“ลดอ้วน-กินปลาร้า” เสี่ยงโรค “เบอริ-เบอรี่”

ขาดวิตามินบี 1 ตาย! “ลดอ้วน-กินปลาร้า” เสี่ยงโรค “เบอริ-เบอรี่”

แม้ระยะนี้โรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากยุงเป็นพาหะอย่าง “ไข้เลือดออก-ไข้มาลาเรีย” จะน่ากลัวเป็นอันดับต้น ๆ แต่ “โรคชื่อแปลก” คล้ายชื่อศิลปินเพลงวัยรุ่นหญิงแนวเซ็กซี่ ที่เป็นข่าวจากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อหลายวันก่อน...แล้วก็เงียบไป ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่คนไทยไม่ควรจะประมาท เพราะล่าสุดพบลูกเรือประมงทั้งไทย-พม่าที่ร่างกายก็ดูแข็งแรง...ป่วยเพราะโรคชื่อแปลกนี้ 10 กว่าราย ตายไป 2 !!

“เบอริ เบอรี่” โรคที่เกิดจากร่างกาย “ขาดวิตามินบี 1”

เป็นอีกหนึ่งโรคอันตรายที่ซุ่มเงียบคอยคร่าชีวิตผู้คน !?!

บวมทั้งตัว แน่นหน้าอก เหนื่อยหอบ หัวใจโต และเสียชีวิต คืออาการของโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามินบี 1 ซึ่งแม้โดยปกติร่างกายจะต้องการวิตามินบี 1 เพียงแค่วันละ 1 มิลลิกรัม...ก็ต้องระวัง !!

พ.ญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร หน่วยโภชนาวิทยาและชีววิทยาเคมีทางการแพทย์ ภาคอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรค “เบอริ เบอรี่” ว่า...จะแบ่งอาการได้ 2 กลุ่มโรคคือ... 1.กลุ่มโรคที่เด่นทางโรคระบบทางเดินประสาท อาทิ การชาตามเท้า และ 2.กลุ่มโรคที่เด่นตรงหัวใจ และหลอดเลือด น้ำท่วมปอด หัวใจวาย บวม ความดันโลหิตสูง ซึ่ง “โรคนี้ไม่ใช่โรคของคนแก่...ใครก็เป็นได้ !!”

“คนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่ขาดวิตามินบี 1 ซึ่ง วิตามินบี 1 จะมีมากในจมูกข้าวสาลี รำข้าว เนื้อหมู ข้าวมันปู ถั่ว งา โดยเฉพาะจมูกข้าวสาลีอบ 100 กรัม จะมีวิตามินบี 1 อยู่กว่า 3 มิลลิกรัม ขณะที่ความต้องการของร่างกายคนเราต้องการเพียงแค่วันละ 1 มิลลิกรัมเท่านั้น”

คุณหมอดรุณีวัลย์ระบุอีกว่า... กรณีคนไข้ที่เคยพบนั้นก็เช่นคนที่ทำงานในเรือประมงที่ออกทะเลนาน ๆ อาการที่เกิดขึ้นก็คือ ปวดขา ไม่มีแรง ขาบวม และค่อย ๆ เหนื่อยง่ายขึ้น และเมื่อเอกซเรย์ปอดก็พบว่าน้ำท่วมปอด หัวใจโต ความดันสูงนิดหน่อย หากได้รับการฉีดวิตามินบี 1 เข้าไปทัน อาการต่าง ๆ ก็จะดีขึ้น

บางกรณี-บางคน เพราะผ่าตัดลำไส้หลายครั้ง หมอให้น้ำเกลือ แล้วไม่ได้ให้วิตามินบีอย่างเพียงพอ บวกกับคนไข้ทานอะไรไม่ได้ นานเข้าอาการก็ออก ก็ต้องค่อย ๆ รักษาไป ไม่ใช่จะหายขาดอย่างรวดเร็ว

สำหรับที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็เจอผู้ป่วยโรคนี้พอสมควร มีมาเรื่อย ๆ ซึ่งเราต้องคิดถึงก่อนว่าจะมีโรคนี้ได้ด้วย “ถ้าไม่ได้คิดถึงโรคนี้เลย มันก็อาจจะช้าไปได้ และมีโอกาสเสียชีวิต !!”

“กลุ่มโรคนี้มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในเด็กด้วย แม้แต่ในเด็กทารก ซึ่งบางรายยังไม่ถึงขั้นเป็นโรค แต่ว่าขาดวิตามินบี 1 เพราะคุณแม่ทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 น้อย ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่ดี !!”

ทั้งนี้ คุณหมอคนเดิมบอกว่า...ที่ผ่านมาการเสียชีวิตจากโรค “เบอริ เบอรี่” ของคนไทย...ไม่ค่อยเป็นข่าว อาจเพราะมีเพียงกลุ่มเสี่ยงบางกลุ่มเท่านั้นที่จะเจอกับโรคนี้ เช่น หญิงมีครรภ์ แม่ที่ให้น้ำนมบุตร คนที่ดื่มเหล้า-ดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ ซึ่งจะทำให้มีการสลายวิตามินบีเยอะ และลดการดูดซึมวิตามินบี หรือ กลุ่มที่มีปัญหาเรื่องลำไส้ เช่น พวกลำไส้สั้น แต่ว่าไปกลุ่มดังกล่าวนี้จะไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไหร่

“กลุ่มที่มีปัญหามากที่สุดคือกลุ่มคนที่ไม่ได้กินอาหารที่มีวิตามินบี แต่คิดว่าตนเองปกติ” เช่น ชาวประมง พอขาดวิตามินตัวนี้เป็นระยะเวลานานมาก ๆ ร่างกายจึงจะแสดงอาการป่วยออกมา

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยโภชนาวิทยาฯ โรงพยาบาลรามาฯ ให้ความรู้ต่อไปอีกว่า... เคยมีรายงานว่าประเทศแถวตะวันออกกลางมีเด็กทารกที่เสียชีวิตจากโรค “เบอริ เบอรี่” เพราะวิตามินบี 1 ในน้ำนมที่เด็กรับประทานมันหมดอายุไปแล้ว ซึ่งหากโรคนี้เกิดขึ้นกับเด็กแล้วรีบรักษา จะหายเร็วกว่าผู้ใหญ่

“แม้แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐ ก็มีคนไข้กรณีนี้เช่นกัน เป็นคนไข้ที่มีสาเหตุมาจากการลดน้ำหนัก โดยอดอาหารค่อนข้างมาก กินแค่บางอย่างที่ไม่มีวิตามินบี 1 มากพอ”

ในทางโภชนาการ คุณสมบัติอีกอย่างของ “วิตามินบี 1” คือการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล ซึ่งกลุ่มคนทำงานที่ต้องออกแรงมาก ๆ และรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเยอะ ก็ต้องการวิตามินบี 1 มากขึ้นไปด้วย หากรับประทานแต่ข้าวสวย ซึ่งวิตามินบี 1 ถูกขัดและละลายไปกับน้ำหมดไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์

ทางที่ดีควรรับประทานวิตามินบีรวมเสริมด้วย...จะช่วยได้

นอกจาก “คนที่ทำงานหนัก” แล้วได้รับสารอาหารอย่างวิตามินบี 1 ไม่เพียงพอ คนที่เลือกรับประทานอาหารเพื่อ “ลดความอ้วน” อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว คุณหมอยังบอกด้วยว่า...

การ “เปิบปลาร้า” ก็อาจเกี่ยวกับโรค “เบอริ เบอรี่”
เพราะมีผลไปลดการดูดซึม-ทำลายวิตามินบี 1 ได้ !!

“ก่อนหน้านี้มีการเสียชีวิตด้วยโรคนี้มาก่อน แต่ไม่ค่อยเป็นข่าว แต่ล่าสุดมีการรายงานข่าวขึ้นมา เพราะมีการเสียชีวิตเป็นกลุ่มก้อน คล้ายโรคระบาด ซึ่งมองในมุมกลับก็เป็นเรื่องดี เพราะจะได้ทราบกันว่ามีโรคนี้อยู่ด้วย ทำให้ระวังในเรื่องอาหารการกิน เรื่องของโภชนาการมากขึ้น” ...คุณหมอดรุณีวัลย์ กล่าว

ก็เพราะลักษณะการกินอยู่ของคนยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก
วันนี้จึงต้องคำนึงถึงแม้แต่สารอาหารแค่วันละ 1 มิลลิกรัม
มีความพร้อมที่จะดูแลสุขภาพตัวเองได้...ก็อย่าละเลย
ประเดี๋ยว “เบอริ เบอรี่” จะมาเยือน...โดยไม่รู้ตัว ?!?!?.

แหล่งข่าวมาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์