golf2526
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 40
|
|
« เมื่อ: ตุลาคม 22, 2008, 08:15:29 am » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
atthapol
member
คะแนน -1
ออฟไลน์
กระทู้: 15
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2008, 02:46:47 pm » |
|
คราสabเสื่ยงดีก่วาครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
คะแนน 808
ออฟไลน์
กระทู้: 3581
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2008, 05:14:06 pm » |
|
คราส ab
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tanawat_1422
member
คะแนน 2
ออฟไลน์
กระทู้: 130
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2008, 02:42:03 pm » |
|
ขอแจมนะครับ ถามหน่อยครับแล้ววงจรขยายเสียงคลาสใหนที่นิยมใช้กันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Nattawut-LSV Team
E23IUY
.กลุ่มผู้มีน้ำใจงาม.
member
คะแนน 808
ออฟไลน์
กระทู้: 3581
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2008, 09:11:36 am » |
|
ที่เห็นๆ ก็น่าจะเป็บคราส D นะครับ( แถวบ้านผม )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ช่างยุทธ YTN
วีไอพี
member
คะแนน 99
ออฟไลน์
กระทู้: 1101
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2008, 09:48:55 am » |
|
AB สุขุม นุ่ม ลึก เหมาะสำหรับฟังในบ้าน นุ่ม ๆ สบาย ๆ D หนัก แน่น สะท้านทรวง เหมาะสำหรับงาน PA หรือชุดที่ต้องการโชว์ความอลังการ ขอแจมนะครับ ถามหน่อยครับแล้ววงจรขยายเสียงคลาสใหนที่นิยมใช้กันครับ
AB ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
1 + 1 = ?
|
|
|
safe
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 59
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2008, 11:40:07 am » |
|
d ดีกว่า เบสหนักดี อยู่ที่จะใช้ถูกประเถทหรือป่าว หรือต้องการความคมช้ดเบสกลางๆต้อง ต้องAB
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sak_vm3
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 14
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 17, 2009, 04:45:19 pm » |
|
AB เสียงดีกว่าคับ
แต่ร้อนเร็วกว่าคับ
แต่ผมใช้ D ขับเบสคับ แบบว่าหา AB วัตสุงๆ ยาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
chai_up
member
คะแนน 3
ออฟไลน์
กระทู้: 160
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 21, 2009, 09:46:40 am » |
|
เคยนำ Cl wav!!ass D ตัว ฟลูบริดส์ 1200 W ที่ 4 Ohm ไฟ +- 85 V. มาขับ 18 นิ้ว P Audio 2242 ข้างละ 2 ดอกเทียบกับ Xl 2200 Npe เสียงของ Class d จะดังแน่นและแรงกว่าจากที่ผมทดสอบนะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
montrevej
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 8
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 15, 2009, 02:22:37 pm » |
|
cass d ครับ ราคาและคุณภาพ หาของในแล็คดีๆใส่ปรุงดีๆไม่หนีกันหรอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
apisit sombutdee
member
คะแนน 2
ออฟไลน์
กระทู้: 102
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2009, 09:53:34 pm » |
|
ผมว่าน่าจะ AB นะครับ ต้องลองฟังเสียงกลางกับเสียงแหลม เทียบกันดูแล้วจะเห็นความแตกต่าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tom131
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 18
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 14, 2009, 02:11:59 pm » |
|
เรื่องกำลัง ยังไงก็สู้ คราส D บ่อได้ได้ เสียงเบสต่างกันมากเรื่องความสะใจ เอา D มาขับเบส เอา AB มาขับกลางแหลม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
aumnad
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 42
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 09:55:51 am » |
|
เเล้วถ้า D ดีกว่าทำไมในสนามเเข่งเครื่องเสียงบ้านเค้าไม่เอามมาเเข่งกันล่ะครับ....เห็นเเต่นำ ไดร์ของ AB มาปรับเเต่งกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
triphet
member
คะแนน 3
ออฟไลน์
กระทู้: 85
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2009, 06:50:08 pm » |
|
ยังไม่มีเซียน CLASS D ภาคสนาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
peeraponssw
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 28
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2009, 02:21:21 pm » |
