กรรมฐานระลึกชาติได้ ระลึกบุญคุณคนได้ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมฐานระลึกชาติได้ ระลึกบุญคุณคนได้ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)  (อ่าน 2241 ครั้ง)
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 12, 2009, 09:53:23 pm »

กรรมฐานระลึกชาติได้ ระลึกบุญคุณคนได้ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)

--------------------------------------------------------------------------------

 

อาตมาไม่สอนใครไปสู่สวรรค์นิพพาน
แต่สอนกรรมฐานให้ระลึกชาติได้ ระลึกบุญคุณคนได้
นึกถึงพ่อแม่ นึกถึงตัวเองและสงสารตัวเอง
จะได้ทำแต่สิ่งดีๆ แค่นี้พอก่อน
บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต
สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่
ไม่งั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังเลยดำน้ำไม่โผล่

หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่เหลือจะนับจะประมาณนั้น
คือ หนี้พระคุณของบิดามารดา
คำพังเพยเปรียบเทียบสั่งสอนมาสองพันกว่าปีแล้ว
ว่าจะเอาท้องฟ้าหรือแผ่นดินมาเป็นกระดาษ
เอาเขาพระสุเมรุมาศมาเป็นปากกา
จะเอาน้ำมหาสมุทรมาเป็นน้ำหมึก
ก็ไม่สามารถจะจารึกพระคุณของบิดามารดาไว้ได้
เพราะน้ำในมหาสมุทรจะเหือดแห้งหมด
ก่อนที่จะจารึกพระคุณบิดามารดาได้จบสิ้น

คนอื่นที่เป็นเพื่อนที่รักหรือยอดหัวใจ ก็ยังมีโทษแก่ตัวเรา
รักเราไม่จริงเหมือนบิดามารดา
เขาพึ่งเราได้จึงมารักเรา

นี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย
ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึกรามบ้านช่องมาเป็นของเราอีกหรือ
ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ ช่วยตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้แล้ว
เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ ไปทวงหนี้พ่อแม่
พ่อแม่ให้แล้ว เรียนสำเร็จแล้วยังช่วยตัวเองไม่ได้
มีหนี้ติดค้างรับรองทำมาหากินไม่ขึ้น

คนไม่ทำกิจวัตร ไม่ปฏิบัติหน้าที่ ไม่รับผิดชอบ
แปลว่า คนนั้นเกลียดตัวเอง
กินเหล้าเมาสุรา เล่นการพนัน เที่ยวสรวลเสเฮฮา กินโต้รุ่ง
พ่อแม่ก็เสียใจ ยังไปว่าพ่อแม่ ไปทวงหนี้
เอาทรัพย์สมบัติพ่อแม่มาฉุยแฉกแตกราน
นี่คือ ลูกสะสมหนี้ ไม่ยอมใช้หนี้

เดี๋ยวนี้ตัวเราไม่สงสารแล้ว กินเหล้าเข้าไป
ทรัพย์สมบัติพ่อแม่ให้มา ก็ขายแจกจ่ายให้หมด ไม่มีเหลือเลย
ตัวเองก็จะขายตัวกิน ขายตัวเอง เขาก็ไม่เอาอีก เพราะขี้เกียจเช่นนี้


ขอฝากท่านเป็นข้อคิด
พ่อแม่นั้นมีบุญคุณต่อเรามากในมาตาปิตุคุณสูตร
พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่า
ลูกจะให้แม่นั่งบนบ่าขวา ให้พ่อนั่งบนบ่าซ้าย
ถ่ายอุจจาระปัสสาวะลงไปบนบ่าลูก
ลูกเป็นผู้เช็ดให้ หาอาหารมาป้อนให้
กระทั่งจนท่านตายหรือกระทั่งลูกตายไป
ก็ไม่สามารถจะตอบแทนพระคุณค่าป้อนข้าวป้อนน้ำนม
ที่ท่านได้ถนอมกล่อมเกลี้ยงบำรุงเลี้ยงมาอย่างดีได้

ทำอย่างไรให้ได้ชื่อว่า ได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างเลิศที่สุด
สรุปคือ ถ้าพ่อแม่เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว
ลูกสามารถชักจูงพ่อแม่ให้กลับเป็นสัมมาทิฎฐิได้นั้น
ถือว่าได้ทดแทนคุณอย่างเลิศ
เช่น พ่อแม่มีความเห็นผิด เป็นต้นว่าไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ
แล้วลูกสามารถชักจูงชี้แจงให้ท่านมีความเห็นที่ถูกต้อง
เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว บุญบาปมีจริง
ถ้าทำอย่างนี้ได้ถือว่า ทดแทนบุญคุณอย่างเลิศที่สุด

วิธีใช้หนี้พ่อแม่ไม่ยากเลยลูกทั้งหลายเอ๋ย
จงสร้างความดีให้กับตัวเองและก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง นี่เป็นเรื่องสำคัญ
ตัวเราพ่อให้หัวใจแม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองแล้วอยู่ในตัวเรา
จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหนอีกเล่า

บางคนรังเกียจ พ่อแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม
พอตัวเองแก่ ก็เลยถูกหลานรังเกียจ
จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก
ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน
และถ้าจะทำบุญด้วยการมาเจริญกรรมฐานแล้วอุทิศส่วนกุศลไป
การทำเช่นนี้ ถือว่าได้บุญมากที่สุดทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ

ถ้าไม่มีพ่อแม่ เราทุกคนก็ไม่ได้เกิด อันนี้เป็นความจริงที่ไม่ต้องพิสูจน์
ผู้ใดก็ตามที่คุณแม่ยังมีชีวิตก็ให้กลับไปหาแม่
ไปกราบเท้าขอศีลขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข
ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน
ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรมล้างเท้าให้ท่านด้วย
เป็นการขอขมาลาโทษ

โอ้ผู้ใดใครเล่าจะเท่าแม่
พระคุณแม่เหนือใครไปทุกสิ่ง
ลูกนึกเทียบเปรียบสิ่งใดไม่ได้จริง
ช่างใหญ่ยิ่งยากแสนจะแทนคุณ


http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13852  THANK!!
__________________


บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: