หลายคนตอบว่า เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม หรือชดใช้กรรมเก่า
นั่นเป็นคำตอบที่ถูกต้องเพียงส่วนเดียว และไม่สู้จะเป็นประโยชน์แก่ชีวิต
ตอบเหมือนคนที่ยอมแพ้ยอมจำนนต่อผลของกรรม
ถ้าจะตอบให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิต ควรตอบว่า
เกิดมาเพื่อพัฒนาตนให้เกิดประโยนช์สูงสุด ทั้งประโยชน์ในชาตินี้
ชาติหน้า ตลอจจนชาติอย่างยิ่ง และต้องเกิดมาเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย
ดังนี้จะด้ชื่อว่า เกิดมาเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน
ชีวิตคือ การเดินทาง ชีวิตที่ยังไม่สิ้นกิเลสตัณหาอุปาทาน เมื่อสิ้นชีวิตจิตยังต้องปฏิสนธิ
คือต้องเกิดอีกตามผลของกรรม ชีวิตที่เกิดมาจึงไม่เหมือนกัน เพราะจำแนกสัตว์ให้เลวและปราณีตต่างกัน
การปฏิสนธิของชีวิต ก็คือการเดินทางของจิต ที่จะต้องเดินทางอีกภพหนึ่งไปยังอีกภพหนึ่ง
ที่เราพูดกันว่าชาติก่อน ชาตินี้ ชาติหน้า นั่นเอง
เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ถ้าสิ้นชีวิตไปแล้วไปเกิดในทุคติภูมิ คือภพภูมิที่ต่ำกว่า เช่น อบายภูมิ 4ได้แก่
สัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ได้ชื่อว่า "มาสว่างไปมืด" ถ้าไปเกิดในสุคติภูมิ คือ
ภพภูมิที่สูงกว่า เช่นเทวภูมิ รูปพรหมภูมิ อรูปพรหมภูมิ ได้ชื่อว่า "มาสว่างไปสว่าง "
จึงมีคำถามย้อนกลับมาถามที่ตัวเราว่า จะเลือกเดินไปทางใด?