|
เค้าว่าคลาส D มีปัญหามาก ยังไม่สู้ AB หรอก (ความคิดส่วนตน) ว. 610 QRU 73
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NUILOSO
member
คะแนน 5
ออฟไลน์
กระทู้: 78
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2009, 06:11:03 pm » |
|
ขอนิดนะครับ Class D เป็นขยายที่ใช้หลักการทำงานแบบสวิทช์คือทำงาน on เต็มที่ off ศูนย์ จะได้เป็นพัลล์ที่มีความกว้างตามสัญญาณเสียงแล้วใช้โลพาสฟิลเตอร์ อินทิเกรตพื้นที่สัญญาณสีเหลียมเป็นสัญญาณชายเวฟ ช่วงสัญญาณเป็นศูนย์ L และ C จะกำลังงานให้กับโหลดทำให้สัญญาณ สโลปลง สรุปฟัง Class d ก็เหมือนฟัง MP3 ฟัง Class AB ก็เหมือนฟัง Track Audio
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
weerachai_pc
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 1
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 01:49:41 pm » |
|
ขอถามบ้างนะครับว่า เสียงที่หนักแน่นกับเสียงที่ครบอารมณ์ ผมอยากรู้ว่าคนเราทุกคนจะฟังแบบไหนครับ แต่สวนตัวผมแล้วผมชอบฟังเสียงดนตรีแบบครบทุกอัดถะรดของเสียงที่ออกมา ความคิดสวนตัวคือผมชอบคลาด AB มากกว่าคลาด D เพราะว่าคลาด AB ให้เสียงที่ครบถ่วนมากกว่าคลาด D ครับ อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะครับผมคิดว่าการที่เราทุกคนจะเล่นเครื่องเสียงก็คงจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหนทุกอย่างที่เราเลือกมาใช้ดีหมดทุกอย่างละครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tom131
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 18
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 03:02:48 pm » |
|
เอาระหว่าง AB กับ D มาขับตู้ซับเบสดูแล้วจะรู้ว่า D มันเหนือกว่าเยอะเลยเรื่องกำลังของเสียง มะลองมะรู้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somkeat_sin
วีไอพี
member
คะแนน 71
ออฟไลน์
กระทู้: 484
รักและเข้าใจ คือหัวใจผู้บริหาร
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 03:39:14 pm » |
|
class ต่างกันก็มีมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปล่ะครับ ก็น่าจะเอาข้อดีของแตละ class มารวมกันล่ะครับ อยากรู้ อยากดู อยากฟัง ก็ไปสนามหลวงครับ ไปฟังไปดูให้เห็นกับตาเลยว่าผสมแล้วดีอย่างไรเนื่องในวันแม่ switching ab กลางแหลม switching d ขับ sup woofer
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
somkeat_sin
|
|
|
cappro
member
คะแนน 2
ออฟไลน์
กระทู้: 18
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 04:38:17 pm » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tom131
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 18
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2009, 10:20:03 pm » |
|
ยังงัยผมก็เถียงสุ้ตายครับ คลาสดี ครับ วงการเครื่องเสียงรถยนต์มีครัยบ้างนำ ab มาล่งแข่งครับ เรื่องของพลังเบสครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dokmadue ♥
งานระบบเสียงตามสาย-ไร้สาย
ซุปเปอร์ วีไอพี
member
คะแนน 71
ออฟไลน์
กระทู้: 506
ใจเขามาใส่ใจเรา เรียนรู้ด้วยตัวเอง
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2009, 11:48:57 am » |
|
ab ครับ เสียงต้องไปจาก ab ก่อน คลาสd 0 จึงจะทำงานได้ครับ ส่วนตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
arthorn
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 2
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2009, 07:05:32 pm » |
|
ผมว่า Class-AB ให้เสียงเบสที่มีสีสันและกระชับกว่า Class-Dครับเท่าที่ลองฟังดู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
shokunmusicsound
วีไอพี
member
คะแนน 37
ออฟไลน์
กระทู้: 591
ตายซะดีกว่า ที่จะละทิ้งหน้าที่
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2009, 08:42:22 pm » |
|
แล้วแต่จะเลือกใช้ครับ ชอบแบบไหน ถ้าชอบเบสนุ่มลึกใส มีเงินซะอย่างก็คลาส AB ถ้าชอบแบบเอาดังใว้ก่อน ราคาถูก เบส บวมๆก็ไม่เป็นไร ก็เลือก คลาส D เค้าจัดคลาสของเสียงมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วครับท่าน........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tinglee
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 21
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: กันยายน 23, 2009, 10:36:04 am » |
|
................... ..ในที่นี้พูดถึงเรื่องเสียงเบส......................
