ตอบ #46 เมื่อ: ตุลาคม 16, 2009, 10:02:25 am »

...เมื่อวานเดินในตลาดเช้า เจอปูตัวโตเท่าฝ่ามือ(เด็ก) กิโลละ30บาท ...ทำไมถูกจัง ซื้อมา2กิโล ทำน้ำจิ้มรสเด็ด ..อิ่มแปร้ครับ  HAPPY2!!
   
    ปูม้า? ..ไม่แน่ใจครับ ท่านใดรู้จักปูชนิดนี้บ้างครับ  Sad Cheesy
บันทึกการเข้า
supoj007
member
*

คะแนน286
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1555



อีเมล์
« ตอบ #47 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2009, 04:19:54 pm »

ปูม้า ตำส้มตำ จานละ 50 บาท ในจาน หากตำส้มตำ ขายได้ หลายร้อยครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!