คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ
LSVคลังสมองออนไลน์ "ปีที่14"
พฤศจิกายน 26, 2024, 01:37:53 pm *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ  (อ่าน 21684 ครั้ง)
golf2526
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 40


อีเมล์
« เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 08:15:29 am »

คราส ab กับ คราส d ใครให้เสียงเบสได้ ดี ก่ากันคับ wav!! wav!! wav!! wav!! wav!! wav!! wav!!


บันทึกการเข้า

atthapol
member
*

คะแนน-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 15


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2008, 02:46:47 pm »

คราสabเสื่ยงดีก่วาครับ
 
บันทึกการเข้า
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2008, 05:14:06 pm »

  คราส ab 
บันทึกการเข้า
tanawat_1422
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 130


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2008, 02:42:03 pm »

ขอแจมนะครับ ถามหน่อยครับแล้ววงจรขยายเสียงคลาสใหนที่นิยมใช้กันครับ
บันทึกการเข้า
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
*

คะแนน808
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3581


อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2008, 09:11:36 am »

   ที่เห็นๆ ก็น่าจะเป็บคราส D นะครับ( แถวบ้านผม ) 
บันทึกการเข้า
ช่างยุทธ YTN
วีไอพี
member
***

คะแนน99
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1101


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2008, 09:48:55 am »

AB  สุขุม นุ่ม ลึก เหมาะสำหรับฟังในบ้าน นุ่ม ๆ สบาย ๆ
D   หนัก แน่น สะท้านทรวง เหมาะสำหรับงาน PA หรือชุดที่ต้องการโชว์ความอลังการ



ขอแจมนะครับ ถามหน่อยครับแล้ววงจรขยายเสียงคลาสใหนที่นิยมใช้กันครับ

AB ครับ
บันทึกการเข้า

1 + 1 = ?
safe
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 59


« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2008, 11:40:07 am »

d ดีกว่า เบสหนักดี อยู่ที่จะใช้ถูกประเถทหรือป่าว หรือต้องการความคมช้ดเบสกลางๆต้อง ต้องAB 
บันทึกการเข้า
sak_vm3
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14



« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 17, 2009, 04:45:19 pm »

AB เสียงดีกว่าคับ

แต่ร้อนเร็วกว่าคับ

แต่ผมใช้ D ขับเบสคับ แบบว่าหา AB วัตสุงๆ ยาก
บันทึกการเข้า
chai_up
member
*

คะแนน3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 160


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 21, 2009, 09:46:40 am »

เคยนำ Cl wav!!ass D ตัว ฟลูบริดส์ 1200 W ที่ 4 Ohm ไฟ +- 85 V. มาขับ 18 นิ้ว P Audio 2242 ข้างละ 2 ดอกเทียบกับ Xl 2200 Npe เสียงของ Class d จะดังแน่นและแรงกว่าจากที่ผมทดสอบนะครับ
บันทึกการเข้า
montrevej
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 15, 2009, 02:22:37 pm »

cass d ครับ
ราคาและคุณภาพ
หาของในแล็คดีๆใส่ปรุงดีๆไม่หนีกันหรอก
บันทึกการเข้า
apisit sombutdee
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 102



« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2009, 09:53:34 pm »

ผมว่าน่าจะ AB นะครับ   ต้องลองฟังเสียงกลางกับเสียงแหลม   เทียบกันดูแล้วจะเห็นความแตกต่าง
บันทึกการเข้า
tom131
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18


« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 02:11:59 pm »

เรื่องกำลัง ยังไงก็สู้ คราส D บ่อได้ได้ เสียงเบสต่างกันมากเรื่องความสะใจ เอา D มาขับเบส เอา AB มาขับกลางแหลม
บันทึกการเข้า
aumnad
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 42


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 09:55:51 am »

เเล้วถ้า D ดีกว่าทำไมในสนามเเข่งเครื่องเสียงบ้านเค้าไม่เอามมาเเข่งกันล่ะครับ....เห็นเเต่นำ ไดร์ของ AB มาปรับเเต่งกัน
บันทึกการเข้า
triphet
member
*

คะแนน3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 06:50:08 pm »

  ยังไม่มีเซียน CLASS D ภาคสนาม 
บันทึกการเข้า
peeraponssw
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 28


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2009, 02:21:21 pm »

เค้าว่าคลาส D มีปัญหามาก  ยังไม่สู้ AB  หรอก  (ความคิดส่วนตน)  ว.  610   QRU   73
บันทึกการเข้า
NUILOSO
member
*

คะแนน5
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 78


« ตอบ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2009, 06:11:03 pm »

ขอนิดนะครับ Class D เป็นขยายที่ใช้หลักการทำงานแบบสวิทช์คือทำงาน on เต็มที่ off ศูนย์ จะได้เป็นพัลล์ที่มีความกว้างตามสัญญาณเสียงแล้วใช้โลพาสฟิลเตอร์ อินทิเกรตพื้นที่สัญญาณสีเหลียมเป็นสัญญาณชายเวฟ
ช่วงสัญญาณเป็นศูนย์ L และ C จะกำลังงานให้กับโหลดทำให้สัญญาณ สโลปลง สรุปฟัง Class d ก็เหมือนฟัง MP3 ฟัง Class AB ก็เหมือนฟัง Track Audio 
บันทึกการเข้า
weerachai_pc
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 01:49:41 pm »

ขอถามบ้างนะครับว่า เสียงที่หนักแน่นกับเสียงที่ครบอารมณ์  ผมอยากรู้ว่าคนเราทุกคนจะฟังแบบไหนครับ  แต่สวนตัวผมแล้วผมชอบฟังเสียงดนตรีแบบครบทุกอัดถะรดของเสียงที่ออกมา  ความคิดสวนตัวคือผมชอบคลาด  AB มากกว่าคลาด D  เพราะว่าคลาด  AB  ให้เสียงที่ครบถ่วนมากกว่าคลาด  D  ครับ     อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะครับผมคิดว่าการที่เราทุกคนจะเล่นเครื่องเสียงก็คงจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหนทุกอย่างที่เราเลือกมาใช้ดีหมดทุกอย่างละครับ wav!!
บันทึกการเข้า
tom131
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18


« ตอบ #17 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 03:02:48 pm »

เอาระหว่าง AB กับ D มาขับตู้ซับเบสดูแล้วจะรู้ว่า D มันเหนือกว่าเยอะเลยเรื่องกำลังของเสียง มะลองมะรู้ครับ
บันทึกการเข้า
somkeat_sin
วีไอพี
member
***

คะแนน71
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 484


รักและเข้าใจ คือหัวใจผู้บริหาร


« ตอบ #18 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 03:39:14 pm »

class ต่างกันก็มีมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปล่ะครับ ก็น่าจะเอาข้อดีของแตละ class มารวมกันล่ะครับ อยากรู้ อยากดู อยากฟัง ก็ไปสนามหลวงครับ ไปฟังไปดูให้เห็นกับตาเลยว่าผสมแล้วดีอย่างไรเนื่องในวันแม่ switching ab  กลางแหลม switching d ขับ sup woofer
บันทึกการเข้า

somkeat_sin
cappro
member
*

คะแนน2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18


« ตอบ #19 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 04:38:17 pm »

คลาสดี  ดีกว่าครับ  ไม่ร้อนไม่กินไฟ  เบสแน่นนุ่ม  หวาน   
บันทึกการเข้า
tom131
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18


« ตอบ #20 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 10:20:03 pm »

  ยังงัยผมก็เถียงสุ้ตายครับ คลาสดี ครับ วงการเครื่องเสียงรถยนต์มีครัยบ้างนำ ab มาล่งแข่งครับ เรื่องของพลังเบสครับ
บันทึกการเข้า
dokmadue ♥
งานระบบเสียงตามสาย-ไร้สาย
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
*

คะแนน71
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 506

ใจเขามาใส่ใจเรา เรียนรู้ด้วยตัวเอง


เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2009, 11:48:57 am »

ab ครับ เสียงต้องไปจาก ab ก่อน คลาสd 0 จึงจะทำงานได้ครับ ส่วนตัว
บันทึกการเข้า

www.kwachapenchang. com    https://www.facebook.com/sathit.dokmadue 

นายสถิต  ดอกมะเดื่อ 164 ม.8 ถ.สินประดิษฐ์ ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 33110  บัญชี ร้านสถิตอิเล็กทรอนิกส์ 312-0-17184-0 ออมทรัพย์ กรุงไทย สาขากันทรลักษ์
0827548204 ดีแทค LINE 0827548204 สถิตอิเล็กทรอนิกส์
arthorn
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #22 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2009, 07:05:32 pm »

ผมว่า Class-AB ให้เสียงเบสที่มีสีสันและกระชับกว่า Class-Dครับเท่าที่ลองฟังดู
บันทึกการเข้า
shokunmusicsound
วีไอพี
member
***

คะแนน37
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 591


ตายซะดีกว่า ที่จะละทิ้งหน้าที่


เว็บไซต์ อีเมล์
« ตอบ #23 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2009, 08:42:22 pm »

แล้วแต่จะเลือกใช้ครับ ชอบแบบไหน ถ้าชอบเบสนุ่มลึกใส มีเงินซะอย่างก็คลาส AB
ถ้าชอบแบบเอาดังใว้ก่อน ราคาถูก เบส บวมๆก็ไม่เป็นไร ก็เลือก คลาส D
เค้าจัดคลาสของเสียงมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วครับท่าน........
บันทึกการเข้า

tinglee
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21


« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 23, 2009, 10:36:04 am »

................... ..ในที่นี้พูดถึงเรื่องเสียงเบส......................

ลึกๆในใจผมเข้าข้าง Class AB ครับ ตามหลักการทำงานของมันเป็นลิเนียร์     บวกกับความคิดที่ว่า Class D มันทำงานโดยการนำระดับความกว้างพัลส์มาอินทริเกรตในภาคกำลัง พูดในเชิงจินตนาการหลายท่านมองว่าเป็นการนำขนาดสัญญาณมาตัดแปะ ฟังแล้วเหมือน mp3   

                                  แต่ว่า!!!!

เรายอมรับเสียงระบบ audio file ที่เกิดจากการมอดูเลต ว่าเป็นเสียงที่ให้รายละเอียด, อารมณ์ ได้ดีเป็นธรรมชาติทั้งที่เกิดจากการตัดแปะ!!! จริงๆแล้ว Class D ก็ใช้หลักการภาคขยายสุดท้ายเช่นเดียวกับ audio file เพียงแตกต่างกันในเชิงโมดูเลต ที่ audio เข้าระหัสโดยการกระทำเชิงดิจิตอล ความละเอียดก็ตามจำนวนบิต Class D ก็เช่นกัน เพียงแต่กระทำสัญญาณเชิงอนาล็อค อาจใช้การสวิตซืที่ความถี่ต่ำกว่า (แต่สูงกว่าความถี่เสียงที่มนุษย์ได้ยิน) เนื่องจากถูกจำกัดด้วยการนำไปใช้ด้านกำลัง
 
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า... เราสามารถฟังความแตกต่างระหว่างแอมป์ทั้งสองประเภทนี้เพียงไร     
หากหลายท่านได้มีโอกาสฟัง Active subwoffer ตามโชวน์หรือท้องตลาดที่ราคาสูงๆหรือชั้นนำ ออกแบบมาโดยแก้ไขข้อด้อยทั้งสองประเภท ให้หลับตาฟัง เชื่อว่า ไม่มีมนุษย์ หรืออ้างว่าแฟนพันธ์แท้หน้าใหน กล้าเป็นคนเสียสุนัข (ในนี้พูดถึงเรื่องเบส) โดยไม่เห็นตัวเครื่อง หรือยี่ห้อ... (ไม่พูดถึงไฮ-เอน นะครับมันเป็นเรื่องการตลาดที่กล่าวอ้าง ผมเห็นปู่ผมใช้วิทยุโบราณแกก็บอกว่าแค่นี้ก็ไฮเอนของแกแล้ว แกพูดเชิงดูถูกนักเล่นที่มีแต่เงิน )


             
บันทึกการเข้า
tinglee
member
*

คะแนน0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21


« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 23, 2009, 11:04:42 am »

ผมขอพูดถึงเรื่องการตอบสนองระหว่างทั้งสองคลาส Class D ได้เปรียบในเชิง damping facter  (คื่อค่าที่ทั่วไปมองว่าเป็นการตอบสนองการถ่ายทอดสัญญาณได้รวดเร็ว เก็บตัวดี) ที่สูงกว่า Class AB เนื่องมาจากภาคเอาท์พุตทรานซิสเตอร์ Class D ไม่มีการไบอัสด้วยตัวต้านทาน จึงได้เปรียบตรงนี้นี่เองในเรื่องการเก็บตัว  ส่วนลักษณะการฟังของแต่ละท่านหากฟังเบสที่ต้องการการตอบสนองแบบไม่รวดเร็วอย่างลูกทุ่ง ก็ไม่เป็นปัญหาของแอมป์ทั้งสองประเภทนี้ แต่ถ้าฟังแนวเด็กแนว ที่ต้องการการตอบสนองแบบฉับพลัน ดนตรีที่เกิดจากการบันทึกด้วยอุกรณ์อีเล็คทรอนิกส์แนวๆ class AB คงไม่ได้ใจเด็กแนว แน่นอนครับ

ผมมองว่าในวงจรที่ออกแบบมาไม่ดีเราไม่สามารถฟังเสียงของสัญญาณที่เกิดจากเบสที่มีฮาโมนิกส์ปนมาเป็นความถี่สูง ในลักษณะขั้นบันไดผสมความถี่ของเบส
ผมมองว่าเราไม่สามารถฟังเสียงของสัญญาณspikeที่เกิดจากการกรองความถี่สูงออกไม่หมด โดยเฉพาะสัญญาณที่ว่านี้ผ่านลำโพงเบสที่น้ำหนักเยอะด้วย ยิ่งหมดสิทธ์ คำสร้อย....