ลึกๆในใจผมเข้าข้าง Class AB ครับ ตามหลักการทำงานของมันเป็นลิเนียร์ บวกกับความคิดที่ว่า Class D มันทำงานโดยการนำระดับความกว้างพัลส์มาอินทริเกรตในภาคกำลัง พูดในเชิงจินตนาการหลายท่านมองว่าเป็นการนำขนาดสัญญาณมาตัดแปะ ฟังแล้วเหมือน mp3
แต่ว่า!!!!
เรายอมรับเสียงระบบ audio file ที่เกิดจากการมอดูเลต ว่าเป็นเสียงที่ให้รายละเอียด, อารมณ์ ได้ดีเป็นธรรมชาติทั้งที่เกิดจากการตัดแปะ!!! จริงๆแล้ว Class D ก็ใช้หลักการภาคขยายสุดท้ายเช่นเดียวกับ audio file เพียงแตกต่างกันในเชิงโมดูเลต ที่ audio เข้าระหัสโดยการกระทำเชิงดิจิตอล ความละเอียดก็ตามจำนวนบิต Class D ก็เช่นกัน เพียงแต่กระทำสัญญาณเชิงอนาล็อค อาจใช้การสวิตซืที่ความถี่ต่ำกว่า (แต่สูงกว่าความถี่เสียงที่มนุษย์ได้ยิน) เนื่องจากถูกจำกัดด้วยการนำไปใช้ด้านกำลัง ประเด็นมันอยู่ที่ว่า... เราสามารถฟังความแตกต่างระหว่างแอมป์ทั้งสองประเภทนี้เพียงไร หากหลายท่านได้มีโอกาสฟัง Active subwoffer ตามโชวน์หรือท้องตลาดที่ราคาสูงๆหรือชั้นนำ ออกแบบมาโดยแก้ไขข้อด้อยทั้งสองประเภท ให้หลับตาฟัง เชื่อว่า ไม่มีมนุษย์ หรืออ้างว่าแฟนพันธ์แท้หน้าใหน กล้าเป็นคนเสียสุนัข (ในนี้พูดถึงเรื่องเบส) โดยไม่เห็นตัวเครื่อง หรือยี่ห้อ... (ไม่พูดถึงไฮ-เอน นะครับมันเป็นเรื่องการตลาดที่กล่าวอ้าง ผมเห็นปู่ผมใช้วิทยุโบราณแกก็บอกว่าแค่นี้ก็ไฮเอนของแกแล้ว แกพูดเชิงดูถูกนักเล่นที่มีแต่เงิน )
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
tinglee
member
คะแนน 0
ออฟไลน์
กระทู้: 21
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: กันยายน 23, 2009, 11:04:42 am » |
|
ผมขอพูดถึงเรื่องการตอบสนองระหว่างทั้งสองคลาส Class D ได้เปรียบในเชิง damping facter (คื่อค่าที่ทั่วไปมองว่าเป็นการตอบสนองการถ่ายทอดสัญญาณได้รวดเร็ว เก็บตัวดี) ที่สูงกว่า Class AB เนื่องมาจากภาคเอาท์พุตทรานซิสเตอร์ Class D ไม่มีการไบอัสด้วยตัวต้านทาน จึงได้เปรียบตรงนี้นี่เองในเรื่องการเก็บตัว ส่วนลักษณะการฟังของแต่ละท่านหากฟังเบสที่ต้องการการตอบสนองแบบไม่รวดเร็วอย่างลูกทุ่ง ก็ไม่เป็นปัญหาของแอมป์ทั้งสองประเภทนี้ แต่ถ้าฟังแนวเด็กแนว ที่ต้องการการตอบสนองแบบฉับพลัน ดนตรีที่เกิดจากการบันทึกด้วยอุกรณ์อีเล็คทรอนิกส์แนวๆ class AB คงไม่ได้ใจเด็กแนว แน่นอนครับ
ผมมองว่าในวงจรที่ออกแบบมาไม่ดีเราไม่สามารถฟังเสียงของสัญญาณที่เกิดจากเบสที่มีฮาโมนิกส์ปนมาเป็นความถี่สูง ในลักษณะขั้นบันไดผสมความถี่ของเบส ผมมองว่าเราไม่สามารถฟังเสียงของสัญญาณspikeที่เกิดจากการกรองความถี่สูงออกไม่หมด โดยเฉพาะสัญญาณที่ว่านี้ผ่านลำโพงเบสที่น้ำหนักเยอะด้วย ยิ่งหมดสิทธ์ คำสร้อย....