ก็เลยมองClass D เป็นต่อหลายขุมครับ!!!!
บันทึกการเข้า
hs4bhz
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7



อีเมล์
« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2009, 07:15:01 am »

class ต่างกันก็มีมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปล่ะครับ ก็น่าจะเอาข้อดีของแตละ class มารวมกันล่ะครับ อยากรู้ อยากดู อยากฟัง ก็ไปสนามหลวงครับ ไปฟังไปดูให้เห็นกับตาเลยว่าผสมแล้วดีอย่างไรเนื่องในวันแม่ switching ab  กลางแหลม switching d ขับ sup woofer

switching d ขับ sup woofer  ราคาแท่นละเท่าไหร่ครับ
บันทึกการเข้า

นายจำลอง  โพชะโน
กองช่าง  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม
151/1 ถ.นครพนม-ท่าอุเทน ต.อาจสามารถ  อ.เมือง  จ.นครพนม  48000
โทร 089-6223169
artt
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 53


อีเมล์
« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2009, 02:50:03 pm »

หน้าที่ไครหน้าที่มัน คลาสABขับกลางแหลม  คลาสDขับซับ  ถ้าเอาABมาขับซับก็ยังฟังได้  แต่เอาคลาสDไปขับกลางแหลมละแหลกเลย


อย่างในรถกลางแหลมขับด้วยAB 100w-200w ได้สบายๆ แต่คลาสDขับซับต้องมี1000wขึ้น
บันทึกการเข้า
ti1860
member
*

คะแนน1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134


อีเมล์
« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2009, 06:22:40 pm »

ผู้ไม่รู้ขอทราบคำว่าเบสนุ่ม เบสแน่น เบสลึก เบสหนัก เกิดจากการทำงานในลักษณะใดครับ(ถ้าไม่มีเครื่องปรุงและวงจรที่มีผลต่อการบูสและคัตมาเกี่ยวข้อง) อยากทราบจริง ๆ ครับ ผมจะรู้สึกได้ก็แต่ที่ว่าเสียงเบสเบลอไม่แน่น ไม่เงียบไม่กระชับครับ (ค่าแด้มปิ้งแฟคเตอร์ต่ำ) ที่พูดมาข้างต้นไม่ค่อยรู้ส฿กได้เลยครับ หรือต้องมีปรับมีปรุงเข้ามาเกี่ยวข้องถึงจะเห็นความแตกต่าง  ขอท่านผู้รู้ช่วยแนะนำทีครับ  **ความคิดเห็นส่วนตัว**คลาส AB เหมือนจิ๊กซอ 2 ชิ้นต่อกัน   คลาส D เหมือนจิ๊กซอ  หลายชิ้นต่อกัน  ทฤษฎีส่วนตัวบอกว่าการทำงานใด ๆ ย่อมมีข้อผิดพลาดเมื่อมีการทำงานหลายขั้นตอน แต่ละขั้นตอนย่อมมีผิดพลาดไม่มากก็น้อย(ส่วนตัวจริงๆ)   เรื่องกำลังคลาส D ได้เปรียบเพราะเป็นการสวิตชิ่งที่ความถี่สูงไม่ได้ทำงานแบบลิเนียร์เหมือน AB ความร้อนสะสมจึงน้อยกว่า  % การทำงานจึงมากกว่า(ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ  ลดภาวะโลกร้อนด้วย )ราคาคลาส D ถูกกว่่า  ฝั่งคลาส AB ก็เสียงใสตลอดย่าน(ขึ้นอยู่กับการออกแบบวงจรและอุปกรณ์ที่ใช้)ถ้าพูดถึงกำลัง(POWER)ก็ต้องแลกมาด้วยเงินที่ี่สูงกว่า  แล้วแต่จะเลือกกันครับ อยู่ที่ใจรัก งบประมาณ การใช้งาน และอคติครับ แต่การเลือกใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงานจะลดข้อผิดพลาดและงานสำเร็จด้วยดีครับ(ทฤษฎีส่วนตัวอีกแหละครับ)
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1 RC2 | SMF © 2001-2006, Lewis Media

lsv2555Please follow the new website at https://www.pohchae.com

Valid CSS!