ก็เลยมองClass D เป็นต่อหลายขุมครับ!!!!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hs4bhz
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 7
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2009, 07:15:01 am » |
|
class ต่างกันก็มีมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปล่ะครับ ก็น่าจะเอาข้อดีของแตละ class มารวมกันล่ะครับ อยากรู้ อยากดู อยากฟัง ก็ไปสนามหลวงครับ ไปฟังไปดูให้เห็นกับตาเลยว่าผสมแล้วดีอย่างไรเนื่องในวันแม่ switching ab กลางแหลม switching d ขับ sup woofer
switching d ขับ sup woofer ราคาแท่นละเท่าไหร่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
นายจำลอง โพชะโน กองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม 151/1 ถ.นครพนม-ท่าอุเทน ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม 48000 โทร 089-6223169
|
|
|
artt
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 53
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2009, 02:50:03 pm » |
|
หน้าที่ไครหน้าที่มัน คลาสABขับกลางแหลม คลาสDขับซับ ถ้าเอาABมาขับซับก็ยังฟังได้ แต่เอาคลาสDไปขับกลางแหลมละแหลกเลย อย่างในรถกลางแหลมขับด้วยAB 100w-200w ได้สบายๆ แต่คลาสDขับซับต้องมี1000wขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ti1860
member
คะแนน 1
ออฟไลน์
กระทู้: 134
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2009, 06:22:40 pm » |
|
ผู้ไม่รู้ ขอทราบคำว่าเบสนุ่ม เบสแน่น เบสลึก เบสหนัก เกิดจากการทำงานในลักษณะใดครับ(ถ้าไม่มีเครื่องปรุงและวงจรที่มีผลต่อการบูสและคัตมาเกี่ยวข้อง) อยากทราบจริง ๆ ครับ ผมจะรู้สึกได้ก็แต่ที่ว่าเสียงเบสเบลอไม่แน่น ไม่เงียบไม่กระชับครับ (ค่าแด้มปิ้งแฟคเตอร์ต่ำ) ที่พูดมาข้างต้นไม่ค่อยรู้ส฿กได้เลยครับ หรือต้องมีปรับมีปรุงเข้ามาเกี่ยวข้องถึงจะเห็นความแตกต่าง ขอท่านผู้รู้ช่วยแนะนำทีครับ **ความคิดเห็นส่วนตัว**คลาส AB เหมือนจิ๊กซอ 2 ชิ้นต่อกัน คลาส D เหมือนจิ๊กซอ หลายชิ้นต่อกัน ทฤษฎีส่วนตัวบอกว่าการทำงานใด ๆ ย่อมมีข้อผิดพลาดเมื่อมีการทำงานหลายขั้นตอน แต่ละขั้นตอนย่อมมีผิดพลาดไม่มากก็น้อย(ส่วนตัวจริงๆ) เรื่องกำลังคลาส D ได้เปรียบเพราะเป็นการสวิตชิ่งที่ความถี่สูงไม่ได้ทำงานแบบลิเนียร์เหมือน AB ความร้อนสะสมจึงน้อยกว่า % การทำงานจึงมากกว่า(ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ลดภาวะโลกร้อนด้วย )ราคาคลาส D ถูกกว่่า ฝั่งคลาส AB ก็เสียงใสตลอดย่าน(ขึ้นอยู่กับการออกแบบวงจรและอุปกรณ์ที่ใช้)ถ้าพูดถึงกำลัง(POWER)ก็ต้องแลกมาด้วยเงินที่ี่สูงกว่า แล้วแต่จะเลือกกันครับ อยู่ที่ใจรัก งบประมาณ การใช้งาน และอคติครับ แต่การเลือกใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ให้เหมาะสมกับงานจะลดข้อผิดพลาดและงานสำเร็จด้วยดีครับ(ทฤษฎีส่วนตัวอีกแหละครับ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|